Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 29 ความจริงกระจ่าง

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU)
คุณกำลังอ่าน: Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU)

-A A +A

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 29 ความจริงกระจ่าง

หมวดหนังสือ: 

        “วันนี้แหละเราจะไปเซ็นสัญญาชิมลาง” ลุงพีพูดแล้วเข้าไปในถ้ำ “จะได้ทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ”

        และเมื่อลุงพีมาถึงประตูมิติแล้ว ปรากฏว่าเขาไม่พบกับซอมบี้ตัวเล็กเลย

        “คุณจิ๋ว คือผมจะมาคุยเรื่องเซ็นสัญญาครับ!” ลุงพีพูด “ใช่สิ คุณจิ๋วเขาพูดไว้ว่า ถ้าเราเข้าประตูนี้ ก็จะเป็นการเซ็นสัญญาเลือด และจะได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ แต่สัญญานี้มันมีความเสี่ยงที่เราจะโดนหลอกก็ได้ แต่ก็ไม่ลองก็ไม่รู้ล่ะ”

        พูดจบ ลุงพีจึงเข้าไปในประตูมิตินั้นทันที

 

        และในที่สุด ลุงพีก็มาโผล่ในดิเอ็นด์จริง ๆ เขาอยู่กลางเกาะศูนย์กลางของดิเอ็นด์ และเขาพบกับเอ็นเดอร์ดรากอนที่เฝ้ารังที่เป็นประตูทางออกด้วย

        “สวัสดี” เอ็นเดอร์ดรากอนพูด

        “สวัสดีครับ ที่นี่ที่ไหนเหรอครับ?” ลุงพีถาม

        “นายอยู่ในโลกของฉัน” เอ็นเดอร์ดรากอนตอบ

        “ผมตามหาเจ้าซอมบี้ตัวเล็ก” ลุงพีพูด “แล้วเขาบอกว่าถ้าเข้าประตูมิติไปก็จะได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ แล้วผมจะได้เป็นไหมครับ ถ้าได้เป็นแล้วจะต้องทำยังไง?”

        “ได้” เอ็นเดอร์ดรากอนตอบ “ได้เป็นสิ แต่ต้องมีการแลกเปลี่ยน”

        “แลกด้วยอะไรเหรอครับ?” ลุงพีถาม

        “ชีวิต” เอ็นเดอร์ดรากอนตอบสั้น ๆ

        “แล้วผมจะไม่ตายเหรอครับ?” ลุงพีถาม

        “ไม่ใช่ ๆ แก้ชีวิตของนายเท่านั้น” เอ็นเดอร์ดรากอนตอบ

        “แสดงว่าถ้าผมแลกชีวิตไปแล้วผมก็จะได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ” ลุงพีพูด “แล้วทำไมคุณต้องทำอย่างนั้นล่ะครับ?”

        “ถ้านายอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ อย่าถามเยอะ” เอ็นเดอร์ดรากอนตอบ “จะเป็นหรือไม่เป็น?”

        “เป็นครับ” ลุงพีตอบ

        “หลับตา” เอ็นเดอร์ดรากอนสั่ง “จะหลับหรือไม่?”

        “หลับครับ” ลุงพีตอบแล้วหลับตา

 

“เขาจึงหลับตาตามคำขอร้องของเอ็นเดอร์ดรากอน เพื่อที่จะให้ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุด แต่ขณะที่เขาหลับตา เขารู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติในสัญญาเลือดแน่ ๆ เลย แต่เขาจะรู้หรือไม่ว่า เขาโดนหลอกใช้” ผู้ใหญ่เล่า

 

        เมื่อลุงพีลืมตาขึ้นมา เขาก็พบว่าตนเองก็ออกมาอยู่ที่เดิมแล้ว ดังนั้น ลุงพีจึงรีบวิ่งออกจากถ้ำทันที

        “มันคงไม่น่าใช่ความฝันหรอกนะ เพราะดู ๆ ไปแล้วมันก็เป็นความจริง เราอาจจะตายก็ได้” ลุงพีพูด

