บทที่ 10 เพื่อนสาวคนใหม่
บทที่ 10 เพื่อนสาวคนใหม่
หลังจากที่ไบรท์ฝึกร่างกายและพลังเวทย์จนเสร็จสิ้น เขาก็รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำอย่างกะทันหัน หลังจากเขาเข้าห้องน้ำเสร็จสิ้นเด็กหนุ่มก็รู้สึกอยากจะอาบน้ำอย่างประหลาด
ดังนั้นเขาจึงเร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็วไปที่ห้องอาบน้ำ โดยที่ไม่ได้คิดสังเกตเลยว่าตอนนี้กำลังมี 3 สาวแช่อยู่ในห้องน้ำ
ไบรท์เปิดประตู ท้ันใดนั้นสายตาของเขาจับจ้องไปยังร่างทั้ง 3 ถึงแม้ว่า 2 ใน 3 นั้นจะเป็นพี่น้องของเขา แต่ว่าอีกหนึ่งนั้นไม่ใช่
เส้นผมสีน้ำตาลเงางามเป็นประกาย ผิวที่ขาวนวลราวกับหิมะ ทำให้เขาอดตะลึงไม่ได้ ตั้งแต่เด็กๆเขาอาศัยอยู่กับย่าและปู่ ทำให้ความสนใจเรื่องเพศตรงข้ามนั้นมีน้อยแสนจะน้อย
ถ้าจะพูดให้ถูกนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเรือนร่างของเพศตรงข้าม เด็กหนุ่มยืนผงะอยู่หน้าประตูห้องน้ำก่อนที่จะทันได้ตัดสินใจทำอย่างไร เขาก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งมากระทบหัวอย่างจัง
ไบรท์จุ๋ปาก แล้วนำมือไปลูบศีรษะของตนเองป้อย ๆ เขาใช้สายตาเขียวปัดกวาดหาคนที่ทำอย่างนี้ แต่พอเขาใช้หัวคิดให้ดีๆ เขาก็พบว่าคนที่ปาบางสิ่งใส่เขา งั้นก็มีแค่คนเดียวนั่นก็คือเด็กสาวผมน้ำตาล ที่มีอายุไม่ห่างจากเขามากนัก
ไบรท์เหลือบสายตาไปมองในทันที สบู่ก้อนเล็กๆก้อนหนึ่งตกอยู่ที่พื้นห้องน้ำ พอเขาชำเลืองมองไปอีกก็พบกับท่าทีที่ไม่พึงพอใจของเด็กสาวผมน้ำตาล หล่อนเม้มปากก่อนที่จะเตรียมตัวสบดคำหยาบคายออกมา
“ไอ้บ้า ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำทำไมไม่รู้จักดูก่อนว่าห้องน้ำมันมีคนใช้อยู่ พวกฉันเป็นผู้หญิงนะจู่ ๆ นายจะเปิดเข้ามาในนี้ได้ยังไง”
ไบรท์มึนงงอยู่เพียงคู่ ก่อนที่จะเถียงกลับไป
“ห้องน้ำมันไม่มีป้ายเขียนห้ามไว้อยู่นี่ แล้วอีกอย่างหนึ่งพวกเธอน่ะแช่น้ำเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วนะรู้ตัวหรือเปล่า คนเราอาบน้ำอ่ะปกติมันไม่ควรนานขนาดนี้ ฉันฝึกพลังเวทย์กับร่างกายจนเสร็จแล้ว ฉันก็อยากใช้ห้องน้ำบ้าง”
อาสึนะเม้มปาก
“อย่าใช้เหตุผลวิบัติมาเถียงกับฉัน เหตุผลมันข้างๆคูๆเกินไป เห็นเห็นอยู่บ้านนายเป็นคนผิดไม่เชื่อก็ลองหันไปถามพี่ไอดูสิ”
ไบรท์โต้กลับ “จริงอยู่ที่ฉันผิดเพราะฉันไม่ยอมดูตาม้าตาเรือก่อนที่จะเข้ามา แต่ว่า”
ก่อนที่ 1 เด็กหนุ่ม 1 เด็กสาวจะเถียงกันต่อ เสียงของน้องมายก็กล่าวตัดบท
“พี่มาแช่น้ำด้วยกันกับพวกเราไหม”
