รางวัลชีวิต
ณ ห้องนั่งเล่นในบ้านสองชั้นหลังใหญ่ สายพิณ เด็กหญิงตัวน้อยวัยเก้าขวบ กำลังนั่งอยู่กับมารดาบนโซฟาตัวใหญ่ เบื้องหน้ามีโต๊ะไม้ขนาดย่อม และอาหารว่างแสนโปรดของเจ้าตัว อย่างเค้กช็อกโกแลต และน้ำส้มคั้นวางอยู่ ปกติเด็กหญิงจะจัดการกับของว่างจนเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว แต่มาวันนี้ เจ้าตัวกลับมีสีหน้าครุ่นคิด สมองน้อย ๆ กำลังทำงานอย่างหนัก
“วันนี้ทำไมทานได้น้อยจัง ไม่สบายหรือเปล่าลูก”
ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามหลังจากสังเกตอาการของลูกสาวมาได้ครู่ใหญ่ พลางยกมืออบอุ่นอังที่หน้าผาก
“เปล่าค่ะคุณแม่ พิณสบายดี แต่พิณกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ค่ะ”
“คิดอะไรเหรอลูก ไหนบอกให้แม่ฟังซิ”
เมื่อแน่ใจว่าลูกสาวไม่ได้เป็นอะไร สายธารก็ลดมือลงช้า ๆ พลางถอนหายใจโล่งอก แต่แล้วก็ต้องแปลกใจกับคำถามที่ผู้เป็นลูกสงสัย
“คุณแม่ขา ความสุขของคุณแม่คืออะไรเหรอคะ”
สายพิณตัดสินใจเอ่ยถามผู้เป็นมารดา ตั้งแต่ที่คุณแม่ไปรับกลับจากโรงเรียนเมื่อตอนบ่ายแก่ ๆ กระทั่งรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อย จนมานั่งรอคุณพ่อกลับจากที่ทำงานในห้องนั่งเล่น เธอก็ครุ่นคิดถึงการบ้านที่คุณครูสุขกมลมอบหมายให้ทำโดยตลอด
“เอาละค่ะ ก่อนเลิกเรียนวันนี้ ครูจะสั่งการบ้าน ให้เด็กๆทุกคนไปคิดมานะคะว่า ความสุขที่แท้จริงคืออะไร โดยครูจะให้เวลาหนึ่งอาทิตย์ ใครตอบได้โดนใจครูมากที่สุด ครูมีรางวัลพิเศษจะมอบให้”
ขึ้นชื่อว่ารางวัล ใครบ้างละจะไม่อยากได้ ยิ่งครูสุขกมลบอกว่าเป็นรางวัลที่แสนพิเศษ นั่นยิ่งเพิ่มความอยากได้มากขึ้นไปอีก แม้เด็กหญิงจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้สายพิณต้องเค้นสมองเพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุด เพื่อให้โดนใจคุณครูให้ได้
“ว่ายังไงละคะคุณแม่ ความสุขของคุณแม่คืออะไร” เจ้าตัวเขย่ามือของมารดา เร่งยิกๆให้ตอบ
“อืม..ความสุขของแม่ ก็คือการได้อยู่กับลูกยังไงจ๊ะ”
สายพิณคิดตาม ความสุขคือการมีลูกเหรอ เอ๋..ก็เราตัวเล็กแค่นี้จะมีลูกได้ยังไงละ แต่เราก็มีน้องหมานะ แล้วมันก็น่ารักมากด้วย เราก็มีความสุขที่ได้เล่นกับมัน แต่ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งมันทำให้เราไม่พอใจละ เรายังจะมีความสุขได้อยู่หรือ
“แล้วถ้าวันหนึ่งพิณดื้อ ไม่เชื่อฟังคุณแม่ ทำให้คุณแม่ไม่พอใจ คุณแม่จะมีความสุขไหมคะ”
“ถ้าหนูเป็นอย่างนั้น แม่ก็คงไม่มีความสุขจ้ะ”
