ท้องที่ 4
อรุณรุ่งของเช้าวันใหม่มาถึง แสงแดดอ่อนสีทองส่องรอดม่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้องทำให้เห็นสองชายหญิงที่นอนเคียงกันอยู่บนเตียงใต้ผ้าห่มนุ่ม ฝ่ายชายเริ่มขยับตัวน้อยๆ ก่อนมือจะเอื้อมไปหาหญิงสาวข้างตัว แล้วขยับตามมือเข้าไปกอดร่างบางไว้แน่น
“อือ..”คนถูกกอดเริ่มรู้สึกตัวพรางฮึมฮำเสียงออกมาจากลำคอ “หนึ่ง..หายใจไม่ออก”เธอบอกสามีทั้งๆที่ยังไม่ยอมลืมตา ชายหนุ่มขยับตัวพรางคลายกอดออกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ภรรยาสาวอึดอัด ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นบ้าง
“กี่โมงแล้ว”เขาถามขณะยังหลับตากอดเธออยู่
“ไม่รู้”อีกฝ่ายตอบ
“ดูให้หน่อยสิ” เพราะอย่างนั้นเธอจึงต้องฝืนใจลืมตามองนาฬิกาบนผนังให้คนข้างตัว
“7 โมง 9 นาที เราเดินทางกัน 8 โมงตรงใช่มั้ย”พิมพ์พิดาตอบก่อนท้ายประโยคจะเปลี่ยนเป็นถามเขากลับ
“อืม..”อนันยศตอบ
“ตื่นเถอะ จะได้เตรียมตัว ตอนนี้ป้านางคงจะมาแล้วล่ะ”
“อือ..”เขาตอบรับอีกครั้ง แล้วคลายกอดออกจากภรรยาสาว พิมพ์พิดาจึงถือโอกาสนั้นขยับตัวลุกจากเตียง หลังจากทำธุระส่วนตัวและเก็บของกันเสร็จสองสามีภรรยาก็พากันลงมาด้านล่างเพื่อมาดูป้าแม่บ้านที่นัดกันไว้รวมถึงลูกๆตัวน้อยทั้งสามของพวกเขา
เสียงแจ้วๆดังอยู่ในครัวแสดงว่าป้านางของเธอมาแล้วและตอนนี้เจ้าตัวน้อยทั้งสามก็คงกำลังช่วยป้านางทำกับข้าวอยู่ แต่จะให้เรียกช่วยทำกับข้าว ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก อนันยศและพิมพ์พิดาคิดว่าลูกๆน่าจะช่วยทำครัวเละมากกว่าจะช่วยทำกับข้าว
“ไงจ๊ะลูกพฤกษ์ ลูกทิ ลูกสิมากวนอะไรป้านางอีกฮึ”พิมพ์พิดาเดินยื่นหน้าเข้ามาในครัว เห็นเด็กๆกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นก็เอ่ยทักทาย
“คุณแม่เพลงกับพ่อหนึ่งมาแล้ว!”เด็กหญิงตัวน้อยร้องด้วยความดีใจ ก่อนจะผละจากสิ่งที่กำลังทำอยู่วิ่งยิ้มแป้นเข้ามาหา พิมพ์พิดาจึงเอื้อมมือออกไปรับลูกสาวคนเล็กของตนเข้ามากอด แล้วตามด้วยหอมแก้มเด็กหญิงตัวน้อยฟอดใหญ่อย่างรักใคร่
“ป้า วันนี้ทำอะไรกินเหรอ ทำไมกลิ่นมันแปลกๆ”อนันยศถามคนที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ชายหนุ่มสัมผัสถึงกลิ่นเหม็นแปลกๆที่ลอยเข้ามาเตะจมูกนั้นแล้วทำเอาผะอืดผะอม
