บทที่ 81: เหยาเอ๋อไม่มีขน
“หูเจียวเจียวไม่ได้บอกเจ้าหรือ?” หัวหน้าเผ่าทำหน้าประหลาดใจ
เมื่อหลงโม่ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็หม่นหมองลง
ทันใดนั้น ชายสูงวัยก็นึกขึ้นได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 คนไม่ดีนัก เขาจึงยิ้มและรีบปลอบโยนอีกฝ่าย “อย่ากังวลไปเลย นางคงยุ่งจนไม่มีเวลาบอกเจ้า”
ต่อมา เขาก็บอกสิ่งที่จิ้งจอกสาวเพิ่งอธิบายให้ตนรู้เมื่อครู่
มังกรหนุ่มที่ได้ฟังไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกมา แต่จดมันลงในใจอย่างเงียบ ๆ
แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่นานหลังจากนั้น หูเจียวเจียวเพิ่งก็รู้ตัวว่าหลงโม่ไม่ได้เดินตามเธอมา
เมื่อหญิงสาวนึกถึงว่าผู้ชายคนนั้นเกลียดเธอมากแค่ไหน เธอก็เลิกสนใจอีกฝ่าย เพราะถ้าเขายังคงติดตามตัวเองต่อไป เธอคงรู้สึกอึดอัด!
เนื่องจากหนังสัตว์ที่หลงโม่ถลกออกมาครั้งล่าสุดมีหลายผืน หูเจียวเจียวจึงอยากจะฟอกมันสักหน่อย ไหน ๆ เธอจะสร้างบ้านใหม่แล้ว เธอก็อยากจะเตรียมหนังสัตว์ไว้ให้พร้อมเพื่อเอาไว้ปูในบ้าน
ถัดมา จิ้งจอกสาวมุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลโหวพร้อมกับหนังที่ไม่ผ่านการทำอะไรเพื่อเรียนรู้วิธีการฟอกหนัง
นอกจากนี้ เพื่อให้ลูกทั้ง 5 คนเติบโตอย่างแข็งแรง หูเจียวเจียวจึงพาเหล่าเด็กน้อยไปกับเธอด้วย พวกเขาจะได้ไม่ต้องอยู่แต่ในบ้านทั้งวันจนไม่เคยสัมผัสกับโลกภายนอก
ประกอบกับโหวเซียงมีลูก 2 คน ทันทีที่เด็ก ๆ เห็นพวกหลงอวี้ ทั้งคู่ก็วิ่งไปเล่นกับอีกฝ่ายอย่างสนุกสนาน
ตอนที่พี่น้องตระกูลหลงเดินทางมาถึงบ้านของโหวเซียง เด็กหนุ่ม 3 คนดูเหมือนจะรังเกียจพวกลูกลิงจนอยากจะผลักพวกเขาออกไป แต่ทั้ง 3 คนก็ไม่ได้อยากทำร้ายคนอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ปั้นสีหน้าบูดบึ้งใส่เด็กตัวเล็ก 2 คน
“ดูเหมือนว่าลูกข้าจะชอบลูกเจ้ามาก!” แม่ลิงสาวกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง
หูเจียวเจียวมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าประหลาดใจมาก
เดิมทีเธอคิดว่าหลงอวี้, หลงเซียวและหลงจงจะปฏิเสธลูกลิง แต่เธอไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะรู้วิธีรับมือกับเด็กพวกนี้ด้วย
หนทางสู่การเปลี่ยนชะตากรรมของเธอในตอนจบมีความก้าวหน้ามาก!