        แต่พอออกมาก็เป็นเวลาเย็นพอดี ดังนั้น ลีจึงรีบเดินกลับเข้าไปในบ้านทันที

        “เอาล่ะ เราต้องยืนหยัดด้วยตัวของเราเอง” ลุงพีพูด “เพราะเรารู้ดีว่ายังไงสัญญานั่นก็จะตามมาหลอกหลอนอยู่ดี ใช่ไหมจาเร็ด?” ลุงพีหันมาถามจาเร็ด

        “ใช่” จาเร็ดตอบแบบเออ-ออ-ห่อหมก

        “อย่างน้อยเราก็ได้รับสิทธิพิเศษจากเอ็นเดอร์ดรากอนแค่ไม่กี่อย่างเองล่ะนะ” ลุงพีพูด “เราจะสร้างด้วยตัวของเราเอง วันนี้ขอนอนก่อนละนะ”

 

“เขาคิดว่าเขาอาจจะได้รับข้อเสนอจากเอ็นเดอร์ดรากอนเพียงไม่กี่อย่าง แต่ที่จริงแล้ว เขาได้รับมากกว่านั้น และมันกำลังมาหาเขา โดยที่เขาไม่รู้ตัว” ผู้ใหญ่เล่า

 

        ลุงพีฝันร้ายว่า ฝูงเอ็นเดอร์แมนบุกเข้ามาข้างในบ้าน และการต่อสู้ของลุงพีนั้นจบลงด้วยความพ่ายแพ้ เขาถูกฆ่าด้วยคมดาบเอ็นเดอไรต์เล่มหนึ่ง ที่เขาไม่รู้ว่าภายภาคหน้าเขาอาจจะใช้เป็นอาวุธสำคัญ

 

        เช้าวันรุ่งขึ้น

        “เมื่อคืนผมฝันอะไรแปลก ๆ ก็ไม่รู้น่ะครับลุงซีซ่าร์” ลุงพีตอบซีซ่าร์

        “งั้นเหรอ น่าจะฝันร้ายนะ” ซีซ่าร์ตอบ

        จากนั้นลุงพีก็มาเยี่ยมพวกจุ๊บ และพวกเขาก็ดีใจที่ได้เห็นหน้าลุงของเขาอีกครั้ง

        “ช่วงนี้ฉันฝันแปลก ๆ น่ะ” ลุงพีบอกจุ๊บ “ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันฝันว่าเอ็นเดอร์แมนบุกบ้านฉันแล้วฆ่าฉันทิ้งเลย”

        “ลางไม่ดีแล้วเนี่ย” จุ๊บพูด

        “ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามันเป็นลางไม่ดี ฉันก็จะเตรียมพร้อมรับมือกับมัน” ลุงพีพูดแล้วเดินจากห้องของพวกจุ๊บไป

        “เอาล่ะ ภารกิจต่อไปคือตามหาลูกแก้วเอ็นเดอร์ให้ครบแปดอัน ไม่รู้เอ็นเดอร์ดรากอนจะให้ของเรามาหรือเปล่านะ” ลุงพีพูดแล้วจากนั้นก็เดินออกไปจากบ้าน ปรากฏว่าข้างหน้าคือกล่องเอ็นเดอร์เชสต์และติดป้ายเขียนไว้ว่า

 

ขอให้ประสบความสำเร็จ

 

        “ว่าแล้ว! เราต้องได้ของอะไรจากเจ้ามังกรนั่นแน่ ๆ!” ลุงพีรำพัน และเมื่อเปิดกล่องดู เขาพบกับลูกแก้วเอ็นเดอร์ครบแปดลูก กับพวกของอะไรอีกเยอะแยะทั้งพวกควอร์ตซ์ (Quartz) เรดสโตน ปุ่มเหยียบ ออบซิเดียน เชือก กรง แผ่นกระจก พรม และมรกต

        “ลูกแก้วเอ็นเดอร์ครบแปดอัน หมายความว่ายังไง?” ลุงพีพูด จากนั้นก็เก็บของจากกล่องขึ้นมา “ส่วนผสมพวกนี้สามารถสร้างของได้นี่นา” ว่าแล้วลุงพีก็นำวัตถุดิบจากกล่องเอ็นเดอร์เชสต์มาคราฟต์ของ...

