งานฉลองวันเกิดในไร่ พ.
หลังจากวางสายจากพี่สาวคนโตของเธอเสร็จเสียงเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุ 17 ปีก็ดังขึ้น
“พี่ทิว่าไงบ้าง?”พิรัชย์ เด็กหนุ่มอายุ 17 ซึ่งเป็นลูกชายคนรองของบ้านเดินเข้ามาถามหลังจากพึ่งเสร็จจากไปคุยกับเพื่อนๆมา
“พี่ทิบอกว่าใกล้จะถึงแล้วล่ะ พวกนั้นเป็นไงบ้าง?”พริสรตอบก่อนจะถามกลับ
“พวกมันก็พากันนั่งซัดของกินอยู่ด้านล่างนั่นแหละ จะลงไปพร้อมกันเลยมั้ยล่ะ?”พิรัชย์ถามอีกครั้ง
“อื้ม”พริสรพยักหน้ารับก่อนเดินตามน้องชายฝาแฝดของตนลงมาจากบ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่ที่สร้างติดริมแม่น้ำ เสียงแจ้วๆจากพวกเพื่อนๆของทั้งสองคนดังมาจากลานหน้าบ้าน ทุกคนกำลังคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นเจ้าภาพของงานเดินลงมา เพื่อนสาวหนึ่งในกลุ่มก็ทักขึ้น
“ว้าววันนี้เจ้าภาพสาวกับเจ้าภาพชายของเราดูดีกว่าทุกวันแฮะ”เพื่อนที่ผมสวยที่สุดร้องแซวเมื่อเห็นทั้ง 2 คนเดิมเข้ามา
“เออแล้วไงยะ”พริสรว่า แต่ก็ไม่ได้มีคำตอบกลับมา แล้วเสียงชายหนุ่มอีกคนก็ดังขึ้น
“เฮ้ยเร็วๆพวกเราไอ้พิธกับริมากันแล้วโว้ย!” ทุกคนจึงเริ่มให้ความสนใจกับทั้งสองคน
“เป็นไงบ้างของกินกับเครื่องดื่ม”พริสรเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน ส่วนพิรัชย์ขอเป็นฝ่ายเงียบเพราะปกติจะเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
“อร่อยจ้า”เด็กสาวร่างอ้วนคนหนึ่งตอบ
“แหม สำหรับแกมันก็อร่อยทุกงานแหละ ไม่ใช่หรอไงฮะ”เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งในกลุ่มว่า
“เออ หรือแกว่ามันไม่อร่อยฮะ”เด็กสาวอ้วนคนเดิมย้อนกลับ
“เออ อะไรกัน ไม่ทันไรจะมากัดกันในงานซะละ 5 5”พริสรแซวพรางหัวเราะ แล้วเธอก็เข้าไปร่วมวงสนทนากับเพื่อนๆ ส่วนพิรัชย์ก็ไปนั่งรวมอยู่กับกลุ่มเพื่อนชาย แต่โดยนิสัยที่เป็นคนไม่ค่อยชอบพูดเท่าไหร่จึงจะเป็นฝ่ายนั่นฟังมากกว่า
“แล้วไหนวะพี่สาวคนสวย 2 คนของแกน่ะพวกกูอยากเห็นว่ะ”เด็กหนุ่มคนหนึ่งเปิดประเด็น ตั้งแต่รู้จักพริสรและพิรัชย์มา 2 ปียังไม่มีใครเคยเห็นพี่สาวทั้งสองคนของทั้งคู่มาก่อน อาจเป็นเพราะ พอพริสรและพิรัชย์ย้ายโรงเรียนมัธยมปลาย พี่สาวทั้งสองคนก็ย้ายไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯแล้ว
“เดี๋ยวก็คงถึง ทำไม พวกมึงมีอะไรกับพี่กู”พิรัชย์ถาม
“ถ้าสวยจริงแกหวงมั้ยวะพวกกูจะขอจีบ”เด็กหนุ่มที่เจ้าชู้ที่สุดในกลุ่มกล่าวแต่ไม่ได้จริงจังอะไร
“หึ”พิรัชย์ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ปัง ทุกคนต่างตกใจรีบพากันหลบเข้าใต้โต๊ะทันที แต่พอรอได้ซักพัก เมื่อเห็นว่าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นจึงพากันออกมาจากโต๊ะเพื่อสังเกตุสถานการณ์
“ตะกี๊ใครว่าจะจีบพี่นะ”เสียงใสของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัว เธอเดินเข้ามาบริเวณงานเลี้ยงพร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่หน้าตาคล้ายกัน ไม่มีใครรู้จักสองคนที่มาใหม่ ยกเว้นทั้งสองเจ้าภาพที่คุ้นเคยกันดี
“พี่ทิ”พริสรเป็นฝ่ายวิ่งออกมาก่อน
