‘My Precious รักแรกโคตรลืมยาก’ ความคิดถึง ความแตกต่าง และความรัก
ตัวภาพยนตร์พาทุกคนย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2542 พร้อมเติบโตและเรียนรู้เรื่องราวความรักไปกับ ต๋อง (นนน) เด็กผู้ชายในวัย 16 หัวโจกของแก๊งสุดห่ามประจําโรงเรียน และแก๊งเพื่อนอย่าง โด่ง (โอม), แบงค์ (ชิม่อน), ไม้ (นีโอ) และเปา (ยูโร) ที่มักจะก่อวีรกรรมสุดป่วนสร้างความปวดหัวให้กับเหล่าครูในโรงเรียนอยู่เสมอ
วันหนึ่งต๋องและเพื่อน ๆ เกิดนึกสนุกเล่นพิเรนทร์กลางห้องเรียนจนทําให้ต๋องถูกทําโทษด้วยการย้ายมานั่งอยู่หน้าหลิน (ฟิล์ม) นักเรียนดีเด่นประจําโรงเรียนที่ทั้งน่ารักและเรียนเก่ง แถมยังเป็นคนที่เหล่าเพื่อน ๆ ในแก๊งของต๋องแอบชอบอีกด้วย มีเพียงต๋องที่ไม่ได้ชอบหลินเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ "โคตรเจ๋ง" เกินกว่าจะชอบใคร แต่สุดท้ายด้วยความใกล้ชิดเพราะต้องติวหนังสือให้กันก็เกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่พวกเขาเรียกมันว่า "รักแรก"
ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน "รักแรก" ก็ยังคงเป็นคนที่เราไม่มีวันลืมอยู่ดี
ความเห็น
ขอเตือนก่อนเลยว่า บทความนี้มีการสปอยเนื้อหาแบบหนักมาก
‘รักแรก โคตรลืมยาก’ เป็นภาพยนตร์ไทยรักเรื่องหนึ่งที่ผมดูแล้วอินมาก เนื่องจากยิ่งดูไปเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้ผมหวนนึกถึง ‘อดีต’ ในบางช่วงบางตอนของชีวิต
ไม่ว่าจะนึกถึงโรงเรียนเก่าที่เคยเรียน สภาพแวดล้อมเก่าๆ เพื่อนบางคน และ ‘คนบางคน’ ผมว่าทีมนักแสดงและผู้กำกับถ่ายทอดแต่ละช่วงเวลาของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจหนังเรื่องนี้มากที่สุดเลยก็คือ การที่ผู้กำกับพยายามถ่ายทอดมุมมองความรักของทั้งผู้หญิงและผู้ชายในแต่ละช่วงอายุออกมาได้โคตรจะจริง เพราะในช่วงวัยรุ่นอย่างช่วง ม.ปลายไปจนถึงมหาวิทยาลัย โดยส่วนใหญ่ผู้หญิงมักจะมีความคิดที่โตกว่าผู้ชาย เช่นตั้งใจเรียนมากกว่า นึกถึงเรื่องอนาคต และดูมีความจริงจังกับความสัมพันธ์
ต่างจากผู้ชายในวัยเดียวกัน ที่ส่วนใหญ่จะติดเพื่อน ค่อนข้างคึกคะนอง มักมองเรื่องหลายเรื่องเป็นความสนุก ถึงแม้จะจริงใจกับความสัมพันธ์ แต่ไม่ได้จริงจังถึงขั้นมองไปไกลถึงอนาคตขนาดนั้น
ดังที่ช่วงหนึ่งของหนังถ่ายทอดความเอาจริงเอาจังของหลิน (นางเอก) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศึกษาต่อ เรื่องการใช้ชีวิต เรื่องความคิดที่ค่อนข้างโต ต่างจากต๋อง (พระเอก) ที่เริ่มตั้งใจเรียนเพราะอยากจีบหลิน แต่พอได้เรียนต่อ ก็ดันไปติดเพื่อน มองเรื่องการใช้กำลังชกต่อยเป็นเรื่องสนุกท้าทาย ติดเล่นเป็นส่วนใหญ่ แล้วมองว่าพฤติกรรมแบบนี้ เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นผู้ชาย สุดท้ายเพราะความแตกต่างทางความคิดและไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ก็นำพาให้คนทั้งคู่ทะเลาะกันและห่างกันไปในที่สุด
ผมว่าในชีวิตจริง เพราะความต่างนี้ มันทำให้คู่รักวัยรุ่นหลายคู่เลิกกัน เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนออกมาได้ตรงใจอย่างที่สุด นี่คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้หญิงมักจะเลือกคบผู้ชายที่อายุมากกว่าตัวเองในระดับหนึ่ง เพราะหากคบวัยเดียวกัน ฝ่ายหญิงก็มักจะมองว่าฝ่ายชายความคิดเด็กไป ส่วนฝ่ายชายเองก็คงมองว่าฝ่ายหญิงจริงจังกับชีวิตเกินไป
ผมว่าประเด็นนี้ เป็นประเด็นที่ภาพยนตร์รักหลายเรื่องมองข้ามไป แต่’รักแรก โคตรลืมยาก’ จับมานำเสนอได้ลงตัวมาก
อีกความแตกต่างหนึ่งระหว่างแนวคิดเรื่องความรักของผู้หญิงและผู้ชายที่ตัวหนังต้องการสื่อให้เราฉุกคิดก็คือ ฉากที่หลินและต๋องได้มีโอกาสกลับมาคุยกันอีกครั้ง ที่สุดท้ายแล้วหลินก็เลือกที่จะเก็บความทรงจำที่ผ่านมาเอาไว้และเดินต่อไปในทางที่ตัวเองตัดสินใจไปแล้ว มากกว่าจะจมอยู่กับอดีตที่ผ่านไปแล้ว ต่างจากต๋องที่ยังอยากให้ความรักของทั้งคู่กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ผมว่าประเด็นนี้ก็ค่อนข้างจริง เพราะผู้หญิงมักเดินไปกับคนปัจจุบัน มากกว่ามาให้ความสำคัญกับคนในอดีต ส่วนผู้ชายจะค่อนข้างนึกถึงความรักที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นผู้ชายจึงมักตามง้ออดีตแฟนของตัวเองมากกว่าเริ่มต้นใหม่
ผมว่าทุกฉากที่ตัวหนังนำเสนอ ผู้กำกับทั้งสองคนทำออกมาได้อย่างลงตัว มุมมองแบบหลินและต๋องไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็นแค่การมองชีวิตกันคนละมุม ไม่ว่าความรักจะจบลงหรือเดินต่อไป ไม่ว่าสุขหรือเศร้า สุดท้ายแต่ละคนก็ยังต้องใช้ชีวิตต่อไปในทางที่เราเลือกแล้ว
ก็ได้แต่หวังว่า เมื่อภาพยนตร์จบลงไป จะมีคู่รักหลายคู่ที่หยิบเอาเรื่องที่ตัวละครต้องการสื่อ ไปปรับใช้ในชีวิตคู่ของตัวเอง เพื่อให้คนสองคน ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าเพศไหน ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ ได้พยายามรับฟังกันให้มากขึ้น ใส่ใจกันมากขึ้น และมีความเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น
สำหรับคนที่ไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ สามารถหาดูได้ทาง Netflix ครับ
อ้างอิง
- 👁️ ยอดวิว 174
แสดงความคิดเห็น