ตอนที่ 702 ศิลาหางฟีนิกซ์
ตอนที่ 702 ศิลาหางฟีนิกซ์
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ฉันจำแกได้แล้ว! แกคือคนที่ฉันเกือบจะฆ่าเมื่อหลายปีก่อนสินะ นี่ถ้าหากว่าวันนั้นอาการป่วยของฉันไม่กำเริบขึ้นมาแกก็คงจะไม่ได้มีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงวันนี้”
“ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะขายตัวเป็นทาสตามคำขู่ของฉันจริง ๆ นี่แกไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าฉันแค่ขู่เล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไรกับคำพูดในวันนั้นเลย” จู่ ๆ ควินซี่ก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นขณะชี้นิ้วไปยังเซธที่ยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยเฟย
ใบหน้าของเซธเปลี่ยนเป็นซีดเผือดอย่างฉับพลัน แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าชายตรงหน้ากำลังพยายามปั่นประสาทของเขาอยู่ ท้ายที่สุดนักรบชั้นยอดเหล่านี้ต่างก็มีวิธีการติดตามศัตรูของตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้นถ้าหากพวกเขาไม่ได้ทำตามสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งเขาอาจจะถูกสังหารเนื่องมาจากไม่ได้ทำตามคำขู่ของอีกฝ่ายก็ได้
“ฉันจะขายตัวเป็นทาสแล้วยังไง วันนี้ฉันเลือกติดตามเจ้านายด้วยตัวเอง และเขาก็เป็นนักรบที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ฉัน... ฉันชื่นชมเขามากและยินดีที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องเขาเอาไว้!!” เซธพยายามโต้ตอบกลับไปโดยแสดงความภักดีกับเซี่ยเฟย เพราะวิธีการนี้คือวิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำให้เขารอดชีวิตกลับไปได้
“มันเนี่ยนะนักรบชั้นยอดที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่แกเคยเห็นมา? นี่แกไม่รู้จริง ๆ หรือยังไงว่ามันมีระดับพลังน้อยกว่าแกด้วยซ้ำ เผลอ ๆ มันอาจจะมีความรู้เกี่ยวกับการใช้พลังกฎแค่เล็กน้อยเท่านั้น” ควินซี่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดังขณะชี้นิ้วไปที่เซี่ยเฟย
เซธชะงักค้างไปเล็กน้อย เนื่องจากเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าระดับพลังของเซี่ยเฟยอยู่ในระดับไหน เพราะในฐานะที่เขาเป็นนักรบที่เกิดและเติบโตในแดนเนรเทศ เขาจึงไม่ได้มีวิธีการตรวจสอบพลังที่แม่นยำเหมือนกันกับควินซี่
ท้ายที่สุดนักรบชาวไลอ้อนฮาร์ทผู้นี้ก็เติบโตขึ้นมาจากราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ท เขาจึงสามารถวัดระดับพลังได้อย่างรวดเร็วว่าเซี่ยเฟยยังมีพลังไม่ถึงระดับราชากฎ
“ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของมัน ระดับพลังไม่ใช่สิ่งที่กำหนดทุกอย่าง ด้วยปัจจัยทั้งหมดที่นายมีในวันนี้ ฉันเชื่อว่านายจะต้องเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน” โอโร่ตะโกนแทรกขึ้นมา
“เรามาพนันกันไหมว่าฉันสามารถฆ่ามันได้ด้วยการจู่โจมเพียงแค่ครั้งเดียว?” ควินซี่กล่าวขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว และในฐานะที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ท แรงกดดันที่เขาปล่อยออกมาจึงสูงกว่าคอลลินผู้ซึ่งเป็นนักรบชั้นยอดของชาวเชพเพิร์ดอย่างเห็นได้ชัด
แรงกดดันของควินซี่ทำให้เซธตัวสั่นและก้าวถอยหลังกลับไปโดยไม่รู้ตัว แต่เซี่ยเฟยยังคงสงบนิ่งไม่ไหวติงและมองหาโอกาสที่จะบุกจู่โจมเข้าใส่ศัตรู
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่คิดที่จะฆ่าแกง่าย ๆ หรอก ฉันจะค่อย ๆ ทรมานแกอย่างช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เค้นความจริงออกมาว่าแกคือใครกันแน่?” ควินซี่กล่าวด้วยน้ำเสียงอันน่าหวาดกลัว ก่อนที่เขาจะเริ่มลงมือในทันที
ศิลาหางฟินิกซ์ภายในมือของควินซี่จู่โจมอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดภาพติดตาในอากาศอย่างมากมาย
อาวุธมายาแต่ละชิ้นต่างก็มีความพิเศษเป็นของตัวเอง ซึ่งคุณสมบัติของศิลาหางฟินิกซ์คือความเร็วและความแหลมคม ที่มีความเหมาะสมในการจู่โจมเข้าใส่ศัตรูอย่างอิสระ
ฟุบ!
