ตอนที่ 716 ตระกูลเฝิงและตระกูลวิทเทอร์

-A A +A

ตอนที่ 716 ตระกูลเฝิงและตระกูลวิทเทอร์

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 716 ตระกูลเฝิงและตระกูลวิทเทอร์

“นี่ลูกเอาจริงงั้นเหรอ?” เฝิงคูชานกล่าวถาม ขณะที่บรูซที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็กลืนคำพูดของตัวเองลงไป

“พ่อคงจะดูวิดีโอในโถงบรรพบุรุษของตระกูลหยูแล้วใช่ไหมครับ?” เฝิงซินเหนียนกล่าวถามอย่างเคร่งขรึม

“อืม พ่อดูแล้ว” เฝิงคูชานกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ ท้ายที่สุดกลุ่มมังกรฟ้าก็มีเครือข่ายข่าวสารกระจายอยู่ทั่วทุกที่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลหยูจึงไม่สามารถรอดพ้นไปจากสายตาของพวกเขาได้

“เซี่ยเฟยคือผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมบททดสอบในรอบที่ 2 ของงานชุมนุมมังกรฟ้า ซึ่งมันก็หมายความว่าเขามีโอกาสที่จะกลายมาเป็นสมาชิกกลุ่มมังกรฟ้าของเราในอนาคต แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เขาไม่สามารถมาเข้าร่วมการประเมินในรอบต่อไปได้ และมันก็ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของกลุ่มมังกรฟ้าด้วยเหมือนกัน” เฝิงซินเหนียนกล่าว

“สิ่งที่ลูกพูดมันก็ใช่ แต่เรื่องนี้เราก็ควรรอให้ทางสมาคมผู้คุมกฎตัดสินทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน ไม่ว่ายังไงทางสมาคมก็มีหน้าที่ตัดสินข้อพิพาทต่าง ๆ ภายในดินแดนของเราอยู่แล้ว และพวกเราก็ไม่สมควรที่จะเข้าไปก้าวก่ายหน้าที่ของพวกเขา” เฝิงคูชานกล่าวแย้ง

“พ่อก็น่าจะรู้ใช่ไหมครับว่ามีคนบางคนก็ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับของสมาคมผู้คุมกฎด้วยเหมือนกัน ผมกลัวว่าครั้งนี้พวกเขาจะตัดสินอย่างไม่ยุติธรรมและออกคำสั่งลงโทษเซี่ยเฟยทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้มีความผิดอะไร” เฝิงซินเหนียนกล่าว

ตาขวาของเฝิงคูชานกระตุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ท้ายที่สุดเขาก็เป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์ในดินแดนแห่งนี้มานานแล้ว เขาจึงรู้ดีว่าโศกนาฏกรรมของตระกูลหยูมันมีเบื้องหลังบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยออกสู่สาธารณะได้

สถานการณ์นี้ทำให้บรูซขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกังวลใจเช่นเดียวกัน

“หากดูจากวิดีโอมันก็เห็นได้ชัดเลยว่าเซี่ยเฟยมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับราชากฎแล้ว ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งจะเริ่มฝึกฝนพลังกฎได้เพียงแค่ไม่ถึงปีเท่านั้น ความเร็วในการพัฒนาของเขาจัดอยู่ในระดับที่น่าอัศจรรย์มาก และถ้าหากว่าเขาได้ใช้ชีวิตตามปกติ เขาก็คงจะได้เข้าร่วมกลุ่มมังกรฟ้าของเราและกลายเป็นลูกศิษย์ของอาบรูซอย่างแน่นอน”

“อย่างไรก็ตามในตอนนี้มันได้มีคนพยายามมาขัดขวางเส้นทางเดินของเซี่ยเฟยเอาไว้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเซี่ยเฟยคนเดียวเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งในอนาคตของกลุ่มมังกรฟ้าพวกเราอีกด้วย”

แม้ว่าเฝิงซินเหนียนจะยังเด็กแต่เขาก็มีความเจ้าเล่ห์มาก ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าพ่อของเขาพยายามตัดสินใจทุกอย่างโดยยึดผลประโยชน์ของกลุ่มมังกรฟ้าเป็นหลัก เขาจึงพยายามใช้ผลประโยชน์ของกลุ่มมังกรฟ้ามาเกลี้ยกล่อมบิดาของตัวเองด้วยเช่นกัน

