บทที่ 4 เตียมความพร้อม 1
บทที่ 4 เตียมความพร้อม ½
“โอ๊ย เจ็บจัง เบาเบาหน่อยสสิครับคุณอาสึนะ” ไบรท์ร้องขึ้นเมื่อเขาต้องเจอสําลีชุบแอลกอฮอล์ที่กำลังเช็ดบาดแผลของเด็กหนุ่มอยู่
อาสึนะกับคาเสะเบะปากให้กับความบ้าของไบรท์ เมื่อห้านาทีก่อนที่พวกเธอกำลังต่อสู้ จู่ ๆ ไบรท์ก็กระโจนเข้าไปห้ามพวกเธอโดยที่ไร้พลังเวท ตอนนี้ร่างกายของไบรท์ที่รับพลังเวทของอาสึนะไปจึงเกิดถลอกปอกเปิกขึ้น อาสึนะค่อย ๆ เช็ดบาดแผลที่อยู่บนใบหน้า ส่วนคาเสะก็เช็ดตรงแขนและขา
“ก็ใครสั่งใครสอนให้นายพุ่งหานักเวทที่กำลังต่อสู้กันอยู่ล่ะ” คาเสะกล่าวก่อนที่จะกดสําลี แอลกอฮอล์เขาใส่บาดแผล ทำให้เด็กหนุ่มร้องออกมาอีกครั้ง
อาสึนะหันไปมองยังคาเสะ เธอรู้ดีว่าหญิงสาวผมเขียวกำลังแก้ง ไบรท์อยู่ หากเป็นไบรท์คนก่อนแผลแบบนี้ชายหนุ่มคงไม่คิดจะสนใจ ไม่สิการโจมตีระดับของพวกเธอคงทำอะไรไบรท์ไม่ได้ขนาดนี้
“แผลแค่นี้อย่ามาสำออยเลยนี่” คาเสะกล่าว ก่อนที่จะค่อย ๆ ทำแผลให้ไบรท์อย่างเบามือ เมื่อเธอคิดได้ว่าตอนนี้ไบรท์ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
หญิงสาวผมเขียวรู้สึกผิดหวังอยู่ ๆ นิด แต่ว่าอีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกชอบบุคคลิกแบบนี้ของเด็กหนุ่ม
“นี่คุณอาสึนะกับคุณคาเสะไม่มีเวทมนตร์ที่ใช้สมานแผลบ้างเลยหรอครับ”
สองสาวส่ายหน้าพร้อมกัน “ฉันม่หรอก” อาสึนะละสายตาออกเมื่อเธอทำความสะอาดบาดแผลของไบรท์ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ฉันก็เหมือนกัน ไม่มีของแบบนั้นหรอกน่ะ” คาเสะตัดสินใจโกหกออกไป พลังของเธอหญิงสาวไม่อยากจะใช้ให้ใครเห็น แล้วอีกอย่างเวทมนตร์รักษาเป็นเวทมนตร์ที่เธอไม่ค่อยชำนาญสักเท่าไร
“ไงทุกคน ตื่นแต่เช้าเลยนี่นา” เสียงของเนกิทำให้สองสาวละสายตาจากไบรท์ ตอนนี้เนกิอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มผมแดงตื่นตั้งแต่เช้า แล้วกลับบ้านของตนเองเพื่อไปฝึกซ้อมเวทมนตร์ หลังจากนั้นจึงรีบมายังบ้านของไบรท์
ตอนนี้ทุกคนไม่มีอะไรทำเนื่องจากว่าโรงเรียนเวทมนตร์บาบิโรเนียยังไม่ได้เปิดทำการ เลยไม่มีที่จะไป ทั้งสามคนอันรวมไปถึงรูรุ เนกิ และนากิ จึงมาสิงอยู่ที่บ้านของอาสึนะ
เนกิมองสภาพของไบรท์ที่เต็มไปด้วยบาดแผล ก่อนที่เขาจะกล่าวถามสองสาวก็อธิบายให้ชายหนุ่มฟัง เนกิหยิบน้ำขึ้นมาจิบก่อนที่จะตัดสินใจถาม “นี่ไบรท์ตอนที่นายวิ่งไปห้ามทับ นายได้ใช้พลังเวทหรือเปล่า”
ไบรท์สั่นหน้า “ไม่ได้ใช้เลย อันที่จริงตั้งที่ผมตื่นขึ้นมาผมก็ยังไม่เคยใช้พลังเวทเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
