ตอนที่ 703 ศิลาหางฟินิกซ์ VS หงส์คราม
ตอนที่ 703 ศิลาหางฟินิกซ์ VS หงส์คราม
“นี่แกลืมไปหรือเปล่าว่าในจักรวาลนี้มันไม่ได้มีอาวุธมายาอยู่เพียงแค่ชิ้นเดียว?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะที่เขาเริ่มขยับแขนขวาเพื่อใช้อาวุธมายาของเขาออกมาเหมือนกัน
คำประกาศของชายหนุ่มทำให้ควินซี่ชะงักไปเล็กน้อย และเขาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าในสถานการณ์อันวิกฤตแบบนี้ เซี่ยเฟยยังคงเอาความมั่นใจมาจากไหน
“ทำไม? แกจะบอกว่าตัวเองก็มีอาวุธมายาเหมือนกันงั้นเหรอ? ถ้าหากแกฉลาดก็ส่งน้ำยามาให้ฉันซะดี ๆ บางทีฉันอาจจะปล่อยให้แกมีชีวิตรอดกลับไปก็ได้” ควินซี่พูดอย่างเย็นชา ขณะที่ยังคงเอามือทั้งสองข้างไพล่เอาไว้ทางด้านหลัง
สถานการณ์ของทางฝั่งควินซี่คงจะอยู่ในช่วงที่วิกฤตมากจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มจู่โจมเข้าใส่กันและกันแล้ว แต่เขาก็ยังคงพูดถึงน้ำยาที่จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของตัวเอง
น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยไม่มีทางจะผลิตน้ำยาขวดนั้นออกมาอย่างเด็ดขาด แม้ว่ามันจะทำให้ชีวิตของเขาต้องตกอยู่ในอันตรายก็ตาม
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว! แกไม่มีทางได้น้ำยาขวดนั้นไปหรอก!!” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
ฟุบ!
ทันใดนั้นร่างของเซี่ยเฟยก็หายไปในพริบตา ก่อนที่เขาจะเสือกแทงบลัดบิวเทียสไปที่บริเวณเอวของควินซี่
เป้ง!
ศิลาหางฟินิกซ์ทั้งห้าก้อนเรียงตัวกันเป็นโล่ป้องกันอย่างรวดเร็วขวางทางการจู่โจมของชายหนุ่มเอาไว้
หงส์คราม!
ใบหญ้า 3 ใบที่ปกคลุมไปด้วยหนามแหลมพุ่งออกมาจากแขนขวาของเซี่ยเฟยอย่างฉับพลัน และในช่วงเวลาเพียงแค่พริบตาพวกมันก็ยืดยาวออกไปไกลเกิน 100 เมตร
ใบหญ้าเหล่านี้ทั้งมีความหนาและยืดหยุ่นได้ราวกับว่าพวกมันเป็นหนวดปลาหมึกยักษ์ที่พุ่งออกไปในอากาศ และพยายามพุ่งเข้าไปรัดศิลาหางฟินิกซ์ทั้งห้าก้อนเอาไว้
หากศิลาหางฟินิกซ์ของควินซี่เปรียบเสมือนกับมีดบิน 7 เล่มที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ หงส์ครามของเซี่ยเฟยก็เปรียบเสมือนกับมือขนาดยักษ์ที่มีอันตรายไม่แพ้กัน
แม้ว่ามือขนาดยักษ์ของเซี่ยเฟยจะมีเพียงแค่ 3 นิ้ว แต่มันก็มีความยืดหยุ่นและสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย พวกมันจึงพันธนาการศิลาหางฟินิกซ์ในอากาศเอาไว้อย่างแน่นหนา
“นั่นมันอะไร?!” ควินซี่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับรีบกระโดดถอยหลังออกไปสองก้าว ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้มันก็เป็นครั้งแรกที่ควินซี่ขยับเท้าหลังจากที่การต่อสู้ได้ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 10 นาทีแล้ว
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหงส์ครามทำให้นักรบชาวไลอ้อนฮาร์ทรู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง และกลิ่นอายที่หงส์ครามได้ปล่อยออกมามันก็คือกลิ่นอายของอาวุธมายาที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของเซี่ยเฟยได้ที่ชายหนุ่มเคยพูดราวกับว่าอีกฝ่ายก็ได้ครอบครองอาวุธมายาอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าในตอนนั้นเขาไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะได้ครอบครองอาวุธมายาอยู่จริง ๆ
มันเห็นได้ชัดเลยว่าเซี่ยเฟยยังเด็กมาก แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับมีความรู้ในด้านการปรุงยาระดับสูง จนสามารถเอาชนะลาคูสที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานานกว่า 100 ปีได้ นอกจากนี้เขายังได้ครอบครองอสูรศักดิ์สิทธิ์และยังมีทักษะในการต่อสู้ที่ค่อนข้างดี ที่สำคัญคือเซี่ยเฟยเพิ่งจะเปิดเผยออกมาว่าตัวเองก็คือผู้ที่ครอบครองอาวุธมายาอยู่เหมือนกัน