หากจะวัดกันในด้านความเร็วทั้งเซี่ยเฟยและขนอุยต่างก็ไม่ได้เชื่องช้าเช่นเดียวกัน ร่างของเซี่ยเฟยจึงหายไปในพริบตา ขณะที่เจ้าตัวน้อยมุ่งหน้าเข้าไปหาศิลาหางฟินิกซ์โดยตรง
หากศิลาหางฟินิกซ์อยู่กับควินซี่มันจะเป็นอาวุธที่สร้างการป้องกันที่ทรงพลัง แต่เมื่อทั้งสองอยู่ห่างออกจากกัน มันก็หมายความว่าควินซี่ได้สูญเสียการป้องกันที่ดีที่สุดของตัวเองไป
เซี่ยเฟยรู้ถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาจึงส่งขนอุยไปพัวพันกับศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้ เพราะเขาต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการบุกจู่โจมเข้าหาควินซี่โดยตรง
ปัง!
ทั่วทั้งร่างของขนอุยถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานบริสุทธิ์ และถึงแม้ว่าร่างของมันจะปะทะเข้ากับอาวุธมายาที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่มันก็ไม่ได้มีความเสียเปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว
ขนอุยวิ่งไล่ศิลาหางฟินิกซ์อย่างดุดัน และเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเห็นโอกาสมันก็จะกัดเข้าใส่ศิลาก้อนนี้อย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่าอาวุธมายาชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ขนอุยไม่สามารถกัดกินเข้าไปได้ แต่หลังจากที่เจ้าตัวน้อยได้อยู่กับเซี่ยเฟยมานานหลายปี มันจึงได้รับอิทธิพลความบ้าคลั่งจากเจ้านายของมันไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ดังนั้นถ้าหากว่าการกัด 1 ครั้งยังไม่สามารถทำลายศิลาหางฟินิกซ์ได้ มันก็จะกัดอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ จนกว่าศิลาก้อนนี้จะพ่ายแพ้ให้กับมันในที่สุด
ปัง ๆ ๆ!
ขนอุยกับศิลาหางฟินิกซ์ปะทะเข้าหากันอย่างต่อเนื่อง ราวกับลูกบอลแสง 2 ลูกที่ยังคงพุ่งเข้าหากันไม่มีหยุด
ศิลาหางฟินิกซ์เป็นอาวุธที่มีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง มันจึงสามารถจู่โจมและหลบหลีกได้อย่างอิสระ โดยที่ควินซี่ไม่จำเป็นจะต้องแบ่งสมาธิควบคุมมันเลยแม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็ถือบลัดบิวเทียสเอาไว้ที่มือซ้าย ก่อนที่จะทำการตวัดดาบเล่มสีแดงออกไปเข้าใส่ควินซี่อย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ใบดาบของชายหนุ่มจะปะทะเข้ากับร่างของควินซี่ มันก็มีแสงสีดำคล้ายกับลูกกระสุนปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน พุ่งเข้าใส่พื้นที่บริเวณด้านข้างของใบดาบอย่างว่องไว ทำให้การจู่โจมของชายหนุ่มเบี่ยงเบนออกไปไม่ปะทะเข้ากับร่างของนักรบชาวไลอ้อนฮาร์ทโดยตรง
“ศิลาหางฟินิกซ์อีกก้อน!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง เมื่อเขาได้เห็นศิลาหางฟินิกซ์ก้อนกำลังบินอยู่ใกล้ ๆ กับควินซี่ โดยศิลาก้อนนี้ลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟสีดำ แล้วมันก็ยังคงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วอันทรงพลังไม่ต่างไปจากศิลาก้อนที่กำลังปะทะกับขนอุยอยู่เลย
