บทที่ 8...1/3
พิธีกรเป็นคนกล่าวเปิดงานโดยบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ของงานวันนี้จะมีโลโก้อยู่ที่หน้าจอบนเวที ซึ่งคนในวงการเดียวกันรู้อยู่แล้ว หลังจากนั้นเป็นโชว์ของนักร้องชายชื่อดังที่มีโฆษณาอยู่หลายตัว แขกในงานพากันถ่ายคลิปกันพร้อมกับมีเสียงกรี๊ดจากบางคนที่น่าจะเป็นแฟนคลับของนักร้องท่านนี้อยู่พอดี วรการถ่ายคลิปเช่นกัน เขาบอกกับมีนาว่าแฟนขอให้ถ่ายแล้วส่งไปให้ ช่างเป็นแฟนที่น่ารักจนมีนาบอกว่าจะถ่ายให้แทนเพราะท่าทางเขินๆ ของเขาดูไปก็ทั้งน่ารักและน่าสงสารอยู่เหมือนกัน
วนัทยืนมองเฉยๆ เพราะรายการที่เขาสนใจคือนางแบบที่จะออกมาเดินแบบต่างหาก แม้จะใกล้แต่งงาน แต่แค่มองเป็นอาหารตาคงไม่เป็นอะไร บางทีวนัทก็สงสัยว่าชีวิตหลังแต่งงานของเขาจะมีความสุขไปตลอดหรือเปล่า การที่คบกับมุกดามา 7 ปี เขารู้สึกว่านิสัยบางอย่างของตัวเองและมุกดามันไปกันไม่ได้ ทำให้มีเรื่องทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆ ก่อนจะจบลงที่เราต่างผลัดกันง้อ
มีนาหันไปเห็นเขมินท์นั่งอยู่อีกฝั่งของงาน เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ เสียด้วย งานสำคัญแบบนี้อย่างไรเสียเขมินท์ก็ต้องได้รับเชิญมา แต่ว่าผู้ชายที่กำลังจะเดินออกไปจากงานใช่พิธยาไหม เธอค่อนข้างแน่ใจว่าใช่ เขามางานได้เพราะอะไร เขาอยู่ในวงการอสังหาฯ หรือว่าเบญญามาเดินแบบในงานนี้ นายนั่นถึงได้ตามมา
“จะเดินแบบกันแล้ว พี่ได้ยินมาว่าชุดที่นางแบบใส่คือแบรนด์ Phoebe แบรนด์นี้ใช่ไหมที่มีนกำลังออกแบบห้องเสื้ออยู่น่ะ”
มีนาหยักหน้า “มีนก็เพิ่งรู้เหมือนกันค่ะพี่นัทว่าวันนี้นางแบบนี้ใส่ชุดของแบรนด์นี้”
ถ้าเจ้าของแบรนด์ Phoebe มาที่นี่ แล้วตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน ป่านนี้เขมินท์คงได้พบกับพริมาแล้วกระมัง การเลิกกันที่ภาคินบอกว่าอย่าใช้คำว่าเลิก มีนาไม่เข้าใจนักว่ามันหมายถึงอะไร ตอนนั้นพ่อแม่ของเขมินท์เสียทั้งคู่ ภาคินเองก็เสียพ่อไปเช่นกัน ทำให้สองพี่น้องเศร้าเสียใจมาก แต่เขมินท์คงหนักหนากว่า แต่ในเวลานั้นพริมากลับเดินทางไปต่างประเทศ แล้วชื่อของผู้หญิงคนนี้ก็จางหายไปจากความทรงจำของมีนา จนกระทั่งเด่นชัดขึ้นในตอนนี้
