บทที่ 191: ความไม่เข้ากัน

-A A +A

บทที่ 191: ความไม่เข้ากัน

“มู่ไป๋ไป่ เรื่องเอาเปรียบข้านี่เจ้าเก่งมากขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ!” เจ้าส้มยกอุ้งเท้าใหญ่ตบใส่ประตูให้เปิดออก ก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาเอือมระอา

“เจ้าส้มกลับมาแล้ว!” คนตัวเล็กที่กินของว่างจนอิ่มแล้วกำลังแกะเมล็ดแตงโมคั่วกับหลัวเซียวเซียวเพื่อคลายความเบื่อหน่าย เมื่อเธอเห็นแมวอ้วนเดินเข้ามา เธอก็รีบโยนเมล็ดแตงโมในมือทิ้งและเข้าไปทักทายมันอย่างมีความสุข “นี่เจ้าส้ม อย่าพูดแบบนั้นสิ”

“ข้าเลี้ยงเจ้าอยู่ทุกวัน ขอใช้งานเจ้าแค่วันเดียวไม่ได้เชียวหรือ?”

“เถอะน้า~ เจ้าส้มที่รัก บอกข้าทีว่าพวกท่านพี่รัชทายาทคุยอะไรกันบ้าง”

แมวตัวโตเหลือบมองคนพูดก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะแล้วนั่งเชิดหน้าอยู่บนนั้น

มู่ไป๋ไป่ไม่รอช้ายื่นของว่างให้มันทันที จากนั้นก็เทชาใส่ถ้วยให้มัน 1 ถ้วย

แล้วเจ้าส้มก็พูดด้วยความพึงพอใจว่า “เช่นนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย ข้าจะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ จวนตระกูลจินโชคร้ายที่มีขนาดเท่ากับจวนแม่ทัพ…”

หลังจากเล่าสิ่งที่มันได้ยินกลุ่มคนคุยกันข้างล่างจนหมดแล้ว เจ้าแมวอ้วนก็กินขนมในมือลงไปในคำเดียวและเลียชาที่มู่ไป๋ไป่เทให้

“นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้องค์รัชทายาทได้สั่งให้คนปิดล้อมจวนแม่ทัพเอาไว้และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปด้านใน”

“จากนั้นเซียวถังอี้ก็สงสัยว่าคนที่ถูกพิษเป็นสมาชิกในครอบครัวของแม่ทัพจ้าว ดังนั้นเขาจึงให้องค์รัชทายาทส่งคนไปค้นหาพวกเขาที่นอกเมือง”

“นอกเมือง?” มู่ไป๋ไป่ลูบคางตัวเองแล้วถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “ทำไมต้องเป็นนอกเมือง ในเมื่อคนที่ถูกพิษจะไม่รู้สึกตัว ทำไมพวกเขาถึงไม่ซ่อนตัวอยู่ในเมือง?”

“อ๋อ ข้ารู้แล้ว!”

“สัตว์ประหลาดจะโจมตีทุกคนที่พบ”

“หากพวกเขายังอยู่ในเมือง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะต้องมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในเมืองชายแดน”

“เซียวถังอี้เลยคาดเดาว่าพวกเขาน่าจะกำลังซ่อนตัวอยู่นอกเมือง!”

สมกับเป็นเจ้าสัตว์ประหลาดจริง ๆ สมองของเขาทำงานเร็วมาก

“อย่างนี้นี่เอง” หลัวเซียวเซียวพยักหน้าพลางครุ่นคิด “องค์หญิงหก พระองค์ฉลาดมากเพคะ เรื่องเช่นนี้พระองค์ก็ยังเข้าใจได้”

มู่ไป๋ไป่เชิดหน้าขึ้นพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “แน่นอน!”

“แมลงกู่พวกนั้นน่ากลัวจริง ๆ” หลัวเซียวเซียวถอนหายใจอย่างเป็นกังวล “แม้แต่คนอย่างนักดาบหิรัณย์ที่ต่อสู้เก่ง ๆ ก็ยังต้องตายไปพร้อมกับพวกมัน”

“องค์หญิง พระองค์บอกว่าหากอีกฝ่ายใช้แมลงกู่ในระหว่างสงคราม มันจะกลายเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับแคว้นเป่ยหลงของเราไม่ใช่หรือเพคะ?”

