บทที่ 164: สั่งสมบุญกุศลด้วยการเลี้ยงอาหารคนจน
“ฮึ เราจะสามารถสั่งสมบุญกุศลด้วยการเลี้ยงอาหารคนจนพวกนั้นได้ด้วยหรือ? ข้าไม่เชื่อหรอก” จินซือซือกอดอกเหลือบมองผู้คนที่มายืนเรียงแถวรอรับโจ๊ก ก่อนจะแค่นเสียงในลำคอด้วยท่าทางรังเกียจ
ทางด้านสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างไม่กล้าพูดอะไร นางจึงทำเพียงแค่ปิดปากก้มหน้าเงียบ
“อย่างไรก็เถอะ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่จวินเซิ่งกลับมาเมื่อไหร่?” เมื่อคืนเด็กสาวรอมู่จวินเซิ่งอยู่นาน แต่ก็ไม่มีวี่แววของเขาเลย
“พวกเราไม่อาจทราบได้เจ้าค่ะ” สาวใช้ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณชายฉินมีวรยุทธสูงส่ง เขาสามารถไปมาโดยไร้ร่องรอย…”
“เฮอะ แน่นอนสิ พี่จวินเซิ่งของข้าเก่งกาจยิ่งนัก!” จินซือซือเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ราวกับว่าสาวใช้คนนั้นไม่ได้เอ่ยปากชมเด็กหนุ่มแต่เป็นนางเอง “ข้าจะต้องแต่งงานกับพี่จวินเซิ่ง เจ้านี่มันโง่เขลายิ่งนัก ถ้าวันนี้เจ้าไม่สามารถตามหาพี่จวินเซิ่งมาให้ข้าได้ก็ไปเอาแส้มาโบยตัวเองซะ!”
ในตระกูลจินมีกฎครอบครัวอยู่ หากคนรับใช้ทำผิดจะถูกเฆี่ยนตีตามกฎ
สาวใช้คนนั้นจึงตัวสั่นสะท้านเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นนาย นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องทำตามที่อีกฝ่ายพูดขณะคอยสังเกตคุณชายฉินอยู่ตลอด
ในตอนที่มู่ไป๋ไป่ตามผู้เป็นพี่ชายไปที่จวนตระกูลจิน คนที่มาต่อแถวรับโจ๊กก็ยาวเป็นหางว่าว และจากระยะไกลเธอก็เห็นจินซือหยางแจกจ่ายโจ๊กในสภาพที่มีเหงื่อโทรมกาย
“แม้ว่านักดาบหิรัณย์คนนี้จะเป็นจอมยุทธ์ แต่เขาก็มีจิตใจดีทีเดียว” มู่จวินฝานพูดพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ “ช่างเป็นคนดีจริง ๆ”
เดิมทีมู่ไป๋ไป่ค่อนข้างอยากรู้ว่าจอมยุทธ์หัวรุนแรงจะเลี้ยงลูกชายที่ดูซื่อบื้ออย่างจินซือหยางได้อย่างไร
แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว
แม้นนักดาบหิรัณย์จะมีอายุ 50 ปีแล้ว ถึงกระนั้นเขาก็ยังแข็งแรงมากและมีท่าทางน่าเกรงขาม มองเพียงชั่วอึดใจแรกก็บอกได้ว่าเขาเป็นคนที่เที่ยงธรรมและกล้าหาญ
“ท่านพ่อ! 2 คนนี้คือคนที่ข้าเล่าให้ท่านฟังเมื่อวันก่อน” จินซือหยางเห็นมู่จวินฝานกับมู่ไป๋ไป่ก่อน เขาจึงรีบแนะนำแขกทั้ง 2 ให้บิดารู้จัก “นี่คือพี่น้องตระกูลเซียว”
นักดาบหิรัณย์เองก็เป็นคนที่อัธยาศัยดีมากเช่นกัน เขายิ้มและก้าวเข้าไปกอด 2 พี่น้องพร้อมกับกล่าวทักทายว่า “เจ้า 2 คนนี่เอง ข้าได้ยินมาว่าเราทำให้พวกเจ้าต้องพบเจอเรื่องไม่ดีในเมืองชิงหยางเมื่อไม่กี่วันก่อน”
“ข้าต้องขออภัยพวกเจ้าด้วย”
“ทำไมท่านถึงต้องขอโทษพวกเราด้วย?” มู่ไป๋ไป่เอียงหัวถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ “ท่านเป็นขุนนางฝ่ายปกครองในเมืองชิงหยางหรือเจ้าคะ?”