 

“เพียงแค่พริบตาเขาก็สามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อน นั่นคือพลังที่เอ็นเดอร์ดรากอนได้มอบให้” ผู้ใหญ่เล่า

 

        เมื่อลุงพีรู้แล้วว่าสูตรการสร้างของที่เขาต้องการมีอะไรบ้าง เขาจึงไปหาวัตถุดิบเพิ่มเติมจากที่ได้จากในกล่อง นั่นก็คือทราย เพื่อที่จะได้ทำเป็นกระจกเพิ่ม แต่ลุงพีเผลอตีหมี ดังนั้นจึงเป็นศึกสู้กันระหว่างคนกับหมี สุดท้ายลุงพีเป็นฝ่ายชนะจนได้

 

        “ใช่แล้วล่ะวันนี้ วันนี้เราต้องทำอะไร” ลุงพีพูดหลังจากได้วัตถุดิบเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว “เพื่อให้การสร้างสัตว์ประหลาดสมบูรณ์แบบ ไม่ทำให้กะแพะกลายเป็นหอยทากอีกต่อไป เราต้องสร้างให้กลายเป็นมนุษย์ เราต้องการหัวใจและสมอง เราต้องการตัวเราและลุงซีซ่าร์เยอะ ๆ ต้องสร้างสิ่งที่ทำให้ตัวเรามีมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช่แล้ว การโคลนนิ่ง”

        จากนั้นลุงพีก็ได้เผาทำให้ทรายกลายเป็นกระจก ระหว่างที่เขารอ เขาก็ได้คิดว่า “แล้วเราจะเอาใครมาทดลองดี กะแพะก็กลายเป็นหอยทากไปแล้ว จะเอาตัวอะไรมาเป็นตัวทดลองดีเนี่ย? จะเอาลามาอย่างจาเร็ดกับโทรันมาทดลอง เดี๋ยวลุงซีซ่าร์ก็ไม่ให้อีก...ใช่แล้ว ลูก ๆ ของจุ๊บไง ถ้ามันสำเร็จ ลูกของจุ๊บจะกลายเป็นคน แต่ถ้าไม่ เราจะต้องชดใช้และรับผิดชอบกับผลลัพธ์ของมัน”

        ว่าแล้ว ลุงพีก็ไปที่ห้องครอบครัวไก่ แล้วถามจุ๊บว่า “ฉันขอลูกนายไปทดลองได้ไหม?”

        เท่านั้นแหละ จุ๊บค้านชนฝาเลย

        “บ้าแล้ว!! นั่นลูกของผมนะ!!” จุ๊บแย้งลั่น

        “จุ๊บ ฉันขอร้องล่ะ เพื่องานของเรา” ลุงพีตอบ “ไม่สิ งานของฉันมากกว่า”

        “เจ้านายก็รู้ตัวนี่” จุ๊บพูด

        “จุ๊บ ถ้ามันสำเร็จ มันจะเป็นประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่เลยนะ!” ลุงพีร้อง

        “ผมไม่สนใจประวัติศาสตร์อะไรหรอก นั่นลูกของผมนะ!” จุ๊บร้อง “คุณบ้าไปแล้วเรอะ!!”

        “ฉันขอร้องนะ ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ” ลุงพีอ้อนวอน “ถ้ามันสำเร็จขึ้นมานะ”

        “ถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ??” จุ๊บถาม

        “ฉันจะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” ลุงพีตอบ “ฉันจะชดใช้ความผิดพลาดทั้งหมด แต่นี่มันต้องสำเร็จ ฉันจะไม่ให้เป็นแบบนั้นแน่นอน เชื่อฉันสิ”

        “ผมไม่เชื่อ!!” จุ๊บตะโกน

        “ถ้านายไม่เชื่อ แล้วมันไม่สำเร็จ ฉันขอชดใช้ความล้มเหลวนั้นเพียงคนเดียว ฉันสาบานกับพระเจ้าเลย!” ลุงพีพูด

        “เจ้านายสาบานแล้วเจ้านายต้องทำตามจริง ๆ ด้วย ถ้าผมรู้ว่าเจ้านายไม่ทำตาม ผมจะไม่ให้ลูกผมอีกเป็นครั้งที่สอง!” จุ๊บยื่นคำขาด

        “ได้ ฉันจะทำตาม!” ลุงพีพูด เริ่มมีน้ำโหขึ้นมาเล็กน้อย แล้วออกไปจากห้องครอบครัวไก่ทันที บรรยากาศในบ้านนี้เกือบจะมาคุแล้ว

        “เอาล่ะ เราได้ของที่เราต้องการมาแล้ว” ลุงพีพึมพำด้วยความโกรธ “เราสาบานไปแล้ว เราสาบานไปแล้ว...”