มู่ไป๋ไป่มีสีหน้าเคร่งขรึม “แท้จริงแล้ว… แมลงกู่พวกนี้เป็นสิ่งที่คนพวกนั้นซ่อนเอาไว้เบื้องหลังสินะ”

คงไม่ต้องพูดถึงจุดประสงค์ที่แคว้นหนานซวนสร้างแมลงกู่ประเภทนี้ขึ้นมา ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียดในปัจจุบันระหว่างแคว้นหนานซวนกับเป่ยหลง ไม่แน่ว่าสงครามจะปะทุขึ้นในเร็ววัน

ในช่วงเวลานี้ เธอยังได้ยินมู่จวินฝานกับเซียวถังอี้พูดคุยเกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับแคว้นหนานซวน

คนของแคว้นหนานซวนมีไหวพริบ หากพวกเขาแพ้ให้กับเป่ยหลง พวกเขาคงจะจนตรอกและวางยาพิษใส่ทหาร หากเป็นเช่นนั้นจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเป็นแน่

และมีแนวโน้มว่าชาวบ้านตาดำ ๆ ก็จะโดนหางเลขไปด้วย

เรื่องนี้จะต้องหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด

“เจ้าส้ม เจ้าส้ม!” มู่ไป๋ไป่รีบหันไปสะกิดเรียกแมวอ้วนที่มุดหน้าเข้าไปในจานขนม “ข้าจะควบคุมแมลงกู่นั้นได้หรือไม่?”

ทันใดนั้นเธอก็เกิดความคิดนี้ขึ้นมาในหัว ปัจจุบันเธอเป็นถึงจ้าวอสูรที่สามารถทำให้สัตว์ทุกตัวเชื่อฟังคำสั่งเธอได้

แมลงกู่พวกนั้นก็ถือว่าเป็นสัตว์เช่นกัน!

นั่นหมายความว่าเธอจะสามารถควบคุมแมลงกู่พวกนั้นได้ไม่ใช่หรือ?

“หา?” เจ้าส้มเงยหน้าจากจานขนมอย่างไม่เต็มใจ มันคิดอยู่พักหนึ่งแล้วส่ายหัวตอบ “ข้าไม่รู้ว่ามนุษย์อย่างพวกเจ้าเรียกกู่ว่าอะไร”

“แต่มันฟังดูเหมือนเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่ใช้ควบคุมคนอื่นได้ แบบนั้นเจ้าอาจจะสั่งการมันได้”

“แต่ถ้าสัตว์ประเภทนี้เชื่อฟังเพียงเจ้านายของตัวเองเท่านั้น คำสั่งของเจ้าคงจะไม่ได้ผล”

“แม้แต่ชีวิตตัวเองก็อยู่ในกำมือของผู้เป็นนาย…” มู่ไป๋ไป่พึมพำกับตัวเอง แม้เธอจะไม่รู้ว่าแมลงกู่ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร แต่เธอก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นประเภทที่ 2 ที่เจ้าส้มกล่าวถึง

“องค์หญิง พระองค์ไม่ต้องกังวลมากนักหรอกเพคะ” หลัวเซียวเซียวฟังคำพูดของมู่ไป๋ไป่และคาดเดาการสนทนาระหว่างอีกฝ่ายกับแมวส้มได้คร่าว ๆ นางจึงเอ่ยปากปลอบโยนองค์หญิงหก “ท่านอ๋องส่งคนไปตามหาคนที่มีความรู้เรื่องการใช้แมลงกู่ที่หนานเจียงแล้วไม่ใช่หรือเพคะ?”

“ท่านอ๋องทรงปรีชายิ่งนัก หากเราตามหาคนที่ใช้วิชาแมลงกู่ได้แล้ว ปัญหานี้ก็จะหมดไปไม่ใช่หรือเพคะ?”

“นอกจากนี้หมอเทวดาเจียงก็ยังอยู่ที่นี่”

“ใช่แล้ว!” ดวงตาของมู่ไป๋ไป่เป็นประกาย แต่เธอกับหลัวเซียวเซียวก็ไม่สามารถหยุดความคิดของตัวเองได้

เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ลางสังหรณ์มักจะร้องเตือนเธอว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

เซียวถังอี้ที่ส่งคนไปยังหนานเจียงเพื่อค้นหาผู้ใช้แมลงกู่ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากแคว้นหนานซวนลงมือก่อนที่จะตามหาบุคคลนั้นพบ?

แล้วพวกเธอจะทำเช่นไร?

“เซียวเซียว ไปเอาพู่กันกับกระดาษและหมึกมาให้ข้า!” มู่ไป๋ไป่พูดขึ้นพร้อมกับโบกมือเล็ก ๆ “ข้าอยากจะเขียนจดหมายถึงว่าที่อาจารย์ของข้าสักหน่อย!”

