บทที่ 13...3/3
แจ้งข่าวอีกรอบนะคะ
โบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 แล้วสิ้นสุดการอัพนิยายนะคะ ถ้าอยากอ่านต่อรบกวนไปที่เว็บ/แอพ MEB นะคะ หมวดนิยายรัก
น้ำหอมแบรนด์นี้เป็นสินค้านำเข้าโดยบริษัทที่พริมาทำงานอยู่ พริมาจึงมางานนี้ฐานะ PR (Public Relations การประชาสัมพันธ์) ของบริษัท โดยที่มีออแกนไนเซอร์รับหน้าที่ดูแลในการจัดการทั้งหมด หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำกระโปรงผ่าข้างเดินตรงดิ่งไปหาเมษาที่วันนี้ใส่ชุดสีขาวมา ช่างเหมาะสมกับไวน์สีแดงในแก้วที่เธอถือมาเสียจริง
“งานแบบนี้ไม่น่าจะเหมาะกับพี่เมนะคะ มาได้ยังไง มีบัตรเชิญหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าแอบเข้ามาหรอกนะคะ”
แม้จะถามไปแบบนั้น แต่พริมาเพิ่งรู้ตอนเห็นรายชื่อแขก ภามไม่ใช่ผู้ชายไก่กาเสียด้วย ผู้หญิงที่หมกตัวทำขนมอยู่ในครัวไปพบผู้ชายที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นได้อย่างไร
“ไปถามพนักงานคนนั้นดูสิ ถ้าฉันแอบเข้ามา เขาจะยอมให้เข้ามาไหม”
เมษาเดินเลือกขนมในระหว่างที่รอภามซึ่งกำลังคุยกับปุริม อีกประเดี๋ยวเขาคงมาหาเธอ แต่พอเห็นพริมา ความรื่นรมย์เล็กๆ น้อยๆ ของการได้เห็นขนมหน้าตาน่ากินแทบจะหายวับ เธอไม่คิดว่าพริมาจะมางานวันนี้ด้วย
พริมายกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเบาๆ “ล้อเล่นหรอกน่า พริมเห็นค่ะว่าพี่เมมากับคุณภาม ทายาทคนเดียวของโรงเรมในเครือพริ๊นท์ตัน ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบพี่เมจะมาพบคนระดับนี้ได้ เพราะแบบนี้เลยไม่ใจอ่อนกับพี่ศราหรือคะ”
เมษาได้แต่ส่ายหน้า บางทีพริมาอาจจะไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าเหตุผลที่ถูกเลื่อนการหมั้นถ้าไม่ใช่เพราะศรานอกใจ คงมาจากนิสัยของพริมานั่นแหละ
“ผ่านมา 5 ปีแล้ว พี่ไม่รู้สึกอะไรกับศราอีกแล้วล่ะ เธอก็ด้วย เพราะฉะนั้นเธอสองคนจะไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ไม่เกี่ยวกับพี่อีก”
พริมาฟังแล้วเริ่มลังเล แต่ศราไม่ได้มีใครอื่น เขามีแค่เมษาในใจถึงได้รั้งรอไม่หมั้นกับเธอ ทั้งๆ ที่สองครอบครัวเริ่มคุยเรื่องการแต่งงานแล้ว
“เกี่ยวสิ ถ้าพริมต้องเลิกกับพี่ศราเพราะพี่เม พริมคงจะปล่อยให้พี่เมมีความสุขไม่ได้หรอก”
เมษามองตามสายตาของพริมาซึ่งมองไปที่ภาม คราวก่อนพริมาทำสำเร็จแย่งศราไปได้ คราวนี้พริมาจะทำแบบนั้นอีกงั้นหรือทั้งที่ปากบอกว่ารักศรา
