เสียงของชายหนุ่ม...และแหวนขอแต่งงาน

-A A +A
เสียงของชายหนุ่ม...และแหวนขอแต่งงาน

เสียงของชายหนุ่ม...และแหวนขอแต่งงาน

หมวดเรื่องสั้น: 

“เพราะความรักไม่ได้เหมือนการถ่ายหนัง ที่พอเล่นพลาดแล้วจะถ่ายซ้ำใหม่กี่เทคก็ได้...”

 

ความรักเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เมื่อได้มาแล้วก็ควรรักษาไว้ให้ดีที่สุด

 

หลายคนคิดว่าตัวเองจะทำผิดพลาดกับคนรักซ้ำๆคงไม่เป็นอะไร เพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่กล้าไปไหน เดี๋ยวก็ดีกันเอง ยังไงก็ไม่มีทางแยกจากกันแน่นอน

 

จริงอยู่ที่บางคู่ไม่ว่าจะทะเลาะกันแค่ไหนก็ไม่เคยต้องแยกจากกัน หรือถึงจะเลิกกันก็กลับมาคบกันได้อีกหลายครั้ง

 

หลายคู่ยังคงประมาท ยังคงทะเลาะกับคนรักของตัวเองโดยปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ไม่ค่อยฟังกัน เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร

 

แต่สิ่งหนึ่งที่หลายๆคนยังมองข้ามไปคือ “ความอดทนของคนเรานั้นมีขีดจำกัด” ถึงแม้ว่าสิ่งที่เราทำผิดพลาดดูเผินๆแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเราทำมันบ่อยๆ มันก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำฝนที่ค่อยๆกัดเซาะใจของอีกฝ่ายให้กร่อนลงทีละนิดๆ จนสุดท้ายแล้วกำแพงแห่งความอดทนก็พังทลายลง

 

หรือต่อให้ไม่ได้คิดจะเลิกรากัน แต่เวลาในชีวิตของคนเรานั้นไม่แน่นอน เหตุการณ์ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าเมื่อไหร่คือวันที่เราจะได้ยิ้ม หัวเราะ หรือทะเลาะกับคนรักของเราเป็นวันสุดท้าย

 

 

 

มีคู่รักชายหญิงอยู่คู่หนึ่ง ชื่อ “อาซามะ” กับ “มิโยโกะ” เป็นชาวญี่ปุ่น ทั้งคู่คบกันมานานถึง 5 ปี ตั้งแต่อายุ 16 จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ทั้งคู่

 

อาซามะเป็นหนุ่มกำพร้า ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือ เป็นคนที่เอาการเอางาน วางแผนไว้ว่าเรียนจบแล้วจะขอมิโยโกะแต่งงาน รักเดียวใจเดียว ไม่เคยทำให้มิโยโกะเสียใจเลย มีข้อเสียอยู่เพียงอย่างเดียวคือแสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่ง จนบางทีทำให้ดูเหมือนไม่ใส่ใจมิโยโกะ ทั้งที่ความจริงใส่ใจมากกว่าอะไรทุกอย่าง

 

ส่วนมิโยโกะเป็นสาวที่เกิดมาในครอบครัวฐานะดี มีพร้อมทุกอย่าง ทำให้เป็นคนมีนิสัยใจร้อน เธอมักจะทะเลาะกับอาซามะบ่อยๆและต่อว่าเขาด้วยถ้อยคำรุนแรง ถึงอย่างนั้นอาซามะก็ไม่เคยทิ้งเธอไปไหน

 

และแล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็กำลังจะเล่นตลกกับทั้งคู่ มิโยโกะไม่รู้ตัวเลยว่า ความใจร้อนของเธอกำลังจะทำให้เธอต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

 

“ตอบข้อความช้าชะมัดเลย มัวอืดอาดยืดยาดทำอะไรอยู่ ไม่รู้รึไงว่าคนรอมันทั้งหงุดหงิดทั้งรำคาญ”