“ไงจ๊าน้องสาวสุดสวยยยยยย”พรทิพากอดน้องสาวที่วิ่งเข้ามาหาตนแน่นพรางถามด้วยน้ำเสียงเมตตา
“คิดถึงสิคะ ริคิดถึงพี่ๆมากกกกก”พริสรพูดขณะยังกอดพี่สาวของตนไว้แน่น
“อ่าว แล้วนี่ไม่มีใครสนใจอยากจะเข้ามากอดพี่บ้างหรอไงน่ะ”โยศิตาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพิรัชย์ยังยืนอยู่ที่เดิม
“โอ๋พี่ศิเดี๋ยวริจะกอดพี่ศิแทนพิให้ เพราะตาพิน่ะมันโตแล้ว ไม่มายืนกอดผู้หญิงหรอกคะ ฮึๆ”พริสรพูดพรางคลายกอดจากพรทิพาแล้วเปลี่ยนมากอดโยศิตาแทน
“อื้มมมมชื่นใจแล้วจ๋ะ”โยศิตาบอกพรางค่อยๆคลายกอดจากพริสร
“แหม ตะกี๊เสียงปืน ของใครคะ?”พริสรได้ทีเข้าประเด็น
“เปล่านะไม่ใช่ปืนของพี่”พรทิพาปฏิเสธ
“พี่ก็เปล่า”โยศิตาบอก
“แต่ของพี่เอง”เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นก่อนจะเห็นร่างสูงกำยำมาร์ทเท่เดินตรงเข้ามาด้วยรอยยิ้มแหยๆ “แหะๆพอดีปืนพี่มันลั่นอะนะ”เขาบอกต่อให้ทุกคนหายตกใจ
“โหยยยยย”เด็กหนุ่มสาววัยรุ่นในงานได้ยินดังนั้นจึงรีบพากันโห่อย่างสนุกสนาน
“อะไร..พี่ขอโทษพอดีพี่ไม่ทันระวังน่ะ”พาทิศบอกด้วยความอาย พริสร โยศิตา และพรทิพาได้แต่ยืนขำกับการกระทำของพี่ชายคนโตของบ้าน “เอาล่ะๆไปสนุกกันต่อได้แล้ว”พาทิศไล่ทุกคนให้กลับเข้าไปสนุกในงานต่อ ก่อนจะหันมาพูดกับน้องสาวสองคนที่พึ่งมาถึง “พี่ไม่ใช่เด็กหนุ่มเนื้อหอมเหมือนตาพิ พี่ขอกอดน้องสาวสุดที่รักสองคนได้มั้ยครับ”พาทิศพูดพรางทำตาเว้าวอนโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขาแบบนี้แหละที่ทำให้ใจสาวๆแถวนี้ละลายไปหลายต่อหลายคนแล้ว
“ฮึ ศิจะไม่ให้พี่พากอดดีมั้ยน้า...เพราะตอนนี้ศิก็กำลังอยู่ในวัยสาวอยู่ด้วยสิจะให้หนุ่มมากอดง่ายๆมันคงไม่ดีหรอก”โยศิตาแกล้งอำอีกฝ่าย
“ทิก็คงให้พี่กอดไม่ได้สิคะเพราะทิกับศิก็เป็นสาวเท่ากัน”พรทิพาเสริมพรางยิ้มกว้างอย่างชอบใจ
“5 5 5เป็นสาวเท่ากัน แล้วพอแก่นะก็แก่เท่ากันด้วยล่ะพี่พา”พริสรได้ทีแซว ก่อนถูกกำปั้นทุบเข้าให้ที่กลางหัวสองทุบ “โอ๊ยอะไรอะ”พริสรโวยวาย
“เดี๋ยวของขวัญจะถูกจำกัดสิทธิ์ซะเลยนี่ยัยตัวป่วน”พรทิพาพูดด้วยน้ำเสียงดุ แต่ถ้าว่าแววตากับเต็มไปด้วยความเอ็นดูเด็กสาวอย่างยิ่ง
“โถๆอย่าพึ่งสิคะ ทำไมตัดสินกันไวจังอะศาลบ้าอะไรเนี่ย”พริสรยังมิวายอดที่จะแหย่ไม่ได้
“เอาล่ะๆ พี่ไม่กอดทิกับศิก็ได้”พาทิศพูดพรางทำหน้าน้อยใจ พรทิพาและโยศิตาเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะหัวเราะกับมุกเก่าๆของพี่ชายคนนี้ไม่ได้ แต่ถึงจะเป็นมุกเดิมๆมันก็ใช้ได้ผลทุกที
“ก็ได้ค่ะศิยอมพี่พาละก็ได้ อ๊ะ”โยศิตาอ้าแขนเตรียมให้พี่ชายขี้น้อยใจเข้ามากอด พาทิศเห็นท่าทางของน้องสาวตัวเองก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะเดินเข้าไปกอดน้องสาวของตน
“แอะ พี่พา อย่า กอด แน่น เซ มันๆ หาย ใจ ไม่เอ๊าะ”โยศิตาบอกพรางใช้มือสองข้างพยายามดันตัวพี่ชายของตัวเองออก ชายหนุ่มคลายกอดออกจากน้องสาวตัวเองก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้
“แค็กๆ คนแทบตายอยู่แล้วยังจะมีหน้ามายืนยิ้มร่านะไอ้พี่บ้านี่”โยศิตาว่าพรางใช้มือปิดปากขณะไอไปด้วย
