บทที่ 208: ถูกขังอยู่ในแคว้นหนานซวน
เวลาต่อมา คนทั้ง 2 ก็เดินไปที่กระโจมของแม่ทัพหนานซวน และตอนที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไป ก็มีทหารก้าวเข้ามาขวางมู่ไป๋ไป่ที่เดินอยู่ข้างหน้าเอาไว้
“แม่หนูน้อย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะเข้ามาวิ่งเล่นได้ตามใจ” น้ำเสียงที่ทหารคนนั้นใช้พูดฟังดูแข็งกร้าวมาก
ในตอนแรกเด็กหญิงยังไม่ทันตั้งตัวจึงได้แต่ยืนมองหน้าเขานิ่ง แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้ากังวลใจของชายชราที่อยู่ข้างหลัง เธอก็จงใจร้องไห้ออกมา
ทันทีที่ชายสูงวัยได้ยินเสียงร้องไห้ เขาก็รีบเดินเข้าไปหามู่ไป๋ไป่
จากนั้นเขาก็หยิบป้ายคำสั่งออกมาแล้วมองหน้าทหารที่ดุเด็กน้อยเมื่อครู่นี้ หลังจากอีกฝ่ายเห็นป้ายคำสั่ง ทหารคนนั้นก็พูดขึ้นว่า “ที่แท้เป็นแม่ทัพหลี่นี่เอง ข้าน้อยขออภัยที่เสียมารยาทต่อหน้าท่าน”
ชายชราที่ถูกเรียกว่า ‘แม่ทัพหลี่’ เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองมู่ไป๋ไป่อีกครั้ง พอเขาเห็นว่านางยังคงร้องไห้อยู่ สีหน้าของเขาก็ดูจะเศร้าหมองมากยิ่งขึ้น
“แม่ทัพหลี่ กองทัพมีกฎว่าห้ามเด็กเข้าไปด้านในนะขอรับ” แม้ว่าทหารหนุ่มจะเกรงใจตำแหน่งของอีกฝ่าย แต่เขาก็ยังไม่กล้าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ในไม่ช้ามู่ไป๋ไป่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของชายแก่ “ฮ่า ๆๆ เด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา”
เมื่อทหารหนุ่มเห็นว่าแม่ทัพหลี่หัวเราะ เขาก็รู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้น เขามองคนตรงหน้าด้วยความสับสนขณะเอ่ยปากถามออกมาว่า “แม่ทัพหลี่ มีอะไรให้ขบขันหรือขอรับ?”
“นางเป็นองค์หญิงน้อยแห่งแคว้นเป่ยหลง มู่ไป๋ไป่ นางไม่ใช่เด็กธรรมดา” แม่ทัพหลี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพอนึกถึงตอนที่เขาคิดจะลักพาตัวนาง
นอกจากนี้ หลังจากที่เขาข้ามมายังดินแดนหนานซวน ความรู้สึกตึงเครียดก่อนหน้านี้ก็พลันหายไป และตอนนี้เขาผ่อนคลายลงแล้ว เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของทหารหนุ่ม เขาจึงรู้สึกขบขัน
ทางด้านทหารชั้นผู้น้อยมองมู่ไป๋ไป่ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้หน้าตาน่ารักมาก ทั้งดวงตาที่กลมโต ปากนิด จมูกหน่อย
นางดูน่ารักมากจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่นางเกิดในแคว้นเป่ยหลง ไม่เช่นนั้นเขาคงจะชอบเด็กที่หน้าตาเหมือนตุ๊กตาตัวน้อยคนนี้เหมือนกัน
ปัจจุบันมู่ไป๋ไป่ยังคงร้องไห้อยู่ แต่ถึงกระนั้นเธอก็รู้สึกไม่ชอบใจที่ถูกมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า
เธอจึงถลึงตามองทหารหนุ่มพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “บังอาจ! เจ้ากล้าจ้ององค์หญิงเช่นนี้หรือ?”
ท่าทางของเด็กหญิงน่ากลัวมากจนทหารหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย แม้แต่ชายชราที่อยู่ด้านข้างก็ยังรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
เขาไม่คาดคิดว่ามู่ไป๋ไป่จะยังกล้าพูดทั้งที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงมองนางตาไม่กะพริบ
มู่ไป๋ไป่ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นไปอีก หลังจากมาถึงสถานที่แห่งนี้ เธอก็ถูกคนอื่นมองดูเหมือนลิงในสวนสัตว์
“เจ้ารีบไปรายงานเร็วเข้าว่าเราจับองค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยหลงมาได้แบบตัวเป็น ๆ” แม่ทัพหลี่สั่งให้ทหารไปรายงานให้แม่ทัพใหญ่ทราบทันที
ทหารชั้นผู้น้อยยังคงตกตะลึงไม่หาย แต่คำสั่งของแม่ทัพหลี่ก็เป็นเหมือนระฆังที่ช่วยให้เขาดึงสติกลับมาได้ “ขอรับ ข้าน้อยจะรีบไปรายงานเดี๋ยวนี้”
เมื่อมู่ไป๋ไป่เห็นทหารหนุ่มรีบวิ่งออกไป เธอก็หันไปมองชายชราที่เพิ่งถูกเรียกว่าแม่ทัพหลี่แล้วแค่นเสียงเย็นชาในลำคอ
ท่าทางของเธอทำให้ชายสูงวัยไม่พอใจขึ้นมา เขาจึงถามออกไปตามตรงว่า “องค์หญิงน้อย พระองค์ไม่พอใจอะไรกระหม่อมหรือ?”
