บทที่ 163: ตามหายาถอนพิษ
“ท่านกำลังพูดถึงหมอวิเศษเจียงเหยาหรือไม่?” ดวงตาของอวี้เซิ่งเริ่มมีประกายบางอย่างคลุมเครือ “เจียงเหยาหาตัวยากจริง ๆ แล้วก็เป็นคนแปลกประหลาดมากด้วย”
“ถ้านางรู้ว่าท่านกำลังตามหาตัวนาง นางอาจจะปรากฏตัวในเมืองชิงหยางในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้”
เซียวถังอี้เหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเฉยเมย และชายหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงสายตาข่มขู่นั้น เขาจึงหัวเราะแห้ง ๆ ก่อนจะถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว
เขากับเซียวถังอี้เคยประมือกัน 2 ครั้ง แม้ว่าจะไม่มีใครแพ้หรือชนะ แต่เขารู้สึกว่าอีกคนยังไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่
ดังนั้นมันคงจะดีกว่าที่เขาจะไม่ไปทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ขุ่นเคือง
ไม่นานนกพิราบก็บินออกไปนอกหน้าต่างและหายตัวไปบนท้องฟ้า
อีกด้านหนึ่งที่ชั้นบน มู่ไป๋ไป่ขมวดคิ้วถามว่า “ท่านพี่ ยาชนิดนี้มียาถอนพิษหรือไม่ ขอเพียงแค่เราสามารถหายาถอนพิษได้ เราจะสามารถทำลายแผนการของแคว้นหนานซวนลงสำเร็จใช่หรือไม่?”
“ในปัจจุบันเรายังไม่มียาถอนพิษ” มู่จวินฝานมีสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย หลังจากได้รู้การมีอยู่ของยาชนิดนี้ เขาก็ได้ไปเสาะหาหมอท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงเพื่อมาทำการตรวจสอบทันที
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายบอกว่าตนไม่เคยพบยาชนิดนี้มาก่อนจึงไม่สามารถหาทางแก้ได้
“แก้ไม่ได้…” มู่ไป๋ไป่เม้มริมฝีปาก เธอไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะไม่มีพิษชนิดใดที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของเธอ “ไม่สิ ตอนที่เราอยู่ในศาลาหมื่นอสูร ยาที่ใช้กับสัตว์ป่าพวกนั้นต้องขาดไปบางส่วนแน่นอน”
“แม้ว่ายาที่เอาให้สัตว์ป่ากินในเวลานั้นจะไม่แรงเท่ากับยาเม็ดนี้ แต่ยาที่เขาใช้ในตอนนั้นมีวิธีที่สามารถล้างพิษได้ เราก็ควรทำการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทียบยานั้น…”
“อืม…” คนตัวเล็กรู้สึกปวดหัวจนต้องยกมือขึ้นเกาหัวจนผมยุ่ง ยามนั้นคนของศาลาหมื่นอสูรทำหน้าที่จ่ายยา และเธอก็ไม่ได้สนใจมันอีกเลย “เรื่องนี้ข้าจะต้องไปถามพี่เสิ่น”
มู่จวินฝานได้ยินมู่ไป๋ไป่พูดถึง ‘พี่เสิ่น’ มากมายในระหว่างการเดินทางแล้วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่รู้ว่าเขาเป็นเถ้าแก่ของหอไป่เฉ่า “เยี่ยมมาก”
จากนั้นเด็กหญิงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เธอสั่งให้หลัวเซียวเซียวไปหยิบกระดาษกับพู่กันมา ในไม่ช้าเธอก็เริ่มเขียนจดหมาย
หอไป่เฉ่ามีสาขาอยู่มากมายทั่วแคว้นเป่ยหลง เสิ่นจวินเฉาเคยบอกกับเธอว่าหากเกิดอะไรขึ้น ให้เธอส่งข่าวไปที่หอไป่เฉ่า และเขาจะได้ข่าวในไม่ช้า
มู่ไป๋ไป่เดาว่าหอไป่เฉ่ามีช่องทางติดต่อกับเขาโดยตรง ดังนั้นเธอจึงส่งจดหมายที่เป็นลายมือของตัวเองให้เจี่ยอี เพื่อขอให้เขาส่งมันไปยังหอไป่เฉ่าสาขาที่ใกล้ที่สุด