เจียงเหยาเป็นหมอเทวดาอันดับ 1 ในใต้หล้า แม้ว่านางจะไม่สามารถขจัดพิษได้ แต่นางต้องรู้อะไรบางอย่างอยู่บ้าง

อย่างน้อยเธอควรสอบถามนางเอาไว้ก่อน ยามที่คับขันจะได้มีตัวช่วย

ยิ่งคิดเรื่องนี้เด็กหญิงก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองฉลาดมากขึ้นเท่านั้น

“นี่เพคะ!” หลัวเซียวเซียวเดินออกไปสักพัก แล้วก็กลับมาพร้อมพู่กัน, หมึก, กระดาษ และที่ฝนหมึก

จากนั้นนางก็ยืนมององค์หญิงหกเขียนจดหมายด้วยลายมือที่คดเคี้ยว

“เจ้าส้ม พวกสิงโตและสัตว์ตัวอื่น ๆ ยังอยู่ใกล้ ๆ หรือไม่?” มู่ไป๋ไป่สะบัดกระดาษให้น้ำหมึกแห้งก่อนจะม้วนเก็บลงในกระบอกไม้ไผ่

“พวกเขาอยู่ใกล้ ๆ เนี่ยแหละ” แมวอ้วนตอบขณะกลิ้งตัวอยู่บนโต๊ะ “เจ้าคิดจะทำอะไร เจ้าอยากให้ข้าส่งจดหมายนี้ให้พวกเขาหรือไม่?”

“ทำแบบนั้นคงไม่ได้”

“หากมีสัตว์ป่าตัวใดตัวหนึ่งปรากฏตัวที่เมือง ข้าคิดว่ามันคงทำให้คนกลัวจนตายไปเสียก่อน”

มู่ไป๋ไป่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เธอก็ไม่อาจบอกให้ท่านพี่รัชทายาทรู้เรื่องนี้ได้เช่นกัน หากพี่ชายของเธอรู้เข้า เขาคงจะสงสัยว่าเธอรู้เรื่องที่พวกเขาคุยกันที่ห้องโถงได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่เธอเดินขึ้นมาชั้นบนแล้ว

หลังจากเด็กหญิงไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เจ้าสัตว์ประหลาดก็เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอสามารถขอความช่วยเหลือได้

มู่ไป๋ไป่ตบแก้มเรียกกำลังใจก่อนจะออกจากห้องเดินไปหาเซียวถังอี้

“เสด็จอาเล็ก!” คนตัวเล็กลูบหน้าตัวเองก่อนจะยิ้มอย่างไร้เดียงสา จากนั้นก็ทำการเคาะประตู “เสด็จอาเล็ก! ท่านอยู่หรือไม่ ไป๋ไป่ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน!”

เธอคอยอยู่นานแต่คนข้างในก็ไม่ตอบสนอง เธอจึงขมวดคิ้วและเขย่งเท้าเตรียมจะออกแรงเคาะประตูมากขึ้น

แต่แล้วประตูก็เปิดออกจากด้านในอย่างกะทันหัน

มู่ไป๋ไป่ที่ยั้งตัวเองไว้ไม่ทันก็ซวนเซเล็กน้อย แล้วลงไปกองกับพื้นในท่าคล้ายกับกำลังคุกเข่าคำนับ

“...” เซียวถังอี้มองดูเจ้าตัวเล็กที่คุกเข่าอยู่แทบเท้าตน ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเงียบ ๆ “องค์หญิงหกช่างมีมารยาทยิ่งนัก”

เด็กหญิงรีบลุกขึ้นจากพื้นด้วยความโกรธและจ้องคนตรงหน้าเขม็งทั้งที่หน้าผากเปลี่ยนเป็นสีแดง “ใครคำนับให้ท่านกัน!”

“ทำไมท่านไม่ส่งเสียงอะไรก่อนที่จะเปิดประตูล่ะ?”

“ถ้าข้าเป็นอะไรไป ท่านจะชดใช้ไหวหรือไม่?”  

เธอโกรธมาก!

เธอกับเจ้าสัตว์ประหลาดคนนี้ไม่มีวันเข้ากันได้จริง ๆ!

“เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไร?” เซียวถังอี้ไม่มีอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าตัวเล็ก เขาจึงไม่ได้สนใจท่าทีของนาง

มู่ไป๋ไป่เดินกะโผลกกะเผลกเข้าไปหาเขาแล้วยื่นกระบอกไม้ไผ่ที่ตนใส่จดหมายให้กับคนตัวสูงกว่า “นี่ ท่านช่วยส่งจดหมายนี้ไปให้ว่าที่อาจารย์ของข้าได้หรือไม่?”

“ส่งให้เจียงเหยาหรือ?” เซียวถังอี้รับกระบอกไม้ไผ่มาถือไว้ระหว่าง 2 นิ้ว ก่อนจะยกมันขึ้นมาดูต่อหน้า “ทำไมเจ้าถึงต้องส่งจดหมายหาเจียงเหยา?”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Right Reserved.