สายพิณนึกถึงวีรกรรมของตัวเองที่ผ่านมา ทั้งตอนที่เจ้าตัวดื้อไม่ยอมไปโรงเรียน อ้อนมารดาให้ซื้อของเล่นใหม่ทั้งที่ตัวเองก็มีอยู่แล้ว วิ่งออกไปเล่นน้ำฝนจนลื่นล้มได้รับบาดเจ็บ การกระทำต่าง ๆ ของเธอทำให้บุพการีทั้งสองต้องว่ากล่าวตักเตือน และเสียน้ำตามาไม่รู้กี่ครั้ง ถ้าอย่างนั้น..สิ่งนี้ก็ยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
“คุณแม่ไม่ต้องกลัวนะคะ พิณจะพยายามไม่ดื้อกับคุณแม่อีกค่ะ พิณจะเป็นเด็กดี แล้วก็เชื่อฟังคุณแม่ตลอดไปเลย” เจ้าตัวเอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใส พลางยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่
“น่ารักที่สุดเลย สายพิณของแม่” แก้มยุ้ย ๆ ถูกผู้เป็นมารดาหอมคืนเช่นกัน
“อ้าว สองแม่ลูกนี่ทำซึ้งอะไรกันอยู่ แหม ไม่สนใจพ่อเลย พ่อน้อยใจแล้วน้า”
บิดาของเด็กหญิงเดินเข้ามาในบ้าน หลังจากล็อกประตูและเก็บกุญแจบ้านเป็นที่เรียบร้อย เขาเดินตรงมายังห้องนั่งเล่น ทันได้เห็นลูกสาวสุดที่รัก กับภรรยาคนสวยกำลังหอมแก้มกันอยู่พอดี เขาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับภรรยาและลูกสาว
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คิดถึงคุณพ่อจังเลย คุณพ่อมาเหนื่อยๆทานน้ำก่อนนะคะ”
สายพิณยื่นแก้วน้ำส้มเข้าไปใกล้ริมฝีปากของบิดา มือใหญ่อบอุ่นรวบมือเล็กๆข้างที่ถือแก้วของเด็กหญิงเอาไว้ ก่อนดื่มรวดเดียวจนหมด
“เอาใจพ่อขนาดนี้แสดงว่าจะขออะไรแน่ ๆ เลย ใช่ไหมเจ้าตัวแสบ” เขายีศีรษะลูกสาวอย่างมันเขี้ยว เรียกรอยยิ้มจากภรรยาได้ไม่น้อย
“แหมคุณพ่อก็ เห็นพิณเป็นเด็กขี้ขอไปได้นะคะ คราวนี้ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่อยากจะถามอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“เอ้า จะถามอะไรพ่อละลูก”
“คือพิณอยากรู้ว่า ความสุขของคุณพ่อคืออะไรนะค่ะ” เขาแปลกใจไม่ต่างจากภรรยา
“เมื่อตะกี้ก่อนคุณมา ลูกก็ถามฉันแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พิณแค่ทำการบ้านไปส่งคุณครูเท่านั้นเอง คุณพ่อตอบมาเร็วๆสิคะ พิณง่วงแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนะคะ” สายพิณยกมือปิดปาก
“เอ้า ตอบก็ตอบ ความสุขของพ่อ นอกจากการได้อยู่กับคุณแม่ของหนูและหนูแล้ว ก็คือการได้ทำงานที่พ่อรัก”
ทำงานเหรอ สายพิณนึกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบ เด็กหญิงชอบวาดรูป ทุกครั้งที่ได้จรดดินสอลงบนกระดาษ ก็ทำให้เธอมีความสุข แต่เมื่อใดที่ภาพวาดไม่เป็นดั่งใจคิด เธอก็จะรู้สึกเสียใจไปหลายชั่วโมง
“แล้วถ้างานของคุณพ่อมีปัญหา คุณพ่อจะมีความสุขไหมคะ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น..พ่อก็คงไม่มีความสุขหรอกลูก แต่พ่อก็จะพยายามหาทางแก้ไขให้มันดีขึ้น”
ถ้าอย่างนั้น..สิ่งนี้ก็ยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง เฮ่อ...แล้วมันคืออะไรกันละเนี่ย
...