“พี่เสิ่นบอกว่าข่าวที่ถูกส่งระหว่างสาขาของหอไป่เฉ่ารวดเร็วมาก อีกไม่นานจดหมายตอบกลับคงจะถูกส่งมา”
มู่จวินฝานถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบรู้สึกดีใจที่ในครั้งนี้เขาพาน้องสาวมาด้วย ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาในการค้นหาคำตอบเรื่องนี้นานเท่าไหร่
“หลังจากที่เราคลี่คลายเรื่องของแคว้นหนานซวนและเดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว ข้าจะไปขอบคุณคุณชายเสิ่นด้วยตัวข้าเอง”
“อิอิ ได้เลยเพคะ” มู่ไป๋ไป่พยักหน้าอย่างมีความสุข “พี่เสิ่นเป็นคนดีมาก ข้ามั่นใจว่าท่านพี่จะต้องเข้ากับเขาได้แน่”
หลังจากเด็กหญิงจัดการเรื่องยาพิษเสร็จแล้ว เธอก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เธอจึงกลับไปที่ห้องและอยู่แต่ในนั้นไม่ออกไปไหน
…
ทางด้านซุนเต๋อเซิ่งยังคงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนที่ใช้ดาบทั่วเมืองชิงหยาง จนกระทั่งตอนนี้มีคนถูกขังอยู่ในคุกเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังหาฆาตกรที่ฆ่าเจ้าเจ็ดไม่พบ มันทำให้เขากระสับกระส่ายอยู่พักหนึ่ง
“ใต้เท้า...” คนเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่เดินกะโผลกกะเผลกเอามือกุมก้นที่ถูกโบยเข้ามารายงานว่า “เราได้ตรวจคนทั้งเมืองแล้วขอรับ”
“ตอนนี้คนที่อยู่ในคุกกำลังโวยวายว่าเราใช้อำนาจในทางที่ผิด”
“เช่นนี้เราควรทำอย่างไรต่อไปดีขอรับ?”
ซุนเต๋อเซิ่งจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาโกรธเคืองพร้อมกับตวาดเสียงดังว่า “ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดของเจ้า! ใครใช้ให้เจ้าไปแตะต้องคนผู้นั้น!”
คนที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รีบถอยหนีทันทีที่ถูกดุ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัยว่า “ใต้เท้า คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่ขอรับ?”
“ดูเหมือนว่าเขาจะมาจากเมืองหลวง เขาคงไม่ได้มาจากตระกูลขุนนางยศสูงใช่หรือไม่?”
ในบรรดาขุนนางของราชสำนัก คนที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นขุนนางที่อยู่ในเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีเชื้อพระวงศ์อีก
“เฮอะ” ซุนเต๋อเซิ่งมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเยาะเย้ย “เจ้ามันโง่ ข้าจะบอกให้ว่าถ้าเรื่องนี้ยังจัดการไม่เรียบร้อย ทั้งเจ้าและข้าหัวจะหลุดออกจากบ่า!”
คนผู้นั้นเป็นถึงองค์รัชทายาท!
ใครจะไปคาดคิดว่าทำไมองค์รัชทายาทถึงเดินทางมาที่เมืองชิงหยาง!
หากพวกเขาไม่สามารถจับฆาตกรที่ก่อคดีฆาตกรรมเจ้าเจ็ดได้ องค์รัชทายาทคงจะรายงานเรื่องนี้ให้กับฝ่าบาท แล้วเขาก็จะไม่สามารถรักษาหัวของตัวเองเอาไว้ได้
“ถึงขั้นต้องถูกตัดหัวเลยหรือ?” คนของทางการอ้าปากค้าง “ร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือขอรับ?!”
ชายสูงวัยเดินไปรอบ ๆ ห้องพลางคิดหนัก “เจ้าไปสอบปากคำผู้ต้องสงสัยในคุกอีกครั้ง และอย่าได้มองข้ามรายละเอียดแม้เล็กน้อย”
“เข้าใจหรือไม่?”