“ทิพา มาตาน้องละ”ชายหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายหันไปส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับน้องสาวอีกคนของเขา
“หึๆ”พรทิพายิ้มที่มุมปากพรางหัวเราะในลำคออย่างรู้ทันความคิดของพี่ชาย “เข้ามาสิคะ”พรทิพาแกล้งยิ้มประจบพร้อมกับอ้าแขนออก
“เอ พี่จะกอดน้องดีมั้ยเนี่ย?”พาทิศหยุดทำหน้าคิดแป๊บนึงพรางหันไปส่งสายตาแปลกๆกับพรทิพาเมื่อเห็นว่าเธอมีเลศนัยอะไรบางอย่างซ่อนอยู่
“อ้าว ก็คิดถึงน้องไม่ใช่หรอคะก็เข้ามาสิ ฮิๆ”พรทิพาพูดพรางหัวเราะกับท่าทางระแวงๆของพี่ชายตน
“อ่า พี่รู้ละ...มาๆมากอดหน่อย”พาทิศพูดพรางดึงน้องสาวของตนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแล้วก็ทำอย่างเคย ทำอย่างที่ทำกับโยศิตาในตอนแรก พรทิพาเห็นพี่ชายทำแบบนั้นกับตัวเองก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาแต่ใครจะไปรู้ว่าพี่ชายตัวเองเหนือชั้นกว่า
พรทิพายกเท้าขึ้นอย่างเนียนๆจุดหมายคือจะเหยียบเท้าชายหนุ่มตรงหน้าแรงๆแต่กลับว่าเท้านั้นกลับขยับหนีได้ทันท่วงทีเหมือนมีตาเห็น แล้วในจังหวะเดียวกันร่างของเธอก็ถูกจับหมุนหันไปอีกทางก่อนจะถูกขโมยหอมแก้มแรงๆ 1 ฟอด
“ว้าว ชื่นใจจัง”พาทิศพูดออกมาหลังจากแผนของเขาสำเร็จ
“ไอ่พี่พฤกษ์”พรทิพาโวยวาย
“5 5 5 ช่วยไม่ได้เธออยากมาเจ้าเล่ห์กับพี่ก่อนทำไม”ชายหนุ่มว่า
“หืออออ”พรทิพาครางออกมาอย่างเข็ดเคี่ยวก่อนจะเริ่มกระหน่ำแทงศอกเข้าใส่หน้าท้องของพี่ชายตัวเองรวดเร็วแต่ไม่แรงมาก
“โอ๊ยๆๆๆๆเจ็บนะทิ”พาทิศครวญคราง
“เจ็บก็ปล่อยเซ่”พรทิพาบอกขณะยังแทงศอกอยู่เรื่อยๆพร้อมกับดิ้นพยายามให้หลุดจากการพันทนาการ
“อาปล่อยแล้ว ปล่อยแล้วครับปล่อยแล้ว”พาทิศรีบปล่อยแขนจากพรทิพาทันที หลังจากถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วพรทิพาก็รีบหันหน้ามาจ้องพี่ชายตัวเองอย่างเอาเรื่อง แต่พอเห็นท่าทางไม่ค่อยสู้ดีของเขาแล้วก็ร้ายต่อไม่ลง จึงได้แต่ยืนขำกับท่าทางของพี่ชาย
“ฮึๆๆ สิ่งที่พี่พาพลาดคืออะไรรู้มั้ย...พี่พลาดที่ปล่อยให้มีช่องว่างกับทิไง” ช่องว่างที่เธอพูดถึง คือ กอดที่ปล่อยให้แขนเธอเป็นอิสระ ใช่ เขาพึ่งนึกขึ้นได้การที่จะเอาชนะน้องสาวคนโตของเขาได้นั้นทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ไม่มีช่องโหว่
“ไง ตะกี๊ใครว่าจะจีบพวกพี่ 2 คนนะโชว์ตัวหน่อยหล่อป่าว?”โยศิตาเอ่ยปากถามขึ้นหลังจากเข้ามาในงานแล้ว
“ผมครับ”เด็กหนุ่มต้นความคิดยกมือตอบพรางส่งยิ้มกว้างมาให้
“คิดว่าไง?”โยศิตาหันไปขอความเห็นกับพรทิพา
“อื้ม ก็หล่อนะแต่ไม่ใช่สะเป็กอะสิฮึๆๆ”พรทิพาบอกพรางหัวเราะ
“จะลองเอาไปพิจารณาดูก่อนก็ได้หนิครับ”เด็กหนุ่มยังยิ้มประจบ
“เรียนให้จบก่อนเถอะเราน่ะ พวกพี่อายุเยอะแล้ว”พรทิพาพูด
“แก่แล้วสิไม่ว่าพี่ทิ”เสียงพริสรแทรกเข้ามา เด็กสาวเดินเข้ามาหาพร้อมกับถือถาดผลไม้มาด้วย
“อะนี่ผลไม้นะกินของคาวไปแล้วเอาผลไม้ล้างปาก”พริสรวางถาดลงบนโต๊ะตัวยาวพร้อมกับบอกเพื่อนๆ
“พี่ทิกับพี่ศินี่เป็นฝาแฝดกันหรอคะ?”เด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย เพราะเคยรู้มาว่าพี่สาวทั้งสองของพริสรและพิรัชย์เกิดปีเดียวกัน
“อ๋อ เปล่าหรอกจ๋ะพวกพี่แค่อายุเท่ากันเฉยๆน่ะ”โยศิตาเป็นคนตอบแต่ถ้าว่าเด็กสาวยังทำหน้าไม่เข้าใจ