คำกล่าวของมาย ทำให้ไบรท์หยุดคิด ก่อนที่จะส่ายหน้าปฏิเสธ เขาหันหลังกลับออกไปจากห้องน้ำ ก่อนที่จะตัดสินใจไปยังห้องของพี่สาวของตนเอง
ผ่านไปไม่นานทั้ง 3 สาวก็อาบน้ำเสร็จสิ้น หลังจากนั้นเขาจึงไปแช่น้ำต่ออยู่สักพัก และพอแช่น้ำเสร็จเขาก็ไปยังห้องของพี่สาวของตนเอง
หลังจากที่เขาได้เปิดประตู ไบรท์ก็พบว่าตอนนี้พี่ของตนเองไม่ได้อยู่ในห้อง แต่คนที่อยู่ในห้องนั้นก็คือ อาสึนะกับมาย
“มาทำอะไรอย่างนั้นหรอ” อาสึนะกล่าว โดยที่ไม่คิดจะมองหน้าของไบรท์แม้แต่นิด
เธอก้มหน้าก้มตาหวีผมให้กับมาย ในขนาดที่มายก็กำลังนั่งอ่านหนังสือที่มีหน้าปกสีฟ้า
ไบรท์เลิกคิ้วขึ้น เขาหลี่ตามองไปยังอาสึนะ “ฉันจะมาหาพี่”
“พี่ไอไปทำธุระ วันนี้พี่เขาเลยให้ฉันมานอนกับน้องมาย”
“พี่ไม่ค่อยอยู่บ้านเหรอ”
อาสึนะพยักหน้า “ใช่แล้ว อาจารย์ในโรงเรียนเวทมนต์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยว่างหรอก การสอนนักเรียนเป็นหน้าที่หน้าที่หนึ่งที่อาจารย์ส่วนใหญ่ต้องทำ แต่ว่าด้านหลังของพวกอาจารย์ก็คือการวิจัยเกี่ยวกับเวทมนต์”
ไบรท์เห็นดังนั้น เขาจึงเดินไปนั่งข้าง ๆ อาสึนะ แล้วเริ่มถามต่อ “วิชัยเวชบนหมายความว่ายังไง มืดมนไม่ใช่ว่าเราสามารถใช้พลังเวทย์ได้ตามธาตุในร่างกายอย่างนั้นหรอ”
“มันก็ถูก แต่ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่มีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นการใช้พลังเวทย์ของคนส่วนมากอาจจะไม่สามารถใช้พลังเวทย์ตามธาตุได้มากเท่าที่ควร การวิจัยพลังเวทก็คือการช่วยคนเหล่านั้น อันนี้ที่ฉันเคยถามพี่อาสึนะนะ”
“แสดงว่ามีงานอื่นด้วยสินะ”
อาสึนะตอบในขณะที่มือกำลังง่วนกับการจัดทรงผมให้กับมาย
“ใช่ พวกอาจารย์ทำอะไรบ้างพวกนักเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องกันหรอก บางครั้งการวิจัยก็เป็นข้อมูลลับระดับชาติ ว่าแต่นายจะมาสอบเข้าระดับชั้นอะไรในโรงเรียนเวทมนตร์อย่างนั้นหรอ”
อาสึนะมองประเมินไบรท์ ในความคิดของหล่อน อาสึนะคิดว่าคนอย่างไบรท์น่าจะมาสอเข้า grade 9 หรือไม่ก็คงเป็น grade 10 เป็นแน่ เนื่องจากอาสึนะนั้นประเมินไบรท์ไว้ในระดับเดียวกับเธอ
ไบรท์ยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่จะถามอาสึนะ “แล้วเธออยู่ระดับชั้นอะไรของโรงเรียนเวทมนตร์ยังงั้นหรอ”
“ฉันอยู่ เกรด10”
อาสึนะกล่าว ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตาไปมองยังมาย “ส่วนมายจะเรียน grade 1 ใช่ไหม”
เด็กน้อยมีท่าทางหยุดคิดอยู่เพียงคู่นึง ก่อนที่จะหันมามองพี่ชายของตนเองเป็นเชิงถาม