เสียงเพลงดังขึ้นในจังหวะที่กึ่งช้ากึ่งเร็ว นางแบบเดินออกมาในชุดที่เน้นรูปร่าง ทว่าคงไว้ซึ่งความเท่และหรูหราในเวลาเดียวกัน มีนาคงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สนใจชุด แต่เธอสนใจนางแบบที่กำลังเดินออกมาคนล่าสุดในชุดเกาะอกกับกางเกงแหวกสูง เบญญามาเป็นนางแบบในวันนี้ตามคาด มีนาไม่เบี่ยงหน้าหลบเมื่อเบญญาจงใจจ้องมองมา
เขมินท์เห็นมีนาตั้งแต่ตอนที่คุยกับพริมาแล้ว แต่เธอมากับเพื่อนร่วมงานเขาเลยมองอยู่ห่างๆ ทว่าตอนนี้มีเบญญามาอยู่ในงานนี้อีกคน น่าจะมีเรื่องให้เขาต้องห่วงแล้ว
“แฟนของพี่ก็ชอบแบรนด์นี้เหมือนกัน หลังงานพี่จะพามีนไปแนะนำกับคุณพริมานะ” วรการบอกมีนาพลางถ่ายรูปชุดไว้ เผื่อว่าแฟนจะชอบอีกเช่นเคย
“ดีเหมือนกันค่ะคุณการ”
การที่มีนาเคยพบพริมาแค่ไม่กี่ครั้งเมื่อนานมาแล้ว พริมาคงจำเธอไม่ได้กระมัง อีกทั้งเริ่มอย่างเป็นทางการไว้ก่อนคงดีกว่า ถ้าพริมาจำเธอได้ค่อยว่ากัน
นางแบบออกมาเดินครบทุกชุดแล้ว พิธีกรของงานจึงอธิบายว่าแบรนด์ Phoebe ของพริมาเพิ่งจบไป แล้วคนออกแบบชุดทั้งหมดคือหญิงสาวที่ไฟจากสปอร์ตไลท์ส่องให้โดดเด่นเพียงผู้เดียว แขกในงานพากันปรบมือและถ่ายรูปเธอกันยกใหญ่ บางคนใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Phoebe มาที่งานนี้ด้วยซ้ำ จึงโชคดีเมื่อได้พบเจ้าของผลงานแบบใกล้ชิด
“ทั้งสวย ทั้งเก่ง ทำไมพี่ไม่ได้ทำโปรเจคนี้นะ” วนัทพูดเสียงเบากับมีนา
มีนาอยากตอบไปเหมือนกันว่าเพราะวรการดูที่นิสัยการทำงานด้วยไง วนัทถึงไม่ได้ทำงานนี้ แม้ว่าวนัทจะไม่เคยทำรุ่มร่ามกับลูกค้าที่เป็นผู้หญิงมาก่อน แต่ถ้ามีครั้งแรกเมื่อไหร่ ชื่อเสียงของบริษัทได้จมดินแน่ วงการนี้กว้าง แต่ก็แคบหากเป็นเรื่องแบบนั้น
ความบันเทิงรายการต่อมาเป็นทอล์คโชว์ของดีเจชื่อดังซึ่งมีมุกตลกที่ทำให้หัวเราะได้เรื่อยๆ สลับกับงานคลิปวิดีโอสินค้าของบริษัทต่างๆ แม้จะเป็นงานขอบคุณ แต่ก็ต้องต่อยอดการขายไปด้วย วรการใช้ช่วงเวลานี้แนะนำมีนากับวนัทให้บริษัทที่เกี่ยวกับงานก่อสร้างให้ได้รู้จักไว้ หากต้องติดต่องานกันในอนาคตจะได้สะดวกและง่ายขึ้น นี่คืออานุภาพของคอนเนคชั่นที่มีนาคงจะได้ใช้ในอนาคต
วรการทักทายเขมินท์เพราะเคยพบกันอยู่หลายครั้ง มีนาชักทำตัวไม่ถูกว่าจะเรียกเขมินท์ว่ายังไงดี การแสดงตัวว่ารู้จักเขาในตอนนี้มันจะดีไหมนะ เขาจะเมินใส่เธอหรือเปล่า ความที่มัวคิดอะไรวุ่นวายไปคนเดียวทำให้ไม่รู้สึกตัวว่าถูกวรการเรียกซ้ำ