 

“ฉันขอโทษนะมิโยโกะ เมื่อคืนฉันทำงานกะดึก เลยไม่ได้ตอบ”

 

“งานบ้างานบออะไรกัน? ไม่ใช่แค่เมื่อคืนหรอก เห็นตอบช้างี้ตลอด เคยสนใจกันบ้างมั้ย? ชีวิตเธอก็มีแต่งานๆๆ เคยคิดถึงฉันบ้างมั้ย? เคยใส่ใจกันบ้างมั้ย? ทำแต่งานๆๆแล้วก็ทิ้งให้ฉันเหงาอยู่คนเดียว”

 

“ฉันขอโทษ”

 

“ฉันเบื่อคำขอโทษของเธอเต็มที่แล้ว เธอก็สัญญาตลอดว่าจะพยายามมีเวลาให้ฉันมากขึ้น แต่สุดท้ายเธอก็เอาแต่สนใจงาน ไม่เห็นทำอย่างที่พูดได้เลย”

 

“อย่าโกรธเลยนะ ฉันขอแก้ตัวใหม่ วันนี้วันเกิดเธอ เราเจอกันนะ ฉันจะไปหา ฉันมีเซอร์ไพรส์ให้เธอด้วย ฉันรับรองว่าจะไม่ไปสายจนทำให้นัดล่มแบบคราวที่แล้วอีกนะ”

 

“อืม เอาแบบนั้นก็ได้ มาให้ได้ละกัน ทำให้ได้อย่างที่พูดเถอะ ไม่งั้นก็ไปตายซะไป”

 

…นี่คือประโยคสุดท้ายที่มิโยโกะพูดใส่ชายคนรักที่คบกันมานานถึงครึ่งทศวรรษ เธอไม่ได้เฉลียวใจเลยแม้แต่นิดเดียว ว่าคำพูดประชดประชันที่พูดไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบนั้น จะกลายเป็นจริงในเวลาต่อมา

 

 

 

เมื่อถึงเวลา มิโยโกะก็ไปรออาซามะที่ร้านอาหารซึ่งนัดกันไว้ เลยเวลานัดไปแล้ว 15 นาที...อาซามะก็ยังไม่มา ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง...ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมง...ก็ยังไม่มีข้อความหรือสายโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าติดขัดอะไรอยู่ที่ไหน ผ่านไป 4 ชั่วโมง...จนได้เวลาปิดร้านอาหาร ทำให้มิโยโกะต้องออกจากร้านไป

 

มิโยโกะรู้สึกโกรธและผิดหวังมากที่อาซามะไม่มาตามนัด แถมยังหายไปโดยไม่บอกกล่าว ไม่บอกว่าติดอะไรทำไมถึงช้า ด้วยความใจร้อนจนขาดสติ ทำให้เธอกระหน่ำส่งข้อความไปต่อว่าเขาอย่างรุนแรง

 

“จะไปตายห่าที่ไหนก็ไป น่ารำคาญชะมัดเลย ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้จะพูดมาทำไม เบื่อโว้ย ทำได้ไงวะ เธอปล่อยให้ฉันรอจนร้านปิดเนี่ยนะ เสียเวลาว่ะ หนาวก็หนาว หิมะก็ตก หลอกให้ฉันออกจากบ้านมาฟรีๆทำไม...”