พริมาเดินเข้ามาใกล้เมษาแล้วยิ้มหวาน เมษาไม่ไว้ใจพริมาอยู่แล้ว พอเห็นพริมาโน้มตัวเข้ามาใกล้ เธอก็โผหลบออกมาทันที ทำให้พริมาเสียหลักไปชนกับโต๊ะที่จัดวางขนมไว้แล้วเซจะหงายหลังเพราะรองเท้าส้นเข็มที่ใส่มาจึงทรงตัวลำบาก จนต้องคว้าของใกล้มือเอาไว้ก่อนเพื่อดึงตัวเองไว้ แต่พริมายังคงล้มลงไปนั่งอยู่ดีพร้อมกับชายของผ้าปูโต๊ะยังกำอยู่ในมือ ทำให้จานทุกใบร่วงตามลงมาด้วย ไวน์หกใส่ชุด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก พริมารู้ตัวอีกทีก็เลอะไวน์ไปทั้งตัว ขนมอะไรบ้างก็ไม่รู้หล่นลงมาจากโต๊ะ ซ้ำยังถูกแขกในงานจ้องมองมาจนน่าอาย
เมษาย่อตัวลงช่วยประคองพริมาที่อยากจะวีนแหลก แต่ทำไม่ได้ขึ้นมา แล้วก่อนที่เพื่อนของพริมาจะถึงตัว เมษาก็กระซิบข้างหูรุ่นน้องตัวแสบที่แย่งแฟนของเธอในอดีตว่า
“ลูกไม้เดิมๆ ใช้ได้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ”
พริมายิ้มในหน้า แต่ในใจอยากจะคว้าเมษามาตบให้หายโมโห คนที่ควรขายหน้าเพราะชุดเลอะไวน์ควรเป็นเมษาไม่ใช่เธอ
“ถ้าตอนนั้นพี่เมร้ายแบบนี้ คงไม่เสียพี่ศราไปหรอกค่ะ”
เมษาหัวเราะเบาๆ “เอาไปเถอะผู้ชายไม่ซื่อสัตย์แบบนั้น ฉันโชคดีแล้วที่เห็นธาตุแท้เสียก่อน”
ภามเดินเร็วๆ มาถึงตัวเมษาพอดี ชายหนุ่มมองไปทั่วตัวเผื่อว่าเธอจะถูกกลั่นแกล้งจากผู้หญิงคนนั้น เพื่อนของพริมาเข้ามาช่วยพาพริมาไปห้องน้ำเพื่อล้างชุด ทุกคนในงานหันไปคุยกันต่อ พนักงานเข้ามาทำความสะอาดขนมและไวน์ที่เลอะเต็มพื้นพรม ภามจึงพาเมษาเดินออกมาจากบริเวณนั้น
“มีอะไรเกิดขึ้นหรือเม ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่ไหม” ภามถามให้แน่ใจ แม้ว่าเมษาจะไม่มีรอยเปื้อน แม้แต่ไวน์สักหยดก็ตาม
“เมไม่เจ็บอะไรหรอกค่ะ” เธอเหมือนคนยอมให้ใครมาแกล้งง่ายๆ อย่างงั้นหรือ “เมหลบทันค่ะ เลยทำให้พริมเสียหลักแล้วล้มเสียเอง ป่านนี้เจ้าตัวคงโมโหจะแย่ อยากสาดไวน์ใส่เม เลยเจอสะดุดล้มไวน์หกใส่ชุดตัวเอง”
“ต้องอย่างนี้สิแฟนของผม เรื่องอะไรจะยอมถูกแกล้ง” ภามยกนิ้วโป้งให้เมษาทั้งสองมือ “ไปรยามาแล้ว แต่พี่ภูมิจะมาไหม ผมไม่แน่ใจเลย”
เมษามองทางเข้างานจึงเห็นหญิงสาวที่สวยสง่าเข้ามาในชุดสีทองเข้ากับบรรจุภัณฑ์ของน้ำหอมที่เปิดตัวในวันนี้ เธอคนนั้นคือไปรยา หญิงสาวใบหน้าสวย ทว่ารอยยิ้มและดวงตาดูเศร้า ภามจับข้อมือของเมษาเพื่อที่จะพาเดินไปหาไปรยาด้วยกัน