“มีน...มีนเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ เปล่าค่ะคุณการ” มีนายิ้มเก้อๆ
เขมินท์มองมาที่มีนาแล้วยิ้มบาง ในงานที่คนอึกทึกแบบนี้ มีนากำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้เหม่อไปแบบนั้น
วรการพลอยยิ้มไปด้วย เขมินท์ไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยจากที่เขารู้จักมาหลายปี แม้จะคุยกันเรื่องงานเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม
“ขอโทษด้วยนะครับคุณเขม นี่มีนาเป็นน้องเล็กสุดในทีมของรักษ์บ้านครับ”
มีนากำลังจะยกมือไหว้เขมินท์ แต่เขากลับเอ่ยขึ้นเสียก่อนอย่างกับรู้ว่าเธอกำลังทำตัวไม่ถูก
“ผมรู้จักมีนมานานแล้วครับ ตั้งแต่มีนเด็กๆ เห็นการเติบโตมาตลอด ผมดีใจที่มีนได้ทำงานกับคุณการนะครับ”
วนัทกับวรการพากันมองเขมินท์สลับกับมีนาไม่คิดว่าสองคนนี้ไม่ใช่แค่รู้จักกันเผินๆ แต่รู้จักกันมานานอีกด้วย การมีคอนเนคชั่นกับบริษัทที่ใหญ่ติด 1 ใน 5 ของประเทศนับเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
“ไม่เล่าให้ฟังกันบ้างเลยนะมีน” วนัทได้ทีแซวแบบน้ำเสียงสุภาพ
“พอดีว่าบ้านพี่เขมกับบ้านของมีนอยู่ใกล้ๆ กันน่ะค่ะ” มีนาเลี่ยงคำเพราะจริงๆ แล้วกำแพงติดกันเลยต่างหาก
วนัทยิ้มกริ่มอย่างกับว่ามีนามีความลับที่น่าสนใจอะไรปานนั้น สายตาของเขมินท์มองผ่านไปเหนือไหล่ของมีนา แล้วก่อนที่ใครจะทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เอวของมีนาก็ถูกเขมินท์คว้ากอดแล้วเหวี่ยงเบาๆ ให้มาหลบข้างหลังเขาได้อย่างหวุดหวิดพร้อมๆ กับไวน์สีแดงที่สาดเข้ามากระเด็นใส่เต็มหลังของวนัท รวมทั้งเสื้อสูทด้านหน้าของเขมินท์ เกิดเสียงอื้ออึงจากผู้คนในงานทันที
“แก...!” เบญญาชี้นิ้วไปที่เขมินท์ แต่เป้าหมายของเธออยู่ข้างหลังเขาต่างหาก
พริมาเข้ามาร่วมวงคนดูด้วยความอยากรู้ว่าผู้หญิงที่มาชี้หน้าเขมินท์เป็นใคร คนในงานพากันยกโทรศัพท์ออกมาเพื่อถ่ายคลิปอย่างสนใจใคร่รู้
“ทำอะไรน่ะเบญ เมาแล้วก็กลับเถอะ” ผู้จัดการของเบญญาหน้าเสียรีบเข้ามาจับแขนของนางแบบสาว แต่กลับถูกเบญญาสะบัดแรงๆ จนล้มลง
มีนาก้าวออกมายืนข้างๆ เขมินท์เพราะคนที่เบญญาอยากหาเรื่องไม่ใช่เขา แต่เป็นเธอต่างหาก เขาไม่ควรมาเดือดร้อนไปด้วย
“เจอตัวสักทีนะนังตัวดี” เบญญาส่งเสียงแผดลั่น กล้องจากโทรศัพท์เบี่ยงไปยังผู้หญิงที่ทุกคนในงานได้รู้จักกันหมดเพราะเบญญา “ทุกคน...เคยเห็นผู้หญิงหน้าด้านไหม ถ้าไม่เคยมาดูนังนี่ไว้ค่ะ”