เบนซ์คันงาม ขับมาจอดอยู่ใกล้หน้าประตูโรงเรียน เด็กหญิงในชุดนักเรียนสีขาวกับกระโปงสีน้ำเงินก้าวลงมาจากรถ ผมยาวถูกถักเป็นเปียเรียบร้อย ใบหน้ารูปไข่ประดับด้วยรอยยิ้มใส รอบข้างมีนักเรียนหญิงและนักเรียนชายต่างวัย กำลังทยอยเดินเข้าไปในโรงเรียนอย่างเป็นระเบียบ โดยมีคุณครูหลายท่านยืนคอยต้อนรับ
สายพิณยกมือไหว้มารดา “สวัสดีค่ะคุณแม่”
“ตั้งใจเรียนนะลูก เย็นนี้คุณพ่อเลิกงานเร็ว เดี๋ยวคุณพ่อจะมารับ อย่าดื้ออย่าซนละ” สายธารลดกระจกลงพูดกับลูกสาว
“ค่ะคุณแม่ พิณจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน แล้วก็ไม่ดื้อไม่ซน” เด็กหญิงยิ้มให้มารดาก่อนเดินเข้าไปในโรงเรียน ยกมือไหว้กล่าวทักทายคุณครู แล้วเดินปะปนไปกับกลุ่มเด็กนักเรียน ที่ต่างพากันเดินไปเข้าแถวเคารพธงชาติ ก่อนเข้าสู่การเรียนการสอนในลำดับต่อไป
...
เสียงฮัมเพลงเบา ๆ ดังมาจากเด็กสาวที่กำลังเดินมาตามทางเดินในโรงเรียน ดวงหน้างามแย้มยิ้มอย่างมีความสุข บางครั้งก็แดงซ่านด้วยความขวยเขิน
“โอ้โฮพี่นกยูง วันนี้อารมณ์ดีอะไรเอ่ย ยิ้มไม่ยอมหุบเลยนะคะ”
หลังเลิกเรียน สายพิณกำลังเดินไปนั่งรอบิดาที่ม้านั่งใกล้ประตูโรงเรียนเช่นทุกวัน พลันได้ยินรุ่นพี่ที่ตนสนิทฮัมเพลงเบาๆ พลางเดินไปยิ้มไป เลยอดที่จะเอ่ยทักไม่ได้ สำหรับเธอแล้ว พี่นกยูงเป็นคนที่น่ารัก ทั้งยังมีน้ำใจต่อเด็กหญิง บางครั้งก็เอาขนมมาให้ บางทีก็ช่วยสอนการบ้านให้เธอ
“แหม ก็พี่กำลังมีความสุขอยู่นี่จ๊ะ” นกยูงเดินเข้ามาหาสายพิณ ก่อนจูงมือเด็กหญิงไปนั่งที่ม้าหินอ่อน
“พี่มีความสุขเรื่องอะไรเหรอคะ บอกพิณได้ไหมเอ่ย”
”แฟนของพี่เขาซื้อช็อกโกแลตให้ แถมยังบอกอีกว่ารักพี่คนเดียว แล้วก็จับมือพี่ด้วย พี่มีความสุขมากๆเลยละ” ขณะเอ่ยใบหน้าของเด็กสาวก็ขึ้นสีชมพูระเรื่อ
“แฟน หมายถึงคนที่รักกัน เหมือนคุณพ่อกับคุณแม่ของพิณใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้วจ้า ความรักทำให้พี่มีความสุข ทำให้โลกทั้งใบของพี่สว่างไสว มองอะไรก็สดใสไปหมด”
“แสดงว่าความสุขของพี่มาจากคนรักของพี่เหรอคะ” เด็กสาวพยักหน้าแทนคำตอบ พลางยื่นช็อกโกแลตให้สายพิณ
“พี่ให้จ้ะ แฟนพี่ซื้อมาเยอะเลย พี่กินคนเดียวไม่หมดหรอก”
“โอ้โฮ พี่นกยูงใจดีจังเลย ขอบคุณมากนะคะ”
เด็กหญิงยกมือไหว้รุ่นพี่อย่างอ่อนน้อม เห็นจากอาการของพี่นกยูงแล้วก็รู้ว่ารุ่นพี่คนนี้มีความสุขอย่างเหลือล้น หรือว่าการมีคนรักคือความสุขที่แท้จริงกันนะ... ขณะกำลังนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองอยู่นั้น ดวงตาเล็กคู่สวยก็เหลือบเห็นบิดาเดินเข้ามาแต่ไกล
“คุณพ่อมาแล้ว พิณกลับก่อนนะคะพี่นกยูง ไว้เจอกันใหม่ค่ะ”
“จ้า โชคดีนะ ไว้เจอกัน” เด็กสาวโบกมือให้สายพิณ เด็กหญิงเดินเข้ามาหาบิดา ยกมือไหว้ทักทายหยอกล้อกันเช่นทุกครั้ง ก่อนพากันขึ้นรถกลับบ้านด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
...