ส่วนหลงเหยากับหลงหลิงเอ๋อเป็นคนที่ดูจะมีความสุขที่สุดที่ได้เล่นกับลูกลิง เพราะทั้งคู่ไม่มีเพื่อนเล่นเลยตั้งแต่ยังเด็ก อีกทั้งพวกพี่ ๆ ต่างก็เคร่งขรึมมองโลกในแง่ร้าย พวกเขาไม่ชอบพูดคุยกับคนอื่น แล้วกว่าจะเอ่ยปากพูดกันแต่ละที ดอกพิกุลแทบจะร่วงออกจากปาก
พี่น้องคนสุดท้อง 2 คนตื่นเต้นมากที่ในที่สุดพวกลูกลิงก็เต็มใจที่จะเล่นกับตนเอง
เนื่องจากลิงน้อยยังเด็กมากจนไม่เข้าใจเรื่องราวของผู้ใหญ่ พวกเขารู้แค่ว่ามีคนมาเล่นด้วยจึงรู้สึกมีความสุขแค่นั้น
ทางหูเจียวเจียวก็ไปเรียนรู้วิธีฟอกหนังสัตว์กับโหวเซียงทุกขั้นตอน
แล้วช่วงเวลาที่มีแต่ความสุขสันต์ก็ผ่านไปในชั่วพริบตา
ครั้งนี้จิ้งจอกสาวนำหนังสัตว์ขนาดใหญ่มาทั้งหมด 3 ผืน โดยที่ผืนหนึ่งเป็นหนังสัตว์ที่หลงโม่ฆ่าเมื่อวานนี้ และอีกผืนหนึ่งถูกเธอฆ่าในวันนี้
“เอาล่ะ เจ้าเอาหนังสัตว์พวกนี้กลับไปวางไว้ในที่เย็น ๆ หน่อยเพื่อผึ่งลมให้แห้ง พอมันใกล้จะแห้งแล้วก็ให้นวดหนังสัตว์จนกว่าจะพร้อมใช้” โหวเซียงอธิบายขณะสาธิตวิธีการไปพร้อมกัน
“โหวเซียง ขอบคุณเจ้ามาก” หูเจียวเจียวกล่าวพลางเก็บหนังสัตว์ออกไปด้วยหน้าตาสดใส
ลิงสาวเกาหัวแก้เขินก่อนจะตอบกลับว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ข้าอยากจะตอบแทนเจ้าที่สอนข้าทำอาหาร”
ในช่วงเวลานี้นางเองก็มักจะไปหาแม่จิ้งจอกเพื่อเรียนรู้วิธีการทำอาหารจากอีกฝ่าย
แม้ว่านางจะไม่มีเครื่องปรุงรสชาติมากมายเหมือนที่จิ้งจอกสาวใช้ แต่อาหารที่นางทำก็อร่อยขึ้นกว่าเดิมมากจนตอนนี้ลูกลิงทั้ง 2 พากันอ้วนจ้ำม่ำ
หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มบาง ๆ
หญิงสาวไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกว่าโหวเซียงดูผอมลงกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนหน้าท้องดูเหมือนจะยุบลงและเนื้อบนใบหน้าก็น้อยลงด้วย
เหล่าภูตไม่มีกระจกเงาจึงไม่ค่อยได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของตนเองในแต่ละวัน
ขณะที่หูเจียวเจียวกำลังจะบอกอีกฝ่าย ลูกลิงข้าง ๆ ก็เริ่มส่งเสียงร้องไห้
“ลูกข้าคงหิวแล้ว ข้าขอตัวไปหาอาหารให้เด็ก ๆ กินก่อนนะ” แม่ลิงสาวรีบเดินไปอุ้มลูก ๆ เข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมทำอาหารให้พวกเขากิน
เมื่อแม่จิ้งจอกเห็นแบบนั้นก็ไม่อยากรบกวนลิงสาว เธอจึงพาลูกทั้ง 5 คนกลับบ้านตัวเอง
ในยามนั้นหลงอวี้, หลงเซียวและหลงจงมีท่าทางโล่งใจปนเหนื่อยอ่อน
ทว่าหลงหลิงเอ๋อกับหลงเหยาอิดออดไม่อยากแยกจากสหายใหม่
หูเจียวเจียวหันไปมองเจ้าตัวเล็กทั้งหลายอย่างขบขัน “เอาไว้วันหน้าค่อยมาเล่นกันใหม่นะ ในอนาคตเรายังมีเวลาอีกเยอะ”
เด็กสาวเงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงตารูปทรงอัลมอนด์ที่เป็นประกาย “จริงหรือ งั้นท่านแม่จะพาเรามาเล่นที่นี่อีกใช่ไหม?”
