ตอนที่ 751 การกลับมาของอันธ
ตอนที่ 751 การกลับมาของอันธ
การจู่โจมด้วยความโกรธของจักรพรรดิกฎขั้นที่ 5 ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถประมาทได้ การโจมตีอันรวดเร็วและรุนแรงโหมกระหน่ำเข้ามาราวกับสายฝน จนทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกกดดันจนไม่มีเวลาจะพักหายใจ
เซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องใช้ทั้งความเร็วและวิชาเล่ห์กายาในการหลบหลีกด้วยท่าทางที่ผิดธรรมชาติ ซึ่งในบางครั้งร่างของเขาก็จะบิดจนเกือบจะล้มไปทางด้านซ้าย แต่ในพริบตาต่อมาร่างของเขากลับบิดตัวหลบไปทางขวาด้วยความเร็วมากกว่า 120,000 เมตรต่อวินาที
อย่างไรก็ตามการจู่โจมต่อเนื่องของเซียงจินเฉิงก็ยังสร้างผลลัพธ์ขึ้นมาอย่างน่าพอใจ เพราะถึงแม้ความเร็วของเขาจะไม่สามารถติดตามเซี่ยเฟยได้ แต่ปฏิกิริยาของเขายังคงอยู่ในระดับที่เหนือเกินกว่าชายหนุ่มอยู่ดี
มันมีเฉพาะผู้ใช้พลังพิเศษสายความเร็วหรือผู้ที่เรียนรู้กฎแห่งความเร็วเท่านั้นจึงจะสามารถใช้ความเร็วสูงได้ แต่นักรบทุกคนต่างก็สามารถฝึกฝนปฏิกิริยาการตอบสนองให้รวดเร็วได้เหมือน ๆ กัน ดังนั้นตราบใดก็ตามที่นักเรียนคนใดมีระดับพลังสูงพอ ปฏิกิริยาความเร็วในการตอบสนองของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นตามระดับพลังไปเหมือนกับแสงและเงา
ผู้สร้างจักรวาลได้ประทานความเร็วที่ไม่ธรรมดาให้กับนักรบสายความเร็ว แต่พวกเขาก็ยังประทานปฏิกิริยาการตอบสนองอันรวดเร็วให้กับนักรบคนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน ซึ่งมันก็อาจจะเรียกได้ว่าเรื่องนี้คือสมดุลย์ของจักรวาล ไม่เช่นนั้นนักรบสายความเร็วก็คงจะได้ปกครองจักรวาลอันกว้างใหญ่แห่งนี้ไปตั้งนานแล้ว
แขนของเซียงจินเฉิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเหมือนกับแขนนับพัน ขณะที่เซี่ยเฟยยังคงใช้ความเร็วสูงเพื่อหลบหลีกการโจมตีอย่างต่อเนื่อง
พื้นผิวของดาวดวงนี้เต็มไปด้วยหลุมสีดำที่ถูกระเบิดออกอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก ราวกับมันกำลังมียานรบนับหมื่นลำกำลังระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่ดวงดาวจนมีเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทุกที่
ตระกูลมูนวอร์ดมีความเชี่ยวชาญในการใช้กฎมิติอยู่ 2 ประการ อย่างแรกคือการบีบอัดมิติอย่างรุนแรงและอย่างที่สองคือการเปลี่ยนโครงสร้างวัตถุ
แม้ความเชี่ยวชาญอย่างที่ 2 จะไม่ได้มีความโหดร้ายเหมือนกับความเชี่ยวชาญอย่างแรก แต่มันก็เป็นพลังที่มีพลังในการทำลายล้างสูงมาก ยกตัวอย่างเช่น ก้อนหินที่ถูกพลังของตระกูลมูนวอร์ดเข้าไปจะแหลกสลายกลายเป็นเม็ดทรายในทันที การป้องกันใด ๆ ที่ถูกนำมาขวางการโจมตีจึงมักจะถูกทำลายลงไปได้อย่างง่ายดาย
เซี่ยเฟยกัดฟันเคลื่อนไหวหลบหลีกไปรอบ ๆ พร้อมกับมองหาโอกาสในการตอบโต้กลับไปอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิกฎผู้ทรงพลัง แต่มันก็ไม่มีทางที่เซียงจินเฉิงจะโจมตีอย่างบ้าคลั่งตลอดไปได้อย่างแน่นอน โอกาสที่เขาจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้จึงมีเพียงแค่วิธีเดียวคือการอดทนรอจนถึงช่วงเวลาที่ศัตรูได้เปิดเผยช่องว่างของเขาออกมา
เซียงจินเฉิงสะบัดข้อมือส่งลูกบอลแสงที่มีพลังในการเปลี่ยนโครงสร้างวัตถุออกมา โดยในตอนแรกลูกบอลแสงนี้เคลื่อนที่รวดเร็วมาก แต่เมื่อมันเข้าใกล้ร่างของเซี่ยเฟยจู่ ๆ มันกลับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าลงในฉับพลัน
“หือ!?”
เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะเขาเพิ่งจะปรับตัวเข้ากับความเร็วในการโจมตีของเซียงจินเฉิงได้บ้างแล้ว การปรับเปลี่ยนความเร็วในการโจมตีอย่างฉับพลันแบบนี้ มันจึงทำให้ลูกบอลแสงพุ่งปะทะเข้ากับหน้าอกของเขาอย่างไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้
เล่ห์กายา!
ชายหนุ่มพยายามบิดตัวอย่างแรงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การโจมตีของศัตรูปะทะเข้ากับจุดสำคัญ
ตูม!
แม้การบิดตัวในครั้งนี้จะทำให้เขาหลีกเลี่ยงการจู่โจมที่หัวใจไปได้ แต่พลังทำลายก็ยังกระทบเข้ากับแขนซ้ายของเขาอยู่ดี ชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นที่ห่อหุ้มแขนซ้ายของเขาเอาไว้จึงหดตัวลงไปคล้ายเปลือกไม้ที่เหี่ยวเฉาอย่างฉับพลัน แสดงให้เห็นว่าพลังในการสลายวัตถุของเซียงจินเฉิงเป็นพลังที่น่ากลัวเพียงใด
ร่างของชายหนุ่มค่อย ๆ เอียงตัวล้มลงบนพื้น ขณะที่เขาตัดสินใจปล่อยหุ่นยนต์ตัวเล็กที่มีความสูงแค่ประมาณเข่าออกมาจากแหวนมิติ
แขนทั้งสองข้างของหุ่นยนต์มีความแหลมคมราวกับมีดผ่าตัด เมื่อมันได้ปรากฏตัวออกมาหุ่นยนต์ตัวน้อยก็ย่อกายลงเตรียมพุ่งโจมตีในมุม 45 องศา
การเคลื่อนไหวในคราวนี้แนบเนียนมาก คล้ายกับว่าเซี่ยเฟยถูกกระแทกจากการโจมตีจนทำให้มีอะไรบางอย่างหลุดออกมาจากแหวนมิติของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“โอกาส!” เซียงจินเฉิงอุทานขึ้นมาอย่างดีใจ เพราะจุดอ่อนถึงตายของนักรบสายความเร็วคือการสูญเสียสมดุลย์ ในช่วงเวลานี้เซี่ยเฟยจะไม่สามารถควบคุมทิศทางในการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ หรือมันก็หมายความว่าโอกาสในการสังหารชายหนุ่มได้ถูกเปิดเผยออกมาต่อหน้าของเขาแล้วนั่นเอง
เทเลพอร์ต!
เซียงจินเฉิงเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างมิติเพื่อเข้าใกล้เซี่ยเฟยอย่างฉับพลัน เพื่อเตรียมพร้อมจะทำการสังหารชายหนุ่มที่ร่างกายกำลังเสียสมดุลย์
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยกลับเผยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ออกมาที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะพลิกตัวกระโดดหลบไปทางด้านหลังได้อย่างฉับพลัน
ชายชราขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมทั้ง ๆ ที่เซี่ยเฟยสูญเสียการทรงตัวไปแบบนี้ แต่เขาก็ยังสามารถพลิกตัวกลับมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่ามันไม่เพียงจะมีแต่เซียงจินเฉิงคนเดียวที่ไม่เข้าใจการเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟย เพราะผู้ชมคนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวอันผิดแปลกของชายหนุ่มได้ด้วยเหมือนกัน
วิชาเล่ห์กายาช่วยให้ผู้ใช้วิชาสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างผิดธรรมชาติ เซี่ยเฟยจึงสามารถที่จะพลิกร่างกายไปมายังไงก็ได้ และมันก็พร้อมที่จะทำลายจิตสำนึกของทุกคนได้ทุกเวลา
ขณะที่เซียงจินเฉิงกำลังตกตะลึงอยู่นั่นเอง เขาก็ลืมสังเกตเห็นหุ่นยนต์ตัวเล็กที่เซี่ยเฟยได้ปล่อยทิ้งเอาไว้
ทันใดนั้นหุ่นยนต์ร่างเล็กบนพื้นก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยท่าทางที่มีความคล้ายคลึงกันกับชายหนุ่ม
แม้ว่าเล่ห์กายาของหุ่นยนต์ตัวนี้จะไม่ได้มีความซับซ้อนเหมือนกับวิชาเล่ห์กายาที่เซี่ยเฟยใช้ แต่ด้วยร่างกายขนาดเล็กซึ่งไม่เป็นจุดสนใจ มันจึงทำให้หุ่นยนต์ตัวน้อยเคลื่อนที่เข้าไปใต้ร่างของเซียงจินเฉิงได้ก่อนที่ชายชราจะทันได้รู้ตัว
ฟุบ!
หุ่นยนต์ตัวน้อยถีบตัวออกจากพื้นดินอย่างรุนแรง และใช้แขนทั้งสองข้างของมันแทงตรงไปยังเป้าของเซียงจินเฉิง
การเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ตัวนี้มีความราบรื่นมาก ยิ่งไปกว่านั้นการจู่โจมของมันยังปราศจากจิตสังหารคล้ายกับนักฆ่าที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ด้วยปฏิกิริยาการตอบสนองอันรวดเร็ว เซียงจินเฉิงจึงรีบกดฝ่ามือลงไปด้านล่างเพื่อพยายามต้านทานการลอบโจมตีของหุ่นยนต์
ฉัวะ!
เสียงใบมีดตัดผ่านผิวหนังดังขึ้นมาอย่างชัดเจน และถึงแม้ว่าหุ่นยนต์ตัวนี้จะไม่สามารถจู่โจมเข้าใส่พื้นที่จุดสำคัญของชายชราได้ แต่ใบมีดบนแขนของมันก็สามารถสร้างรอยแผลบนฝ่ามือของชายชราได้สำเร็จ
หลังจากลงมือเพียงครั้งเดียวหุ่นยนต์ตัวน้อยก็ชูแขนทั้งสองข้างของมันพุ่งเข้าใส่พื้นดิน ก่อนที่จะหมุนตัวอย่างรวดเร็วราวกับสว่านและหายไปภายในดินอย่างไร้ร่องรอย
แน่นอนว่าหุ่นยนต์ตัวนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นอกเสียจากอันธที่โซฟีได้ใช้เทคโนโลยีในการหลอมรวมวิญญาณของเขาเข้ากับร่างของเครื่องจักร
ด้วยการใช้ร่างของเครื่องจักรนี่เอง มันจึงทำให้ไม่เพียงแต่อันธจะมีร่างกายอันทรงพลังเท่านั้น แต่เขายังสามารถที่จะเปลี่ยนไปใช้ร่างอื่นได้ตลอดเวลา และทำให้อดีตนักฆ่าคนนี้ได้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารโดยสมบูรณ์
อันธฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว!!