“เอ่อ อายุเท่ากันเฉยๆยังไงคะ?”เด็กสาวคนเดิมถาม
“ก็พี่เกิดท้ายปีส่วนพี่ทิพาเขาน่ะเกิดหัวปีจ๋ะ”โยศิตาอธิบายเพิ่มเติม พอถึงตรงนี้ทุกคนที่นั่งฟังอยู่ก็เริ่มทำท่าทางเข้าใจ ขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่ในงานอย่างสนุกสนานจู่ๆก็มีรถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามา
“รถใครกันพี่พฤกษ์”พรทิพาหันไปถามพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างๆพรางมองไปทางรถที่จอดอยู่ห่างออกไป ทุกคนในงานยังไม่มีใครรู้ว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมาเพิ่ม คนที่รู้มีแค่พาทิศและพรทิพาเท่านั้น
“เดี๋ยวพี่ไปดูเอง”พาทิศบอกพรางขยับลุกขึ้นพร้อมกับถือแตงโมเดินกินไปด้วย เมื่อรถจอดสนิทประตูรถด้านฝั่งคนขับจึงค่อยเปิดออก ก่อนจะมีขายาวๆของชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวออกมาในมือของเขามีช่อดอกไม้ช่อใหญ่กับของขวัญอีก 2 กล่องถือติดมือมาด้วย “มาหาใครครับ?”เมื่อเข้ามาถึงพาทิศก็ถามขึ้นทันที
“ผมมาหาพี่พาครับ”ชายหนุ่มบอกก่อนจะเหลือบมองเข้าไปในงาน เขาและพาทิศถูกจับตามองอยู่จากพรทิพา
“พี่พาอยู่มั้ยครับ ผมชื่อ อาเกล ผมเอาของขวัญมาให้ริกับพิครับ”ชายหนุ่มพูดอย่างสุภาพ พาทิศได้ยินชื่อนั้นจึงเริ่มจะเข้าใจอะไรมากขึ้น
“นี่ตาเกลเองเหรอ?”
“คุณรู้จักผม?”ชายหนุ่มมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจ “ที่แท้คุณก็คือพี่พา ผมดีใจจังเลยครับที่ผมได้เจอพี่”ชายหนุ่มบอกด้วยใบหน้ายินดี
“โถ่ นึกว่าใคร มาๆ เข้าไปในงานกัน ไอ้ริกับพิคุยกับเพื่อนๆอยู่ในงานนั่นแหละ”พาทิศชวน ทางฝ่ายพรทิพาเมื่อเห็นท่าทางของทั้งคู่ก็เริ่มเข้าใจและโล่งใจ โชคดีที่ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ชายหนุ่มหน้าตาดีไล่เลี่ยกันเดินตรงเข้ามาหาพรางคุยกันอย่างออกรส
“ครับ ที่นู่นอากาศหนาวมากครับชีวิตส่วนใหญ่ต้องช่วยตัวเองผมคิดถึงที่นี่มาก”ชายหนุ่มเล่า
“เออ กลับมาคราวนี้จะอยู่กี่วันล่ะ?”พาทิศถาม
“คงไม่ได้อยู่นานหรอกครับ แต่ผมคิดว่าปิดเทอมผมจะมาช่วยงานพี่พาที่นี่”
“5 5 5 มาช่วยงานพี่หรือมาทำอะไรที่นี่กันฮะ”พาทิศแกล้งแซว ชายหนุ่มได้ยินจึงออกอาการเขินเล็กน้อย พรทิพาเมื่อยิ่งเห็นใบหน้านั้นใกล้ๆก็ยิ่งรู้สึกคุ้น ความทรงจำในอดีตเมื่อ 5 ปีที่แล้วหวนคืนมาอีกครั้ง
“เฮ้! นี่อาเกลหรอเนี้ย?”พรทิพาเดินเข้ามาทักด้วยสีหน้ายินดี
“ครับ..”ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ตอบอย่างสุภาพ “งั้นนี่ก็คงเป็นพี่ทิ?”เขาคาดเดา
“ฮึๆๆ ดีใจจังที่มีหนุ่มหล่อจำพี่ได้ด้วย”พรทิพากล่าวพร้อมยิ้ม
“ว้าว! หนุ่มหล่อคนนี้ใครกันพี่พา สงสัยจะเป็นหนุ่มนอก”โยศิตาเดินเข้ามา อาเกลได้แต่ยืนยิ้มให้ “เอหน้าแบบนี้ ดวงตาแบบนี้ ริมฝีปากแบบนี้...”โยศิตามองหน้าชายหนุ่มพรางพิจารณาอย่างละเอียด
“พอเลยยัยสิ แกทำหน้าตาน่ากลัวมากนะยะ”พรทิพาว่า
“ก็หน้ามันคุ้นมากหนิ”โยศิตายังสงสัยต่อ
“อาเกลให้อภัยยัยแก่ขี้ลืมคนนี้ด้วยนะ มันสมองเริ่มเบลอแล้วล่ะ ฮึๆ”พรทิพาหันไปพูดล้อเล่นกับชายหนุ่ม โยศิตาได้ยินชื่อที่พรทิพาเรียกชายหนุ่มตรงหน้าก็ถึงกับต้องร้องอ๋อทันที