ไปรยายิ้มให้ภามในทันทีที่เห็นหน้า แม้ว่าจะชะงักไปนิดหนึ่งราวกับว่าใบหน้านี้ทำให้เธอคิดถึงสามีที่ล่วงลับ
“ไม่ได้พบกันนานเลยนะภาม สบายดีไหม”
“สบายดี ไปรล่ะ ไปอยู่อเมริกาเสียนาน ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” ภามถามกลับอย่างไรเสียเขาก็แค่สงสัยไปรยา เธอยังเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะไม่มีหลักฐานอะไรที่จะโยงว่าเป็นคนฆ่าพี่ชายของเขา
“ก็...สบายดี” ไปรยาถอนใจไม่อยากเล่าเรื่องตัวเอง “ภามมากับใคร แฟนหรือเปล่า”
“ใช่ นี่ไปรยาอดีตภรรยาของพี่ภูมินะเม ส่วนเมษาเป็นแฟนของผมเอง” ภามแนะนำ
ไปรยายิ้มอย่างเป็นมิตรให้เมษา สายตาที่มองมาแสดงออกว่าดีใจกับภามจริงๆ “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ดีใจกับภามด้วยนะที่เริ่มต้นใหม่ได้เสียที ถ้าภูมิ...”
ภามจับมือเมษาแล้วมองไปรอบตัว เมษายิ้มให้ไปรยา แม้ในใจจะภาวนาให้คราวนี้คุณภูมิปรากฏตัวด้วยเถอะ
“ผมอยากได้พี่ภูมิยังอยู่เหมือนกันครับ”
ภูมิปรากฏตัวขึ้นในวินาทีนั้น แม้จะเลือนราง มีเพียงภามกับเมษาเท่านั้นที่มองเห็น ภามมองพี่ชายแล้วสายตาก็เลื่อนไปที่ไปรยา แม้ไม่พูดอะไร แต่ภูมิคิดแล้วว่าหากร่างของเขายังพอมีพลังจะทำสิ่งนี้ได้ เขาจะทำทันที วิญญาณที่อ่อนพลังกระโจนเข้าร่างของไปรยา ทำให้หญิงสาวยืนนิ่งไปครึ่งนาที ก่อนจะสะบัดใบหน้าเมื่อรู้สึกหัวใจเต้นหวิว แต่ไม่น่าจะเป็นลม
“ไปรเป็นอะไรไหม” ภามถามอย่างเป็นห่วง หากว่ามีวิธีที่ดีกว่านี้ เขาคงเลือก แต่เพราะเขาติดต่อกับวิญญาณของพี่ภูมิไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน ฉะนั้นวิธีนี้จึงต้องนำมาใช้
“ไม่รู้เหมือนกัน มึนๆ น่ะ สงสัยยาที่หมอให้...เอ่อ วันนี้ไปรไม่ค่อยสบายเท่าไหร่น่ะ แต่ที่มาเพราะเป็นเพื่อนกับเจ้าของงาน ขอตัวก่อนนะภาม แล้วพบกันใหม่นะคะคุณเมษา”
เมษายิ้มด้วยความรู้สึกผิดเพราะมีแค่เธอกับภามที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ค่ะ แล้วพบกัน”
ไปรยาเดินไปหาเพื่อนของเธอแล้ว ภามกับเมษามองไปทั่ว แต่ก็ไม่เห็นภูมิแล้ว เกิดอะไรขึ้นในช่วง 30 วินาทีนั้น
“พี่ภูมิน่าจะเห็นบางอย่างที่สะเทือนใจ สีหน้าตอนที่ออกมาจากร่างของไปร พี่ภูมิเหมือนจะร้องไห้”
เมษาทันเห็นใบหน้าแสนเศร้านั้น เธออยากจะมั่นใจในตอนนี้ว่าไปรยาไม่ได้ฆ่าสามีแน่นอน แต่มันเป็นเพียงความรู้สึก หากคุณภูมิเห็นว่าภรรยาเป็นผู้สั่งฆ่าตัวเอง สายตาน่าจะโกรธแค้น ไม่ใช่เหมือนเสียใจกับบางอย่าง