นักดาบหิรัณย์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “เด็กน้อยคนนี้หน้าตาน่าเอ็นดูยิ่งนัก ข้าไม่ใช่ขุนนางในเมืองชิงหยาง แต่เจ้าเจ็ดที่คุกคามพวกเจ้าทั้ง 2 ในวันนั้นมาที่นี่ก็เพราะข้า”
หากมองเช่นนี้แล้ว ข้าก็ควรจะขอโทษพวกเจ้าทั้ง 2”
เด็กหญิงเลิกคิ้วขึ้นเงียบ ๆ ในขณะที่คิดว่าผู้ชายคนนี้ดูเหมือนวีรบุรุษที่เป็นคนตรงไปตรงมาในนิยายมากจริง ๆ
“คุณชายเซียว คุณหนูเซียวเชิญเข้าไปด้านในเถอะ แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเกิดของข้า แต่ข้าก็แค่อยากหาเหตุผลจัดงานรื่นเริงให้ทุกคนได้มาร่วมสนุกกัน”
“หลังจากวันนี้ ข้าก็จะถอนตัวออกจากยุทธภพและจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในยุทธภพอีกต่อไป”
มู่จวินฝานได้หันไปกระซิบบอกองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างให้มอบของขวัญอวยพรแก่อีกฝ่าย จากนั้นเขาก็กล่าวคำอวยพรให้กับนักดาบหิรัณย์ ก่อนที่เขาจะพามู่ไป๋ไป่เดินเข้าไปในจวนตระกูลจิน
ขณะเดียวกัน ทางด้านอวี้เซิ่งเดินตาม 2 พี่น้องมาติด ๆ เขากวาดตามองไปรอบ ๆ พร้อมกับความปรารถนาอันแรงกล้าที่ซ่อนอยู่ในนั้น
“เชิญคุณชายและคุณหนูมาดื่มชาที่ลานบ้านกันก่อน” จินซือหยางให้การต้อนรับขับสู้แขกทั้ง 2 เป็นอย่างดี พร้อมกับคอยพูดคุยแนะนำส่วนต่าง ๆ มาตลอดทาง “น้องเซียว ข้ามีน้องสาวอยู่คนหนึ่งที่อายุใกล้เคียงกับเจ้า ข้าจะให้นางมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าดีหรือไม่?”
มู่ไป๋ไป่ไม่ได้คิดอยากเล่นกับคนอื่น แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ที่เธอมาที่นี่ในวันนี้ เธอจึงพยักหน้ารับเบา ๆ
ในเวลาเดียวกัน จินซือซือรู้สึกลังเลเล็กน้อยในตอนที่ถูกเรียกตัวไป เมื่อนางเห็นเด็กผู้หญิงที่เหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบนั่งอยู่ที่ลานหน้าบ้าน นางก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของท่านพ่อของนาง คนที่โดดเด่นที่สุดควรจะเป็นนางที่เป็นถึงแก้วตาดวงใจของคนในตระกูลไม่ใช่หรือ?
ทว่าตอนนี้กลับมีเด็กหน้าตาน่าเอ็นดูคนหนึ่งมานั่งอยู่ภายในงาน มันหมายความว่าอย่างไร?
“ท่านพี่ นางเป็นใคร?!” จินซือซือจ้องมู่ไป๋ไป่ด้วยสายตาเกลียดชัง “ทำไมข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน? คนผู้นี้เสนอหน้ามาร่วมงานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่?”
“ซือซือ! เจ้ากำลังพูดอะไรน่ะ?” จินซือหยางรู้สึกเสียหน้าและยิ้มแหย ๆ ให้กับมู่จวินฝานและมู่ไป๋ไป่ “น้องสาวข้าถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เสียคนเช่นนี้ แต่นางเป็นเด็กที่มีจิตใจดี”
มู่ไป๋ไป่สัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรูจากจินซือซือตั้งแต่แรกพบ พอเห็นว่าอีกฝ่ายรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น เธอก็ยิ่งอยากจะหัวเราะ
นี่ไม่ใช่บุคลิกเดียวกับมู่เชียน องค์หญิงใหญ่ของเธอหรอกหรือ?
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” คนตัวเล็กทำหน้าไร้เดียงสาขณะพูดออกมาอย่างเชื่อฟัง “ข้าไม่ถือสาพี่สาว”
ปกติเธอเป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้เธอทำตัวน่ารักมาก เช่นนี้มันจะไม่ทำให้หัวใจของคนอื่นละลายได้อย่างไร?
