เสียงปริศนา
สวัสดีคะวันนี้ นำเรื่องราวที่ประสบพบเจอด้วยตัวเองและคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น แฟนพ่อแม่ของแฟนมาเล่าให้ฟังคะ
เรื่องเสียงปริศนา
และขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
เสียงตู้ปริศนาและความฝันประหลาด
คือก่อนจะเล่าเรื่องดิฉันบอกก่อนนะคะว่าตัวดิฉันเองเป็นผู้พิการทางสายตาคะ
หลายท่านอาจจะสงสัยนะคะว่าผู้พิการทางสายตาหรือคนตาบอดจะสัมผัสกับสิ่งรี้รับนี้ได้อย่างไร ส่วนตัวของดิฉันนั้นสัมผัสได้จากเสียงด้วยประสาทสัมผัสที่ยังหลงเหลืออยู่คือหู จมูก นั่นเองค่ะ
เริ่มกันเลยนะคะ คือในเรื่องนี้อาจจะซับซ้อนไปหน่อยนะคะจะมีสองเรื่องที่เกี่ยวเนื่องในเวลาเดียวกันเรื่อง
แรกเลยขอบอกก่อนว่าดิฉันกับแฟนไปเช่าหอพัก เพราะดิฉันทำงานและแฟนก็ยังเรียนอยู่เลยต้องเช่าหอพักนี้ แต่เนื่องจากที่หอพักนั้นเป็นห้องเปล่า ซึ่งก็หมายความว่าเราต้องซื้อของทุกอย่างเข้าห้องเอง และแล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องคือ ดิฉันกับแฟนซื้อตู้มาหนึ่งหลังค่ะและตู้ก็เป็นตู้มือหนึ่งนะคะ ยังใหม่ๆอยู่ยังไม่เคยได้ผ่านการใช้งานมาคะ ตอนนั้นซื้อตู้จริงๆราคา หนึ่งพันหกร้อยเก้าสิบแต่ทางร้านลดให้เหลือหนึ่งพันสามร้อยเก้าสิบ ซึ่งก็ดีใจกันมากๆ
ตอนแรกก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะหรืออาจจะเป็นเพราะว่าดิฉันกับแฟนอาจจะไม่ได้สังเกตหรือเพราะเนื่องจากตู้เย็นที่ห้องมันเก่าและเสียงดังมากจึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ดิฉันกับแฟนก็ใช้ตู้นี้มาได้ประมาณหกเจ็ดเดือนค่ะแล้วก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
พอต่อมาก็ย้ายหอพัก แต่สืบเนื่องจากหอพักนั้นเป็นหอพักที่มีของทุกอย่างจึงขนของกลับไปที่บ้านแฟนรวมทั้งตู้นั้นด้วย
และเรื่องก็เกิดขึ้น คือ พ่อของแฟนกับแม่ของแฟนได้ยินเสียงตู้ดังป๊อกเหมือนคนเอาไม้แขวนเสื้อกระทุ้งตู้ บางครั้งก็ดังแรง บางครั้งก็ดังเบา คือต้องบอกก่อนนะคะว่าตู้กับที่นอนอยู่ติดกันเลย ดังนั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะต้องได้ยินแน่นอนและก็ชัดด้วย
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรแต่พอได้ยินบ่อยๆเข้าเลยโทมาถามดิฉันกับแฟน ว่าได้เลี้ยงกุมารทองหรือเปล่า ได้ยินเสียงเหมือนอะไรกระทุ้งตู้ดังป๊อก ได้ยินมาเป็นเดือนๆแล้วตั้งแต่นำตู้มาไว้ที่บ้าน ตอนแรกคิดว่าเป็นหนูเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า พอพ่อช่วยๆกันค้นดูกับแม่สองคนแล้วปรากฏว่าไม่เจออะไร และก็ลองเอาของทุกอย่างออกจากตู้จนหมดแต่ก็ยังดังอยู่
ตอนแรกดิฉันกับแฟนก็ยังไม่เชื่อนะคะ พอว่างเลยกลับไปเที่ยวบ้านกัน ดิฉันกับแฟนเลยไปสังเกตกัน และก็ดังจริงๆคะ ดังไม่ต่อเนื่องนะแล้วแต่ช่วง จะมาเป็นช่วงๆไป ดังทั้งกลางวันและกลางคืน บางครั้งก็ดังเบา บางครั้งก็ดังแรงจน หลับๆอยู่สามารถตื่นได้เลยทีเดียว
แรกๆทุกคนในบ้านก็กลัวกันนะคะกะว่าจะเอาไปบริจากที่วัดไปๆมามาก็ชินกัน
และก็มีอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นคือ ต้องขอบอกก่อนนะคะว่าไม่ได้บอกว่าเสื้อผ้ามือสองไม่ดีนะคะ แต่ดิฉันก็บอกแล้วตั้งแต่เริ่มต้นว่าขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังคะ
คือดิฉันกับแฟนเป็นคนชอบซื้อเสื้อผ้ามือสองเพราะมันคุณภาพดี ยิ่งกางเกงยีนนี้ดีสุดๆถ้าเลือกได้ของดีก็ดีมากๆเชียวล่ะ
