ตอนที่ 717 ดาบคลั่งสกายวิง

-A A +A

ตอนที่ 717 ดาบคลั่งสกายวิง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 717 ดาบคลั่งสกายวิง

ณ สวนอันสวยงามแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเมืองอันวุ่นวาย นอกจากสวนแห่งนี้จะมีต้นซากุระสีชมพูเบ่งบานอยู่ทั่วทั้งบริเวณแล้ว ภายในสวนยังมีหินประดับตกแต่งอยู่ทั่วทุกที่ และมีสายน้ำไหลผ่านให้ความรู้สึกของความสบายใจ

กลุ่มดาวม้าขาวเป็นแหล่งรวมตัวของตระกูลขนาดใหญ่ในเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันจึงมีตระกูลอาศัยอยู่ในพื้นที่ดาวบริเวณนี้หลายร้อยตระกูล รวมถึง 9 ตระกูลชั้นยอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็อาศัยอยู่ภายในกลุ่มดาวม้าขาวแห่งนี้ด้วย

สวนซากุระถือได้ว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งกลุ่มดาวม้าขาว และทุกคนก็รู้กันดีว่าสวนแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ของตระกูลมูนวอร์ดซึ่งเป็น 1 ใน 9 ตระกูลชั้นยอด

ตระกูลชั้นยอดแต่ละตระกูลต่างกันล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น ตระกูลเชฟชิฟเตอร์และตระกูลวิทเทอร์ต่างก็มีลักษณะที่แข็งกร้าว, ตระกูลสโนว์ดริฟท์และตระกูลเกลเชอร์ต่างก็เป็นตระกูลที่รักสันโดษและไม่ค่อยอยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับใคร โดยเฉพาะตระกูลสโนว์ดริฟท์ที่มีลักษณะโดดเด่นมาก เพราะตระกูลนี้มีสมาชิกภายในตระกูลเป็นผู้หญิงเท่านั้น

ตระกูลแอจจิเททกับตระกูลมูนวอร์ดเป็นที่รู้จักในฐานะของ 2 ตระกูลที่มีความโรแมนติกมากที่สุด ซึ่งนอกเหนือจากสวนซากุระอันโด่งดังแล้ว ตระกูลมูนวอร์ดยังมีสวนดอกท้อที่ครอบคลุมพื้นที่หลายพันเฮกตาร์อีกด้วย

อย่างไรก็ตามดินแดนกฎถือว่าเป็นดินแดนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กอย่างแท้จริง ภายในดินแดนอันโหดร้ายแห่งนี้มีธุรกรรมอันดำมืดซ่อนอยู่ท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ความโรแมนติกของตระกูลมูนวอร์ดจึงเป็นเพียงแค่ฉากหน้าที่เอาไว้หลอกผู้อื่นเท่านั้น และในปัจจุบันมันก็กำลังมีร่าง 3 ร่างกำลังเดินไปตามเส้นทางใต้ดินของสวนซากุระ

ทางเดินลับแห่งนี้ทั้งเย็นเยียบและมีกลิ่นชื้นที่ให้ความรู้สึกที่ไม่ดี ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่ได้มีความคุ้นเคยกับตระกูลมูนวอร์ด พวกเขาก็คงจะไม่คิดว่ามันมีมุมมืดแบบนี้อยู่ภายใต้สวนซากุระที่โด่งดัง

หลังจากหักเลี้ยวไปตามมุมทางเดิน หยูฮัวที่ถูกนำทางโดยทหาร 2 คนของตระกูลมูนวอร์ดก็เดินเข้าไปในอาคารหลังน้อยภายในสวนซากุระ

ภายในอาคารมีชายชรา 2 คนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว โดยคนหนึ่งเป็นชายชราที่แต่งตัวด้วยชุดสบาย ๆ ขณะอีกคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนเป็นคนรับใช้ที่คอยดูแลชายชราคนแรก

หยูฮัวแสดงความเคารพชายชราตรงหน้าอย่างนอบน้อม ก่อนที่เขาจะเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโถงบรรพบุรุษของตระกูล ซึ่งชายทั้งสองคนก็รับฟังเหตุการณ์อย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

ยิ่งหยูฮัวพูดออกมามากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธแค้นมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการลงมือของเซี่ยเฟยในครั้งนี้เป็นการผลักหยูฮัวจากสวรรค์ลงสู่นรกโดยแท้จริง