ไบรท์เห็นดังนั้นจึงตอบแทนน้องสาว “คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นนะ เห็นพี่ไอบอกว่าจะให้มายเรียนที่เกรด 1 อันที่จริงฉันก็ไม่มั่นใจหรอกแต่ว่าดูจากอายุก็น่าจะใช่ ว่าแต่เธอรู้หรือเปล่าว่าเกรด 1 นั้นใช้วิธีสอบเข้ายังไง”
อาสึนะส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่รู้เหมือนกัน ว่าแต่เรื่องแค่นี้ทำไมไม่ค้นหาในเว็บของโรงเรียนเวทมนต์บาบิโลเนีย หน้าเว็บไซต์น่าจะมีประกาศอยู่นะถ้าฉันจำไม่ผิด”
ไบรท์มองหน่าของอาสึนะเป็นเชิงถาม “เว็บไซต์มันคืออะไรอย่างนั้นหรอ”
สิ้นเสียงของเด็กหนุ่ม อสึนะก็ปล่อยหวีหลุดจากมือ เธอเงยหน้ามามองชายเบื้องหน้าราวกับว่ากำลังเห็นตัวประหลาด ต่อให้อยู่บ้านนอกคอกนาขนาดไหนสำหรับคนในยุคสมัยนี้ก็คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักคำว่าเว็บไซต์
“นี่นายไม่รู้จักเว็บไซต์อย่างนั้นเหรอ! นายอำฉันเล่นหรือเปล่า!”
เด็กสาวมองหน้าเด็กชายคนเดียวในห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่พอเธอได้เห็นสีหน้าที่ปราศจากคำโกหก เธอก็รู้ได้ทันทีว่าไบรท์งั้นคงเป็นคนที่ไม่รู้จักวิทยาการเวทมนตร์แน่ ๆ
อาสึนะถอนใจ ก่อนที่เธอจะเฉลียวใจนึกได้ว่า เมื่อก่อนตอนที่เธอได้เจอกับไอ พี่สาวคนนี้ก็เป็นพวกที่ไม่ค่อยเข้าใจวิทยาการเวทมนต์ หากจำไม่ผิดบ้านที่พี่ไอยราได้จากมา คนที่อยู่แถวนั้นจะไม่ใช้เวทมนต์กับวิทยาศาสตร์ด้วยกัน หรือจะให้พูดอีกอย่างหนึ่งคนที่นั่นจะใช้เวทมนต์ในการอำนวยความสะดวก โดยที่ไม่มีวิทยาศาสตร์อย่างเช่นอุปกรณ์คริสตัลเวทมนต์ หินเวทย์มนต์ หรือเครื่องติดต่อสื่อสารอย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค
“เอาอย่างนี้ ถ้านายสนใจฉันจะพานายไปดูอุปกรณ์เวทมนตร์ที่พวกเราใช้ในปัจจุบัน แล้วถ้าเกิดน้าอยากจะเล่นหรืออยากจะได้ได้ก็ขอให้พี่ไอซื้อให้ก็แล้วกันนะ หรือถ้าเราอยากเล่นคอมพิวเตอร์นายก็มาเล่นที่ห้องฉันได้ถ้าฉันไม่ได้ทำรายงาน”
ไบรท์พยักหน้า สำหรับเขาเขาไม่ค่อยสนใจวิทยาการเวทมนต์ ยังไงก็ตามเวทย์มนต์อย่างเดียวมันก็เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิต เขาเงยหน้ามองหลอดไฟที่ส่องแสง มันช่างแตกต่างกับตอนที่เขาอาศัยอยู่ที่บ้าน
“ฉันไม่ค่อยสนใจหรอก แต่ว่าถ้าฉันต้องการใช้ฉันก็ให้เธอช่วยได้ไม่ใช่หรือไง”
“จะบ้าเหรอ ใครจะมานั่งช่วยนายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฉันก็มีงานมีการที่จะต้องทำ แล้วอีกอย่างหนึ่งเปิดภาคเรียนฉันก็อยู่เกรด 10 ได้อาจจะอยู่เกรด7 หรือเกรด 8 ใช่ไหมล่ะ ดังนั้นพวกเราต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แยกกันอยู่แล้ว นายต้องทำรายงานเฉพาะด้านอาจจะต้องเข้าไปในอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูล”