คนที่ไม่เคยเป็นเหยื่อย่อมไม่เข้าใจความคิดของผู้ถูกกระทำ ดังนั้นปฏิกิริยาของแม่ทัพหลี่จึงเป็นเรื่องปกติ
มู่ไป๋ไป่เข้าใจความหมายในคำถามของฝ่ายตรงข้าม เธอรู้สึกขบขันในใจและพูดว่า “การกระทำของท่าน ไม่ว่าใครก็คงรู้สึกไม่พอใจกันทั้งนั้น”
หลังจากเด็กหญิงพูดตอกหน้าอีกฝ่าย เธอก็เห็นสีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมในขณะที่เขาพูดว่า “หากแคว้นทั้ง 2 ไม่มีความแค้นต่อกันมากมายขนาดนี้ กระหม่อมคงไม่มีทางหลอกให้พระองค์มาที่นี่”
จู่ ๆ แม่ทัพหลี่ก็ทำหน้าโศกเศร้า มันจึงทำให้คนตัวเล็กไปไม่เป็นและไม่รู้ว่าจะตอบอีกฝ่ายว่าอย่างไร
เธอรู้ว่าจุดประสงค์ในการทำเช่นนี้ของชายสูงวัยก็เพื่อให้แคว้นหนานซวนมีอำนาจต่อรองมากขึ้น
“ข้าเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็ก ๆ ทายาทรุ่นราวคราวเดียวกับข้าในแคว้นเป่ยหลงนั้นมีมากมายหลายคน ท่านคิดว่าการจับข้ามาจะมีประโยชน์หรืออย่างไร?”
มู่ไป๋ไป่ไม่อยากนั่งนิ่งรอความตายอยู่เฉย ๆ เธอจึงถามคำถามนี้กับชายตรงหน้า
ทางด้านแม่ทัพหลี่ไม่คาดคิดว่าเด็กหญิงจะพูดเช่นนี้ออกมา เขาจึงจ้องตาอีกฝ่ายแล้วกล่าวว่า “แต่จากแหล่งข่าวที่เราได้รับมา ฮ่องเต้แห่งเป่ยหลงปฏิบัติกับพระองค์แตกต่างจากองค์ชายและองค์หญิงพระองค์อื่นเสมอ ดังนั้นมันไม่สำคัญหรอกว่าพระองค์จะพูดอะไร”
เขาทำงานเป็นหน่วยสืบข่าว แม้ว่าเขาจะมีตำแหน่งเป็นเพียงแม่ทัพเล็ก ๆ แต่เขาก็ไม่เคยละเลยการปฏิบัติหน้าที่
เขารู้ดีว่ามู่ไป๋ไป่มีความสำคัญอย่างไรในแคว้นเป่ยหลง แต่เมื่อนางเลือกใช้คำพูดน่าสมเพชเช่นนี้ เขาจึงไม่มีทางเชื่อคำพูดของนาง
“ใครบอกท่านมาล่ะ ข้าเป็นเพียงแค่ 1 ในลูก ๆ ของเขา ไม่ได้สลักสำคัญอะไร” คนตัวเล็กพูดย้ำอีกครั้ง
ชายแก่จ้องมู่ไป๋ไป่ตั้งแต่นางเริ่มเปิดปาก อย่างไรก็ตาม นางก็ยังพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เขามองไม่ออกเลยว่านางกำลังโกหกหรือไม่
“แม่ทัพหลี่ เชิญเข้าไปข้างในเถอะขอรับ” ชายชรากำลังจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อโต้แย้งคำพูดขององค์หญิงตัวน้อย แต่จู่ ๆ ทหารหนุ่มที่เข้าไปรายงานก็ขัดจังหวะคำพูดของเขา ชายสูงวัยจึงก้มหน้าลงมองดูร่างเล็กตรงหน้า
มู่ไป๋ไป่ที่ถูกขัดเม้มปากเล็ก ๆ ด้วยความรู้สึกไม่เต็มใจ แต่เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ข้ารู้แล้ว เลิกจ้องข้าได้แล้ว ข้าจะเดินเข้าไปเอง!” เด็กหญิงไม่อยากถูกหิ้วปีกไปเหมือนไก่ เธอจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปเอง
แม่ทัพหลี่ได้แต่มองดูท่าทางของมู่ไป๋ไป่และประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เขารู้สึกอยู่ในใจเสมอว่าเด็กตัวเล็ก ๆ คนนี้ดูไม่เหมือนเด็กเลยสักนิด
“ค่อย ๆ เดินก็ได้”
คนตัวเล็กซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวเหมือนเด็กทั่วไป ในทางกลับกัน นางมักจะพูดเพื่อแก้ตัวเป็นครั้งคราว