ยิ่งไปกว่านั้นอดีตนักฆ่ายังไม่เพียงแต่จะลุกขึ้นมาช่วยเซี่ยเฟยในการปรุงยา แต่เขายังช่วยชายหนุ่มในการต่อสู้ได้อีกด้วย
ปัจจุบันทางฝั่งของเซี่ยเฟยมีทั้งขนอุยผู้เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์, หงส์ครามผู้เป็นอาวุธมายาและอดีตนักฆ่าจากพันธมิตรผู้ซึ่งใช้ร่างกายของหุ่นยนต์ เพื่อเผชิญหน้ากับจักรพรรดิกฎเซียงจินเฉิงไปพร้อม ๆ กัน
นี่คือนิสัยที่เซี่ยเฟยมักจะใช้มาโดยตลอด โดยเขามักจะมีแผนสำรองอยู่เสมอ มันจึงไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ซ่อนไพ่ตายเอาไว้กี่ใบกันแน่
—
“หุ่นยนต์ตัวน้อยนั่นมันจะทรงพลังมากเกินไปแล้ว! มันสามารถจู่โจมทะลวงผ่านกำแพงมิติของเซียงจินเฉิงไปได้ยังไง ฉันพนันได้เลยว่ามีดในมือทั้งสองข้างของมันจะต้องไม่ใช่โลหะธรรมดาอย่างแน่นอน” เซี่ยจงไห่อุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“มันไม่ได้โจมตีทะลุผ่านเพียงแค่กำแพงมิติหรอก อย่าลืมว่าเซียงจินเฉิงเป็นจักรพรรดิกฎที่หลอมรวมร่างกายเข้ากับกฎแล้ว อาวุธธรรมดาย่อมไม่สามารถทำร้ายเขาได้แน่นอน” เซี่ยอู๋เย่กล่าวขึ้นมาด้วยดวงตาอันเป็นประกาย
เหล่าบรรดานักรบสกายวิงต่างก็เริ่มชื่นชมเซี่ยเฟยมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ชายหนุ่มได้ใช้ออกมาทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกตกตะลึงได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
—
เซียงจินเฉิงมองไปยังฝ่ามือเปื้อนเลือดของตัวเองด้วยความตกตะลึง และถึงแม้ว่าบาดแผลนี้จะไม่ได้ร้ายแรงมากนัก แต่มันกลับส่งผลกระทบต่อความภาคภูมิใจของเขาอย่างรุนแรง
จักรพรรดิกฎขั้นที่ 5 ได้รับบาดเจ็บจากราชากฎขั้นที่ 1 ถึง 2 ครั้ง!?
หากเรื่องวันนี้แพร่สะพัดออกไป มันก็คงไม่จำเป็นจะต้องบอกว่าชื่อเสียงของเขาจะได้รับผลกระทบขนาดไหน!!!
เซียงจินเฉิงรู้สึกโกรธเซี่ยเฟยมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้ชายหนุ่มยังไม่เคยปะทะกับเขาตรง ๆ เลยสักครั้ง จากนั้นเซี่ยเฟยก็ค่อย ๆ โยนไพ่ลับของตัวเองออกมาเพื่อตอบโต้จนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างในตอนนี้
“จันทร์สว่าง!” เซียงจินเฉิงส่งเสียงตะโกน ก่อนที่เขาจะปล่อยลูกบอลแสงขึ้นไปบนท้องฟ้า และทันใดนั้นมันก็ดูคล้ายกับจะมีมูนวอร์ดเต็มดวงปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน ส่องแสงสว่างไปทั่วทุกมุมของสนามรบอันแห้งแล้งแห่งนี้
“นั่นมันวิชาติดตามขั้นสูง” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความกังวล
เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายใช้วิชาติดตามออกมา เซี่ยเฟยก็รีบถีบตัวออกจากตำแหน่งเดิมในทันที
ฟุบ!
