บันทึก (ไม่ลับ) ของแม่ค้านักเขียน ตอน 3
ลองเป็นแม่ค้าเร่สักหน่อย
โดย ม้าไม้
“หมี่บ้านจ้า หมี่บ้าน...” (ทอดเสียงยาวนิดนึง)
“ขายหมี่แผ่น หมี่ซอย แป้งโม่ค่า”
“หมี่อ่อนมาละเด้อ” (ใส่สำเนียงท้องถิ่นเต็มที่)
เมื่อคิดจะสวมวิญญาณแม่ค้าเร่ก็ต้องจัดเต็มค่ะ ตั้งแต่ชุดที่สวมใส่ เรารู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องไปตระเวนตามหมู่บ้าน ก็ต้องเลือกสวมเสื้อแขนยาว หรือไม่ก็หาเสื้อคลุมทับอีกตัวเพื่อป้องกันแดด ส่วนท่อนล่างนั้นเป็นกางเกงขายาวกับรองเท้าฟองน้ำคู่เก่ง ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหมวกกันน็อก กับหาหน้ากากอนามัยติดกระเป๋าไปด้วย เผื่อต้องเดินเข้าไปในบ้านหรือร้านรวงที่ต้องเว้นระยะกันโควิด นอกจากนี้ก็คือ กระติกน้ำดื่ม เงินทอนเป็นธนบัตรย่อยและเหรียญใส่ย่ามน้อยสะพายติดตัว
สำหรับสินค้าที่จะบรรทุกไป ม้าไม้หาตะกร้าหวายก้นลึกมามัดติดด้านหลังสำหรับใส่หมี่แห้ง และกระเป๋าเก็บความร้อนสำหรับใส่หมี่สดผูกไว้ตรงคอรถ และบางวันก็มีถุงหมี่แห้งวางไว้ในตะแกรงหน้ารถพร้อมกับกระติกน้ำดื่ม
ก่อนออกจากบ้านก็จะต้องวางแผนไว้ก่อนว่าวันนี้จะออกไปหมู่บ้านไหน ส่วนช่วงเวลาที่ออกไปขาย ก็คือ 10.30-11.10 น. เพราะต้องรอให้แผ่นหมี่หมาดพอจะซอยเป็นเส้นได้โดยไม่ติดกันเป็นก้อน สำหรับคนที่อยากจะซื้อหมี่ซอยเพื่อทำยำหมี่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมเพราะใกล้มื้อเที่ยง หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันที่คนกำลังหิวและมองหาอาหารเติมพลังพอดี
การขายในหมู่บ้านของตนเองก็มั่นใจอย่างหนึ่งตรงที่เรารู้จักผู้คนดีแล้ว ไม่ใช่คนแปลกหน้า เพราะมีคนแก่บางคนที่ระมัดระวังตัวมาก ๆ ถึงขนาดต้องซักไซ้ชื่อเสียงเรียงนามของแม่ค้าเสียก่อน รวมถึงรู้จักชื่อพ่อชื่อแม่แล้วนั่นแหละจึงยอมรับและอนุญาตให้เรานำเสนอสินค้าได้ และนั่นก็คือการเปิดตัวที่ดีเพราะท่านยังแสดงน้ำใจพาไปหาเครือญาติที่อยู่ใกล้ ๆ กันด้วย
การขี่ จยย.เร่ขายของต้องใช้ความเร็วต่ำมากนะคะ และต้องขยันแตะเบรกหรือจอดเพื่อลงจากรถคอยหยิบสินค้าโชว์ลูกค้าด้วย เป้าหมายของแม่ค้าเร่ก็คือ ตรงไหนที่มีคน นั่นแหละค่ะคือสัญญาณแห่งความหวัง ไม่ต้องคิดอะไรมาก ขี่รถเข้าไปหาเลย แล้วก็แนะนำสินค้ากับแนะนำตัวสักนิด
สังเกตว่าลูกค้าหมี่มักจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาจเพราะผู้หญิงมักต้องเป็นคนเตรียมเรื่องกับข้าวกับปลานั่นเอง แต่ก็มีแฟนพันธุ์แท้หมี่ที่เป็นผู้ชายบ้างเหมือนกันนะ ซึ่งเราก็จะต้องจดจำเขาให้ได้และควรจะรู้ด้วยว่าบ้านอยู่ตรงไหน เผื่อวันหลังผ่านไปทางนั้นก็จะได้ตามไปขายซะเลย 555
แต่ที่แน่ ๆ เป้าหมายของหมี่สดที่ม้าไม้ออกไปเร่ขายก็คือ ท่าน สว.ในหมู่บ้านค่ะ ประเภทนั่งตำหมากหรือเหลาก้านมะพร้าวอยู่บนแคร่บ้าง ใต้ต้นไม้บ้างนั่นแล กลุ่มนี้จะซื้อกินเพื่อรำลึกความหลัง เพราะไม่ใช่ของกินที่หาซื้อได้อีกแล้วสมัยนี้ คนนึงก็จะซื้อถุงนึง หรือซื้อแล้วแบ่งกันกิน เพราะคนแก่กินไม่มาก
มีคุณยายคนหนึ่ง อายุสักเกือบแปดสิบ เรารู้จักกันดี แต่ม้าไม้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านชอบกินหมี่สดมาก ไม่ว่าแบบแผ่นหรือแบบซอยเส้น ถ้าผ่านไปขายละก็ อุดหนุนทุกรอบ พอรับไปปุ๊บก็เปิดปากถุงหยิบกินทันทีเหมือนเด็ก ๆ ได้ขนม และซื้อสองถุงเป็นอย่างน้อย จนม้าไม้ไม่ค่อยอยากเร่ไปหาทุกวัน เกรงใจคนแก่ค่ะ ไม่รู้ว่าซื้อเพราะสงสารเราด้วยหรือเปล่า
ยังมีสถานที่ขายของสำหรับคนบ้านนอกอีกที่หนึ่งที่ไม่ใช่ตลาดนัดคืออะไรรู้ไหมคะ วัดค่ะ วัดในวันที่มีงานเผาศพนั่นเอง เกือบเป็นตลาดสดเล็ก ๆ เลยทีเดียว แต่ม้าไม้ก็ไม่ได้ไปขายกับเขาหรอกนะ เร่จริง ๆ เร่ไปทั่วหมู่บ้านจนรู้จักเกือบทุกเส้นทางเลยทีเดียว
ถามว่าเป็นไงมั่งชีวิตแม่ค้าเร่ พบเจออะไรที่น่าจดจำมาเล่าสู่กันฟังบ้าง มาว่ากันต่อวันพฤหัสหน้านะคะ
- 👁️ ยอดวิว 862
แสดงความคิดเห็น