“ฮึ้ยนี่อาเกลเองหรอเนี่ย โหโตเป็นหนุ่มแล้วแถมหล่อเจ้าเสน่ห์อีกต่างหากแฮะ”โยศิตาชมตามตรง
“ฮึๆๆไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”ชายหนุ่มถ่อมตน
“เอที่มาวันนี้เนี่ยจะเอาอะไรมาให้ใครจ๊ะ?”โยศิตาแกล้งถามทั้งๆที่รู้คำตอบดี
“พอๆๆเลิกแกล้งอาเกลได้ละ นู่นแหนะยัยริน่ะกำลังคุยสนุกเลย ขี้โวด้วยนะยัยนี่น่ะ”พรทิพาชี้นิ้วไปยังเด็กสาววัย 17 ปีที่กำลังนั่งคุยเฮฮากับเพื่อนๆที่โต๊ะยาวตัวหนึ่งที่ห่างออกไป
“ไปซี่ ยื่นของขวัญให้ตอนมันกำลังนั่งเม้าอยู่เลยนะ มันจะได้แปลกใจเล่น”โยศิตาเสริม
“พี่พาแตงโมของทิที่อยู่ในจานตะกี๊หายไปไหนแล้ว”พรทิพาเอ่ยขึ้นเมื่อเดินกลับมาที่โต๊ะ ก่อนหน้านี้ก็มัวแต่สังเกตการณ์พี่ชายของตนกับอาเกลจึงไม่ทันได้สนใจผลไม้ในจาน
“อื้มพี่ไม่รู้”พฤกษารีบปฏิเสธ
“เดี๋ยวนะที่หยิบไปตะกี๊แตงโมทิหรอ”พรทิพาพึ่งนึกอะไรออก ก่อนพี่ชายของเธอจะเดินออกไปเขาหยิบแตงโมติดมือไปด้วย
“อื้มอะไรไม่มี๊”พาทิศตอบขณะยังเคี้ยวแตงโมอยู่ในปาก และในมือข้างหนึ่งก็ยังถือแตงโมอันเดิมที่หยิบไปกินในตอนแรกอยู่
“5 5 5”โยศิตาหัวเราะกับ 2 พี่น้องที่ชอบแกล้งกันก่อนจะหันไปหยิบผลไม้ในจานที่ตนเดินถือมาบ้าง
“อ่าวเฮ้ย!องุ่น สัปปะรด กับแตงไทยศิหายไปไหนแล้ว”โยศิตาโวยขึ้นบ้างเมื่อเห็นว่าผลไม้ในจานของเธอก็หายไปเหมือนกัน ต้องเป็นตอนยืนคุยกันกับอาเกลตะกี๊แน่ แล้วเธอก็หันไปจ้องพี่ชายตัวแสบเขม็ง
“เปล่าไม่ใช่ฝีมือพี่”พูดจบพาทิศก็รีบเดินหนีไปทันที
อาเกลเดินตรงเข้าไปหากลุ่มเด็กสาวที่กำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานที่โต๊ะยาวตัวหนึ่ง สายตาของเขาจ้องไปที่ใบหน้าเด็กสาววัย 17 ปีที่กำลังยิ้มหัวเราะอย่างร่าเริงอยู่กับเพื่อนๆเขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นหน้าที่มีความสุขของเธอ
“เฮ้ผู้ชาย!”เด็กสาวคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นด้วยสายตาพราวแพรวที่เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีเดินตรงเข้ามา เพื่อนสาวทุกคนได้ยินจึงพากันหันไปมองตามสายตาก่อนจะพากันกรี๊ดกร๊าดขึ้น
“หล่ออะใครวะ ใครวะ?”เด็กสาวร่างอ้วนหันไปถามเพื่อนๆอย่างสนใจ
“อุ๊ย! เดินตรงเข้ามาทางนี้ด้วยแก..กรี๊ด”เด็กสาวอีกคนกล่าวพร้อมออกอาการสุดตัว ชายหนุ่มได้แต่ส่งยิ้มทักทายให้พวกเธอก่อนสายตาจะหันไปมองสบตากับเด็กสาวที่เขาต้องการเอาของมาให้ พริสร
“ริ...”เขาเรียกชื่อเล่นของพริสร
“กรี๊ดดดด”พวกสาวๆพากันกรี๊ดเมื่อเขาเดินเข้ามาหาพริสรและส่งช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้
“ริๆ เขากำลังจะบอกรักแกอ้า”เพื่อนสาวข้างๆบอกด้วยท่าทางเขินเต็มที่ ชายหนุ่มได้ยินสิ่งที่เพื่อนของพริสรพูดก็ถึงกับหน้าแดงออกมา
“อุ๊ยเขาหน้าแดงแล้ว”ผู้หญิงอีกคนบอกแล้วก็ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังสนั่น
“กรี๊ดดดด”
“พอได้แล้วพวกแกนี้ก็”พริสรหันไปเอะเพื่อนสาวทุกคนก่อนจะหันหน้ามาคุยกับชายหนุ่มนิรนามที่เธอไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ที่เธอรู้คือหน้าของเขาคุ้นมากต่อ
“เอาของขวัญมาให้ริรึเปล่าคะ?”พริสรถาม