ปุริมเดินเร็วๆ เข้ามาหาภามพอดี ทำให้สิ่งที่ทั้งสองกำลังสงสัย แต่ไม่รู้จะหาคำตอบได้จากที่ไหนเพราะภูมิไม่อยู่ตรงนี้แล้วต้องหยุดลงก่อน
“คุณภามครับ พอดีว่าเจ้าของร้านอาหารที่โรงแรมได้มีการเจรจาไปคราวก่อนมางานนี้เหมือนกัน เขาอยากพบคุณภามครับ คุณภามอนุญาตให้พบไหมครับ”
ภามพยักหน้าก่อนจะหันมามองเมษา หากให้เธออยู่ในงานคนเดียว เขากังวลว่าจะเกิดเรื่องอีก แม้ว่าเมษาจะปกป้องตัวเองได้ก็ตามเถอะ
“เดี๋ยวเมไปนั่งเล่นแถวๆ สระว่ายน้ำแล้วกันค่ะ” เมษาชี้ไปที่สระว่ายน้ำซึ่งเดินออกไปจากส่วนงานเลี้ยงนิดเดียว “พอดีว่าเมเมื่อยขาแล้ว”
“ก็ได้ เดี๋ยวผมตามไปนะ”
เมษารอให้ภามเดินไปก่อน เธอถึงไปคีบขนมใส่จานกระดาษมาหลายชิ้น แล้วเดินเรื่อยๆ ไปที่สระว่ายน้ำซึ่งไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ทำให้เงียบน่าจะนั่งสบายไม่มีใครมารบกวน
สายตาของใครคนหนึ่งมองตามเพราะช่างสบโอกาสพอดี ตอนนี้พี่ภามไม่ได้ตรงนั้นเสียด้วย ออกงานครั้งแรก เมษาจะไม่เป็นเรื่องซุบซิบในวงสังคมได้อย่างไร
เมษากำลังตอบข้อความของมีนาซึ่งรู้ว่าเธอมาออกงานเปิดตัวน้ำหอมกับภาม น้องสาวของเธอบอกว่าถ้าจะให้ครบต้องอยู่ถึงเที่ยงคืน แล้วทิ้งรองเท้าไว้ข้างหนึ่ง เจ้าชายจะได้ตามหา เมษาชอบใจ ไม่ว่าอะไรมีนาสามารถโยงเข้าเรื่องนิทานหรือนิยายได้ตลอด รวมทั้งการที่ภามได้มาพบกับเธอด้วย
“สวัสดีค่ะ ได้เจอกันแบบไม่ผิดฝาผิดตัวเสียทีนะคะ”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง พอเมษาหันไปมองก็รู้ทันทีเพราะว่าจำหน้าจากคลิปกล้องวงจรปิดได้แม่น
วีดายิ้มพลางนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ กันซึ่งมีช่องเว้นระยะห่างไว้อยู่
“เรื่องคราวก่อนฉันขอโทษคุณด้วยที่ไปหาที่ร้านแบบนั้น ถึงไม่เจอคุณ แต่มาเจอกันวันนี้ก็ดีเหมือนกัน”
กริ่งเตือนภัยในสมองของเมษาคงทำงานหนักมากในวันนี้ เมื่อครู่ก็พริมา ตอนนี้ยังมาเจอกับวีดาอีก ที่ภามบอกว่าอยากเปิดตัวว่าเราสองคนกำลังคบหากัน อาจได้ข่าวอื่นแทนหรือเปล่า
“ดียังไงหรือคะ”
วีดายื่นมือมาจับแขนของเมษาเบาๆ ก่อนจะยิ้มหวานอีกแล้ว “คุณอาจจะรู้จักพี่ภามแค่ไม่กี่เดือน แต่ฉันรู้จักพี่ภามมาตั้งแต่เรียนมัธยม ในใจของฉันไม่เคยรู้สึกชอบใครนอกจากพี่ภามคนเดียว ฉันไปเรียนต่างประเทศ ทำงาน แล้วกลับมาเพื่อที่จะพบพี่ภามในเวลาที่ฉันเท่าเทียมกับเขา คุณเข้าใจไหมว่าฉันสมควรได้รับโอกาสนั้น”