เขมินท์จับข้อมือของมีนาไว้ จู่ๆ มาถูกทำแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าเธอจะควบคุมความโกรธไปได้นานเท่าไหร่
“ถ้าคุณยังพูดอะไรให้ร้ายมีนกับน้องชายผมซึ่งเป็นอดีตคนรักของคุณเสียหาย การฟ้องร้องคงทำให้คุณคิดได้นะ”
ความเมาแต่ยังพอจะหลงเหลือสติอยู่บ้าง ทำให้เบญญารู้ว่าการฟ้องร้องไม่ใช่เรื่องน่าเข้าไปข้องเกี่ยวสักเท่าไหร่ แต่เธอไม่เชื่อว่าภาคินจะยอมให้เกิดเหตุการณ์ฟ้องร้องหรอก แล้วยิ่งเป็นพี่ชายที่เขาบอกว่าอยากเอาชนะมาตลอด
“ฉันไม่กลัว ทำไม ฉันพูดอะไรผิดตรงไหน นังนี่มันทำให้ฉันเลิกกับคิน เพื่อที่ตัวเองจะได้เอาเพื่อนมาทำแฟนสักที ตอนนี้สมใจแล้วล่ะสิท่า”
มีนากำมือแน่นรู้สึกโกรธจนเกิดคำถามว่าที่ผ่านมาภาคินไม่เคยเห็นธาตุแท้ของเบญญาเลยหรือไง ตอนแรกเธอคิดว่าเบญญาคงหึงหวงธรรมดา พอเธอเว้นระยะกับภาคินก็คงไม่มีอะไรให้คิดมาก แต่เบญญากลับฝังหัวคิดแบบนั้นมาตลอด
“ถ้าเมาแล้วก็กลับบ้านไปเถอะ ที่คินเลิกกับเธอก็เพราะตัวเธอเองนั่นแหละ อย่าให้ต้องพูดอะไรมากกว่านี้เลย” หากไม่ใช่เพราะอยู่ในงานเลี้ยงที่มีแต่คอนเนคชั่นของวรการ มีนามั่นใจมากว่าเบญญาได้โดนหมัดน็อกของเธอตั้งแต่เอ่ยคำแรกแล้ว
“เพราะฉันงั้นเหรอ เพราะคินมันโง่ต่างหากที่เชื่อแก โง่จนไม่รู้ว่าแกจ้องจะงาบเพื่อนมาทำแฟน”
มีนากัดฟันกรอด เบญญาด่าเธอ เธอยังพอทนได้ แต่ด่าภาคินว่าโง่ เธอไม่ยอมเด็ดขาด “เพื่อนฉันฉลาดต่างหากที่หมดเรื่องกับเธอเสียที แต่เธอนั่นแหละที่โง่ทำให้เสียคนรักที่แสนดีอย่างคินไป”
คำพูดนี้ไม่ต่างจากมีนาเอามีดคมๆมากรีดที่ดวงใจของเบญญา หญิงสาวแผดเสียงลั่น รปภ. ที่ถูกเรียกเข้ามาในงานคว้าแขนของเธอไว้ข้างหนึ่ง แต่อีกข้างของหญิงสาวได้กระชากออกไปเพื่อเงื้อตบอีกฝ่าย
“นังนี่!”
มีนากำลังจะคว้าข้อมือของเบญญามาบิดให้หายบ้า แต่ว่าร่างของเธอกลับถูกดึงอย่างแรงเข้าไปกระแทกที่อกหนาของเขมินท์ในเสี้ยววินาทีนั้น มือของเขมินท์ยื่นไปจับข้อมือของเบญญาไว้ ส่วนมืออีกข้างของเขากำลังกดบ่าของมีนาให้ขยับไม่ได้ ทำให้เหมือนเขากอดเธอไว้ วรการขยับมาขวางมีนากับเบญญาไว้อีกชั้น
“อย่ามาทำร้ายแฟนของผม”
“อะไรนะ...!?!”
เอาแล้วไงๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 238
แสดงความคิดเห็น