เนื่องจากหลงหลิงเอ๋อไม่กล้ามาคนเดียวเพราะกลัวเด็กคนอื่นจะไม่ชอบตน
แต่ถ้ามีผู้เป็นแม่คอยอยู่ใกล้ ๆ นางจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนหลงจงเม้มริมฝีปาก “ถ้าเจ้าอยากมาอีกก็มาเองนะ ข้าไม่มาด้วยแล้ว”
สาวน้อยที่ได้ยินคำพูดนั้นแลบลิ้นใส่เขา แล้วพูดหักหน้าอีกฝ่าย “ข้าเห็นใครก็ไม่รู้กอดลูกลิงไม่ยอมปล่อยเลย แล้วยังบอกว่าขนนุ่ม ๆ น่าสัมผัสดีด้วย”
“ใคร… ใครพูด ไม่ใช่ข้าแน่นอน” ใบหน้าของพี่ชายคนที่ 3 เปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะที่เขาหันศีรษะไปอีกทางอย่างงุ่มง่าม
ในเวลาเดียวกัน หลงอวี้กับหลงเซียวยกมุมปากขึ้นโดยไม่รู้ตัวยามที่พวกเขาฟังการโต้เถียงของน้องทั้ง 2
ก่อนที่เด็กทุกคนจะรู้ตัว พวกเขาก็มองว่าหูเจียวเจียวเป็นกระดูกสันหลังของครอบครัวไปเสียแล้ว
“โฮ่…” ทางด้านหลงเหยาเมื่อได้ยินสิ่งที่พวกพี่ ๆ พูด เขาก็ก้มลงมองร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเองอย่างสลดใจ
เหยาเอ๋อไม่มีขน...
ขณะนั้นแม่จิ้งจอกยื่นมือออกไปจับเจ้ามังกรน้อยมาไว้บนไหล่ของตนเองและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหยาเอ๋อก็น่ารัก น่ารักเหมือนลูกลิงเลย”
“หือ?”
จริงสิ! เหยาเอ๋อก็เป็นลูกที่น่ารักเหมือนกัน!
หลังจากที่หลงเหยาได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ เขาก็หายหงุดหงิดทันที ตอนนี้เขายกหางขึ้นสะบัดไปมาอย่างตื่นเต้น
หูเจียวเจียวที่ได้เห็นภาพนี้ยิ้มกว้างจนดวงหน้าสว่างสดใส
เด็กตระกูลหลง 5 คนนี้พิเศษมากจริง ๆ พวกเขาน่ารักและไม่ได้นิสัยไม่ดีเหมือนที่เขียนไว้ในนิยาย
ในตอนนี้หญิงสาวพร้อมกับลูกอีก 5 คนกลับมาถึงบ้านแล้ว แต่หลงโม่ก็ยังไม่กลับมา
ปัจจุบันท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ หูเจียวเจียวจึงเตรียมอาหารแสนอร่อยมากมายไว้จนเสร็จ ทว่าเธอก็ยังไม่เห็นพ่อมังกรกลับมา
นั่นทำให้เด็กทั้ง 5 คนอดกังวลขึ้นมาไม่ได้
หลงหลิงเอ๋อทำหน้ามุ่ย “ท่านพ่อไปไหน ทำไมท่านพ่อกลับบ้านช้าจัง”
หลงอวี้ขมวดคิ้วด้วยใบหน้าจริงจัง “เป็นไปได้ไหมที่ท่านพ่อจะหนีกลับเข้าไปอยู่ในป่าอีกครั้ง”
“ข้าคิดว่าเป็นไปได้นะ ท่านพ่อคงไม่อยากอยู่ที่นี่” หลงจงพ่นลมอย่างเย็นชา
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นเด็กน้อยเริ่มกระสับกระส่าย เธอก็ปลอบโยนพวกเขาอย่างนุ่มนวล “ไม่ต้องกังวล บางทีพ่อของพวกเจ้าอาจจะยุ่งอยู่กับบางสิ่ง ถ้าพวกเจ้าหิวก็กินกันก่อนเลย”
“โอ้~”
ใช่! กินก่อน กินก่อน!