ย้อนกลับไปในตอนนั้นหยูฮัวคิดว่าเขาอยู่ห่างจากการเป็นผู้นำตระกูลที่เขาใฝ่ฝันอยู่เพียงแค่เอื้อมมือ แต่เหตุการณ์ทุกอย่างกลับพังทลายลงไปในพริบตา แล้วเขาจะทำใจยอมรับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองในวันนั้นได้ยังไง

สีหน้าของชายชราทั้งสองเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อหยูฮัวเล่าจบชายชราทั้งสองคนก็ส่งสัญญาณให้แก่กัน ชายชราที่เป็นเหมือนกับคนรับใช้จึงโบกมือให้ทหารทั้งสองคนนำตัวหยูฮัวกลับไปในทันที

แม้ว่าหยูฮัวจะไม่รู้ว่าปฏิกิริยาแบบนี้มันคืออะไร แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องเดินกลับไปยังเส้นทางอันมืดมิดอีกครั้ง โดยไม่กล้ากล่าวแย้งอะไรขึ้นมาเลยแม้แต่คำเดียว

เมื่อภายในห้องเหลืออยู่เพียงแค่ชายชรา 2 คน เซียงไป๋ก็ลุกยืนขึ้นจากที่นั่งเดินไปยังสวนซากุระที่เขาชอบ โดยมีเซียงป๋อเฉิงผู้ซึ่งเป็นพ่อบ้านส่วนตัวของเขาเดินตามมาอย่างใกล้ชิด

มันไม่มีใครรู้อายุที่แท้จริงของเซียงไป๋ว่าชายชราคนนี้มีอายุมากขนาดไหนแล้วกันแน่ แต่มันมีคำร่ำลือว่ากันว่าชายชราผู้นี้มีอายุมากกว่า 500 ปีแล้ว และในปัจจุบันเขายังมีตำแหน่งเป็นผู้นำตระกูลมูนวอร์ด ซึ่งอำนาจภายในมือของเขาก็สามารถควบคุมฟ้าฝนได้ตามอำเภอใจ

ขณะเดียวกันแม้ว่าเซียงป๋อเฉิงจะมีอายุน้อยกว่าเซียงไป๋มาก แต่เขาก็ยังมีอายุหลายร้อยปีอยู่ดี อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากว่าชายชราคนนี้ไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลมูนวอร์ด เขาจึงไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งสำคัญในตระกูล ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ติดตามเซียงไป๋ในฐานะของพ่อบ้านส่วนตัว

ในความเป็นจริงเซียงไป๋จะมอบหน้าที่ที่สำคัญกว่านี้ให้กับเซียงป๋อเฉิงก็ได้ เพราะการเอาเซียงป๋อเฉิงมาเป็นพ่อบ้านก็ถือว่าเป็นการใช้ทรัพยากรมนุษย์อย่างสิ้นเปลือง แต่เนื่องมาจากว่าเขาให้ความไว้วางใจในตัวเซียงป๋อเฉิงมาก เขาจึงเลือกเก็บชายชราคนนี้เอาไว้คอยรับใช้อยู่ข้างกาย

“เซียงป๋อเฉิง นายมีความเห็นว่ายังไงบ้าง?” เซียงไป๋กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเดินชมความสวยงามของสวนซากุระ

“หยูฮัวถูกชายหนุ่มที่ชื่อเซี่ยเฟยหลอกเข้าอย่างจัง ผมคิดว่าคนคนนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับเราอีกต่อไป” เซียงป๋อเฉิงกล่าว

เซียงไป๋พยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปนั่งยังศาลากลางน้ำท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงาม

“ฉันคิดว่ามันไม่ใช่แค่หยูฮัวที่โดนหลอก แต่พวกเราก็โดนหลอกด้วยเหมือนกัน เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาที่จะก่อให้เกิดพายุอย่างรุนแรง”