“ครับ”เขาตอบ
“ขอบคุณค่ะ”พริสรรับช่อดอกไม้พร้อมของขวัญที่เขาส่งให้มาถือไว้ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องของเพื่อนๆทุกคน
“กลิ่นตัวห๊อมหอม”เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะยื่นจมูกเข้าไปสูดกลิ่นน้ำหอมจากตัวอาเกลใกล้ๆ
“กรี๊ดดด”สาวๆกรี๊ดต่ออาเกลได้แต่ยืนขำกับท่าทางของพวกเพื่อนๆของพริสร
“เอ่อ แล้วนี่กินอะไรมารึยังคะ?”พริสรถามอย่างสุภาพ
“ถ้ายังไม่มีโต๊ะนั่งกับพวกเราได้นะค้า”เด็กสาวข้างๆพริสรรีบบอก
“ยังครับ”เขาตอบ พอสิ้นสุดคำตอบนั้นพวกสาวๆก็รีบเคลียร์ที่เคลียร์ทางให้อาเกลทันทีโดยเลือกที่นั่งให้ข้างๆกับพริสร
“งั้นเดี๋ยวริไปเอาอาหารมาให้ค่ะ”พูดจบเธอก็ลุกออกไป พอได้ทีเมื่อพริสรเดินออกไปสาวๆทุกคนก็เริ่มรัวคำถามใส่ชายหนุ่มทันที
“นี้คุณเป็นอะไรกับยัยริของพวกเราหรอคะ?”เด็กสาวคนหนึ่งเปิดฉากขึ้น
“เอ่อออ..”ชายหนุ่มไม่รู้จะตอบยังไงดี
“แล้วชื่ออะไรคะ?”เด็กสาวอีกคนถามต่อ
“ผมชื่ออาเกลครับ”เขาตอบพร้อมยิ้ม พริสรที่พึ่งเดินกลับมาจากไปเอาอาหารมาให้ได้ยินชื่อนั้นก็ถึงกับหัวใจกระตุกก่อนจะจ้องไปยังใบหน้าของชายหนุ่ม ภาพความทรงจำเก่าๆวิ่งกลับเข้ามา
“อาเกล”พริสรหลุดปากเรียกชื่อ อาเกลได้ยินจึงหันไปมองหน้าเด็กสาวทันที
“อื้ม พี่เอง”เขาบอกกับพริสร
“เอ๋ นี้รู้จักกันมาก่อนจริงๆด้วยอะ 2 คนนี้เป็นอะไรกันเอ่ย?”เพื่อนๆสาวตั้งข้อสงสัย
“คู่มั่น ผมกับริเป็นคู่มั่นกันครับ”อาเกลบอกทุกคน พวกสาวๆได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหูผึ่งทันที
“คู่มั่น!!”สาวๆประสานเสียงกันพูดด้วยความตกใจ
“มั่นกันตอนไหนคะพวกเราทำไมไม่รู้เรื่องเลย”เด็กสาวผมเปียถามบ้าง แล้วไม่นานเรื่องเล่าในวัยเยาว์ของทั้ง 2 คนก็ถูกเล่าออกมาคร่าวๆ
ตอนเขาอายุย่างเข้า 13 ปีเขาได้เจอกับพริสรครั้งแรกเนื่องจากพ่อกับแม่ของเขาพามาเที่ยวที่ไร่แห่งนี้เพื่อมาดูตัวว่าที่คู่มั่นคู่หมาย เพราะทั้งสองคนพ่อแม่คุยกันไว้ตั้งแต่เขายังเล็กมากว่าถ้าครอบครัวฝ่ายพริสรมีลูกสาวอีกคนจะให้มั่นกันตอนโต เมื่อเขาได้เจอกับพริสรที่พึ่งอายุครบ 12 ปีก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เห็นหน้าครั้งแรกก็มีความรู้สึกดีๆให้ แล้วพวกเขาก็ตกลงจะมั่นกันอย่างไม่เป็นทางการก่อนที่เขาจะต้องเดินทางกลับอเมริกา
“พี่อาเกลเติบโตที่อเมริกา พ่อแม่ของพวกเราคุยกันว่าจะให้ลูกของทั้งสองครอบครัวได้แต่งงานกันก่อนที่ฉันจะเกิด แต่ตอนนั้นยังไม่ได้จริงจังอะไรกันมากหรอก แค่คุยกันไว้ พอพี่อาเกลกับฉันโตขึ้น มีโอกาสพ่อแม่ของพี่อาเกลจึงพามาดูตัว แล้วสุดท้ายจึงมีการมั่นกันด้วยแหวนเพชร”
“แหวนงั้นหรอ ทำไมพวกเราไม่เห็นแกใส่เลย”เด็กสาวร่างอ้วนถามด้วยความสงสัย เพราะเธอไม่เคยเห็นเพื่อนของเธอใส่แหวนที่พริสรพูดถึงเลยซักครั้ง
“ฉันอายเขาน่ะ ไม่อยากให้ใครถามว่าทำไมถึงใส่แหวนที่นิ้วนางด้านซ้าย”
“อ๋อออ”ทุกคนทำหน้ารับรู้และเข้าใจ
“หืมตอนนี้ก็ผ่านมาตั้งเกือบ 5-6 ปีแล้วนะคะพี่ยังจำยัยริได้อยู่หรอคะเนี่ย?”เด็กสาวอีกคนหนึ่งสงสัย
“ผมติดตามข่าวริตลอดครับ”เขาตอบพร้อมยิ้มกว้าง
“น่าอิจฉาจัง”ผู้หญิงอีกคนว่า