 

มิโยโกะกลับไปที่บ้านของตัวเองอย่างหัวเสีย คืนนั้นเธอพยายามนอนแต่ก็หลับไม่สนิทนัก

 

วันรุ่งขึ้น อาซามะก็ยังคงไม่ติดต่อมิโยโกะมา จนทำให้มิโยโกะเข้าใจว่าอาซามะมัวแต่บ้างานจนทิ้งเธอไปแล้ว ลึกๆแล้วในใจเธอก็เริ่มรู้สึกผิดที่พูดกับชายหนุ่มไม่ดีในวันนั้น และจากที่มองเห็นอาซามะเป็นของตายมาตลอด เธอก็เริ่มกลัวแล้วจริงๆว่าเขากำลังจะทิ้งเธอไปแล้วหรือเปล่า

 

จนในที่สุด เมื่อถึงบ่ายของวันเดียวกันนั้น มิโยโกะก็ได้รู้ความจริงสุดช็อค เมื่อมีโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่าอาซามะเสียชีวิตแล้วตั้งแต่เมื่อคืนเนื่องจากถูกคนร้ายยิงตาย

 

“ทำไมคุณเพิ่งมาบอกฉันตอนนี้!?” เมื่อมาถึงโรงพยาบาล มิโยโกะก็ถามหมอกับพยาบาลด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

“ก็เมื่อคืนเราติดต่อคุณไม่ได้เลยนี่ครับ โทรไปไม่รู้กี่สายแล้ว”

 

ด้วยความโกรธและน้อยใจชายคนรัก ทำให้หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็ปิดเครื่องไป นี่เป็นสาเหตุที่ทางโรงพยาบาลติดต่อเธอไม่ได้

 

มิโยโกะระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร เธอทรุดลงไปกับพื้น จนหมอกับพยาบาลต้องเข้ามาช่วยกันพยุง

 

“พาฉันไปหาเขาหน่อยได้ไหม?” เธอพูดทั้งน้ำตาอาบแก้ม

 

หมอนำทางมิโยโกะไปยังห้องดับจิต และที่นั่น เธอก็ได้เห็นร่างไร้วิญญาณของอาซามะ คนรักของเธอนอนอยู่บนโต๊ะ มีผ้าคลุมลำตัว ตาหลับสนิท ที่หน้าอกมีรอยแผลขนาดใหญ่จากกระสุนปืน

 

“ฉันขอโทษ!” มิโยโกะร้องไห้พร้อมกับกอดศพอาซามะอย่างสิ้นหวัง

 

“เราขอโทษนะครับที่เราช่วยชีวิตเขาไม่ทัน เมื่อคืนคนที่พาเขามาส่งโรงพยาบาลเล่าว่าเห็นคุณอาซามะโดนชายสองคนรุมกันทำร้าย ดูเหมือนจะต่อสู้กันเพื่อแย่งของอะไรบางอย่าง เขาเลยแอบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานแล้วโทรเรียกตำรวจมา แต่พอตำรวจมาถึง คุณอาซามะก็ถูกคนร้ายยิงที่หน้าอก ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป เขาเลยรีบพาคุณอาซามะมาส่งโรงพยาบาล” หมอเล่าให้มิโยโกะฟัง

 

มิโยโกะร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด เพราะอย่างนี้นี่เอง...เมื่อคืนนัดกันแล้วเขาถึงไม่มา เพราะเขาโดนคนทำร้ายจนตายระหว่างทางมาหาเธอ ในขณะที่เธอกลับคิดไม่ดีกับเขา คิดว่าเขาจะผิดสัญญากับเธอ

 

“เอ่อ เราเจอของสองอย่างนี้อยู่กับตัวคุณอาซามะครับ” หมอยิ้มอ่อนๆ พร้อมกับส่งของสองอย่างให้มิโยโกะ เมื่อเธอเห็นแล้วว่ามันคืออะไร เธอก็ต้องตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก

 

ของชิ้นแรกคือกล่องกำมะหยี่สีแดง ที่ข้างในมีแหวนเพชรราคาแพงอยู่ ส่วนอีกชิ้นคือมือถือของอาซามะที่เปื้อนคราบเลือด เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นแล้ว มิโยโกะก็พบกับคลิปเสียงคลิปหนึ่ง เธอกดเปิดฟังด้วยนิ้วมือที่สั่นเทา คลิปเสียงนั้นเป็นเสียงพูดปนเสียงหายใจที่รวยรินของอาซามะ โดยเขาอัดไว้เองก่อนจะหมดลมหายใจได้ไม่นาน คลิปเสียงมีเนื้อความว่า...