“เราไม่ควรเชื่อคำพูดของหยูฮัวตั้งแต่แรกเลย ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในอาการควบคุมแล้ว และเราก็ไม่ได้ต้นพลัมเก้าราตรีกลับมาเหมือนกับแผนการที่พวกเราได้วางเอาไว้ด้วย” เซียงไป๋กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“นายท่านจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ความจริงเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ความผิดของหยูฮัวไปซะทีเดียว ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ เซี่ยเฟยจะปรากฏตัวขึ้นมา ที่สำคัญคือเขาคนนั้นสามารถทะลวงผ่านม่านพลังเข้าไปในเกาะอสรพิษพิทักษ์ได้ยังไง” เซียงป๋อเฉิงกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“ฉันก็สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนั้นเหมือนกันว่าเขาใช้พลังอะไรออกมากันแน่ มันถึงทำให้เขาสามารถทะลวงผ่านม่านพลังเข้าไปได้” เซียงไป๋กล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“น่าเสียดายที่ตอนนี้เซี่ยเฟยซ่อนตัวอยู่อย่างมิดชิด การพยายามตามหาตัวเขาจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ” เซียงป๋อเฉิงกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“พวกเราคงทำได้แค่ค่อย ๆ ตามหาตัวเขาไป ส่วนทางด้านหยูฮัวก็หมดประโยชน์กับเราแล้วส่งคนออกไปกำจัดเขาได้เลย หยูจินกับหยูเผิงก็รู้รายละเอียดเรื่องนี้มากเกินไป การเก็บพวกเขาไว้ไม่ได้เป็นผลดีสำหรับพวกเรา” เซียงไป๋กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“นายท่าน ผมเกรงว่าเราอย่าพึ่งทำอะไรพวกเขาในตอนนี้เลยจะดีกว่า”

“ทำไมล่ะ?” เซียงไป๋ถามด้วยความสับสน

“หยูฮัวยอมทรยศตระกูลตัวเองเพื่อแผนการของคุณ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถช่วยเอาต้นพลัมเก้าราตรีมาให้กับเราได้ แต่เขาก็ทุ่มเททำงานให้กับเราอย่างแท้จริง ถ้าหากว่าเรากำจัดเขาทิ้งไปในตอนนี้ตระกูลเล็ก ๆ ที่กำลังทำงานให้กับเราอยู่ในปัจจุบันก็คงจะเริ่มตั้งคำถามกับเราแล้วด้วยเหมือนกัน” 

“แม้ว่าการกำจัดหยูฮัวจะไม่ใช่เรื่องยากก็จริง แต่การทำแบบนั้นมันก็จะเป็นการทำลายความเชื่อใจของตระกูลอื่น ๆ ที่มีต่อเราลงไปด้วย” เซียงป๋อเฉิงวิเคราะห์ผลกระทบของสถานการณ์ให้เซียงไป๋ฟัง

รากฐานของตระกูลชั้นยอดมีความซับซ้อนมาก เพราะนอกเหนือจากสมาชิกในตระกูลแล้วพวกเขายังมีตระกูลเล็ก ๆ อีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนที่คอยทำงานให้กับพวกเขาอยู่อย่างลับ ๆ การตัดสินใจในการกำจัดหยูฮัวจึงเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อวงกว้างอย่างแท้จริง และถ้าหากว่าพวกตระกูลขนาดเล็กไม่หลงเหลือความเชื่อใจให้กับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว การจะทำเรื่องอะไรหลังจากนี้มันก็จะยากลำบากมากกว่าเดิม

“ไม่ว่าฉันจะตัดสินใจแบบไหน เราก็คงจะต้องปล่อยหยูฮัวไปสินะ ถ้าหากว่าหยูฮัวถูกจับไปเค้นความจริงขึ้นมา เรื่องนี้มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อตระกูลของเรางั้นเหรอ?” เซียงไป๋กล่าวขึ้นมาอย่างไม่ค่อยพอใจ

“นายท่านไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องนั้นเลย ด้วยอิทธิพลของเราการเก็บเขาไว้ในที่ปลอดภัยมันก็ง่ายพอ ๆ กันกับการกำจัดเขาไปนั่นแหละครับ” เซียงป๋อเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เอาตามที่นายแนะนำเถอะ ส่งหยูฮัวออกไปไกล ๆ ซะและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาจะต้องหายตัวไปในวันนี้ หลังจากเรื่องทุกอย่างเงียบลงไปแล้วเราค่อยจัดการกับพวกเขาทีหลัง” เซียงไป๋ตัดสินใจหลังจากจ้องมองออกไปในระยะไกล

“นายท่าน พวกเราไม่สามารถที่จะปล่อยเซี่ยเฟยเอาไว้ได้” เซียงป๋อเฉิงกล่าวแย้งขึ้นมา

“ทำไมล่ะ? นายก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าเจ้าหนุ่มนั่นมันฉลาดมาก วิดีโอของเขาถูกตัดต่อไม่ให้มีภาพของเซียงอู๋เฉิงปรากฏขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่ว่าตอนนี้พวกเราควรจะทำให้เรื่องทุกอย่างเงียบลงไปก่อนเหรอ แล้วพวกเราค่อยมากำจัดพวกเขาทีหลังก็ยังไม่สาย” เซียงไป๋กล่าวถามอย่างสับสน เพราะโดยปกติเซียงป๋อเฉิงจะไม่ค่อยกล่าวแย้งความคิดเห็นของเขามากนัก แต่ในวันนี้อีกฝ่ายกลับมีความเห็นขัดแย้งกับเขาหลายเรื่อง