 

“การสาบานครั้งนี้ทำให้เขาต้องหาวิธีที่จะเข้าถึงลูกของจุ๊บให้ได้ นั่นก็คือ...” ผู้ใหญ่เล่า

 

        ลุงพีแอบขุดจากอีกทางหนึ่ง จากนั้นเขาก็พาเจี๊ยบขึ้นมาทันที

        “ลุงทำอะไรหนู!!” เจี๊ยบร้อง

        “ขอโทษจริง ๆ นะ มันจำเป็น” ลุงพีพูดด้วยความเสียใจแล้วพาเจี๊ยบขึ้นไปทันที

        “เจ้านายมาได้ยังไง!!” จุ๊บตะโกน “ก็ได้! แต่เจ้านายสาบานไปแล้ว เจ้านายต้องทำตามนะ!!”

        “เออ รู้แล้ว!” ลุงพีบอกจุ๊บ จากนั้นก็วางเจี๊ยบลงไปในบ่อทดลอง แล้วปิดบ่อทันที

        “ต่อไปก็เอาของพวกนี้มาคราฟต์” ลุงพีพึมพำแล้วเอาของที่ได้จากในกล่องเอ็นเดอร์เชสต์ออกมาคราฟต์เป็นวัตถุใหม่ “การทดลองครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า”

        “แล้วเธอจะเอายังไงเหรอ?” ซีซ่าร์ถาม

        “ผมก็จะสร้างของเพื่อทำการทดลองสิครับถามได้” ลุงพีตอบ

 

“ถึงแม้เขาจะมีความอยากที่จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน แต่ด้วยสามัญสำนึก สิ่งนี้จึงเป็นปราการสุดท้ายที่จะไม่ให้ความอยากที่จะประสบความสำเร็จบังตาเขาจนไม่เห็นแม้แต่ความรู้สึกนึกคิด สติ ชีวิตของผองเพื่อน” ผู้ใหญ่เล่า “ก่อนที่เขาจะลงมือทำการทดลองทำให้สัตว์กลายเป็นมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ที่ยังคงมีสำนึกผู้นี้จึงสร้างเครื่องโคลน โคลนตัวของเขาเอง แล้วเอาหัวใจและสมองมาเป็นส่วนผสม”

 

        ในที่สุด ลุงพีก็ได้สร้างเครื่องโคลนขึ้นมาเบื้องต้นห้าเครื่อง

        “ในที่สุด ฉันก็ได้สร้างเสร็จสักที เราก็ได้ประสบความสำเร็จแล้ว” ลุงพีพูด และบอกตัวโคลนตัวแรกว่า “อภัยให้ฉันด้วยนะ มันจำเป็นจริง ๆ ฉันขอหัวใจและสมองของนายไปทำการทดลองก่อนนะ”

 

“การสร้างเสร็จสิ้น” ผู้ใหญ่เล่า “เขาคัดลอกตัวของเขาเอง แล้วลงมือฆ่า เพื่อนำหัวใจและสมองมาเป็นส่วนผสม”

 

        เมื่อลุงพีฆ่าได้แล้ว เขาก็เอาหัวใจและสมองที่ดร็อปได้มาใส่ลงไปในบ่อทดลอง เขาเทน้ำลงไปในบ่อแล้วกลบมันลงไป

        “มันจะได้ผล” ลุงพีพูด

 

        เวลาผ่านไป

        “เอาล่ะ เรามาดูผลงานกัน” ลุงพีพูด จากนั้นเขาก็ลงมือเปิดบ่อแล้วตักน้ำออกไป แต่ทว่าเจี๊ยบกลับกลายเป็นศพไปแล้ว...