ขณะที่ร่างของชายหนุ่มกระโดดถอยออกไป ร่างของเซียงจินเฉิงก็ปรากฏตัวขึ้นตรงตำแหน่งที่เขาเคยยืนอยู่ด้วยเช่นกัน คล้ายกับว่าวิชานี้เป็นวิชาที่สามารถล็อกตำแหน่งเซี่ยเฟยได้ตลอดเวลา และเซียงจินเฉิงก็จะใช้วิชาเคลื่อนย้ายเพื่อเข้ามาประชิดจู่โจมเข้าใส่ชายหนุ่มโดยตรง
ร่างของเซียงจินเฉิงในครั้งนี้มีแสงสีขาวและสีดำกระเพื่อมอยู่ทั้งแขนซ้ายและแขนขวาของเขา ซึ่งเซี่ยเฟยเคยเห็นวิชาแบบนี้มาก่อน เขาจึงรู้ได้ในทันทีว่ามันคือวิชาผสานกฎ
ระหว่างที่เซียงอู๋เฉิงกับเซี่ยเทียนใช้วิชานี้ห้ำหั่นกัน มันก็เคยทำให้ดาวเคราะห์ทั้งดวงถูกทำลายลงไปแล้ว มันจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าการจู่โจมของเซียงจินเฉิงพร้อมที่จะพรากชีวิตของเซี่ยเฟยได้ตลอดเวลา
“ระวังตัวเอาไว้ด้วย จากนี้ไปร่างของเขาคือกฎโดยสมบูรณ์แล้ว การโจมตีทางกายภาพใด ๆ จะไม่ส่งผลกระทบกับร่างกายของเขา” โอโร่กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้นดวงจันทร์ที่เกิดขึ้นมาจากพลังกฎยังลอยขึ้นไปสู่อวกาศ ทำให้ดาวเคราะห์ทั้งดวงตกอยู่ภายใต้ผลของวิชาจันทร์สว่างเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นแม้ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามวิ่งหนีไป แต่เขาก็ไม่สามารถวิ่งหนีรอดไปจากรัศมีของวิชาติดตามขั้นสูงวิชานี้ได้
ฟุบ!
ร่างกายของเซียงจินเฉิงยังคงเคลื่อนไหวติดตามจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้การจู่โจมของเขาจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันกลับเต็มไปด้วยพลังกฎที่ไม่อาจต้านทานได้ ตราบใดก็ตามที่ฝ่ามือของอีกฝ่ายสัมผัสเข้ากับเซี่ยเฟยแม้แต่ครั้งเดียว เขาก็คงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสในทันที
กฎแห่งความโกลาหล!
เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติเซี่ยเฟยก็ไม่สามารถที่จะพึ่งพาเพียงแค่ความเร็วในการหลบหลีกอีกต่อไป เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้กฎแห่งความโกลาหลออกมา
“มาวัดกันไปเลยว่าพลังของใครจะแข็งแกร่งมากกว่ากัน!” เซี่ยเฟยกัดฟันพูดด้วยสีหน้าที่ดุร้าย
ปัง!
ร่างของชายหนุ่มกับเซียงจินเฉิงปะทะเข้าใส่กันอย่างรุนแรง ก่อนที่ร่างทั้งสองจะกระเด็นออกไปพร้อม ๆ กัน
ผลลัพธ์ในครั้งนี้คือพลังของกฎแห่งความโกลาหลสามารถเอาชนะการโจมตีของเซียงจินเฉิงได้ แต่มันยังไม่มากพอที่จะทำร้ายจักรพรรดิกฎคนนี้ได้ ร่างของทั้งสองฝ่ายจึงแค่กระเด็นออกจากกันเท่านั้น
“ยังไม่พอ มันต้องแข็งแกร่งกว่านี้!!”
ผลลัพธ์ของการจู่โจมทำให้เซี่ยเฟยตกใจมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่กฎแห่งความโกลาหลไม่สามารถทำร้ายร่างกายของศัตรูได้ หากเขาต้องการที่จะทำลายศัตรูลงไปจริง ๆ เขาก็จำเป็นที่จะต้องใช้พลังของกฎแห่งความโกลาหลออกมามากกว่านี้
อึก!
ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจใช้น้ำยาที่เขาเตรียมเอาไว้ เขาจึงเปิดฝาขวดน้ำยาทะลุจุดเดือดออกและเทน้ำยาทั้งขวดลงไปในท้อง
***************
ลุ้นนนนนนนน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 254
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น