“ถ้ามีข้อมูลขนาดนั้นก็สู้ Copy แล้วก็ส่งเลยไม่ได้หรือไง”
อาสึนะส่ายหน้าอย่างยอมเอือมระอา กับความคิดของเพื่อนใหม่ตรงหน้า ไบรท์ยังไม่รู้ว่าการตรวจงานของอาจารย์ในโรงเรียนมันเข้มงวดแค่ไหน ทุกปีที่มีเด็กลอกงานจากเว็บไซต์มาส่ง พวกเขานั้นเรียนไม่จบเลยแม้แต่คนเดียว
“ถ้านายยังอยากเรียนจบไวๆ ฉันแนะนำว่าอย่าทำดีกว่านะ”
“ทำไมอะ”
“ทุกปีที่มีคนลอกงานมาส่ง ไม่ว่าจะลอกจากเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต หรือไม่ว่าจะจ้างคนอื่นทำงานมาให้ หรือไม่ก็ลอกงานของเพื่อน ส่วนใหญ่นักเรียนพวกนั้นมักจะไม่จบจากโรงเรียนเวทย์มนต์ ส่วนเพื่อนที่ให้ลอกงานก็จะถูกปรับตกด้วย”
มายยิ้ม “ถ้างั้นก็ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะยังไงหนูก็ไม่รับงานคนอื่นอยู่แล้ว ว่าแต่งานที่หนูจะได้ทำจะเป็นแบบไหนเหรอคะ พี่อะสึนะ”
อาสึนะเปลี่ยนสายตามามองยังเด็กน้อยผมทอง เธอยิ้ม “งานของเด็กเกรด 1 ไม่ยากหรอกจ้า ถ้าหนูไม่เข้าใจอะไรก็มาถามพี่ได้นะพี่ช่วยได้ พี่เรียนจบเกรด 1 ตั้งแต่พี่อายุประมาณ 5 6 ขวบ ดังนั้นไม่ต้องห่วงถ้ามีอะไรพี่ช่วยเต็มที่เลย”
อาสึนะนำมือมาลูบหัวของเด็กน้อยอย่างรักใคร่ “ไม่แน่นะถ้าหนูได้เรียนกับพี่ หนูอาจจะเรียนจบเกรด 1 ตอนอายุ 8 ขวบไม่สิอาจจะจบเกรด 3 อายุ 8 ขวบเลยก็ได้”
ไบรท์ได้ยินดังนั้นจึงถามขึ้น “โรงเรียนเวทมนตร์สามารถให้เราสอบเลื่อนชั้นเมื่อไหร่ก็ได้อย่างนั้นหรือ”
อาสึนะส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก ทุกๆ 4 เดือนโรงเรียนเวทมนต์จะมีสอบให้เลื่อนชั้น โดยที่เราสามารถเลือกชั้นเรียนชั้นใดก็ได้และไปสอบ สมมุติว่าตอนนี้ฉันอยู่เกรด 10 แต่ฉันอยากไปเรียนเกรด 12 ชั้นก็สามารถสอบเลื่อนชั้นได้ แต่ว่าถ้าสอบตกรอบแรกก็ต้องรอ รอบที่ 2”
“ตอนนี้เธอมีระดับพลังเวทย์อยู่ในระดับไหน”
“ตอนนี้ระดับพลังเวทย์ของฉันอยู่ในระดับนักเวทย์ฝึกหัดระดับ 9 เพราะว่าฉันมีเวทย์มนต์ 2 ธาตุเลยได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษน่ะ เพราะว่าถ้าร่างกายเรายิ่งมีพลังธาตุเยอะเท่าไหร่การเลื่อนระดับพลังเวทย์ก็จะยิ่งช้าเท่านั้น ถ้าโรงเรียนจำกัดว่าหากมีพลังเวทย์แค่ 9 ก็ไม่สามารถเลื่อนชั้นได้ก็คงไม่มีใครสามารถเลื่อนชั้นไปเรียนระดับที่สูงขึ้นได้”
ไบรท์ยิ้ม “แล้วถ้าระดับพลังเวทย์อยู่แค่ 5 จะสามารถขอไปเลื่อนระดับชั้นได้หรือเปล่า”