แต่เหตุการณ์นี้พ่อของแฟนจะเป็นคนเจอกับตัวนะคะดิฉันได้ฟังจากปากท่านมาอีกครั้งหนึ่งคะ
คือดิฉันซื้อกางเกงยีนมาหนึ่งตัว เป็นยีนมือสองสภาพดีมากแต่พ่อค้าขายให้ราคาถูกๆก็ไม่คิดอะไรดีใจด้วยซ้ำที่ได้ของดีแต่ถูก เลยนำไปไว้ตู้เจ้าปัญหาที่บ้านนี่ล่ะ
และแฟนก็ซื้อเสื้อยีนแบบเก่าๆมาให้น้องชายอีกหนึ่งตัว เพราะน้องชายชอบเสื้อผ้าแบบวินเถดตามสตายวัยรุ่นคะ
ต่อมามีอยู่คืนหนึ่งพ่อของแฟนก็ฝันไป ว่าต้องบอกก่นนะคะว่าเนื่องจากดิฉันเป็นคนตัวอ้วน เลยซื้อกางเกงยีนแบบไซ้ฝรั่งมาเลยเชียว แล้วพ่อก็ฝันว่า มีผู้ชายฝรั่งเหมือนคนยุโรปตัวสูงใหญ่มาก มาสองคน คนหนึ่งใส่เสื้อยีนที่ แฟนซื้อให้น้อง อีกคนใส่กางเกงยีนที่เป็นของดิฉันที่อยู่ในตู้ ทั้งสองคนมีเลือดเต็นตัวเต็มหน้าตาไปหมดเหมือนคนโดนซ้อมมาอย่างหนักเลือดนี้อาบหน้าไปหมด พ่อของแฟนบอกว่าหน้ากลัวมากๆเลยและเหมือนเขาพูดภาษาอะไรไม่รู้เพราะฟังไม่ออก
แล้วทีนี้ก็ตัดมาอีกหนึ่งเหตุการณ์
พ่อก็ฝันว่า ไปเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวคือในจังหวัดร้อยเอ็ดจะมีสถานที่ท่องเที่ยวคือผาน้ำย้อยถ้าใครอยู่ร้อยเอ็ดหรือเป็นคนร้อยเอ็ดก็จะรู้จักดี
พ่อฝันว่า น้องชายคือลูกชายคนเล็กคะ ใส่เสื้อยีนตัวที่พี่ชายซื้อให้มามีเลือดเต็มหน้าบอกว่าโดนตีมา
วิ่งร้องไห้มากอดแม่บอกว่ากลับบ้านไม่ได้ถ้ากลับก็ตายไม่กลับก็ตายดังนั้นไม่กลับดีกว่า คือลืมบอกไปคะว่าน้องยังเรียนมหาลัยอยู่คะและทุกวันศุกร์จะกลับบ้านทุกอาทิตย์
คือทีนี้น้องเลยกลับมาบ้านแต่กลับไปมหาลัยไม่ได้แล้วมีคนตามข้าอยู่ถ้ากลับไปก็ตาย
นี่คือเรื่องที่พ่อของแฟนฝันนะคะ และพ่อกลัวมาก และตอนนั้นในความเป็นจริงๆน้องยังไม่กลับมาบ้านนะคะยังอยู่ที่หอพักในมหาวิทยาลัยอยู่
พ่อก็ห่วงน้องมากวันนั้นเป็นวันศุกร์น้องกำลังจะกลับบ้านรถก็ยางรั่วทำให้ยกเลิกการกลับบ้านไป พ่อแฟนและดิฉันกับแฟนและแม่แฟนเลยปรึกษากันและลงความเห็นว่าให้น้องเอาเสื้อยีนไปทิ้งและก็เอากางเกงยีนตัวนั้นไปทิ้งเรื่องจะได้จบๆไปจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงตู้ดัง
และยังคุยกันอีกว่าถ้าไม่มีเหตุทำให้รถน้องยางรั่วน้องอาจจะเกิดอะไรขึ้นตอนขี่รถกลับมาบ้านก็ได้เพราะระหว่างมหาลัยที่น้องเรียนกับบ้านจะอยู่กันคนละจังหวัด
พอเอากางเกงยีนทิ้งไปแล้วดิฉันกับแฟนก็ไปทำบุญคะบอกเขาว่าคืนกางเกงยีนให้ไปแล้วทีนี้ก็ต่างคนต่างอยู่นะคือไม่รู้จริงๆเลยซื้อมา
คิดว่าเรื่องจะจบทีนี้คงไม่ต้องมาหลอนกับเสียงตู้ปริศนานั้นอีกทุกคนในบ้านคงนอนหลับสบายกัน
แต่พอเคลียคือเคลียทุกอย่างเลยนะคะที่เป็นของมือสองที่อยู่ในตู้นั้น
แต่สรุปคือพอทิ้งเสื้อยีนและกางเกงยีนไปแล้วพ่อก็ไม่ฝันอีกคะ
แต่เสียงตู้ก็ยังได้ยินอยู่คะ และตอนนี้ตู้ก็ยังอยู่ที่บ้านนี้คะ สรุปคือยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเสียงตู้ที่ได้ยินนี้เกิดจากอะไร และถ้าจะว่าเกิดจากไม้ก็คงไม่หน้าใช่เพราะตู้ก็ยังแข็งแรงดีอยู่
ตอนนี้จากที่กลัวกันจนตอนนี้เริ่มชินแล้วคะ ขนาดบอกว่าตู้นี้ซื้อแล้วนะเป็นของเราแล้วให้เรานะ แต่เสียงก็ยังดังอยู่ จนปริศนาคาใจมาถึงตอนนี้ค่ะ
ต้องขออภัยด้วยนะคะหากว่าเล่าเรื่องผิดพลาดยังไง แต่เรื่องนี้ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่เรื่องแต่งขึ้นเองคะ และอาจจะไม่หน้ากลัวเท่าไรนะคะคงไม่ว่ากันนะคะ เพียงแค่ต้องการนำมาแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านเรื่องนี้ค่ะ
- 👁️ ยอดวิว 1261
แสดงความคิดเห็น