เรื่องสั้น “โชคดี”
“ส้มโอ เธอทำอะไรอยู่หรือ”
หญิงสาวผิวขาวผมยาวละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หันมองต้นเสียงซึ่งมาจากเตียงนอนริมกำแพงฝั่งซ้ายมือของเธอ หญิงสาวอีกคนหนึ่ง ผิวคล้ำผมสั้นนั่งอยู่กลางเตียงด้วยท่าทางงัวเงีย นาฬิกาติดผนังบนหัวเตียงบอกเวลาตีสาม
ทุกคนในหอพักหลับสนิท มีเพียงส้มโอและจีจี้เท่านั้นที่ตื่นอยู่ในขณะนี้
“เธอตื่นมาทำไมจีจี้”
จีจี้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ฉันตื่นมาเข้าห้องน้ำ แล้วเธอตื่นมาทำอะไรตอนตีสาม”
ส้มโอหันกลับไปมองหน้าจอแว็บหนึ่งพร้อมกับตอบคำถามของเพื่อน
“นี่ไง ฉันเล่นเกมตอบคำถามกับเพจคนรักยองเจ นักร้องเกาหลีที่ฉันชอบ ถ้าฉันตอบถูกนะฉันจะได้บัตรคอนเสิร์ตฟรีแหล่ะเธอ”
จีจี้มีสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย
“ว้าว ยองเจจะมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยหรือ”
“ใช่ วันเสาร์สิ้นเดือน ถ้าฉันได้บัตรฟรี จากเพจนี้ฉันจะได้เจอยองเจแบบใกล้ชิดด้วยนะ อยากจับมือ ถ่ายรูป ขอลายเซ็น ได้หมดเลย เขาจะประกาศผลหกโมงเช้า”
จีจี้ได้ยินดังนั้นก็อุทานเสียงดังอย่างตกใจ
“ฮะ แล้วเธอตื่นมารอตั้งแต่ตีสามเนี่ยนะ”
ส้มโอยกมือประสานกันตรงหน้าตักแล้วบีบแน่น ก่อนกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ก็มันตื่นเต้นนี่ นอนไม่หลับเลย ฉันเป็นแฟนเพลงยองเจตั้งแต่สามสี่ปีก่อน ในโน้ตบุ๊กกับมือถือมีแต่เพลงยองเจ เป็นความฝันของฉันเลยที่จะได้เจอเขา และฉันก็เชื่อว่าฉันตอบคำถามถูกด้วย”
จีจี้ก้าวลงจากเตียง จากนั้นจึงเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเก้าอี้ที่ส้มโอนั่ง
“ฉันเข้าใจ แต่พรุ่งนี้มีเรียนวิชาวิจัยแปดโมงนะเธอ ไปนอนก่อนไหม”
ส้มโอส่ายหน้า ดวงตายังคงจ้องไปที่หน้าจอด้วยแววแห่งความหวังและรอคอย
“ฉันตื่นเต้น นอนไม่หลับ ตื่นมารอเลยดีกว่า พรุ่งนี้เธอไม่ต้องห่วง ฉันไปไหว”
“จ้า งั้นฉันไปเข้าห้องน้ำ แล้วขอนอนต่ออีกนิดนะ ยังง่วงอยู่เลย”
เมื่อส้มโอตอบรับ จีจี้จึงเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป
ส้มโอ หญิงสาวผู้เติบโตขึ้นมาภายใต้ครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง บิดามารดาประกอบอาชีพ เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทั้งบิดาและมารดามักจะทำงานล่วงเวลาอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษต่างๆ แต่ละปี ส้มโอมีโอกาสได้ไปเที่ยวกับครอบคัวเพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น
