ตอนที่ 5 เปลี่ยนนามสกุล

เพลิงพราย[จบ]

-A A +A

ตอนที่ 5 เปลี่ยนนามสกุล

   [เมฆินทร์] “ไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะ เธอคงดีใจและสะใจมากใช่ไหมที่เห็นฉันเป็นแบบนี้ อีกหน่อยถ้าลูกของเธอกับชายชู้ที่คลอดออกมา ก็ต้องทำงานที่ไร่นี้ไปตลอดชีวิตชดใช้ให้กับฉันเช่นกัน เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลยแล้วก็ย้ายออกไปจากที่นี่ด้วย หึ”

   อยู่ๆ เมฆินทร์ก็ลืมตาขึ้นมาอีกทั้งยังพูดลอยๆ พร้อมทั้งลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้ามองละอองดาว พูดจบก็เดือดดาลขึ้นมาซะอย่างนั้นปาขวดเหล้าลงตรงหน้าของละอองดาวเฉยเลย ทำให้ละอองดาวถึงกับสะดุ้งก้าวถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติด้วยกลัวว่าเศษแก้วจะบาดเท้าเอาได้ เมฆินทร์ก็ยืนขึ้นมาเต็มความสูงแถมยังไม่หยุดที่จะว่าร้ายให้ละอองดาวต่อ เมื่อพูดจบเมฆินทร์ก็กำมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่นแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

   ณ โรงครัวขนาดใหญ่ของเหล่าบรรดาคนงานในไร่ที่มารวมตัวกันอย่างมากมาย เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกันและอีกทีก็มื้อเย็นเลย แถมบางครั้งบางคราวยังใช้เป็นที่ประชุมคุยงานในตัวอีกด้วย เพราะมีขนาดใหญ่กว้างขวางจุคนงานได้มากพอสมควร ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ทำให้ร่มรื่นลมพัดผ่านอยู่ตลอดเวลาทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีทีเดียว เมฆินทร์ซึ่งตอนนี้สร่างเมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็พาละอองดาวมาฝากทำงานที่โรงครัวในทันทีคงเริ่มแก้แค้นละอองดาวแล้วสินะ

   [เมฆินทร์] “ฉันมีคนงานใหม่มาแนะนำให้รู้จักเธอคือละอองดาว ฌาณปุณณภพเป็นคนงานคนใหม่ของไร่เรา เธอมีหน้าที่ช่วยเหลืองานในไร่ทุกอย่างและสิทธิเท่าเทียมกับคนงานคนอื่นๆ เธออยากจะแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานหน่อยมั๊ย? เชิญได้เลย..(เสียงหัวเราะ)..เอาล่ะ..ทุกคนเงียบก่อนดูเหมือนว่าเธออยากจะพูดอะไรกับพวกเรานะ..”

   การที่เมฆินทร์แนะนำตัวของละอองดาวให้กับคนงานในไร่ทุกคนได้รู้จักอย่างน้อยก็ยังมีน้ำใจให้ใช้นามสกุลของเขา แต่การที่เมฆินทร์ทำแบบนั้นทำให้คนงานในไร่ต่างพากันหัวเราะเยาะเธอ ทุกคนหัวเราะชอบอกชอบใจกันทั้งนั้นแต่ละอองดาวก็หาสนใจไม่ที่เมฆินทร์ทำแบบนี้ก็เพื่อหยามเธอ ลดเกีียรติเธอ แก้แค้นเธอ เธอเข้าใจดีแต่เธอจะสู้กลับเธอจะไม่ยอมแพ้กับเกมนี้ที่เมฆินทร์เป็นคนสร้างขึ้นมาอย่างแน่นอน ละอองดาวยืนจ้องหน้าของเมฆินทร์นิ่งซึ่งเมฆินทร์ก็ทำเป็นเบ้ปากแล้วยักคิ้วพร้อมทั้งผายมือออกไปเพื่อเปิดโอกาสให้ละอองดาวได้พูดบ้าง

   [ละอองดาว] “สวัสดีค่ะทุกคนฉันชื่อละอองดาว พรรชน์ชญมน (พัด-ชะ-ยะ-มน) ให้ฉันช่วยงานอะไรก็บอกได้เลยนะคะ”

   [เมฆินทร์] “เอาล่ะ เอาล่ะวันนี้ฉันอารมณ์ดีอยากกินข้าวร่วมกับทุกคนด้วยมาๆ กินข้าวกันเถอะ”

   [เหล่าคนงาน] “เฮ้ยยย..พวกเรานายจะทานข้าวกับพวกเราด้วยเว้ยยย..ไชโย..ไชโย..พวกเราดีใจมากเลยครับนายนานๆ ทีนายจะมาทานข้าวกับพวกเรา”

   [เมฆินทร์] “โอเค..โอเค..อย่างนั้นเหรอ ถ้าเช่นนั้นฉันจะมาทานข้าวร่วมกับทุกคน ฝากท้องที่นี่ทุกวันเลยนะ ดีมั๊ย?”