ชายคนนั้นพยักหน้ารับซ้ำ ๆ เขาหันหลังกลับไปไม่ทันไรจู่ ๆ เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันกลับมาพูดกับอีกฝ่ายว่า “ใต้เท้า คนของเรายังไม่ได้ไปสอบปากคำที่จวนตระกูลจินเลยขอรับ”
“ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น ทั้งนายท่านและคุณชายตระกูลจินต่างก็ใช้ดาบขนาดใหญ่ ท่านบอกว่า—”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องนี้หรือ?” ซุนเต๋อเซิ่งมองลูกน้องด้วยความโกรธ “แต่เจ้าลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร!”
พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของนักดาบหิรัณย์ หากเขาพาคนไปสอบปากคำอีกฝ่ายในเวลานี้ หรือแม้แต่การไปพาตัวคุณชายของตระกูลจินกลับมาสอบสวน การทำเช่นนั้นมันไม่ต่างจากการหักหน้านักดาบหิรัณย์หรอกหรือ?
ท้ายที่สุดแล้ว องค์ชายพระองค์นี้ก็เดินทางไกลมาจากเมืองหลวง หลังจากเสร็จธุระเขาก็กลับไป และเมืองชิงหยางก็จะกลับคืนสู่ความสงบสุขเช่นเคย
แต่หากเขาไปหาเรื่องนักดาบหิรัณย์ที่อาศัยอยู่ในเมืองชิงหยาง ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร?
เหตุผลที่ประชาชนในเมืองชิงหยางสามารถอยู่ได้อย่างสงบสุขดั่งเช่นทุกวันนี้ก็เป็นเพราะนักดาบหิรัณย์มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก
และอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีหน้ามีตาเช่นกัน
“ใช่ ๆๆ” เมื่อชายคนนั้นเห็นว่าตนพูดผิดอีกแล้ว เขาก็ไม่กล้ารั้งอยู่อีกต่อไป เขาจึงรีบหันหลังวิ่งหนีไปทันที
ทางด้านซุนเต๋อเซิ่งทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะและถอนหายใจอีกครั้งพร้อมกับสวดภาวนาขอให้การตายของเจ้าเจ็ดไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจิน
วันรุ่งขึ้น ก่อนรุ่งสาง มีเสียงประทัดดังมาจากฝั่งหนึ่งของเมืองชิงหยางไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
ฮูหยินของนักดาบหิรัณย์เป็นคนใจดี นางได้จัดเตรียมโจ๊กและบะหมี่เอาไว้แจกจ่ายให้ชาวบ้านเป็นพิเศษ จากนั้นก็มีหลายคนเข้ามาร่วมอวยพร
ดังนั้นในตอนเช้าทางเข้าของจวนตระกูลจินจึงคึกคักมาก
“ฮึ! ซือซือไม่อยากไปแจกโจ๊กให้คนพวกนั้นหรอกนะ” จินซือซือดึงกระโปรงตัวใหม่ของตัวเองพลางทำท่ายียวนใส่ผู้เป็นแม่ “คนพวกนั้นสกปรกจะตาย จะทำอย่างไรถ้ากระโปรงใหม่ของซือซือเปื้อน?”
“ซือซือ เจ้าอย่าเอาแต่ใจ” ฮูหยินจินไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวคนเล็กของนางถึงได้นิสัยแย่ขึ้นเรื่อย ๆ นางมีนิสัยไม่เหมือนสามีและลูกชายคนโตของนางเลยสักนิด “การให้ทานถือว่าเป็นการสั่งสมบุญกุศลให้กับตระกูลจินของเรา”
เด็กสาวรู้สึกไม่พอใจที่ถูกดุ นางเม้มปากเล็ก ๆ และบอกว่าตนไม่อยากออกไปแจกโจ๊ก
ฮูหยินจินไม่อาจบังคับจินซือซือได้ ดังนั้นนางจึงต้องเรียกคนมาช่วยดูแลลูกสาวในขณะที่ตนเดินไปที่ด้านหน้าเพื่อช่วยนักดาบหิรัณย์และจินซือหยางรับแขก
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 86
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น