เนกิกับสามสาวพยักหน้ารับ ก่อนที่จะอุทานขึ้นมาพร้อมกัน “หา ฉิบหายแล้วไง”
“ปกตินี่นักเวทจะใช้พลังได้โดยที่ไม่ต้องคิดไม่ใช่หรอ” คาเสะถามทั้งสองสหายที่อยู่ตรงหน้า
อาสึนะสั่นหน้า “ถ้าเป็นนักเวทระดับสูงนะใช่ แต่ว่าเท่าที่ถามไบรท์หมอนี่ยังอยู่แค่ระดับต้น ดังนั้นตอนที่ใช้พลังเวททำให้ไบรท์ต้องวางแผนการใช้พลังก่อน”
“เป้นแบบนี้นี่เอง ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าเป็นไปตามที่ฉันคิดไบรท์ในตอนนี้ที่ไม่มีความทรงจำของตนเอง ทำให้การใช้พลังเวททำได้ยากกว่าเดิม” เนกิกล่าว
คาเสะมีท่าทางสงสัย เนกิจึงอธิบาย
“ความจริงแล้ว ต้องเริ่มอธิบายแบบนี้ ความทรงจำของคนเรามันเหมือนกับประสบการณ์ หากไม่มีความทรงจำที่เพียงพอมนุษย์เราก็จะขาดประสบการณ์ไปด้วย ก็เหมือนกับการเดิน การพูด การเคลื่อนไหว ตอนนี้ความทรงจำของไบรท์ถูกผนึกอยู่ทำให้ทักษะบางอย่างที่เกี่ยวกับเวทมนตร์อาจจะถูกผนุกไปด้วย ดังนั้นไบรท์ที่ใช้เวทมนตร์ได้โดยการวางแผนในหัวมาก่อนนั้นไม่สามารถใช้เวทได้เหมือนเดิมแล้ว”
อาสึนะงงกับคำกล่าว เรื่องที่เนกิอธิบายมันไม่เห็นจะแปลกตรงไหน “ไม่เห็นแปลกเลยนี่นา”
“ใช่ ไม่แปลก แต่ว่าเธอลืมไปแล้วหรอว่าตอนนี้ไบรท์จะต้องไปทำอะไรต่อ”
อาสึนะเบิกตากว้า เมื่ได้ยินคำกล่าวของเนกิ “จริงด้วย สอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์”
เลโอตวัดมือตัดกระแสลมใส่ชายหนุ่เบื้อหน้า วินดิดนิ้วทำให้สภาวะที่ตรงมาหาเข้าหายไปในพริบตา ชายหนุ่มทั้งสองเตียมตัวจะทะยานร่างต่อสู้กัน ทว่ากับมีเสียงของผู้เฒ่าทั้งสองกล่าวขัดขึ้นเสียก่อน
“ไม่คิดเลว่าพวกเจ้าจะมาอยู่ที่นี่กัน พวกข้าตามหาพวกเจ้าตั้งนาน”
เสียงของชราทำให้ชายทั้งสองลดมือลง เลโอกับวินมองไปยังพื้นดินที่ยังว่างเปล่า ก่อนที่มิติจะเริ่มสั่นไหวแล้วมีร่างกายของสองผู้อาวุโสค่อย ๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่มทั้งสอง
วินกับเลโอเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสันย พวกเขาทั้งสองคนไม่คิดเลยว่าชายทั้งสองจะตามหาพวกเขาถึงที่แห่งนี้ หนึ่งในชายชรายิ้มให้กับผู้ชนะมหาสงคราม ก่อนที่จะค่อย ๆ ย่างสามขุมตรงมาที่สองสหาย
“การที่พวกเจ้าทำเรื่องเช่นนี้ไม่กลัวมันผิดข้อตกลงที่พวกเราได้ทำการตกลงกันไว้หรืออย่างไร”
“ใช่ เจ้าบอกกับพวกเราเองว่าพวกเจ้าจะไม่เคลื่อนไหวหลังจากที่พวกเจ้าสามารถนำชัยกลับไปได้ แต่ทว่าวันนี้พวกเจ้ากับคิดจะผิดคำคิดจะกืนน้ำลายของพวกเจ้าเอ่งเช่นนั้นหรอ ทางพวกเราไม่คิดจะแซกแซงเรื่องของสามอาณาจักร แต่ว่าดูเหมือนว่าพวกเจ้าสามมหาจอมเวทจะแซกแซงหรืออย่างไร”
