บทที่ 82: หูเจียวเจียวสมรู้ร่วมคิดกับภูตเร่ร่อน
ชายหลงตัวเองตรงหน้าหูเจียวเจียวคือภูตมังกรนามว่าหลงอู่ที่เธอเพิ่งได้พบในเผ่าเมื่อวาน
“แม่นาง ช่างบังเอิญจริง ๆ ที่เราได้พบกันอีกครั้ง” ชายร่างสูงบึกบึนยกริมฝีปากขึ้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยผื่นเผยรอยยิ้มที่ตนคิดว่าหล่อเท่ที่สุด
“ทำไมเจ้ายังอยู่ที่นี่ เผ่าของเราไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะเดินเข้าออกได้ตามอำเภอใจนะ” จิ้งจอกสาวมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา แล้วถอยหลังไป 2 ก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากเขา
เมื่อวานนี้เธอดูหมิ่นเจ้าหมอนี่ไปขนาดนั้น แต่เขาก็ยังไม่ยอมรามืออีก
หลงอู่ที่ได้ยินคำพูดของสาวสวยก็แย้มยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
“แม่นาง ข้าลืมบอกไป ตอนนี้ข้าอาศัยอยู่ที่นี่แล้ว ฉะนั้นในอนาคตพวกเราจะเป็นภูตเผ่าเดียวกัน”
สำหรับผู้หญิงที่งดงามเช่นนี้ การที่นางรั้งอยู่กับหลงโม่เป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดี เขาต้องได้นางมาครอบครองให้ได้ แล้วทำให้นางทิ้งหลงโม่ที่ไร้ค่าคนนั้นไปเสีย
ถุย!
ไอ้ขยะนั่นไม่สมควรได้รับของดี ๆ แบบนี้ไป!
ทางด้านหูเจียวเจียวกลอกตา จากนั้นก็หันหลังกลับตั้งท่าจะเดินหนีไป
การที่ต้องมาพูดคุยกับเจ้าคนหลงตัวเองครั้งหนึ่ง เธอก็รู้สึกกินอะไรไม่ลงไป 2-3 วันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หลงอู่รีบก้าวไปขวางจิ้งจอกสาวเอาไว้ “แม่นาง ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องเสียใจที่ปฏิเสธข้าไปเมื่อวานนี้ ที่วันนี้ข้ามาที่นี่ก็เพื่อให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ถ้าเจ้ารู้สึกคิดถึงข้าเมื่อไหร่ก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ”
“ข้าสัญญาว่าข้าจะทำให้เจ้าพอใจได้มากกว่าการอยู่กับไอ้สะ….หลงโม่”
ชายหนุ่มอยากจะพูดว่าสวะ แต่เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของหญิงสาวเมื่อวานนี้ เขาก็ชะงักชั่วครู่และรีบเปลี่ยนคำพูดใหม่
ใบหน้าของหูเจียวเจียวมืดลง เธอกำลังจะสั่งสอนบทเรียนให้ไอ้คนอวดดี ทันใดนั้นเสียงของหัวหน้าเผ่าก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“หลงอู่ เจ้าอยู่ที่นี่เองหรือ ข้ากำลังตามหาเจ้าอยู่พอดี”
ชายสูงวัยเดินมาหาภูตมังกรพร้อมรอยยิ้ม และเห็นว่าจิ้งจอกสาวก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน เขาจึงยิ้มกว้างขึ้น “หูเจียวเจียวก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”
“เอาเถอะ ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักเขาก่อนแล้วกัน นี่คือหลงอู่ เขามาจากเผ่ามังกร หลงโม่ เจ้าน่าจะรู้จักเขา ตอนนี้หลงอู่อาศัยอยู่ในเผ่าของเราแล้ว ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะเข้ากันได้ดี” คนเป็นหัวหน้าเผ่าแนะนำด้วยหน้าตาเบิกบานใจ
“ใช่ แน่นอน หลงโม่และข้ารู้จักกันดี หลงโม่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเผ่ามังกร” หลงอู่ชำเลืองมองสหายมังกรอย่างมีเลศนัย
ขณะนี้หลงโม่ยืนอยู่ไม่ไกลจากหูเจียวเจียว ใบหน้าที่มืดมนของเขายังคงเรียบเฉยไม่แสดงอาการของความสุขหรือความโกรธ
หลังจากที่ชายผู้มีตำแหน่งสูงสุดพูดจบ เขาก็มองไปที่สมาชิกคนใหม่ของเผ่าอีกครั้ง
“หลงอู่ เจ้ายังไม่ได้เลือกที่อยู่ของเจ้าใช่ไหม เจ้าสามารถเลือกสถานที่ในเผ่าเพื่อสร้างบ้านได้เลย”
“ข้าจะอาศัยอยู่ข้างบ้านนาง” หลงอู่พูดพร้อมกับขยิบตาให้หูเจียวเจียว แต่มันแทบจะทำให้หญิงสาวหันไปอาเจียนใส่เขาเพราะสะอิดสะเอียน