   [เหล่าคนงาน] “ดีค่ะ..ดีครับ..ยินดีมากๆ เลยครับนาย ใช่ไหมพวกเรา..ใช่..ใช่..เย้เย้”

   บ้างปรบมือ บ้างโห่ร้องยิ่งกว่าการออกหาเสียงเสียอีก เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งไร่ทุกคนล้วนยิ้มแย้มแจ่มใสหัวเราะชอบอกชอบใจมีความสุขกัน คงยกเว้นเสียแต่ละอองดาวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนไม่สามารถจะทานอาหารลงไปได้เลยแม้แต่คำเดียวช่างเป็นความรู้สึกที่ทรมานเสียจริงๆ หลังจากที่ทุกคนทานกันจนอิ่มหนำสำราญเป็นที่เรียบร้อยดีแล้ว เหล่าคนงานก็ต่างหยิบจับช้อนจานชานแก้วน้ำของตัวเองไปเก็บยังจุดล้างที่กำหนดเอาไว้ให้ เพื่อความสะอาด เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อเหล่าคนงานที่รับผิดชอบภายในครัวจะได้นำไปล้างทำความสะอาดในขั้นตอนต่อไปเรียกว่าช่วยกันคนละไม้คนละมือ

   [เมฆินทร์] “บุหงา ฉันฝากบอกป้ากระปุกและคนงานที่อยู่ที่นี่ด้วยนะ ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปให้ละอองดาวช่วยงานอยู่ที่ครัว หลังจากเสร็จงานที่ครัวก็ให้ไปช่วยคนงานที่ไร่ต่อ พอใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันก็ให้มาตามเธอไปช่วยงานที่ครัวต่อ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปก็ให้เธอตื่นตีสามมาช่วยงานในครัวห้ามสายเด็ดขาด เพราะคนงานเริ่มทานอาหารกันตอนหกโมงเช้า เที่ยงและหกโมงเย็น เมื่อทำงานในครัวเสร็จแล้วก็ให้ไปทำงานที่ไร่ต่อทำวนไปอย่างนี้ตามฉันสั่งให้ครบภายในหนึ่งวันหากมีปัญหาอะไรให้มาแจ้งฉันโดยตรงได้เลย”

   ทุกคำพูดที่เมฆินทร์ได้พูดออกไปนั้นเขายังคงเหลือบมองด้วยหางตา อยากจะรู้ปฏิกิริยาของละอองดาวว่าเธอจะรู้สึกยังไง จะเถียงเขาหรือไม่ซึ่งเมฆินทร์ก็พูดต่อไปเรื่อยๆ แต่สายตานั้นก็ยังจ้องมองไปที่ละอองดาวอยู่ตลอดเวลา แต่ใบหน้าของละอองดาวนั้นกับยังคงนิ่งเฉยอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสร้างความเจ็บแค้นในใจให้กับเมฆินทร์เป็นอย่างมากจึงสั่งงานเสียยืดยาวดูซิว่าเธอจะทนไปได้สักกี่น้ำ ส่วนบุหงานั้นยืนฟังอย่างตกใจอยู่เหมือนกันกับสิ่งที่นายสั่งออกมา บุหงาทำได้แต่เพียงมองไปที่ละอองดาวทีมองไปที่เจ้านายทีอย่างกับว่าไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองกับสิ่งที่ได้ยิน

   [บุหงา] “แต่ว่า..นายคะ..งานในครัวมันก็หนักมากเลยนะคะนายยย นี่จะให้..ไปทำงานที่ไร่อีกยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย..แล้วอย่างนี้คุณเขาจะไหวเหรอคะ..นายยย”

   โปรดติดตามตอนต่อไปรอหน่อยนะคะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ ฝากกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไปและนิยายเรื่องใหม่ ฝากกดถูกใจส่งข้อความเป็นกำลังใจติชมผลงานกันเข้ามาได้นะคะ ขอบคุณค่ะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.