ถึงกระนั้น ส้มโอก็มีเงินใช้อยู่ไม่ขาด แม้ว่าฐานะทางบ้านจะไม่ได้ร่ำรวย แต่บิดามารดาของเธอก็ไม่เคยปล่อยให้เธอขัดสน เธอมีข้าวกินครบ 3มื้อ เธอสามารถซื้อของที่ต้องการได้โดยสะดวก บิดามารดาให้อิสระในการตัดสินใจ ตลอดจนการใช้ชีวิต เธอจึงใช้ชีวิตได้ด้วยตนเอง บัดนี้ส้มโอกำลังศึกษาชั้นปีที่สาม คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร
ด้วยความที่ส้มโอไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวมากนัก ส้มโอจึงมีนักร้องเกาหลีเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเรื่อยมา เธอหวังว่านักร้องเกาหลีเหล่านั้น จะสามารถทดแทนความเปลี่ยวเหงาในใจของเธอได้ และนักร้องเกาหลีที่ส้มโอชื่นชอบมากที่สุดคือ ยองเจ
เสียงกรีดร้องอย่างตื่นเต้นและดีใจสุดขีดของส้มโอปลุกจีจี้ให้ผลุดลุกขึ้นนั่ง ทั้งตกใจและมึนงง นาฬิกาบนหัวเตียงในขณะนั้น บอกเวลา หกโมงเช้า
“ขอโทษนะจีจี้ ฉันดีใจเกินไปหน่อย”
ส้มโอพูดเมื่อหันมาเห็นจีจี้ผลุดลุกขึ้นนั่งกลางเตียง
จีจี้ยังคงมีสีหน้ามึนงง ถามเพื่อนขึ้นว่า
“อะไรกันส้มโอ ฉันตกใจหมดเลย”
ส้มโอกล่าวขอโทษอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวซ้ำๆ น้ำเสียงตื่นเต้น ยินดีนัก
“ฉันตอบคำถามถูก ฉันได้บัตรฟรีแล้วจีจี้ ฉันได้บัตรฟรีแล้ว ฉันได้บัตรฟรีแล้ว”
จีจี้มีสีหน้ากระอักกระอ่วน ทั้งเคือง หงุดหงิด หมั่นไส้ในความดีใจเกินจำเป็นของเพื่อน แต่ก็ดีใจกับเพื่อนในเวลาเดียวกัน จีจี้จึงเลือกแสดงออกในความรู้สึกหลัง แต่ก็อดที่จะตำหนิไม่ได้
“ดีใจด้วยนะ เธอทำได้จริงๆด้วย แต่แหม เธอกรี๊ดอย่างกับมนุษย์ต่างดาวบุกโลกงั้นแหล่ะ”
ส้มโอไม่ได้สนใจกับคำบ่นของเพื่อนมากนัก เธอกล่าวกับเพื่อนต่อไปว่า
“ขอบใจนะจีจี้ ฉันดีใจมากเลย เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วนะ ฉันจะซื้อเสื้อใหม่ กระโปรงใหม่ รองเท้าใหม่ ซื้อเครื่องสำอาง เตรียมไปคอนเสิร์ตยองเจ”
“เฮ้ย ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง แค่ไปคอนเสิร์ตเอง เสื้อผ้า รองเท้าเธอก็ไม่ได้เก่าเสียหน่อย เพ่องซื้อมาใหม่ด้วยซ้ำ ใส่ไปคอนเสิร์ตได้สบายอยู่แล้ว”
ส้มโอส่ายหน้าแรงๆแล้วตอบเพื่อนไป
“จีจี้ เธอไม่เข้าใจ บัตรฟรีแถมได้เจอยองเจแบบใกล้ชิดด้วย ฉันต้องดูดีที่สุด ดูดีกว่าปรกติด้วย”
จีจี้ไม่รู้ว่าจะกล่าวต่อไปอย่างไร จึงนิ่งเสีย ปล่อยให้ส้มโอทำตามที่ใจของเธอต้องการ