“เอาล่ะ มันบังเอิญว่ามีพื้นที่โล่งมากมายในบริเวณใกล้เคียงบ้านของนาง งั้นข้ารบกวนเจ้ากับหลงโม่ช่วยดูแลเขาหน่อยนะ”
ชายชราพยักหน้าอย่างอารมณ์ดี
เมื่อภูตทั้งหมดมารวมตัวกัน หัวหน้าเผ่าก็ประกาศข่าวดีเรื่องที่หลงอู่จะย้ายเข้ามาอยู่ในเผ่าอีกครั้ง
หลังจากเกิดความโกลาหลเมื่อวาน ภูตส่วนใหญ่ก็รู้จักภูตมังกรหนุ่มร่างบึกบึนนี้แล้ว ซึ่งชาวบ้านไม่มีความประทับใจในตัวเขา โดยที่มีภูตจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ยังตื่นเต้นเมื่อรู้ว่ามีภูตมังกรที่ทรงพลังมาเยือนเผ่า
หลังจากที่ผู้นำของเผ่าพูดจบ เหล่าภูตทั้งหลายก็ไม่สนใจอะไรอีก แล้วเตรียมที่จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
ในตอนนั้นเอง มีชายคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจากนอกเผ่า
“ท่านผู้เฒ่า แย่แล้ว ข้าเห็นลู่ซุยซุยอยู่นอกเผ่า นางดูเหมือนกำลังจะตาย...”
แล้วชาวบ้านก็หันไปมองผู้ชายคนนั้นโดยพร้อมเพรียงกัน
ทางด้านชายชราก็รีบพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
“อะไรนะ? ลู่ซุยซุยมีสภาพเช่นนั้นได้ยังไง คู่ของนางอยู่ที่ไหน?”
แม้ว่าลู่ซุยซุยจะถูกขับไล่ออกจากเผ่า แต่พวกเขาก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อชีวิตและความตายของนางได้อยู่ดี
ชายที่มาส่งข่าวรีบส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้ ข้าไม่เห็นคู่ของนางเลย ข้าเห็นแต่นางกำลังนอนจมกองเลือดอยู่ข้างนอก ข้าเลยพานางกลับมา”
“พานางมาที่นี่เร็วเข้า” คนเป็นหัวหน้าเผ่าออกคำสั่ง
ต่อมา ภูตชายผู้นั้นกลายร่างเป็นสัตว์ก่อนจะวิ่งออกไปทันที
เวลาผ่านไปไม่นาน สิงโตตัวผู้ตัวหนึ่งก็วิ่งกลับมาโดยมีหญิงสาวเนื้อตัวเปื้อนเลือดอยู่บนหลังของมัน
ในขณะเดียวกัน หูเจียวเจียวไม่สนใจเรื่องของลู่ซุยซุย เธอเขย่าแขนของหลงโม่และพูดกับเขาว่า “เรากลับกันเถอะ”
หากหลงโม่และหลงอู่ไม่ปรับความเข้าใจกัน การที่พวกเธออยู่ที่นี่มีแต่จะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแย่
หากเจ้าจอมวายร้ายอารมณ์ไม่ดี มันจะไม่เป็นผลดีสำหรับเธอ
“อืม” หลงโม่ตอบแล้วหันหลังเดินออกจากฝูงชาวบ้านไปพร้อมกับจิ้งจอกสาว
ในขณะนี้ทุกคนมองไปที่ลู่ซุยซุยด้วยความสนใจ
พวกเขาเห็นว่าใบหน้าของนางถูกบดบังด้วยผมที่กระเซอะกระเซิง และใบหน้าครึ่งซีกก็เต็มไปด้วยรอยแผลที่น่ากลัว อีกทั้งร่างกายที่ถูกห่อหุ้มด้วยหนังสัตว์ผืนกว้างมีของเหลวสีแดงไหลออกมาจากใต้ร่างอย่างต่อเนื่องจนบนพื้นเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
เมื่อเหล่าภูตเห็นฉากนี้ต่างก็พากันอ้าปากค้าง
“นางจะเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“นางได้รับบาดเจ็บแบบนี้ได้ยังไง เป็นไปได้ไหมว่านางถูกสัตว์ป่าทำร้าย?”
ชาวบ้านที่พูดก้าวไปข้างหน้าแล้วค่อย ๆ ยกหนังสัตว์บนร่างกายของกวางสาวออก ก่อนจะเผยให้เห็นมุมหนึ่งและรอยฟกช้ำก็ปรากฏขึ้นซึ่งทำให้คนคนนั้นต้องประหลาดใจ
ครู่ต่อมา ลู่ซุยซุยเปิดดวงตาแดงก่ำขึ้น
ยามนี้แววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังกวาดไปทั่วฝูงชน และจ้องตรงไปที่ด้านหลังของหูเจียวเจียว
นั่นทำให้จิ้งจอกสาวชะงักไปทันทีที่รู้สึกเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง
พอเธอหันกลับไป เธอเห็นลู่ซุยซุยกำลังมองตัวเองด้วยสายตาเย็นชาที่แฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น ซึ่งหญิงสาวคุ้นเคยกับท่าทางนั้นมาก หลงโม่เองก็มองเธอแบบนี้ตอนที่อยู่ในความฝัน
ทำไมตอนนี้เจ้าจอมวายร้ายยังไม่โกรธแค้นเธอจนเข้าสู่ด้านมืด แล้วลู่ซุยซุยกลับใช้สายตาดังกล่าวมองเธอเสียก่อน?
