บุคคลสาบสูญกับกองกระดาษสีคาราเมล

-A A +A

บุคคลสาบสูญกับกองกระดาษสีคาราเมล

จบบริบูรณ์

บทนำ หลังสาบสูญ

               ในหนึ่งปีมีคนหายมากมาย มันแทบจะเป็นงานที่ผมเบื่อหน่าย ผมเบื่อสายตาของพ่อแม่ คนรัก เพื่อนฝูง หรือใครก็ตามที่มาแจ้งความกับเรา พวกเขามีสีหน้าไม่ต่างกัน ดวงตาของคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้คนที่สูญหายเหล่านั้นกลับมา มันทั้งเศร้า หดหู่ และสิ้นหวัง ผมแทบไม่อยากมองใบหน้าเหล่านั้นแม้เพียงเสี้ยววินาที แต่มันก็มีอยู่คดีหนึ่งที่ต่างจากทุกคดีที่ผมเคยได้รับการร้องเรียน ผมมองกองเอกสารคนหายที่รอการสืบหาใต้แสงไฟจากโคมไฟ แสงสีส้มสั่นไหวริบๆ ในความมืด พวกมันส่องกระทบกับแฟ้มเอกสารคนหายฉบับหนึ่งพร้อมกับภาพสีหน้าชวนฉงนของคู่สามีภรรยาที่มาแจ้งความคนหายเมื่อบ่ายแก่วันนี้

ผมหยิบแฟ้มเอกสารคนหายฉบับนั้นออกมาพร้อมกับเปิดมันออก ข้างในบรรจุหลักฐานเพียงชิ้นเดียวที่เป็นพยานการมีอยู่ของบุคคลปริศนาที่สาบสูญ มันเป็นปึกกระดาษสีคาราเมลที่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความเก่าหรือจงใจให้มันเก่ากันแน่ บนกระดาษเหล่านั้นมีน้ำหมึกที่ถูกพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ดีดสมัยพระเจ้าเหาที่ตอนนี้ไม่มีใครใช้งานกันแล้ว ผมยังจำสีหน้าของคู่สามีภรรยาที่มาแจ้งความลูกชายหายได้ดี พวกเขามีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้อาลัยอาวรณ์ คร่ำครวญเหมือนจะขาดใจเหมือนคดีอื่นๆ พวกเขาเพียงขยับริมฝีปากเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าส่วนอื่นแทบไม่ขยับ ยกเว้นเพียงนัยน์ตาที่สั่นไหวราวกับเกิดแผ่นดินไหวแล้วตามด้วยแรงประทะจากคลื่นยักษ์ที่พัดถล่มพื้นดินจนราบเป็นหน้ากองจนกลายเป็นน้ำใสๆ ที่เอ่อคลอในดวงตาของพวกเขา โดยที่มันไม่มีวี่แววว่าจะหยดลงมาในเร็ววันนี้

               พ่อแม่คู่นั้นเล่าว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่าลูกชายเขาหายไปที่ใด ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เขารู้เพียงว่าลูกชายได้ทิ้งหลักฐานการเคยมีตัวตนของเขาเพียงอย่างเดียวคือปึกกระดาษสีคาราเมล พวกมันถูกวางไว้ข้างเครื่องพิมพ์ดีดบนโต๊ะริมหน้าต่างในห้องนอนของลูกชาย พ่อแม่คู่นั้นยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าตอนที่เขาเข้าไปเจอ มันเป็นเพียงช่วงสนธยาที่สงบของวันๆ หนึ่ง หน้าต่างบานนั้นถูกเปิดทิ้งไว้ทำให้ลมหอบใหญ่พัดเข้ามาพร้อมกับแสงสุดท้ายของวัน ทุกอย่างดูปกติจนคล้ายวันอื่นๆ ยกเว้นเพียงความว่างเปล่าไร้ซึ่งเงาของเจ้าของห้อง

พ่อแม่ของชายคนนี้จึงได้ลองถามเครื่องพิมพ์ดีดตัวเก่าที่กำลังหลับไหลอยู่เพราะลมเย็นจากหน้าต่าง มันเล่าให้ฟังว่ามันเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเจ้าของมันหายไปไหน รู้เพียงว่าครั้งสุดท้ายที่ถูกสัมผัส มันเป็นสัมผัสที่พิเศษและลุ่มลึกที่สุดเท่าที่มันเคยพานพบ ทั้งนุ่มนวล หนักแน่น และหยาบคายในเวลาเดียวกัน มันพิเศษจนเหมือนเวทมนต์ที่สะกดให้มันหลับไหลหายไปในภวังค์ฝัน ล่องลอยไปในความว่างเปล่าที่หวานฝาด รู้ตัวอีกทีมันก็ถูกปลุกจากคู่สามีภรรยาแล้ว

               แต่อย่างน้อยเจ้าเครื่องพิมพ์ดีดตัวนี้ก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง มันว่าลูกชายของคู่สามีภรรยาคู่นี้มักจะใช้การเขียนแทนการบอกเล่าความรู้สึกที่ตัวเองกำลังเผชิญในช่วงนั้นๆ ไม่ว่าจะผ่านเรื่องสั้น นิยาย หรือแม้แต่สิ่งที่อาจเป็นบทกวีที่เขาแต่งขึ้น ดังนั้นมันจึงเป็นความคิดที่ไม่เลวที่จะสืบเรื่องราวทั้งหมดจากกองกระดาษสีคาราเมลกองนี้ พวกมันอาจมอบเบาะแสสำคัญที่นำไปสู่การพบเจอลูกชายที่สูญหายของพวกเขาก็ได้ ฟังมาถึงตรงนี้ผมเองก็เริ่มสนใจคดีนี้เสียแล้ว คดีคนหายที่แม้แต่พ่อแม่ก็ดูจะรู้เรื่องราวของลูกตัวเองน้อยกว่าเจ้าเครื่องพิมพ์ดีดเสียอีก คดีที่มีกองกระดาษเก่าๆ เป็นเบาะแสเพียงชิ้นเดียว ผมอยากรู้แล้วสิ! ว่าชายที่สูญหายคนนี้จะเป็นใคร เช่นเดียวกับที่ผมอยากรู้ว่าเรื่องราวที่ชายคนนี้แต่งมันเป็นเรื่องราวประเภทใดกันแน่

               ผมไม่รอช้าเริ่มหยิบเอากระดาษแผ่นแรกที่วางอยู่บนสุดขึ้นมา

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.