 

“มิโยโกะ ฉันขอโทษนะที่เอาแต่ทำงานจนแทบไม่มีเวลาให้เธอเลย ฉันอยากบอกความจริงกับเธอแต่ก็กลัวเธอไม่ฟังฉัน เพราะที่ผ่านมาฉันแทบไม่บอกความรู้สึกตรงๆกับเธอเลย ฉันมันไม่ได้เรื่องเอง ที่ไม่กล้าพูดผ่านปากตัวเองออกมาทั้งที่เราก็คบกันมานานขนาดนี้แล้ว

 

ความจริงที่ฉันอยากบอกเธอก็คือว่า บริษัทที่ฉันไปรับจ๊อบทำพาร์ทไทม์อยู่มันเจ๊งไปแล้ว ฉันเลยตกงาน ต้องไปหางานที่ใหม่ทำ หาไม่ได้ง่ายเลย แต่แล้วฉันก็ไปเจอบริษัทใหม่ ที่นี่ฉันต้องทำงานเป็นกะ เลิกดึก แล้วแทบไม่มีเวลาพัก แต่เขาให้เงินฉันดีมาก ฉันก็เลยตกลงทำ เพราะฉันอยากตั้งใจเรียนให้จบ อยากรีบๆเก็บเงินไว้เตรียมแต่งงานกับเธอทันทีที่เราเรียนจบ เธอโตมาในครอบครัวดี มีเงิน มีฐานะทางสังคม มีทุกอย่างพร้อม

ฉันเลยยิ่งอยากขยันทำงาน อยากให้เธอเห็นว่าอนาคตของเราเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันเสมอ อยากให้ครอบครัวของเธอมองว่าฉันจะเป็นสามีและพ่อของลูกที่ดี ไม่ใช่หนุ่มกำพร้าไร้อนาคต อยากให้เธอเชื่อมั่นในตัวฉันว่าฉันสามารถหาเงินมากพอที่จะดูแลเธอกับลูกในอนาคตของเราได้

 

แหวนวงนี้ ฉันเก็บเงินซื้อให้เธอ ตั้งใจจะเอามาขอเธอแต่งงานตอนดินเนอร์วันเกิดเธอเมื่อคืน แต่ก็ดันเกิดเรื่องซะก่อน ฉันขอโทษนะที่ผิดคำพูดอีกแล้ว ฉันมันไม่เอาไหนจริงๆนั่นแหละ สัญญากับเธอแล้วแท้ๆว่าจะไม่ทำให้นัดล่ม แต่สุดท้ายฉันก็ไปหาเธอไม่ได้ ทำให้เธอต้องโกรธแล้วก็ผิดหวังอีก ขอโทษจริงๆที่ทำให้เธอต้องมาเจอคนไม่เอาไหนแบบฉัน

 

มิโยโกะ เธอเก็บแหวนวงนี้ไว้กับตัวให้ดีนะ ฉันคงไปหาเธอไม่ได้อีกแล้ว แต่ขอแค่รู้ว่าเธอสวมมันติดมือไว้ตลอดเวลา แล้วก็สัญญากับฉันว่าเธอจะเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข ฉันก็ดีใจแล้ว ขอโทษอีกครั้งนะที่ที่ผ่านมาฉันไม่ได้บอกความจริงกับเธอเรื่องงานของฉัน ทำให้เราไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน ไม่อย่างนั้นป่านนี้เราก็คงได้นั่งเลือกรูปชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวล่วงหน้าด้วยกันแล้ว คงไม่ต้องมาจากกันแบบนี้ ขอโทษที่ทำให้เธอเหงา ทำให้เธอรู้สึกว่าฉันไม่ใส่ใจเธอ แต่จริงๆแล้วฉันรักเธอมากกว่าอะไรทั้งหมดเลย แล้วก็ฉันเชื่อนะว่าซักวันเราต้องได้เจอกันอีก...” จากนั้นก็มีเสียงคล้ายกึ่งไอกึ่งอาเจียนที่ฟังดูทรมานดังขึ้น ก่อนที่คลิปเสียงจะตัดจบไป