เมื่อหัวหน้าเผ่าเห็นว่ากวางสาวตื่นขึ้นมาแล้ว เขาก็รีบถามว่า “ลู่ซุยซุย ทำไมเจ้าถึงกลายเป็นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้น?”
ปัจจุบันชาวบ้านคนอื่นสังเกตเห็นเพียงว่าลู่ซุยซุยได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยไม่มีใครสังเกตเห็นดวงตาที่เย็นชาของนางสักนิด
หลังจากที่หญิงสาวได้ยินคำพูดของผู้นำสูงสุดของเผ่า นางก็หลุบตาลงต่ำ ขดตัวสั่นเทา กำมือข้างหนึ่งแน่นจนเล็บจิกลึกเข้าไปในเนื้อ
เวลาผ่านไปไม่นาน นางก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่หูเจียวเจียวด้วยแววตาที่มีแต่ความหวาดกลัว
“ท่านผู้เฒ่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนาง! นางสมรู้ร่วมคิดกับภูตเร่ร่อน ให้พวกมันมาจับตัวข้าไป นางทำให้ข้าเป็นแบบนี้ และนางวางแผนจะฆ่าทุกคน!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของกวางสาว ชาวบ้านทุกคนก็ตกอยู่ในความโกลาหล
จากนั้นดวงตานับไม่ถ้วนก็จับจ้องไปทางหูเจียวเจียวเขม็ง
บัดนี้ความสงสัย ความกลัว ความโกรธ รวมถึงทุกอย่างดูเหมือนจะรวบรวมสิ่งที่น่าเกลียดทั้งหมดในโลกมาทับไว้ที่เธอคนเดียว
“ลู่ซุยซุย เกิดอะไรขึ้น? เจ้าช่วยอธิบายให้ชัดเจนก่อน” คนเป็นหัวหน้าเผ่าทำหน้าจริงจังและถามลู่ซุยซุย
เนื่องจากเขามีความไว้วางใจในตัวหูเจียวเจียวมากพอ ไม่ใช่เพียงเพราะอีกฝ่ายดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะนางสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับเผ่าได้ ตอนนี้กวางสาวกล่าวหาว่านางสมรู้ร่วมคิดกับภูตเร่ร่อน เขาจึงต้องการรู้ว่าเรื่องราวมันจริงเท็จแค่ไหน
ท้ายที่สุดนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของเผ่า
ในขณะเดียวกัน ดวงตาเย็นเยียบของหูเจียวเจียวเองก็จ้องตรงไปยังผู้หญิงที่อยู่ไม่ไกลอย่างไร้ความรู้สึก
จิ้งจอกสาวยืนฟังเรื่องไร้สาระของอีกฝ่ายที่สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว
“ข้า…ข้าได้ยินมาจากภูตเร่ร่อน หูเจียวเจียวบอกภูตเร่ร่อนว่าข้าถูกไล่ออกจากเผ่า และขอให้พวกเขาจับกุมข้าและสังหารคู่ของข้า...”
“แล้วนางยังเปิดเผยสถานที่เก็บผลไม้ให้แก่ภูตเร่ร่อนอีกด้วย นางบอกให้พวกเขาจับผู้หญิงของเผ่าไป”
ปัจจุบันภูตส่วนใหญ่ในเผ่ายังคงจดจำหูเจียวเจียวผู้ร้ายกาจที่ทำทุกอย่างได้โดยไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น
ในเวลานี้ หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของลู่ซุยซุย พวกเขาต่างก็นึกถึงวีรกรรมที่นางมารร้ายทำ
“ข้าจำได้ว่าหูเจียวเจียวเคยพูดไว้ว่านางต้องการส่งหลงหลิงเอ๋อไปให้ภูตเร่ร่อนเพื่อแลกกับหนังสัตว์และอาหาร” จู่ ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งก็ยกมือขึ้นพูด
ทันใดนั้นหู่จิงก็ตระหนักอะไรบางอย่างได้และชี้ไปที่จิ้งจอกสาว
“ที่แท้วันนั้นนางเดินตามเราทั้งวันเพราะแบบนี้นี่เอง!”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: มารผจญมารุมเร้าแม่จิ้งจอกไม่หยุด แล้วแบบนี้จะรับมือยังไงล่ะเนี่ย!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 365
แสดงความคิดเห็น