“ฉันควรจะทำยังไงดีจ๊ะพี่ ผัวฉันมันทุบตีฉันแทบทุกวัน แถมยังขู่อีกว่าถ้าไม่มีเงินให้มัน มันก็จะทิ้งฉันไปอยู่กับคนอื่น ฉันทุกข์ใจเหลือเกินจ้ะพี่” สายทิพย์ระบายกับพี่สาว ความทุกข์กายใจที่ได้รับจากสามีทำให้น้ำตารินไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
สายพิณแอบดูอยู่ที่หน้าประตูห้องนั่งเล่น ด้วยว่าประตูนี้สร้างจากมุ้งลวด ทำให้สายพิณได้ยินทั้งหมดที่น้าสาวเอ่ยกับมารดาของตน เด็กหญิงเพิ่งกลับมาจากโรงเรียน กำลังจะเดินเข้าไปหามารดาในห้องนั่งเล่นเหมือนเช่นทุกครั้ง ทว่าเจ้าตัวก็ต้องหยุดเท้าลงกะทันหัน เมื่อเห็นว่าคุณแม่กำลังมีแขก แว่วเสียงผู้เป็นมารดาเอ่ยกับน้าสาว
“ถ้ามันทำให้ทิพย์ทุกข์ใจนักก็เลิกกับมันไปเถอะ อย่าเอาตัวเองไปเป็นที่รองมือรองเท้า รองรับอารมณ์มันเลย”
“แต่ฉันรักเขานี่พี่ ถึงเขาจะเลว จะร้ายยังไง มันก็ยังตัดกันไม่ขาด”
“เฮ่อ ทิพย์เอ๊ย ตอนแรกก็รักกันปานจะกลืน ไหงตอนนี้มาเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้”
“นั่นสิพี่ ใจนึงนะ ฉันก็อยากจะเลิก อยากแช่งให้มันตายโหงตายห่าไปเลย แต่อีกใจฉันก็ยังรักยังห่วงอยู่ ก็เลยกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ละพี่” สายธารมองน้องสาวด้วยความสงสาร
“บางทีความรักก็ไม่ได้ให้ความสุขกับเราเสมอไปเนอะพี่” ผู้เป็นพี่สาวพยักหน้าเห็นด้วย
“พี่โชคดีมากนะที่มีสามีที่ดี มีลูกที่น่ารัก รักษาเอาไว้ให้ดีนะพี่ อย่าได้ทุกข์ใจเหมือนฉันเลย” ทั้งสองถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
มือเล็ก ๆ ที่เตรียมจะผลักมุ้งลวดเข้าไปตกลงข้างตัว สายพิณหันหลังก้าวเดินจากมาช้า ๆ ภาพและเสียงของมารดากับน้าสาวยังคงชัดเจนอยู่ในความรู้สึก ไหนพี่นกยูงบอกว่า ความรักทำให้มีความสุขยังไงละ แล้วทำไมคุณน้าถึงได้เป็นทุกข์เพราะมัน แสดงว่าสิ่งนี้ก็ยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง อีกไม่นานก็ต้องให้คำตอบคุณครูแล้ว เรายังหาความสุขที่แท้จริงไม่เจอเลย สงสัยคงอดได้รางวัลพิเศษแล้วละ เด็กหญิงมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
...