ยามนี้หลงเหยาแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้นั่งบนเก้าอี้ตัวเล็ก
เขาพยุงร่างกายส่วนบนขึ้นด้วยหาง ก่อนจะเงยศีรษะขึ้นและจ้องมองหูเจียวเจียวด้วยดวงตากลมโตสีทับทิมเพื่อรอรับอาหาร
หลงจงตบหัวหลงเหยาด้วยความหมั่นไส้แล้วสั่งสอนน้อยชายโดยหวังว่าจะทำให้เขาคิดได้บ้าง “เจ้ามันรู้จักแต่กิน แค่พูดถึงข้าวก็ตื่นเต้นแล้ว นี่เจ้าทำอย่างอื่นเป็นบ้างไหมเนี่ย”
“ฮึ่ม...”
หลงเหยาส่งเสียงออกมาอย่างเสียใจแล้วยกหางมาคลุมหัวตัวเอง
หลังจากที่เจ้ามังกรน้อยคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง นอกจากการกินแล้ว เขายังสามารถนอนหลับได้ดีด้วย
ขณะนี้ในใจของหูเจียวเจียวก็กำลังรู้สึกกังวลเช่นกัน หากหลงโม่กลับไปอยู่ในป่าจริง ๆ และเธอกับเขาถูกแยกจากกัน เธอคงต้องเตรียมตัวนับถอยหลังรอความตายได้เลย
แล้วมันก็จะกลับไปยังเส้นเรื่องเดิมในหนังสือ เธอจะไม่มีทางเปลี่ยนตอนจบได้อีก!
ในที่สุดแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ก็ลาลับหายจากบนท้องฟ้า ทันใดนั้นก็มีเงาดำยาวปรากฏขึ้น
“ท่านพ่อกลับมาแล้ว!” หลงหลิงเอ๋อตะโกนอย่างตื่นเต้นพร้อมชี้ไปที่เงาดำบนพื้น
หูเจียวเจียวเงยศีรษะขึ้นมองทันที แล้วจู่ ๆ ความสุขที่ได้สิ่งที่สูญเสียไปกลับคืนมาก็เข้ามาแทนที่ความกังวล เธอมองไปยังชายรูปหล่อสูงโปร่งที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
ยอดไปเลย เขาไม่ได้หนีไปไหน!
บัดนี้ความหวังที่จะเปลี่ยนตอนจบของเธอมีมากขึ้นแล้ว!
ปัจจุบันพระจันทร์เสี้ยวสีขาวค่อย ๆ ปรากฏขึ้นเหนือหัว หลงโม่เหม่อมองไปบนท้องฟ้าโดยคิดว่าหูเจียวเจียวกับลูก ๆ คงจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้ว
เขาอยากกลับไปที่บ้านเงียบ ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าพอเขาเดินเข้าไปในลานบ้าน เขากลับพบสายตาหลายคู่มองมาที่ตนเอง
มังกรหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นอาหารบนโต๊ะกินข้าวยังไม่ถูกแตะต้อง
นาง...กำลังรอเขาอยู่หรือเปล่า?
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นหลงโม่กลับมามือเปล่าพร้อมด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า เธอก็คิดว่าเขาคงจะออกไปล่าสัตว์แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเพราะเขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเธอเลยรีบพุ่งเข้าไปดันหลังอีกฝ่ายให้ไปนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
“มากินข้าวกันเถอะ ลูก ๆ กำลังรอเจ้าอยู่ พวกเขาคิดว่าเจ้าจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก”
ในขณะที่หูเจียวเจียวพูดอย่างนั้น เธอก็นำตะเกียบคู่หนึ่งมาให้เขาโดยเฉพาะ
เดิมทีการแสดงออกของชายหนุ่มก็ยังดูปกติดี แต่พอเขาเห็นเจ้าอุปกรณ์การกินนี้ เขาก็ตัวแข็งทื่อไปทันที
…
เช้าวันรุ่งขึ้น
หูเจียวเจียวได้ยินเสียงวุ่นวายจากในเผ่า
เมื่อเธอรู้ว่าเป็นหัวหน้าเผ่าที่เรียกให้ชาวบ้านไปรวมตัวกันเพราะมีประกาศสำคัญ เธอและหลงโม่ก็ต้องไปด้วยเช่นกัน
หญิงสาวไม่คาดคิดว่าทันทีที่เดินไปถึงจุดรวมพล เธอก็ถูกผู้ชายคนหนึ่งขวางไว้
จิ้งจอกสาวเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้วมุ่น “ทำไมเป็นเจ้าอีกแล้ว?”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 259
แสดงความคิดเห็น