เมษาฟังแล้วร้องอ้ออยู่ในลำคอ ถ้าวีดาพูดแบบนี้กริ่งเตือนภัยในสมองของเธอคงไม่ได้ทำหยุดทำงานแล้วล่ะ วีดาคิดเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์หนุ่มสาวง่ายเกินไป การรู้จักมานานและความทัดเทียมกันไม่ได้เป็นสิ่งการันตีว่าจะสมหวังในความรัก
“ภามรู้จักคุณมาตลอดใช่ไหมคะ”
“พี่ภามจำฉันได้” วีดาเลี่ยงจะตอบตามตรง ช่วงเวลาที่พี่ภามไปเรียนและเธอไปเรียน เขาไม่เคยตอบเมล์หรือตอบข้อความที่เธอส่งไปเลย
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็มีโอกาสที่ต้องการมาตลอด แต่การชอบใครสักคนนอกจากโอกาสที่จะได้พบกันแล้ว นิสัย ความประทับใจ ความคิดที่คล้ายๆ กันก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนสองคนชอบกันได้ โอกาสเป็นเพียงแค่ช่วงเวลา แต่หลังจากนั้นคือความรู้สึกต่างหากล่ะคะ” เมษาก็ไม่ได้อยากจะร่ายยาวหรอก แต่วีดาควรเข้าใจเรื่องแบบนี้อย่างลึกซึ้งจะได้เลิกตั้งความหวังเพราะเข้าใจว่าหากรู้จักกันมานานย่อมมีใจสักวัน
วีดากัดริมฝีปาก ใช่ว่าเธอจะไม่เข้าใจในเรื่องพวกนั้นเสียเมื่อไหร่ แต่หากดูจากองค์ประกอบทุกอย่างแล้ว เธอเหนือกว่าเมษาทุกอย่าง ทั้งการศึกษา ชาติตระกูล ฐานะทางสังคม ไม่มีอะไรที่ด่างพร้อย แต่เมษาเป็นใครถึงมาเป็นคนที่พี่ภามประกาศว่าเป็นแฟน
“แต่ถ้าไม่มีคุณแทรกเข้ามา ฉันกับพี่ภามคงเป็นคู่ที่ใครๆ อิจฉาไปแล้ว”
เมษาอยากจะร้องเฮ้อออกมาดังๆ ทำไมข้ออ้างในการคิดไปเองของวีดาถึงมีมากมายแบบนี้นะ
“ฉันไม่ได้แทรกเข้ามาค่ะ คุณใช้คำนี้ไม่ได้เพราะคุณกับภามไม่ได้เป็นอะไรต่อกันนอกจากคนรู้จักในตอนที่ฉันเข้ามา”
ในวินาทีนั้นเองวีดาก็ทำในสิ่งที่เมษาไม่มีวันคาดคิด หญิงสาวที่เชิดหน้าวางตัวว่าสูงส่งกว่าใครๆ กำลังเลื่อนตัวลงมาจากเก้าอี้แล้วคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงที่เทียบเทียมตัวเองไม่ได้ เมษาถอนใจยาวรู้สึกว่าวันนี้เธอฮ็อตในหมู่ผู้หญิงเสียเหลือเกิน คนหนึ่งมาทวงแฟนเก่า อีกคนกำลังคุกเข่าเพื่อขอแฟนคนปัจจุบัน
มีใครได้แบบเมษาบ้าง ได้แฟน แต่มารผจญเพียบ
ใจดวงนี้สื่อถึงรักลงขายเป็น E-Book ใน MEB แล้วค่ะ หมวดนิยายรัก
โดยโบว์ทำโปรโมชั่นลดเหลือ 149 บาทจาก 329 บาท เหลือเวลา 4 วัน และจะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 นะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 164
แสดงความคิดเห็น