 

มิโยโกะร้องไห้เสียใจออกมาจนหมดสติไป หมอและพยาบาลต้องช่วยกันพาเธอไปที่ห้องฉุกเฉิน

 

“คุณ คุณคะ” พยาบาลเรียกมิโยโกะ

 

“คะ?” มิโยโกะลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ

 

“นี่ค่ะ” พยาบาลยิ้มพร้อมกับยื่นกล่องแหวนและมือถือของอาซามะให้มิโยโกะ

 

มิโยโกะสงบสติอารมณ์ได้แล้ว แต่ยังอยู่ในอาการช็อค สีหน้าเธอนิ่ง แต่น้ำตาไหลพรากเมื่อได้เห็นของสองชิ้นนี้

 

ณ วินาทีนี้ มิโยโกะได้รู้ซึ้งแล้วว่าการปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบมาครอบงำ สุดท้ายแล้วก็ทำให้เธอต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

 

มิโยโกะเอาแต่โทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมาในใจ ว่าถ้าที่ผ่านมาเธอใจเย็นๆสักหน่อย แล้วตั้งใจฟังสิ่งที่อาซามะพยายามจะบอกเธอ เธอกับเขาก็จะเข้าใจกัน แล้วไม่ต้องมาทะเลาะกัน แล้วแยกจากกันโดยไม่มีแม้แต่โอกาสได้ร่ำลากันแบบนี้

 

คำพูดรุนแรงที่เธอพูดใส่เขาในวันนั้น คำพูดที่ไล่ให้เขาไปตาย แม้จะเป็นเพียงคำพูดประชดประชันที่เกิดขึ้นมาจากความโกรธเพียงชั่วคราว ไม่ได้คิดอยากให้อาซามะตายจริง แต่สุดท้ายแล้วอาซามะก็ตายจากเธอไปจริงๆ และคำพูดนั้นก็เป็นคมหอกคมดาบที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเธอเอง

 

เธอปล่อยให้ความใจร้อนมาอยู่เหนือความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ความรู้สึกที่ว่าเธอเองก็รักอาซามะไม่น้อยไปกว่าที่เขารักเธอ

 

จากการประชดประชันและใส่อารมณ์ในวันนั้น กลับกลายเป็นการจากลาแบบไม่มีวันกลับ

 

เธออยากขอโทษเขา...แต่ก็ทำได้แค่คิดถึงและรู้สึกผิด

 

เธออยากบอกเขาว่าเธอยินดีจะแต่งงานกับเขาและจะทำหน้าที่ภรรยาและแม่ของลูกให้ดีที่สุด...แต่ก็ทำได้แค่สวมแหวนที่อาซามะซื้อมาติดตัวตลอดเวลาและดูมันต่างหน้าเขา

 

เธออยากกอดเขาแล้วสัญญากับเขาว่าเธอจะไม่ใจร้อนและว่าเขาแรงๆอีก...แต่เธอก็ทำได้แค่กอดเข่าตัวเองแล้วร้องไห้อยู่ทุกคืน

 

ทุกอย่างที่เธออยากทำ อยากบอกเขาในวันนี้...เธอไม่สามารถย้อนเวลากลับไปทำได้อีกแล้ว

 

อย่าเห็นคุณค่าของคนใกล้ตัวในวันที่สายเกินไป แต่ให้ทำดีต่อกันให้มากที่สุดในวันที่ยังมีโอกาส...

 

 

 

 

 

 

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.