“ก็ไม่แปลกนะคะคุณหนึ่ง นี่ของโปรดของคุณหนึ่งกับเด็กๆเลยนะคะ” ได้ยินป้านางพูดอย่างนั้นแล้วพิมพ์พิดาก็อดสังหรอะไรขึ้นมาไม่ได้จึงต้องเงยหน้าถามคนที่มีอาการผิดปกติ
“เป็นอะไรรึเปล่าหนึ่ง”
“ไม่รู้สิ ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวมานะ” พูดยังไม่ทันสิ้นคำดีอนันยศก็รีบพลวดพลาดวิ่งเข้าห้องน้ำทันที เห็นท่าอย่างนั้นแล้วดวงความคิดของพิมพ์พิดาก็สว่างวาบ
“คุณหนึ่งเป็นอะไรไปคะนั่น”ป้านางหันมาถามหญิงสาวที่ยืนยิ้มกับอะไรบางอย่างอยู่
“ก็คงจะแพ้ท้องแทนเพลงอีกนั่นแหละค่ะ”พิมพ์พิดาบอกง่ายๆ
“อะไรนะคะ! หรือว่า” พิมพ์พิดายิ้มพรางหัวเราะกับป้าแม่บ้านของตนก่อนบอกต่อ
“ฮึๆๆค่ะ เพลงกำลังท้อง”
“ตายแล้วคุณเพลง ป้าดีใจด้วยนะคะ!”ป้านางพูดด้วยความตื่นเต้นยินดี
“ยังไม่ตายหรอกค่ะป้า ฮึๆๆ เดี๋ยวไงเพลงขอไปดูคุณพ่อดีเด่นก่อนนะคะ มีลูกทีไรแพ้ท้องแทนเพลงทุกที” พิมพ์พิดายิ้มให้ป้าแม่บ้านของตนก่อนจะหันหลังเดินออกครัวไป
“เพลงท้องทำไมไม่บอกเรา แล้วท้องเมื่อไหร่” คนที่พึ่งอาเจียนเสร็จดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่พึ่งรู้ว่าภรรยาสาวของตนตั้งท้องที่สี่ให้เขาอีกครั้งแล้ว
“เพลงก็พึ่งแน่ใจว่าตัวเองท้องตอนที่หนึ่งอาเจียนนี่แหละ เพลงขอโทษนะที่ไม่ได้บอก” ท้ายประโยคพิมพ์พิดาทอดเสียงอ่อนเป็นการขอโทษจากใจ
“เฮ่อ นี่เราต้องแพ้ท้องให้ลูกอีกแล้วใช่ปะ”
“หนึ่งไม่ไหวแล้วหรอ งั้นเพลงอาเจียนแทนก็ได้”
“เปล่าหรอก ไหวสิ ที่เพลงไม่รู้นี่ยังไม่ได้ไปตรวจครรภ์ใช่รึเปล่า”
“ใช่” เธอยอมรับ
“งั้นดีเลย วันนี้เราจะพาเพลงไปตรวจกับหมออีกรอบแล้วถือโอกาสฝากครรภ์ด้วยเลย...อืม..แต่คราวนี้เราจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดีล่ะ ถ้าเป็นผู้ชายชื่อ พุทธชาติ ถ้าเป็นผู้หญิงชื่อ พุทธรักษา ดีมั้ย” อนันยศถามอย่างขอความเห็น พิมพ์พิดาได้แต่ยิ้มให้สามี เธอรู้ดีจะดีหรือไม่ดีสุดท้ายคนที่ตัดสินใจก็เป็นตัวสามีเธอเองอีกนั่นแหละ...
***ฝากตัวกับเรื่องสั้นเรื่องแรกที่ลงในเว๊บนี้นะคะ ขอยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดเม้นท์ ด้วยค่า
***ใครเคยเห็นเรื่องนี้ด้วยนามปากกาอื่น จา บอก ว่า ไรท์เตอร์เปลี่ยนอีกแล้วจ้า ซึ่งคิดว่านามปากกาใหม่นี้จะนำความเฮงๆๆมาให้ และเป็นที่รักของทุกคน สมกับชื่อ ครองใจ นะคะ <3
- 👁️ ยอดวิว 1269
แสดงความคิดเห็น