เช้าวันรุ่งขึ้น สายพิณแต่งตัวไปโรงเรียน โดยมีบิดามารดาสลับกันไปส่งตามปกติ เด็กหญิงเดินเข้าโรงเรียนไปอย่างหงอย ๆ วิชาแรกวันนี้เป็นวิชาของคุณครูสุขกมล หญิงร่างท้วมวัยกลางคนท่าทางใจดีเดินเข้ามาในห้องเรียน สีหน้าเปี่ยมด้วยเมตตา เธอเดินมาหยุดอยู่หน้าชั้นเรียน เสียงพูดคุยกันของเด็ก ๆ เงียบลงทันที
“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ” หลังจากที่หัวหน้าห้องอย่างสายพิณพูดจบ ทุกคนก็ยกมือไหว้ แล้วกล่าวสวัสดีโดยพร้อมเพรียง ครูสุขกมลส่งยิ้มให้เด็ก ๆ
“สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน วันนี้นักเรียนทุกคนต้องให้คำตอบกับครูแล้วนะคะ ได้หาคำตอบมากันหรือยังคะ”
“หาแล้วครับ/ค่ะ” เด็กนักเรียนพูดขึ้นพร้อมกัน สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวังที่อยากจะได้รางวัล
เว้นก็แต่สายพิณ เธอหาความสุขที่แท้จริงไม่เจอเลย ตลอดหนึ่งอาทิตย์ สายพิณได้พบเห็นอะไรมากมาย นอกจากความสุขเทียมของคุณพ่อคุณแม่ น้าสายทิพย์และพี่นกยูงแล้ว เธอก็เห็นข่าวเด็กหนุ่มขโมยเงินเศรษฐีเพื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ อ้างว่าอยากรวยมีเงินเยอะ ๆ ทำให้สายพิณเข้าใจว่าความสุขที่แท้จริงคือการมีเงินมาก แต่พอเห็นข่าวพี่น้องฆ่ากันแย่งสมบัติ อ้างว่ามีเงินร้อยล้านยังไม่พอ ต้องได้มากกว่านี้ เธอก็สลดใจ ขนาดเป็นคนรวยมีเงินทองมากมายแท้ ๆ ยังฆ่ากันได้ เช่นนั้นการมีเงินมากก็ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง จนมาถึงวันนี้เด็กหญิงก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริงกันแน่ ครูสุขกมลไล่ถามนักเรียนไปทีละคน
“ความสุขที่แท้จริง คือการมีเพื่อนเยอะ มีคนที่รักเรามากครับ/ค่ะ” เด็กชายกับเด็กหญิงหลายคนตอบคล้ายกัน
“ความสุขที่แท้คือการที่พ่อแม่รักเรา ซื้อของเล่นให้ และมีเงินเยอะๆครับ/ค่ะ” สายพิณคิดว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงเลย มันเป็นความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ที่ผ่านเข้ามา แล้วก็ผ่านไป เหลือเพียงภาพในใจให้จดจำ จนค่อยเลือนหายไปกับกาลเวลา ครูสุขกมลเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าสายพิณ
“เหลือหนูคนสุดท้ายแล้วนะคะ หนูยังไม่ได้ให้คำตอบกับครูเลยว่า ความสุขที่แท้จริงคืออะไร”
“หนูไม่ทราบค่ะ” ครูสุขกมลมีสีหน้ากังขา
“อ้าว ทำไมละคะ”
“เพราะว่าหนูหาความสุขที่แท้จากสิ่งที่เพื่อน ๆ พูดไม่ได้เลยค่ะ” สายพิณเอ่ยอย่างใจคิด พร้อมทั้งอธิบายสิ่งที่ตนได้ประสบมา ครูสุขกมลอึ้งไปกับความคิดของเด็กหญิง แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็กวัยเก้าขวบจะคิดอะไรได้ละเอียดลึกซึ้งขนาดนี้ ผู้ใหญ่หลายคนหรือแม้แต่ตัวของเธอเองยังคิดไม่ได้อย่างสายพิณเลย สายพิณยิ้มให้คุณครูเศร้าๆ
“หนูคงหมดโอกาสได้รางวัลพิเศษจากคุณครูแล้วละค่ะ”
“ใครว่าละคะ รางวัลที่หนูได้นั้น บางที มันอาจจะเป็นอะไรที่พิเศษมากกว่าคนอื่นก็ได้” เด็กหญิงมีสีหน้าไม่เข้าใจ จ้องไปที่ครูสุขกมลด้วยความฉงน
“ในอนาคต ถ้าหนูหามันจนเจอ หนูอาจจะไม่ต้องแสวงหาความสุขอื่นใดในโลกนี้อีกเลย เพราะสิ่งที่หนูได้รับนั่นเพียงพอแล้วสำหรับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์”
ยิ้มสุกใสประดับบนปากจิ้มลิ้มได้รูปอีกครั้ง แม้ในวันนี้เด็กหญิงจะยังหามันไม่เจอ แต่เธอก็จะไม่ละความพยายาม ต่อให้เธอต้องตามหามันทั้งชีวิต สายพิณก็เชื่อว่า ตัวเองจะต้องได้พบกับความสุขที่แท้จริงอย่างแน่นอน บางทีมันอาจอยู่ใกล้ตัวเธอ หรือมาจากภายในก็เป็นได้ รางวัลพิเศษที่คุณครูหมายถึงคือ การที่แต่ละคนมีรอยยิ้มจากความสุขที่ตนได้รับ แต่สำหรับสายพิณแล้ว รางวัลที่แสนพิเศษของเธอคือ รางวัลชีวิต
...
- 👁️ ยอดวิว 1163
แสดงความคิดเห็น