อาสึนะหยุดคิด “เรื่องนี้ตอบยากนะ เพราะว่าระดับพลังเวทย์น้อยแค่นี้คงไม่สามารถควบคุมเวทมนตร์ได้ดั่งใจมากนัก แต่ว่าเท่าที่ฉันจำได้ก็ไม่มีใครเคยห้ามนี่ ถ้านายอยากจะสอบเลื่อนระดับเข้าเกรด 8 แล้วค่อยสอบเลื่อนระดับ ก็สามารถทำได้”
สิ้นคำกล่าวของอาสึนะ ไบรท์จึงยิ้มก่อนทีจะกล่าว “ขอบคุณที่แนะนำนะ”
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินไปยังห้องอ่ะสึนะ หลังจากที่ ไบรท์ได้ดูอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เขาก็รู้สึกง่วงนอนอย่างประหลาด เขาจึงได้ถามว่าตนเองนอนอยู่ห้องไหน หลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็กล่าวลากับเด็กสาวและน้องสาวของตนเอง
“ถ้างั้นไว้เจอกันนะ”
ไบรท์เห็นมายโบกมือบ่าย ๆ ทำให้เขาอดคิดอย่างแปลกใจไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นน้องสาวของตนเองจะสนิทสนมกับคนอื่นได้รวดเร็วขนาดนี้
‘ยังไงผู้หญิงก็ดีกว่าผู้ชายสินะ ไม่สิคงจะเป็นเพราะว่าอาสึนะเข้าใจมาย เหมือนกับที่พี่ไอยราเข้าใจมาย ทั้งนิสัยความชอบและความสนใจของสาวๆ คงมีบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกันแตกต่างจากเรา ยังไงก็ช่างมันเถอะรีบๆไปนอนดีกว่า หวังว่าวันนี้คงจะนอนหลับได้’
หลังจากที่เขารู้ว่าตนเองได้พักอยู่ห้องไหน เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจเข้าไปนอนอย่างห้องของตนเอง โดยที่ไม่คิดจะสังเกตว่ารอบๆห้องนั้นมีสิ่งใดอยู่ สำหรับเขาวันนี้มันเป็นวันที่แสนจะเหนื่อยล้า พอหัวถึงหมอนเขาก็หลับอย่างรวดเร็ว
สายฝนที่ตกอย่างไม่ขาดสาย ชายหนุ่มที่ยืนตระหง่านท่ามกลางสายฝน โดยที่มีวงเวทย์หลายหลากล้อมรอบ วงเวทย์แต่ละวงบ้างก็มีขนาดใหญ่บ้างก็มีขนาดเล็ก แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือวงแหวนทุกวงนั้นล้วนส่องสีสันสวยงาม
เบื้องหน้าของชายหนุ่มมีผู้คนนับร้อยยืนตระหง่าน ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนมีศาสตราวุธอยู่ในมือ บ้านก็ถือดาบสีดำยาว บางก็ถือเคียวขนาดใหญ่ บ้างก็ถืออาวุธประหลาดที่ครับคล้ายครับครากับธนู
แต่จุดหมายของอาวุธพวกนั้นล้วนเล็งตรงมายังชายหนุ่ม ธนูนับร้อยต่างยิงเข้าใส่แต่สำหรับชายหนุ่มผมดำนี่นับเป็นอย่างไร เขาสะบัดมือเพียงครั้งเดียวทนูที่ปรากฏก็พันหายไปสิ้น เขายิ้มอย่างพึงพอใจก่อนที่จะมีบางสิ่งแทงทะลุร่าง
เลือดสีแดงกระเซ็นเปื้อนพื้นจนแดงฉาน พลังเวทย์ที่ค่อยๆลดลง ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ทันได้ดิ้นทุรนทุรายบางสิ่งก็แทงทะลุร่างเขาอีกครั้ง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 244
แสดงความคิดเห็น