ที่แท้อาวุธมายาชิ้นนี้มีการแตกตัวคล้ายกันกับหงส์ครามที่มีใบหญ้างอกขึ้นมาสูงสุดได้ถึง 13 ใบ ศิลาหางฟินิกซ์จึงมีการแยกร่างออกมามากกว่าหนึ่งก้อนด้วยเช่นกัน
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าแกจะบังคับให้ฉันต้องใช้อาวุธมายาระดับที่ 2 ออกมาจริง ๆ อสูรศักดิ์สิทธิ์ของแกทรงพลังมากแต่มันก็ยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ แม้ว่ามันจะจัดการกับศิลาหางฟินิกซ์ของฉันก้อนหนึ่งได้ แต่แกก็ไม่มีทางรับมือกับศิลาหางฟินิกซ์พร้อมกัน 2 ก้อนได้อย่างแน่นอน” ควินซี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
หลังจากพูดจบควินซี่ก็โบกมือของเขาออกไปปล่อยให้ศิลาหางฟินิกซ์อีกก้อนบินเข้าไปพัวพันกับขนอุย ทำให้การต่อสู้ 1 ต่อ 1 ในก่อนหน้านี้กลายเป็นการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 1 ในทันที
“ไหนคุณบอกว่าควินซี่มีศิลาหางฟินิกซ์แค่ก้อนเดียว?” เซี่ยเฟยตั้งคำถามกับโอโร่อย่างรวดเร็ว
“ศิลาหางฟินิกซ์สามารถเติบโตได้ 7 ขั้น แต่ฉันจำได้ว่าควินซี่เรียนรู้การใช้ศิลาหางฟินิกซ์ได้ช้ามาก และฉันก็ไม่เคยเห็นเขาใช้ศิลาก้อนที่ 2 ออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว” โอโร่กล่าวอย่างไม่มั่นใจ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าเขาก็ไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์นี้เอาไว้ด้วยเช่นกัน
“เวลามันผ่านมาตั้งนานเท่าไหร่แล้ว มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากว่าเขาจะใช้เวลาช่วงที่ผ่านมานี้ในการพัฒนาศิลาหางฟินิกซ์” เซี่ยเฟยกัดฟันพูดออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ
ร่างของขนอุยพุ่งเข้าปะทะกับศิลาหางฟินิกซ์ทั้งสองก้อนอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมาอย่างน่าหวาดกลัว และทำให้สภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นเกิดอาการสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง
แฮก ๆ ๆ
เจ้าตัวน้อยหยุดหอบหายใจในอากาศออกมาอย่างแรง ซึ่งแต่เดิมการเผชิญหน้ากับศิลาหางฟินิกซ์เพียงแค่ก้อนเดียวเป็นเรื่องที่มันสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่ออีกฝ่ายเพิ่มกำลังเป็นศิลา 2 ก้อน มันก็เพิ่มความเข้มข้นขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก
เซี่ยเฟยกัดฟันจู่โจมออกไปอีกครั้ง ซึ่งแต่เดิมนิสัยการซ่อนไพ่เอาไว้เป็นนิสัยประจำตัวของเขามาโดยตลอด แต่เขาก็ไม่คิดว่าควินซี่จะซ่อนไพ่ใบสำคัญเอาไว้เช่นเดียวกัน และมันก็ทำให้การต่อสู้ในครั้งนี้ทวีความยากลำบากไปมากกว่าเดิม
วิญญาณหวน!
เซี่ยเฟยรีบหยิบอาวุธจากดาร์คเมทัลออกมาบังคับให้มันกระจายตัวเป็นก้อนพีระมิดชิ้นเล็ก ๆ พุ่งเข้าจู่โจมควินซี่ราวกับสายฝน
เป้าหมายของชายหนุ่มในครั้งนี้คือการทำลายชุดเกราะชั้นยอดที่ปกป้องร่างของควินซี่เอาไว้ เพราะตราบใดก็ตามที่ชุดเกราะนี้ถูกทำลาย การป้องกันของอีกฝ่ายก็จะลดลงจากเดิมเป็นอย่างมาก
แต่ในทันใดนั้นเองมันก็มีศิลาหางฟินิกซ์อีกสองก้อนปรากฏขึ้นมาสกัดการจู่โจมของวิญญาณหวนเอาไว้ แล้วมันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอีกครั้ง
ศิลาหางฟินิกซ์ 4 ก้อน!!