ชายหนุ่มทั้งสองยักไหล่ ก่อนที่เลโอจะกล่าวตอบ ชายหนุ่มผมสีทองกลับกล่าวเสียงเรียบนิ้ง “ฉันไม่คิดเลว่าพวกผู้เฒ่าจะออกมารวดเร็วถึงเพียงนี้ มหาสังฆราชทั้งสองคงไม่มีอะไรให้ทำแล้วจริง ๆ แล้วกระมังถึงว่างมายุ่งกับเรื่องราวทางโลกเบื้องล่าง”
“เรื่องทั้งหมดจะไม่เกิด ถ้าไม่ใช่เป็นฝีมือของพวกเจ้า พวกเจ้าคงไม่ลืมไปแล้วหรอกว่าเมื่อ 20 ปีก่อนพวกเจ้าได้สร้างสิ่งใดออกมา พวกเจ้าได้ทำให้โลกนี้ต้องมีปัญหาที่ยากจะแก้ไข” มหาสังฆราชเอกล่าว
“ใช่แล้ว พวกเราไม่ได้อยากจะยุ่งกับเรื่องวุ่น ๆ แบบนิ หากไม่ได้รับคำขอมาจากสามอาณาจักร” มหาสังฆราชบีสำทับ
วินกับเลโอหันมอง ก่อนที่ชายหนุ่มผมดำจะกล่าว “ผมไม่สนหรอกว่าพวกคุณจะได้รับคำสั่งมาจากใคร แต่ว่า” เลโอหยุดกล่าว ก่อนที่จะแผ่จิตคุกคามไปใส่มหาสังฆราชทั้งสอง
“หากพวกคุณอยากจะมีชีวิตสุขสบายดังเดิม พวกคนต้องออกไปจากที่แห่งนี้ ไม่ใช่นั้นประตูทั้งสามจะไม่มีคนคุ้มครอง หลังจากนั้นพวกคุณจะต้องเจออะไรก็คงรู้ดีใช่ไหม”
สังฆราชทั้งสองหมดคำกล่าว แต่พวกเขากับไม่คิดจะขยับร่าง เลโอกับวินเห็นดังนั้นชายหนุ่มทั้งสองจึงเริ่มปล่อยพลังเวทระดับ จอมเวทใส่ แผ่นดินถึงกลับสั่นไหว ชายหนุ่มผมทองเรียกดาบขึ้นมา ก่อนที่จะตวัดดาบตัดแข็นของสังฆราชเออย่างรวดเร็ว ทว่ามหาสังฆราชเอก็มิใช่ชั่วเขาเคลื่อนร่างหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว
“”ในเมื่อข้าเตือนพวกเท่าไปแล้ว พวกท่านมิได้ฟัง เห็นที” ชายชราเตียมตัวที่จะปะทะร่างกายกับเด็กหนุ่ม ก่อที่ทั้งสมี่จะได้ปะทะกัน จู่ ๆ อากาศที่ว่างเปล่าก็พลันปรากฏชายชราทั้งสอง
“โอ้ มหาสังฆราชาทั้งสองคิดจะทำอะไรกันแน่” ชายชราที่มีนามว่าโยดากล่าวขึ้ น ทำให้ทั้งสองมหาสังฆราชต้องชะงักการกระทำ
“ทำไมพวกเท่า ทำไมผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนตร์และจักรพรรดิเวทมนตร์โยดาถึงมาอยู่ที่นี่ หรือว่าพวกท่านจะ”
โยดาโบกมือ ก่อนที่จะกล่าว “ข้าเองตั้งหากที่จะต้องสอบถาม ทำไมมหาสังฆราชถึงมาอยู่ที่นี่ หรือว่าพวกทั้นจะให้มหาจอมเวทเป็นศัตรูกับอาณาจักร หากเรื่องนี้ถึงหูองค์ราชันของพวกเรา เกร่งว่าพวกท่านคงไม่มีหลุมกลบร่างเป็นแน่”
“ใช่ ที่แห่งนี้มีพยานถึงสามปากเลยนะ” เลโอกล่าว
มหาสังฆราชทั้งสองตระหันกไดทันใดนั้นเองว่า ตอนนี้พวกเขาได้ตกหลุมพรงของมหาจอมเวทกับจักรพรรดิเวทมนตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 192
แสดงความคิดเห็น