“แต่ริไม่รู้ข่าวเรื่องพี่ซักเรื่องเลยนะ”พริสรเอ่ยขึ้นบ้างแต่ยังไม่ทันได้พูดต่อเสียงของใครคนนึงก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังกลุ่ม
“โรแมนติกจัง” พวกสาวๆได้ยินดังนั้นจึงพากันหันไปมองยังต้นเสียงก่อนจะเห็นพวกหนุ่มๆมานั่งอยู่กันข้างหลังหมด
“นี่พวกนายมากันตอนไหนยะ”เด็กสาวผมสั้นถามขึ้น
“พวกเธอคงจะรู้ตัวหรอกนะก็มัวฟังเรื่องเล่าของพี่อาเกลกันอยู่นี่”เด็กหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยเสริม
“พี่เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีแถมใจของพี่หล่อสุดขั้วเลยครับพี่”เด็กหนุ่มอีกคนเอ่ยขึ้นบ้าง
“ไม่หรอก”อาเกลพูดอย่างถ่อมตัว
“ที่มันพูดแบบนี้ก็เพราะคนอย่างตานี่ยังทำไม่ได้เซี่ยวนึงของพี่เลยน่ะสิคะ”เด็กสาวอีกคนว่า
“อ่าวเฮ้ยพูดงี้ได้ไงวะยัยจุ๊บแจงเคยมาคบกับฉันดูบ้างแล้วหรอไง”เด็กหนุ่มคนเดิมท้วง
“ใครอยากจะคบกับนายยะ ฝันไปเถอะ”เด็กสาวที่ชื่อ จุ๊บแจง ว่าให้ ทุกคนคุยเล่นกันต่ออีกไม่ถึงนาทีไฟบริเวณลานบ้านก็ดับลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ แล้วเสียงที่คุยกันเจื้อยแจ้วก็เงียบลง
“เกิดอะไรขึ้น?”พริสรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มผิดปกติ ทุกสิ่งรอบตัวเธอมีแต่ความมืด เสียงทุกเสียงในบริเวณเงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหวีดหวิวและจิ้งหรีดเรไรร้อง
“ไม่มีอะไรหรอก สงสัยไฟจะขัดข้องล่ะมั้ง เดี๋ยวพี่พาก็ไปแก้ไขให้”ชายหนุ่มข้างๆยื่นมือมาจับมือพริสรไว้อย่างปลอบใจ และไม่กี่นาทีเสียงร้องเพลงจากคนกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้นมาไกลๆแล้วตามด้วยเสียงร้องเพลงของคนที่เหลือที่นั่งรออยู่ในงาน
“Happy birthday to you Happy birthday to you..Happy birthday Happy birthday..Happy birthday to you...”เสียงร้องเพลงHappy birtdayดังขึ้นเป็นจังหวะทำนองที่เบาสบาย เพลงถูกร้องซ้ำไปซ้ำมา 3 ครั้ง พริสรพยายามมองหาที่มาของเสียงร้องที่ดังห่างออกไป แต่ก็ยังไม่เห็นใครจนเพลงเริ่มร้องครั้งที่ 2 ภาพหนึ่งจึงค่อยปรากฏขึ้น เป็นภาพเหล่าเพื่อนๆของเธอและพี่ๆทั้ง 3 คนของเธอกำลังเดินร้องเพลงเข้ามาหาโดยมีโยศิตาเป็นคนถือเค้กก้อนใหญ่ที่ปักเทียนหลากสีไว้เรียบร้อยแล้ว ทุกคนหายไปกันตอนไหน พริสรและพิรัชย์ไม่ทันรู้ตัวเลยจริงๆเพราะทุกคนแบ่งกันทำหน้าที่ เพื่อนกลุ่มหนึ่งจะนั่งคอยอยู่ใกล้ๆทั้ง 2 คนเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุตอนเพื่อนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนย้ายไปทำตามแผน กลุ่มคนที่เดินร้องเพลงและนำเค้กมาเดินตรงเข้ามาหาทั้ง 2 คน เพื่อนๆที่อยู่ในงานจึงพาพริสรและพิรัชย์เดินออกมายืนใกล้กัน ทุกคนปรบมือประกอบจังหวะการร้องเพลงจนเพลงถูกร้องครบ 3 ครั้งเค้กก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของทั้ง 2 คน
“เป่าเลย เป่าเลย เป่าเลย”เสียงร้องเชียร์ดังมาจากเด็กสาวเด็กหนุ่มทุกคน