คงมีเพียงอวี้เซิ่งที่อยู่ด้านหลังและเซียวถังอี้ที่หลบอยู่บนหลังคาเท่านั้นที่ยังคงรักษาสีหน้าไร้ความรู้สึกเอาไว้ได้
พวกเขาทั้ง 2 เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าตัวเล็กมาแล้ว นางเพียงแค่แสร้งทำเป็นเชื่อฟัง แต่ในความเป็นจริงนั้นนางซุกซนยิ่งกว่าที่เห็นเสียอีก
“น้องเซียวเก่งมาก” จินซือหยางมองมู่ไป๋ไป่ด้วยความรู้สึกอิจฉา เนื่องจากเขาเองก็อยากมีน้องสาวที่น่ารักแบบนี้เช่นกัน
“นี่เจ้ากล้าเมินข้าอย่างนั้นหรือ!?” จินซือซือโกรธจนเนื้อเต้น “ที่นี่คือบ้านของข้า! ควรเป็นข้าต่างหากที่ไม่สนใจเจ้า”
“ท่านพี่! ข้าไม่ชอบนาง รีบไล่นางออกไปเร็วเข้า!”
เด็กสาวกล่าวในขณะที่เอื้อมมือออกไปหมายจะผลักมู่ไป๋ไป่
มู่จวินฝานที่ยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านข้างมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่เขากำลังจะลงมือ เขาก็บังเอิญเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของน้องสาว จากนั้นนางก็เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย
ทางด้านจินซือซือที่ไม่คิดว่าเด็กหญิงจะหลบก็ออกแรงโถมตัวไปด้านหน้าเต็มที่ ทำให้นางเสียการทรงตัวล้มลงกระแทกกับพื้น
“อุ๊ย!” มู่ไป๋ไป่แสร้งร้องเสียงดัง “พี่สาว ทำไมท่านถึงได้ล้มลงไปกองกับพื้นเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ!”
“ท่านเจ็บหรือไม่?”
“ให้ข้าไปเรียกหมอให้ดีหรือไม่เจ้าคะ?”
ในที่สุดร่างกายที่ตึงเครียดของมู่จวินฝานก็ผ่อนคลายลง ก่อนที่เขาจะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับคิดในใจว่าคนในตระกูลมู่ของเขาไม่มีทางยอมให้ใครมารังแกง่าย ๆ แน่
“เจ้า! นี่เจ้าจงใจ!” จินซือซือเงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบตัวแล้วรู้สึกอับอายขายขี้หน้า
“เจ้าจะมัวยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม รีบมาช่วยข้าสิ!”
“คอยดูเถอะ ข้าจะให้ท่านพ่อไล่พวกเจ้าออกไปเร่ร่อนอยู่ตามถนน!”
สาวใช้ตัวสั่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงตะคอกของผู้เป็นนายแล้วจึงรีบก้าวออกไปช่วยพยุงนางขึ้นจากพื้น
“คุณหนูจิน เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายกับสาวใช้ของท่านเช่นนี้เจ้าคะ?” หลัวเซียวเซียวที่อยู่ด้านข้างรู้สึกทนไม่ไหว นางคอยรับใช้มู่ไป๋ไป่มานาน แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยปฏิบัติกับนางเช่นนั้นมาก่อน
“เจ้าเป็นใคร?” จินซือซือเหลือบมองเด็กหญิง “เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงมาพูดกับข้า?”
“ท่านพี่ ท่านเชิญใครมากันแน่?”
“วันนี้เป็นวันเกิดของท่านพ่อ ถ้าคนพวกนี้มาทำลายวันเกิดของท่านพ่อล่ะจะทำอย่างไร?”
“หุบปาก!” จินซือหยางเริ่มรู้สึกเสียใจที่เรียกน้องสาวออกมา ก่อนที่เขาจะหันไปสั่งสาวใช้ “รีบพาคุณหนูกลับเข้าไปในห้องซะ”
“ข้าไม่ไป!” จินซือซือดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง “ข้าอยากอยู่ที่นี่ ข้าจะจัดการนังเด็กคนนี้!”
มู่ไป๋ไป่ทำหน้าสับสนที่เห็นเด็กสาวชี้หน้าตน ซึ่งท่าทางนั้นยิ่งทำให้อีกฝ่ายกัดฟันแน่น
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ยังไม่รู้ตัวอี๊กว่าใครกันแน่ที่จะทำลายงานวันเกิดพ่อตัวเอง แค่เห็นหน้าน้องก็เกลียดกันขนาดนี้แล้วเหรอ อะไรจะขี้อิจฉาขนาดนั้นนนน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 66
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น