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา ส้มโอซื้อชุดใหม่ รองเท้าใหม่ เครื่องสำอางใหม่ เธอมักจะแต่งหน้าในแบบต่างๆแล้วอวดจีจี้ เธอต้องการชุดที่ดีที่สุด ต้องการแต่งหน้าให้ดูดีที่สุดในวันแสดงคอนเสิร์ต ยิ่งแฟนเพจคนรักยองเจส่งบัตรฟรีมาให้ถึงหอพัก ส้มโอก็ยิ่งลิงโลดใจ คอยนับวันเวลาด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยม พลางจินตนาการไปต่างต่างนานาถึงวันแสดงคอนเสิร์ตของยองเจ
วันแสดงคอนเสิร์ตขยับใกล้เข้ามาทุกขณะ และแล้ว ส้มโอก็ได้รับโทรศัพท์จากบิดาในวันหนึ่ง
“ส้มโอ วันเสาร์นี้หนูกลับบ้านนะ”
เสียงปลายสายกล่าวขึ้นทันทีที่ส้มโอรับสาย
“เสาร์นี้หนูกลับไม่ได้ค่ะพ่อ”
“ทำไม สอบก็ไม่มี กิจกรรมของมหาลัยก็ไม่มี นำเสนอวิจัยก็ไม่มีไม่ใช่หรือ”
ได้ยินเสียงปลายสายคาดคั้นมาแบบนั้น ส้มโอจึงถามไปว่า
“มีอะไรหรือคะพ่อ”
ส้มโอนิ่งฟังคำตอบ ก็วันเสาร์ วันแสดงคอนเสิร์ตของยองเจ
“ป้าดวงใจผ่าตัดเนื้องอกเสาร์นี้ ป้าแกอยากให้พ่อไปอยู่เป็นเพื่อน วันเสาร์พ่อกับแม่ดันมีเสนอโครงการสำคัญเสียด้วย หนูไปอยู่เป็นเพื่อนป้าดวงใจหน่อยนะ คืนเดียวเอง”
เหมือนถูกของแข็งฟาดลงบนศีรษะอย่างรุนแรง ขณะที่เสียงบิดายังคงกล่าวสืบไป
“ป้าแกบอกกะทันหัน พ่อกับแม่อยู่ต่างจังหวัดแล้ว งั้นก็คงไม่โทร.เรียกหนูไปหรอก”
“พ่อ แต่หนูกลับไม่ได้”
ส้มโอหยุดคำพูดที่จะกล่าวต่อไปไว้ตรงนั้น หากเธอบอกว่าเธอจะไปดูคอนเสิร์ตยองเจนักร้องเกาหลี พ่อคงดุเธอแน่ๆ พ่ออาจคิดว่าเธอให้ความสำคัญกับยองเจมากกว่าป้าดวงใจพี่สาวเพียงคนเดียวของพ่อ เจรจากันอีกเพียงครู่ ส้มโอจึงต้องตอบรับด้วยความจำใจ
ความหวัง และความฝัน พังทลายลง วันเวลาที่อุตส่าห์รอคอยด้วยใจจดจ่อ ถูกเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเข้าแทรก โชคร้ายอะไรเช่นนี้ ส้มโอรำพึงกับตัวเอง ไม่รู้นานแค่ไหนยองเจจะมาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยอีกครั้ง
และแล้วคืนวันเสาร์ก็ผ่านพ้นไปอย่างแช่มช้า ส้มโอนอนเหงาอยู่บนเตียงเฝ้าไข้ ป้าดวงใจหลับไปสักพักหนึ่งแล้ว แต่ส้มโอยังครุ่นคิด บัดนี้เธอควรจะอยู่ในงานแสดงคอนเสิร์ตอย่างมีความสุข ป่านนี้คนที่ได้บัตรฟรีแทนเธอคงยิ้มแก้มปลิ คนๆนั้น รวมถึงคนที่มีโอกาสไปงานคอนเสิร์ต พวกเขาโชคดีจริงๆ
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอรีบเสียบหูฟังแล้วกดรับรวดเร็ว ได้ยินเสียงจีจี้พูดมาสั้นๆด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกแล้ววางสายไป