‘แข็งแกร่งมาก!’ ควินซี่คิดกับตัวเองภายในใจเมื่อเขาได้เห็นหงส์ครามปรากฏกายออกมา
ในความเป็นจริงสิ่งที่เขารู้สึกตกใจมันยังเป็นเพียงแค่ความลับส่วนเล็ก ๆ ที่เซี่ยเฟยได้เปิดเผยออกมาเท่านั้น เพราะไพ่ใบสำคัญที่ชายหนุ่มยังไม่เปิดเผยออกมามันยังคงมีอยู่อีกเยอะ
ศิลาหางฟินิกซ์คือศิลาที่มีความใกล้เคียงโลหะมากที่สุดในบรรดาอาวุธธาตุดินทั้งสี่ชิ้น ซึ่งนอกเหนือจากที่มันจะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระแล้ว มันยังเป็นอาวุธที่มีความแหลมคมราวกับใบมีดที่ถูกลับคมมาเป็นอย่างดีอีกด้วย
หงส์ครามใช้ใบหญ้าที่ปกคลุมไปด้วยหนามแหลมเข้าบดขยี้ศัตรู ขณะที่ศิลาหางฟินิกซ์ก็ใช้ความแหลมคมและเปลวไฟของมันในการต่อต้านหงส์ครามจนขาดเป็นรู
“ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าอาวุธมายาของแกคืออะไร แต่มันเห็นได้ชัดเลยว่ามันยังไม่สามารถที่จะจัดการกับศิลาหางฟินิกซ์ของฉันได้” ควินซี่กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
แต่ก่อนที่ชายคนนี้จะทันได้พูดจบลง หงส์ครามก็ฟื้นฟูใบหญ้ากลับมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะใช้ใบหญ้าขนาดใหญ่ในการห่อหุ้มศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้
เหตุการณ์นี้ทำให้ควินซี่รู้สึกอายมาก เพราะเขาไม่คิดว่าอาวุธมายาของเซี่ยเฟยจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังกล้าที่จะเสี่ยงชีวิตโดยพยายามใช้ใบหญ้าของมันห่อหุ้มศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้ แม้ว่าการทำแบบนั้นมันจะมีความเสี่ยงที่จะทำให้ใบหญ้าถูกทำลายลงไปก็ตาม
ภาพเหตุการณ์ต่อมาคือศิลาหางฟินิกซ์พยายามแทงทะลุผ่านใบหญ้าจนกลายเป็นรูพรุน จนก่อให้เกิดเศษหญ้าสีฟ้าตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับหิมะสีน้ำเงิน
อย่างไรก็ตามหงส์ครามก็ใช้การฟื้นฟู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอาวุธมายาธาตุพืชในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของมันขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ใบหญ้าทั้งสามก็ค่อย ๆ ยาวออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้มันมีความยาวมากกว่า 500 เมตรเข้าไปแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับใบหญ้าขนาดใหญ่ ศิลาหางฟินิกซ์ก็เป็นเหมือนก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่สูงตระหง่าน และขนาดของพวกมันก็ไม่ได้มีความใกล้เคียงกันเลยแม้แต่นิดเดียว
จุดประสงค์ของเซี่ยเฟยเรียบง่ายมาก เพราะเขาไม่ได้ต้องการให้หงส์ครามหรือขนอุยจัดการกับศิลาหางฟินิกซ์ เนื่องจากสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ คือการให้ทั้งคู่พยายามรั้งศิลาหางฟินิกซ์ทั้งเจ็ดก้อนเอาไว้ต่างหาก
เมื่อควินซี่สูญเสียศิลาหางฟินิกซ์ทั้งเจ็ดก้อนไป เขาก็จะกลายเป็นเพียงแค่สิงโตที่ถูกถอนเขี้ยวเล็บทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเขาลดลงจากเดิมเป็นอย่างมาก
ฟุบ!
เซี่ยเฟยก้าวเท้าไปข้างหน้าและจ้วงแทงบลัดบิวเทียสออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีจุดหมายคือบริเวณลำคอของควินซี่
หงส์ครามกับขนอุยพยายามสกัดกั้นศิลาหางฟินิกซ์ให้กับเขาอย่างสุดกำลังแล้ว ส่วนเขาจะสามารถสังหารควินซี่ได้หรือไม่นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาเอง
ฝ่ามือกลืนเมฆา!
เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน ในที่สุดควินซี่ก็ถูกบีบบังคับให้ต้องใช้พลังของกฎแห่งความมืดออกมา ทันใดนั้นแขนทั้งสองข้างของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ ก่อนที่เขาจะใช้แขนทั้งสองข้างนั้นจู่โจมไปทางเซี่ยเฟย
ขวับ!
แขนของนักรบชาวไลอ้อนฮาร์ทเป็นเหมือนกับค้อนขนาดยักษ์ที่ตวัดไปทั่วทุกที่ เซี่ยเฟยจึงพยายามใช้วิชาเล่ห์กายาและความเร็วเพื่อหลบการโจมตีและหาโอกาสเพื่อโต้ตอบกลับไป
เซี่ยเฟยไม่สามารถที่จะปล่อยให้กฎแห่งความมืดเข้ามาสัมผัสกับตัวเขาได้ เพราะพลังของกฎแห่งความมืดมีพลังในการกลืนกินและแพร่กระจายพลังให้กัดกินร่างกายอย่างทรมาน แน่นอนว่าสาเหตุที่ควินซี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส นั่นก็เพราะว่ากฎแห่งความมืดกำลังกลืนกินร่างกายของเขาอยู่นั่นเอง
ในบรรดากฎหลักของเผ่ามาร กฎแห่งความมืดถือได้ว่าเป็นพลังที่ดูฉูดฉาดน้อยที่สุด แต่ถึงกระนั้นมันก็มีพลังอำนาจในการทำลายที่สูงมาก และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับกฎแห่งความมืดคือการที่มันสามารถทรมานศัตรูได้จนตาย
หากกฎแห่งความมืดมีคุณสมบัติเป็นหยิน กฎแห่งแสงสว่างก็มีคุณสมบัติเป็นหยาง เพื่อให้เกิดการสมดุลย์ในจักรวาล
คนโบราณเคยกล่าวเอาไว้ว่าเมื่อไหร่ที่หยินหยางภายในร่างกายเกิดความไม่สมดุลย์กัน เมื่อนั้นร่างกายก็จะเกิดความผิดปกติ และถ้าหากว่าความแตกต่างทางด้านหยินหยางห่างกันมากจนเกินไป มันก็จะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
กฎแห่งมิติและกฎแห่งสสารของทางเผ่าเทพมีจุดมุ่งหมายโดยการจู่โจมภายนอก พวกมันจึงสามารถที่จะฉีกกระชากร่างของศัตรูออกเป็นชิ้น ๆ แต่กฎแห่งความมืดและกฎแห่งแสงสว่างของเผ่ามารมีจุดมุ่งหมายในการจู่โจมภายใน โดยการจู่โจมเข้าใส่ชีวิตของศัตรูโดยตรง
หากเปรียบเทียบกันแล้วมันก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ากฏข้อไหนคือกฎที่แข็งแกร่งหรืออ่อนแอมากกว่ากัน แต่สิ่งหนึ่งที่รู้กันดีทั่วทั้งดินแดนกฎนั้น นั่นก็คือกฎของทางฝั่งมารมีความสามารถในการสังหารศัตรูอย่างโหดร้ายมากยิ่งกว่า
ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะสวมใส่ชุดเกราะชั้นยอดของบริษัทฟิกส์ แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะป้องกันไม่ให้กฎแห่งความมืดรุกรานเข้ามาภายในร่างกายของเขาได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมด้วยกฎแห่งความมืด ชายหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากจะต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีพวกนั้นเท่านั้น
สถานการณ์ในปัจจุบันคือเซี่ยเฟยยังไม่มีช่องว่างให้เข้าไปจู่โจม ส่วนทางด้านของควินซี่ก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายเซี่ยเฟยได้เช่นกัน เพราะทักษะในการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มแปลกประหลาดมากจนเกินไป และถ้าหากว่าเขายังไม่ได้ใช้พลังของกฎแห่งความมืดออกมาอย่างเต็มกำลัง มันก็ยากที่จะจัดการกับศัตรูที่คล่องแคล่วอย่างเซี่ยเฟยได้
อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าควินซี่ใช้พลังของกฎแห่งความมืดออกมาอย่างเต็มกำลัง มันก็จะสร้างภาระให้กับร่างกายของเขาอย่างร้ายแรง และเนื่องมาจากความทรมานที่เกิดขึ้นจากกฎแห่งความมืดที่รุกรานอยู่ภายในร่าง เขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กฎแห่งความมืดมาโดยตลอด
ควินซี่ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด และถึงแม้ว่าขนอุยกับหงส์ครามจะยังเติบโตไม่เต็มที่ แต่พลังของพวกมันก็ไม่ด้อยกว่าศิลาหางฟินิกซ์ขั้นสมบูรณ์เลย
เมื่อควินซี่ไม่กล้าที่จะใช้พลังของกฎแห่งความมืดออกมาอย่างเต็มกำลัง มันก็หมายถึงเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนที่ดีที่เอาไว้ให้เซี่ยเฟยทำการจู่โจม
ฟุบ!