        “ไม่...” ลุงพีอุทาน หน้าถอดสีลง “ทำไม...ทำไมมันไม่ได้ผล...เรามาเร็วไปหรือเปล่า???

        ทันใดนั้น หัวใจของลุงพีก็เริ่มจะปริแตกออกมาแล้ว เขาเริ่มจะไม่ไหวติงอย่างมากแล้ว ภาพสุดท้ายที่เขาได้เห็นก่อนตายคือชายชุดดำที่เข้ามามองลุงพี ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำ

 

“นักวิทยาศาสตร์ล้มลงกับพื้น ปวดหัวใจเหมือนฉีกขาด เขาคาดไว้แล้วว่ามันจะต้องส่งผลแบบนี้ เพราะสัญญาเลือดนั่นก็คือ แลกวิญญาณ เพื่อเป็นทาสรับใช้เอ็นเดอร์ดรากอน” ผู้ใหญ่เล่า

“แล้วตัวโคลนที่เหลือล่ะครับพ่อ?” เด็กถาม

ผู้ใหญ่พยายามพลิกหน้าหนังสือเพื่อหาย่อหน้าที่พูดถึงพวกโคลนที่ยังเหลือ แต่ก็ไม่พบ จึงตอบเด็กไปว่า “นั่นสิ พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันนะ หนังสือก็ไม่ได้เขียนไว้”

“งั้นไม่เป็นไรครับ” เด็กตอบ

“ขอโทษด้วยนะ งั้นเรามาต่อกันเลย” ผู้ใหญ่พูด แล้วเล่าต่อว่า “หลังจากนั้นนะ วิญญาณของนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ล่องลอยขึ้นไปบนฟ้า แต่ดูเหมือนว่า วิญญาณของเขา ต้องถูกแยกออกเป็นสองส่วน และลงกลับไปใหม่...”

และในที่สุด ผู้ใหญ่ก็ได้พบความจริงอันน่าตกใจนั่นก็คือ...

“โอ้! ส่วนหนึ่งกลับไปเป็นสตีฟโอ”

“งั้นก็แสดงว่า...” เด็กลากเสียง

“ใช่แล้ว นักวิทยาศาสตร์กับฮีโร่บรายน์คือคนคนเดียวกัน” ผู้ใหญ่ตอบ “แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของเขาอีกส่วนหนึ่งก็ยังไม่หายไปนะ เขากลับมาอยู่ร่างเดิม เขาได้พลังวิเศษมาแบบเดียวกับฮีโร่บรายน์ แต่ก็ต้องแลกมากับการสูญเสียดวงตาข้างขวาไป และได้มีดวงตาดวงใหม่ที่เป็นดวงตาปีศาจของพวกเอ็นเดอร์มาแทนที่”

 

        “ลุงซีซ่าร์! เห็นใครมาขโมยลูกตาของผมไปบ้างไหม?” ลุงพีถาม

        “เมื่อกี๊ฉันเห็นคนชุดดำเข้ามา แล้วมันก็ฆ่านายทิ้ง แล้วก็เอาลูกตาข้างหนึ่งไป” ซีซ่าร์ตอบ “ไม่รู้นะว่ามันทำได้ยังไง แต่มันให้ลูกตาดวงใหม่นายแทนเหรอเนี่ย บรึ๋ย!! น่ากลัวชะมัดเลย”

        “โธ่เอ๊ย ผมอุตส่าห์แยกวิญญาณออกมานึกว่าจะหนีการแลกเปลี่ยนพ้นแล้ว สุดท้ายผมก็หนีมันไม่พ้นอยู่ดี” ลุงพีรำพัน

        “ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ” ซีซ่าร์ว่า “อะไรมันก็เกิดก็ให้มันเกิดไปแล้วกัน”

 

“นอกจากนี้ผลการทดลองที่เขาเคยทดลองมานั้นประสบความสำเร็จด้วย ไก่เจี๊ยบกลายเป็นคน” ผู้ใหญ่เล่า “เธอได้สวมกอดนักวิทยาศาสตร์ที่สูญเสียดวงตาข้างเดิมไปพร้อมกับได้ตาข้างใหม่มาแทนที่ และเธอก็ลงไปใต้ดินเพื่อไปบอกกล่าวให้พ่อฟังว่า”