“เดี๋ยวๆพี่ขออวยพรให้พิกับริก่อน..วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 17 ปีของน้องสาวน้องชายทั้ง 2 คนนะ..พี่ก็ขอให้น้องทั้ง 2 ของพี่มีความสุขมากๆกับทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ”พอพรทิพาอวยพรจบทุกคนก็ส่งเสียงเฮปรบไม้ปรบมือให้อย่างยินดี “ตาพี่บ้างนะ...พี่ขอให้น้องสาวและน้องชายของพี่สมปรารถนากับทุกสิ่งที่เป็นกุศลและเป็นที่รักของทุกคนตลอดไปจ๋ะ”โยศิตาพูดก่อนจะตามมาด้วยคำพูดของพาทิศ “ส่วนพี่...พี่ไม่มีคำอวยพรนะเพราะพี่สาว 2 คนของพวกเธอแย่งพูดไปหมดละ”พาทิศพูดจบทุกคนก็พากันส่งเสียงโห่ให้กับมุกของเขาอีกครั้ง
“งั้นตาพวกเราบ้างนะ”เสียงพวกเพื่อนสาวของพริสรพูดขึ้นก่อนที่เพื่อนชายและเพื่อนสาวคนอื่นๆจะเดินเข้ามายืนใกล้ๆทั้ง 2 คน
“พวกเราขอให้พวกเธอ 2 คนมีความสุข พ้นจากสิ่งร้ายทั้งปวง และขอให้พวกเธอเป็นเพื่อนที่น่ารักของพวกเราอย่างนี้ตลอดไป”ทุกคนกล่าวอวยพรพร้อมกันอย่างกับเตรียมตัวกันมาเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณนะทุกคน”พริสรบอกด้วยความรู้สึกที่จุกอยู่ในอกไม่ต่างกับพิรัชย์ ถึงจะไม่ได้พูดอะไรแต่ในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความยินดีและขอบคุณ
“อ้าวๆให้พี่อาเกลอวยพรบ้างสิครับ”เด็กหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“เอ่อ..พี่อวยพรไม่ค่อยเป็นนะแต่พี่ก็ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายปกป้องคุ้มครองทั้ง 2 คนให้มีความสุขและปลอดภัยครับ”พออาเกลพูดจบทุกคนก็เฮขึ้นอีกครั้งก่อนจะพากันส่งเสียงเชียร์ทั้งสองให้เป่าเค้ก
“เป่าเลย เป่าเลย เป่าเลย” พริสรเป็นฝ่ายเริ่มก้มเป่าเทียนส่วนหนึ่งก่อนจึงค่อยตามด้วยพิรัชย์ เมื่อเทียนทุกเล่มถูกเป่าดับหมด ทุกคนก็เฮขึ้นอีกครั้งพร้อมกับปรบมือแสดงความยินดี แล้วจู่ๆลำโพงใหญ่ก็มีเสียงเพลงดังขึ้นเป็นจังหวะเต้นสนุกสนาน ทุกคนในงานเริ่มชวนกันออกไปเต้น
ฟุบ...ตูม! แล้วพุกลุ่มใหญ่ก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะแตกกระจายเป็นสีสันต่างๆ ทุกคนหยุดเต้นก่อนจะแหงนหน้ามองพุหลากสีสันที่ขึ้นกระจายบนท้องฟ้าอย่างตื่นตา
“ฮิ่วววว”เด็กสาวเด็กหนุ่มส่งเสียงเชียร์เมื่อพุหลายลูกส่องแสงแตกกระจายบนท้องฟ้า เสียงดังตูมตามสนั่นไปทั่วบริเวณ ท้องฟ้าในที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยพุแสงหลากสี ฟุบ...ตูม ฟุบ...ตูม
“เฮ้ยๆพวกเรามาเต้นท่ามกลางพุกันดีกว่า”เสียงร้องชวนมาจากหนุ่มหล่อหน้าใสประจำกลุ่ม ฟุบ...ตูม! เสียงพุยังดังประกอบจังหวะดนตรีอยู่ตลอดเวลาทุกคนพากันเต้นอย่างสนุกสนาน
***มาต่อให้อีกเรื่องด้วยความเห่ออยากอวดของค่ะ ขอแลกจากความหมั่นไส้เป็น เอ็นดูน้อยๆ แทนได้มั้ยคะ ย้ำ เรื่องนี้เคยเผยแพร่แล้วหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะนามปากกาไหน คนเขียนก็คนเดิมนะค้า อย่าคิดว่าไปเอาของใครมาเน้อ
***เรื่องที่ลงนี้แค่น้ำจิ้มนะคะ ใครชอบกดติดตาม ครองใจ คนนี้ด้วยน้า จะเอานิยายยาว เรื่องสั้น บทความ มาลงเรื่อยๆ แต่นานๆครั้งค่ะ ไม่ทิ้งผู้อ่านแน่ค่ะ ถ้าไม่มีใครทิ้งไรท์เตอร์ก่อนอะนะ
***กำลังใจของคนเขียน คือการเคลื่อนไหวของผู้อ่านทุกคน โดยเฉพาะคนที่ชอบผลงานเราค่ะ <3
- 👁️ ยอดวิว 2381
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น