ศิลาหางฟินิกซ์แต่ละก้อนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก และการที่มันได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาอีกสองก้อนแบบนี้ มันก็จะทวีพลังของควินซี่ให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า
“ดูเหมือนว่าลูกศิษย์ของคุณจะซ่อนไพ่ตายเอาไว้เยอะเลยนะ บางทีตอนนี้เขาอาจจะใช้ศิลาหางฟินิกซ์จนถึงขั้นที่ 7 แล้วก็ได้” เซี่ยเฟยกัดฟันพูดขึ้นมาอย่างไม่ค่อยพอใจ
ใบหน้าของโอโร่เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า ท้ายที่สุดทุกคนต่างก็รู้ดีว่าอาวุธมายาเป็นอาวุธที่ทรงพลังมากแค่ไหน เพราะเพียงแค่เซี่ยเฟยสามารถใช้หงส์ครามได้จนถึงขั้นที่ 3 มันก็ทวีความแข็งแกร่งขึ้นมาจากเดิมได้มากแล้ว หากควินซี่สามารถใช้ศิลาหางฟินิกซ์ได้ถึงขั้นที่ 7 ขึ้นมาจริง ๆ การต่อสู้ในวันนี้มันก็อาจจะเป็นการท้าทายครั้งใหญ่สำหรับชายหนุ่มอย่างแน่นอน
ปัง ๆ ๆ!
เสียงปะทะอันรุนแรงยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการต่อสู้ได้แบ่งออกเป็น 2 คู่ระหว่างเซี่ยเฟยกับควินซี่และขนอุยกับศิลาหางฟินิกซ์อีกสองก้อน
แรงปะทะจากการจู่โจมทำให้ปราสาทคริสตัลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันมันจึงทำให้ทั้งเซี่ยเฟยและขนอุยต่างก็จำเป็นจะต้องออกแรงอย่างสุดกำลัง
ศิลาหางฟินิกซ์สมควรแล้วที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นอาวุธมายาในตำนาน เพราะมันสามารถที่จะทำให้เซี่ยเฟยและขนอุยต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก โดยที่ควินซี่ยังไม่ทันได้ออกแรงเลยแม้แต่น้อย
การปะทะในครั้งนี้ทำให้ควินซี่แทบไม่อยากจะเชื่อสายตา และในทันใดนั้นเขาก็ได้ตระหนักว่าพลังในระดับราชากฎของเขาแทบที่จะไม่มีค่าในการต่อสู้ครั้งนี้เลย เพราะทั้งการต่อสู้ระหว่างคู่ของเซี่ยเฟยหรือคู่ของขนอุยต่างก็เป็นการปะทะกันที่ทรงพลังมาก จนมันไม่เหลือช่องว่างให้เขาได้เข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ในคู่ไหนได้เลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ควินซี่รู้สึกตกตะลึงมากที่สุดคือพลังการต่อสู้ของเซี่ยเฟย เพราะเขาเป็นคนบอกกับเซธเองว่าชายหนุ่มคนนี้ยังมีพลังไม่ถึงระดับราชากฎด้วยซ้ำ แต่ความแข็งแกร่งที่เซี่ยเฟยได้แสดงออกมามันเหนือเกินกว่าพลังในปัจจุบันของเขาไปไกล
7 ก้อน!
10 นาทีต่อมาเซี่ยเฟยก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าควินซี่สามารถที่จะใช้ศิลาหางฟินิกซ์ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้โอโร่ตกตะลึงเช่นเดียวกัน และเขาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาควรจะต้องจัดการกับสถานการณ์นี้ยังไง เพราะท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนที่คอยยุยงให้เซี่ยเฟยมาจัดการกับควินซี่ด้วยตัวเอง
“ในเมื่อแกบังคับให้ฉันใช้ศิลาหางฟินิกซ์ออกมาทั้งเจ็ดก้อนแล้ว แกก็เตรียมตัวหายไปซะ!!” ควินซี่กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเยาะเย้ย
“นี่แกลืมไปหรือเปล่าว่าในจักรวาลนี้มันไม่ได้มีอาวุธมายาอยู่เพียงแค่ชิ้นเดียว?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะที่เขาเริ่มขยับแขนขวาเพื่อใช้อาวุธมายาของเขาออกมาเหมือนกัน
***************
ไพ่ตายของพี่เฟยยังไม่หมด ผู้อาวุโสเกรย์อย่าเพิ่งรีบดีใจ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 283
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น