 

        “พ่อคะ คุณลุงเขาทำสำเร็จ แต่คุณลุงเขา...” เจี๊ยบบอกข่าวแก่จุ๊บ

 

“อีกฝั่งหนึ่งของฮีโร่บรายน์ เอ็นเดอร์ดรากอนได้มอบหมายงานให้สร้างกองทัพเพื่อไปยึดครองโลก” ผู้ใหญ่เล่า “ในขณะที่ฮีโร่บรายน์สร้างกองทัพ เขาก็ได้แอบสร้างตัวทดลองลับ ๆ ที่เอ็นเดอร์ดรากอนไม่รู้ตัว นั่นก็คือตัวทดลองหมายเลขที่ 303 (Experimental #303) หรือ อีวิลโคลน 303 (Evil Clone 303) เขาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปราบเอ็นเดอร์ดรากอน

“เพื่อทดสอบศักยภาพความแข็งแกร่งของอีวิล 303 ฮีโร่บรายน์จึงนำตัวอีวิล 303 ไปฝึกไว้ในโลกทดลอง โลก...โลกที่มีสัตว์ประหลาด เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอีวิล 303...”

“แล้วแจ้กับลุงพีมาได้ยังไงครับพ่อ?” เด็กถาม

ทันใดนั้น ผู้สูงอายุก็เข้ามาแทรกและบอกว่า “เดี๋ยวปู่เล่าต่อเอง”

 

“นักวิทยาศาสตร์ได้ย้ายถิ่นฐานกลับไปยังอาณาจักรฟาร์คิงดอม ส่วนตัวโคลนที่หลานพูดถึงถูกช่วยไว้โดยไก่เจี๊ยบ” ผู้สูงอายุเล่า

“ใช่เหรอปู่??” ผู้ใหญ่ถาม

“ใช่แล้ว” ผู้สูงอายุเล่า “หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ได้รับดวงตาข้างใหม่ เขาจึงสวมผ้าปิดตาไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ใครได้ล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับดวงตาข้างขวาของเขา และโกหกว่าเขาได้รับอุบัติเหตุจากการทดลองของเขา ทำให้ตาข้างขวาของเขาบอดอย่างถาวร

“ระหว่างนี้ เขาก็ได้สร้างร่างโคลนของตนเองขึ้นมาเพื่อที่จะส่งไปตามโลกต่าง ๆ เพื่อที่จะได้ขัดขวางไม่ให้สัตว์ประหลาดของฮีโร่บรายน์สร้างขึ้นมา ซึ่งโคลนแต่ละตัวมีความสามารถพิเศษเหมือนตัวจริง แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้ นั่นทำให้เขาต้องเรียนรู้ที่จะสร้างสิ่งมีชีวิตและการประดิษฐ์ ซึ่งใช้เวลาเป็นร้อยกว่าปี

“คืนหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์และโคลนที่อาวุโสที่สุดต่างฝันเห็น เห็นในสิ่งที่พวกเขาไม่ควรจะเห็น นั่นคือตัวของพวกเขาเองที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังอำนาจมืด เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น โคลนอาวุโสจึงส่งแจ้และเจี๊ยบไปยังประตูมิติที่เขาสร้างขึ้น เพื่อไปชี้ทางอีวิล 303 ส่วนนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ตัดสินใจออกเดินทางตามหาประตูมิติ เพื่อกล่อมให้อีวิล 303 หันหลังให้ฝ่ายฮีโร่บรายน์...”

 

        ทางด้านลุงพีก่อนเจออีวิล 303

        “ทุกงานเลยนะเนี่ย” หมวดมาร์คัสพูด “ต้องให้ฉันกับพรรคพวกเป็นคนปกป้องเธอใช่ไหมเนี่ย”

        “ใช่ครับผู้หมวด” ลุงพีตอบ “ผมกลัวว่าไอ้พวกลูกน้องฮีโร่บรายน์จะเข้ามาหาผมแล้วมาทำร้ายผมน่ะสิ”

        “เอาเถอะ ในเมื่อพวกเราเดินทางมาไกลมากแล้ว เธอพอจะบอกได้ไหมว่าถ้ำที่มีประตูมิติไปทางไหน?” หมวดมาร์คัสว่า