“ส้มโอ เปิดคลิปที่ฉันส่งให้ใน line เร็วเข้า”
ส้มโอเปิดคลิปดูตามคำบอก ภาพหอประชุมภายในศูนย์แสดงสินค้าแห่งหนึ่งปรากฏแก่สายตา บรรยากาศและความสุขที่อบอวลทำให้เธอรู้ชัด นี่คืองานคอนเสิร์ตของยองเจ ถึงแม้ว่าจะมีการจำกัดผู้เข้าร่วมด้วยการจำหน่ายบัตร แต่ผู้คนก็ยังเนืองแน่นเต็มพื้นที่
พลุกระดาษลูกหนึ่งถูกจุดขึ้นจากเบื้องล่าง ส้มโอแปลกใจเล็กน้อย พลุลูกนี้รอดพ้นจากการตรวจตราของฝ่ายรักษาความปลอดภัยมาได้อย่างไร ทันทีที่พลุกระทบกับเบื้องบน สิ่งที่ปรากฏต่อมาคือเปลวไฟแดงฉานลุกท่วมเผาผลาญวัสดุและกลุ่มคนในบริเวณนั้น เสียงกรีดร้องทรมานดังเสียดผ่านหูฟังทั้งสองข้างอย่างน่ากลัว ผู้คนจำนวนมากกรูกันออกมาทางประตูที่ใกล้ที่สุด ผลักดันชน เหยียบกันวุ่นวาย
ส้มโอตกใจกับภาพที่เห็น กายของหญิงสาวสั่นสะท้าน เธอกดปิดคลิปนั้น มิอาจทนดูได้ต่อไป เมื่อเปิด Facebook ดูก็พบเหตุการณ์จากมุมต่างๆมากมายหลายคลิป ภาพญาติพี่น้องตามหาบุคคลอันเป็นที่รัก ตลอดจนภาพการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดูชุลมุน ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
ส้มโอค่อยๆลุกขึ้นนั่ง วางโทรศัพท์ลงข้างตัวช้าๆ หายใจเข้าลึกยาวเพื่อระงับความตระหนก หัวใจสั่นรัวเหมือนคนที่ตื่นจากความฝัน ส้มโอสำรวจร่างกายตัวเอง ไม่มีบาดแผล ไม่มีความเจ็บปวดเหมือนกลุ่มคนที่อยู่ในงานคอนเสิร์ตเหล่านั้น
เมื่อหัวใจสงบลง ส้มโอค่อยๆคิดทบทวนถึงความคิดก่อนที่จีจี้จะส่งคลิปมาให้เธอ เธอคิดว่าเธอโชคร้าย ผู้คนที่อยู่ในงานคอนเสิร์ตพวกเขาโชคดีเหลือเกิน แต่ตอนนี้เธอกลับคิดว่า เธอโชคดีที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบยองเจ ไม่ได้พูดคุยกับยองเจ นักร้องเกาหลีที่เธอชื่นชอบ แต่เธอก็ยังมีชีวิตได้อยู่กับครอบครัวต่อไป เธอยังมีร่างกายที่บริบูรณ์โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ
…เหตุการณ์วิปโยคในครั้งนี้ ทำให้ส้มโอได้เรียนรู้ว่าบางที การพลาดหวังจากสิ่งที่ปรารถนา อาจเป็นความ “โชคดี”ก็ได้
เรื่องสั้นเรื่องแรกค่ะ ลงเว็บเรื่องแรกด้วย อาจจะเกร็งนิดหน่อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านมา ณที่นี้ด้วยนะคะ
ยินดีน้อมรับทุกคำวิจารณ์ แต่เบาๆนะคะ^^
กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
- 👁️ ยอดวิว 38129
แสดงความคิดเห็น