การกระทำของเด็กคนนี้ทำให้เขารู้สึกสะเทือนใจมากจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี
“โชคดีที่นางเป็นเด็กผู้หญิง หากนางเป็นเด็กผู้ชาย ข้าเกรงว่าในอนาคตแคว้นเป่ยหลงคงจะไม่มีใครต่อกรได้ง่าย ๆ”
ในตอนที่อายุเพียงเท่านี้ ถ้ามู่ไป๋ไป่เป็นเด็กผู้ชาย นางคงจะมีแผนการมากมาย
หากหนานซวนต้องการจะจัดการกับแคว้นเป่ยหลงในอนาคต เขาเกรงว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่มีทางทำสำเร็จ
ขณะนี้เด็กหญิงเดินตามหลังทหารหนุ่มไปติด ๆ และคนทั้ง 3 ก็เดินไปถึงกระโจมใหญ่โดยที่ไม่มีใครมาขวาง
“ท่านจะพาข้าไปที่ใด?” มู่ไป๋ไป่มองถนนที่ทอดยาวด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า
“พระองค์เดินไม่ไหวแล้วหรือ?” แม่ทัพหลี่รีบก้าวเข้าไปถาม
แม้ว่าเด็กหญิงจะเป็นคนที่มีแผนการในใจมากมาย แต่นางก็ยังมีความไร้เดียงสาแบบเด็กอยู่เช่นกัน ซึ่งนั่นมันทำให้เขารู้สึกสับสนไม่น้อย
นี่ยังไม่ได้นับรวมถึงเรื่องที่ว่านางมีรอยยิ้มน่ารักที่ส่งผลให้ทุกคนที่ได้เห็นต้องสับสนอีก
“ใช่” มู่ไป๋ไป่ตอบออกไปอย่างไม่พอใจ
หลังจากแม่ทัพหลี่ได้ยินดังนี้ เขาก็อุ้มเด็กน้อยขึ้นแล้วพูดว่า “กระหม่อมจะพาพระองค์ไปเอง”
มู่ไป๋ไป่ดิ้นรนขัดขืนเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าตนไม่มีทางหลุดพ้นไปได้ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยให้อีกฝ่ายอุ้มเธอเดินไป
นอกจากนี้การที่มีคนอุ้มนั้นง่ายกว่าการเดินไปด้วยลำแข้งของตัวเองมาก ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเธอก็เดินทางมาถึงที่ตั้งของกระโจมใหญ่
แต่ถึงแม้จะเดินมาถึงด้านหน้ากระโจมแล้ว พวกเขาก็ยังไม่เดินเข้าไปด้านไหน
“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?” มู่ไป๋ไป่จงใจถามขึ้นมา
“เราจะต้องเข้าไปรายงานก่อนถึงจะเข้าไปได้” เมื่อชายสูงวัยได้ยินเสียงที่ค่อนข้างร้อนใจของเด็กหญิง เขาก็อธิบายให้นางฟัง
คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกพูดไม่ออกมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วทำได้เพียงปล่อยให้แม่ทัพหลี่อุ้มเธอเอาไว้ขณะรอให้ทหารเข้าไปรายงานคนที่อยู่ข้างใน
หลังจากทหารหนุ่มเข้าไป พวกเธอก็ต้องรออยู่นานก่อนที่เขาจะออกมา พอเห็นอีกฝ่ายเปิดกระโจมออก ทั้งคู่ก็ดีใจที่ไม่ต้องทนรออีกแล้ว
“เชิญแม่ทัพหลี่เข้าไปข้างในขอรับ” ทหารชั้นผู้น้อยมองแม่ทัพหลี่ด้วยสายตาตื่นเต้น
“ตกลง” ชายสูงวัยกระชับเด็กน้อยในอ้อมแขนแล้วก็เดินเข้าไปในกระโจม
ทางด้านมู่ไป๋ไป่ที่ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องเข้าไปข้างในพร้อมกับอีกฝ่าย
ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่ามีอะไรรอเธออยู่ข้างใน…
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 89
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น