        “แค่ขี่ม้าตามผมไปก็พอครับ” ลุงพีตอบ “ผมจะนำทางไปให้”

 

        หลังจากกองทัพฟาร์คิงดอมขี่ม้าไปได้สักพัก

        “ผู้หมวดครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพเกี่ยวกับตาข้างขวาของผม” ลุงพีบอกหมวดมาร์คัส “ท่านกับพรรคพวกพอจะเก็บเป็นความลับเรื่องนี้ได้หรือเปล่าครับ”

        “ได้อยู่แล้วล่ะ” หมวดมาร์คัสตอบ “เพราะฉันรู้อยู่แล้วว่าตั้งแต่เธอสวมผ้าปิดตามาเธอก็ไม่ค่อยจะเหมือนเดิม”

        “โอเค ในเมื่อท่านผู้หมวดรู้อย่างนี้ผมก็ต้องบอกความจริงแล้วล่ะ” ลุงพีพูด “แท้จริงแล้วตาผมไม่ได้บอดสนิทจริง ๆ หรอก แต่ตาของผมนั้นเป็นตาของพวกเอ็นเดอร์ เพราะผมได้เซ็นสัญญาเลือดกับเอ็นเดอร์ดรากอนน่ะครับ”

        “แย่ละสิ” หมวดมาร์คัสว่า “แล้วเธอจะทำยังไงหลังจากนี้?”

        “ผมก็ต้องทำภารกิจล้างบาป จัดการกับด้านชั่วร้ายของผม แล้วทำลายแผนของเอ็นเดอร์ดรากอนซะ” ลุงพีตอบ

        “แล้วเจ้าอีวิล 303 เกี่ยวอะไรกับการล้างบาปครั้งนี้?” หมวดมาร์คัสถาม

        “ผมมองว่าเขาเป็นกุญแจสำคัญครับ” ลุงพีตอบ “กุญแจสำคัญที่จะช่วยผมล้างบาปในใจผมไปได้”

        “อย่างนี้นี่เอง” หมวดมาร์คัสตอบ “แล้วพอไปถึงประตูมิติแล้วจะเอายังไงต่อ?”

        “ท่านผู้หมวดส่งผมแค่ที่ประตูมิติพอครับ ผมจะเข้าไปประตูมิติด้วยตัวของผมเอง” ลุงพีตอบ

 

        และเมื่อพวกฟาร์คิงดอมเข้ามายังถ้ำที่มีประตูมิติแล้ว

        “นั่นไงครับ” ลุงพีพูด “ถ้ำนี้แหละที่มีประตูมิติอยู่ ผมต้องเข้าไปในนั้น ผู้หมวดจะส่งผมแค่นี้ก็ได้นะครับ ผมจะเดินเข้าไป”

        “ก็ตามใจ” หมวดมาร์คัสตอบ “งั้นพวกเราขอกลับก่อนนะ”

        ลุงพีพยักหน้าให้กับพวกฟาร์คิงดอม จากนั้นเขาก็ลงจากหลังม้าแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในถ้ำเพื่อเข้าไปในประตูมิติ

 

        ทางด้านแจ้และเจี๊ยบก่อนเจออีวิล 303

        “จริง ๆ เลยนะพี่เนี่ย” แจ้พูด “ต้องให้ผมนำตลอดเลยแฮะ”

        “ขอโทษด้วยแล้วกันนะ” เจี๊ยบพูด

        “ขอถามหน่อยเถอะ ทำไมต้องไปตามหาเขาด้วย เขาเป็นใคร?” แจ้ถาม

        “คุณลุงบอกว่าเขาเป็นคนสำคัญนะ” เจี๊ยบตอบ

        “แสดงว่าเขาเป็นคนไม่ดีใช่ไหม?” แจ้ถาม

        “ไม่หรอก เขาเป็นคนดี” เจี๊ยบตอบ

        “แล้วเอาอะไรมาพูดว่าเขาเป็นคนดี?” แจ้ถาม

        “ทำไมแจ้พูดแบบนี้เนี่ย?” เจี๊ยบพูด

        “เอาเถอะ ว่าแต่พี่ได้ข่าวจากลุงพีหรือยังว่าเขาเป็นยังไงบ้าง?” แจ้ถาม

        “เอาที่ล่าสุดก็จากจดหมายฉบับล่าสุดแหละ” เจี๊ยบตอบ “บอกว่าเขาจะไปตามหาคนสำคัญคนนั้นด้วย”