จู่ ๆ การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยก็เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่เขายังคงพยายามใช้บลัดบิวเทียสเสือกแทงเข้าไปภายในร่างของควินซี่
นักรบชาวไลอ้อนฮาร์ทไม่รู้ว่าอาวุธสีแดงชิ้นนี้ทรงพลังมากแค่ไหน แต่กลิ่นอายที่บลัดบิวเทียสได้ปล่อยออกมา ทำให้เขาสามารถสันนิษฐานได้อย่างรวดเร็วว่ามันคงไม่ใช่อาวุธธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเซี่ยเฟยผู้ซึ่งมีอาวุธที่ทรงพลังอยู่ในมืออย่างมากมาย ก็คงจะไม่เลือกใช้อาวุธชิ้นนี้เป็นอาวุธหลักในการโจมตี
ขนอุยยังคงใช้พลังงานบริสุทธิ์ห่อหุ้มร่างกายของมันเอาไว้ทั่วทั้งร่าง และมันก็ยังคงพยายามจู่โจมเข้าใส่ศิลาหางฟินิกซ์อย่างซ้ำ ๆ โดยไม่คิดที่จะยอมแพ้
ในที่สุดหลังจากที่ขนอุยปะทะกับศิลาหาฟินิกซ์มาอย่างยาวนาน พื้นผิวของก้อนหินก้อนหนึ่งก็เริ่มแตกกระจายเผยให้เห็นรอยแผลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แม้ว่ารอยแผลที่เกิดขึ้นในคราวนี้จะเป็นอาการบาดเจ็บที่มองเห็นไม่ค่อยชัดนัก แต่มันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าขนอุยมีพลังมากพอที่จะทำลายอาวุธมายา
เซี่ยเฟย, ขนอุยและหงส์ครามต่างก็มีนิสัยอย่างหนึ่งที่เหมือน ๆ กัน นั่นก็คือไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงแต่พวกเขาก็จะไม่มีวันยอมแพ้อย่างเด็ดขาด
ขวับ ๆ ๆ ๆ
คลื่นมิติถูกซัดเข้าใส่ควินซี่อย่างต่อเนื่อง โดยในตอนนี้เขาก็พยายามใช้ความเร็วออกมาอย่างเต็มกำลังอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน มันจึงทำให้นักรบชาวไลอ้อนฮาร์ททำได้เพียงแต่รอคอยป้องกันการจู่โจมจากศัตรูเท่านั้น
ใบหน้าใต้หน้ากากของควินซี่เริ่มทวีความจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ต้องยอมรับว่าตัวเองประเมินเซี่ยเฟยต่ำมากเกินไป ซึ่งถ้าหากว่าเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากศิลาหางฟินิกซ์ขั้นสมบูรณ์ ในตอนนี้เขาก็คงจะถูกเซี่ยเฟยปราบปรามไปได้แล้ว
ราตรีนิรันดร์!
เมื่อควินซี่ถูกผลักให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ในเวลานั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะเริ่มจู่โจมอย่างเต็มกำลังเช่นเดียวกัน
ในเวลาเพียงแค่ไม่นานกฎแห่งความมืดเป็นจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากร่างของควินซี่อย่างเกรี้ยวกราด โดยในตอนนี้นักรบชาวไลอ้อนฮาร์ทพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเซี่ยเฟยให้ได้โดยไม่สนใจผลลัพธ์ที่จะตามมา
“แย่แล้ว! นั่นมันวิชาชั้นยอดของราชวงศ์ ทันทีที่เขาใช้วิชานี้สำเร็จทั่วทั้งพื้นที่จะตกอยู่ภายใต้การรุกรานของกฎแห่งความมืด” โอโร่กล่าวขึ้นมาอย่างกังวล
เหตุการณ์นี้ทำให้ขนอุย, หงส์ครามและศิลาหางฟินิกซ์ต่างก็หยุดต่อสู้และมองที่ควินซี่อย่างประหม่า เพราะในฐานะที่พวกมันเป็นอาวุธมายาและอสูรศักดิ์สิทธิ์ พวกมันจึงสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังถูกปลดปล่อยออกมาจากควินซี่ได้ในทันที
เมื่อสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ขั้นวิกฤต ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจที่จะใช้พลังของกฎแห่งความโกลาหลออกมาด้วยเช่นกัน
ฝ่ามือคู่ฤดูใบไม้ร่วง!!
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 347
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น