“ผมรู้ว่านายท่านต้องการจะเก็บเขาไว้ เพราะนอกเหนือจากเขาจะฉลาดมากพอที่จะไม่ท้าทายพวกเราอย่างเปิดเผยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดนายท่านก็คงจะอยากรู้ว่าเขาสามารถทะลวงม่านพลังเข้ามาได้ยังไงใช่ไหมล่ะ?” เซียงป๋อเฉิงกล่าวอย่างใจเย็น

“ใช่ ฉันอยากรู้มากจริง ๆ ว่าเขาทะลวงม่านพลังเข้าไปได้ยังไง? ความลับในเรื่องนี้ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับตระกูลมูนวอร์ดของเรา ยิ่งไปก่อนนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงแค่คนตัวเล็ก ๆ แต่เขาก็ยังสามารถหลบหนีสายตาของพวกเราได้เป็นเวลานาน และเขายังสามารถระดมกำลังของเด็กรุ่นใหม่ออกมาสร้างความวุ่นวายได้อีกด้วย” เซียงไป๋กล่าว

“เรื่องพวกนั้นมันไม่สำคัญหรอกครับ สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือผมคิดว่าเขาน่าจะมีสายเลือดของสกายวิงต่างหาก” เซียงป๋อเฉิงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“อะไรนะ?! นายลองพูดอีกครั้งหนึ่งซิ!” เซียงไป๋อุทานด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง และความสงบที่เขามีในก่อนหน้านี้มันก็ถูกทำลายหายไปโดยสมบูรณ์

“หยูฮัวบอกกับผมว่าเซี่ยเฟยน่าจะเป็นทายาทของตระกูลสกายวิง แต่เขาบอกให้ผมเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับก่อน เพราะเขาต้องการที่จะกำจัดเซี่ยเฟยเป็นการส่วนตัว” 

“แต่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาในอนาคต ผมเลยให้หยูฮัวไปตั้งค่าหัวเซี่ยเฟยในราคา 1 ล้านคริสตันเหลือง” เซียงป๋อเฉิงคุกเข่าลงขอโทษผู้นำตระกูลของตัวเองโดยตรงที่ตัดสินใจทำอะไรลงไปโดยไม่ขอความเห็นจากเซียงไป๋ก่อน

“ดี! ดีมาก!! นายคิดได้ยังไงที่ไม่บอกเรื่องสำคัญแบบนี้กับฉัน นี่นายรู้ตัวหรือเปล่าว่าการตัดสินใจของนายในครั้งนี้มันอาจจะทำให้ตระกูลของเราถูกทำลาย!!!” เซียงไป๋ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ

“ตอนนี้มันยังไม่มีใครรู้เรื่องว่าเซี่ยเฟยคือทายาทของสกายวิง พวกเราควรกำจัดเขาลงโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นผมยินดีที่จะถูกลงโทษที่ตัดสินใจทำอะไรโดยพลการ” เซียงป๋อเฉิงกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“ไม่ต้องห่วง หลังจากจบเรื่องฉันได้ลงโทษนายแน่ ๆ” เซียงไป๋ยังคงกล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าคำว่าสกายวิงทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมากเพียงใด

“นายก็น่าจะรู้ดีว่าพวกสกายวิงถูกเรียกว่าดาบคลั่งของเผ่าเทพ พวกเรา 9 ตระกูลชั้นยอดจึงไม่กล้าที่จะเข้าไปแตะต้องเรื่องของพวกเขาด้วยซ้ำ ถ้าหากว่าความจริงในเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป พวกสกายวิงไม่มีทางยอมปล่อยพวกเราไปง่าย ๆ แน่” เซียงไป๋กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ไปเถอะ” เซียงไป๋ตะโกนสั่งพร้อมกับเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก

“ไปไหนครับ?” เซียงป๋อเฉิงถามเบา ๆ อย่างสับสน

“ไปหาบรรพบุรุษที่เผ่าเทพน่ะสิ ไม่ว่ายังไงในคราวนี้เซี่ยเฟยก็ต้องถูกกำจัด!!” เซียงไป๋ตะโกนขึ้นมาอย่างดุเดือด

***************

ศึกหนักแล้วพี่เฟย เขาไม่ประนีประนอม เขาจะเอาตาย!!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.