        “โอ้ นั่นไง ผมเจอแคมป์ของพวกมนุษย์ด้วย” แจ้พูด “พี่ช่วยคุยกับพวกเขาหน่อย ผมอาจจะคุยกับพวกมนุษย์ไม่รู้เรื่อง”

        “ขจอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าถ้ำที่มีรูปร่างประหลาด ๆ ไปทางไหนคะ?” เจี๊ยบถามนักท่องเที่ยวที่ตั้งแคมป์กลางป่า

        “ขึ้นไปแล้วก็ตรงไปเรื่อย ๆ แล้วก็ผ่านถ้ำด้วย” นักท่องเที่ยวตอบ

        “บอกอย่างนี้บอกเป็นสูตรดีกว่ามั้ง” แจ้วิจารณ์ “ไปเถอะพี่ ผมว่าคนพวกนี้ไม่น่าไว้ใจ”

        “อย่าไปพูดอย่างนั้นสิ” เจี๊ยบพูด

        “ไปเถอะพี่” แจ้บอก จากนั้นก็ถามว่า “คุณลุงเขาบอกว่าให้เราไปทางไหนนะ?”

        “เราต้องไปถ้ำน่ะ” เจี๊ยบตอบ

        “ถ้ำยังไงเหรอ?” แจ้ถาม

        “ก็ถ้ำน่ะสิ” เจี๊ยบตอบ

        “ช่วยอธิบายให้มันชัดเจนหน่อยได้ไหมพี่?” แจ้พูด “ถ้ำเถิ้มอย่างเดียวผมก็นึกภาพไม่ออกพอดี อ่ะ เจอแล้ว ถ้ำตรงนี้ใช่ไหม?” แจ้ถามเจี๊ยบเมื่อเห็นถ้ำแล้ว

        “ใช่” เจี๊ยบตอบ

        “งั้นตามผมมา” แจ้พูด “ว่าแต่ผมขอถามหน่อยสิ ทำไมพี่เป็นคนล่ะ?”

        “ไว้ถึงเวลาเดี๋ยวพี่จะบอกนะ” เจี๊ยบตอบ

 

        จากนั้นแจ้ก็ได้นำทางเจี๊ยบเข้าไปสู่ถ้ำบนยอดเขาเลย แต่ก็พบว่า นั่นไม่ใช่ถ้ำที่คนแก่บอก

        “วันนี้เราจะเจอไหม?” แจ้ถาม

        “ต้องใช้สัญชาตญาณแล้วล่ะ” เจี๊ยบตอบ

        “ใช่ เป็นคำที่ดีมากเลย ใช้สัญชาตญาณ” แจ้พูด

 

        ระหว่างขึ้นเขาไป ทั้งแจ้และเจี๊ยบก็ได้พบกับเหล่าสิงสาราสัตว์ต่าง ๆ มากมาย

 

        “ผมว่าวันนี้เราคงต้องใช้เวลาเป็นชาติเลยกว่าจะเจอถ้ำ” แจ้พูด

        “แจ้ เราต้องรีบนะ ไม่งั้นเราไปช่วยเขาไม่ทันแน่ ๆ” เจี๊ยบพูด “ต่อให้ลุงพีจะไปถึงก่อนก็เถอะ”

        “ผมพอจะเจอถ้ำรูปร่างแปลก ๆ อยู่บ้างแล้วล่ะ” แจ้พูด “เดี๋ยวผมลงไปดูก่อน พี่อย่าตามมานะ”

        “ไม่ได้ พี่จะติดตามเธอ” เจี๊ยบพูด

        “งั้นถ้าจะให้ดีคืออย่าพูด” แจ้พูด “เออ ผมรู้สึกว่ามันอยู่ข้างในนี้นะ เราน่าจะเดินต่อไปอีกหน่อยนะ”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.