“แล้วลูกจะให้กลุ่มมังกรฟ้าไปท้าทายคนที่สมาคมผู้คุมกฎไม่อยากจะเป็นศัตรูด้วยงั้นเหรอ?” เฝิงคูชานกล่าวถาม

“ผมไม่ได้จะให้พวกเราไปท้าทาย แต่พวกเราควรยืนอยู่ฝั่งเดียวกับความยุติธรรม ถ้าหากว่าคนพวกนั้นทำผิดจริง ๆ พวกเขาก็ควรจะต้องถูกลงโทษเหมือนกับคนอื่น ๆ” เฝิงซินเหนียนกล่าว

คำตอบของลูกชายทำให้เฝิงคูชานมองไปยังเฝิงซินเหนียนด้านหน้าด้วยความภูมิใจมากขึ้นกว่าเดิม

“มู่ฟู่ผิงถือได้ว่าเป็นหลานรักของผู้อาวุโสมู่ฉีหยุน ถ้าหากว่าเธอสามารถทำให้ผู้อาวุโสมู่ฉีหยุนออกมาเรียกร้องเรื่องนี้ได้ มันก็คงจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น” เฝิงคูชานกล่าว

“เรื่องนั้นผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ คุณหนูมู่ฟู่ผิงให้สัญญากับผมแล้วว่าเธอจะพยายามขอร้องให้ปู่ของเธอออกมาจัดการเรื่องนี้ให้ได้” เฝิงซินเหนียนกล่าวโดยเขาได้เดาใจบิดาของตัวเองเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นลูกก็ออกไปก่อน พ่อขอใช้เวลาตัดสินใจสักพัก” เฝิงคูชานกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ในที่สุดเฝิงซินเหนียนก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับถอนหายใจ และเนื่องมาจากว่าเขามีความสนิทสนมกับบิดาของตัวเองมาก เขาจึงสามารถคาดเดาได้เลยว่าการเจรจาในครั้งนี้ถือว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

ในฐานะคนสนิทบรูซรู้ดีว่าสาเหตุที่เฝิงคูชานให้เฝิงซินเหนียนออกไปก่อน นั่นก็เพราะว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะปรึกษาหารือกับเขา

“เฝิงซินเหนียนเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ แม้ว่าเขาจะพยายามเชื่อมโยงว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มมังกรฟ้า แต่ในความเป็นจริงเขากำลังพยายามปกป้องมือขวาของตัวเองในอนาคต” เฝิงคูชานเอนหลังพร้อมกับกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“ผมคิดว่าการที่เรายื่นมือออกไปยุ่งกับเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย ไม่ว่ายังไงเซี่ยเฟยก็ไม่ใช่ฝ่ายที่กระทำความผิดจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง เราแค่ต้องออกไปกดดันให้สมาคมผู้คุมกฎจัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรม”

“นอกจากนี้ผู้นำของตระกูลวิทเทอร์ก็น่าจะออกมากดดันสมาคมผู้คุมกฎด้วยเหมือนกัน ดังนั้นโอกาสที่เราจะได้รับชัยชนะจึงถือว่ามีสูงมาก” บรูซกล่าว

“อะไรกัน นี่นายก็เอากับเขาด้วยงั้นเหรอ?” เฝิงคูชานกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

“แม้เซี่ยเฟยจะไม่ใช่เด็กที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้สมัคร แต่เขาคือคนที่มีศักยภาพในการเติบโตมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากว่าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากจะละทิ้งเมล็ดพันธุ์ที่ดีแบบนี้ไป ในอนาคตเขาจะต้องกลายมาเป็นกำลังสำคัญให้กับเราได้อย่างแน่นอน” บรูซกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ

“มันยากมากนะเนี่ยที่นายจะออกหน้าแทนใครแบบนี้ เอาล่ะถึงยังไงเรื่องนี้พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ความพยายามอะไรมากอยู่แล้ว และเด็กคนนั้นก็ไม่ใช่ฝ่ายผิดตั้งแต่แรกด้วยเหมือนกัน” เฝิงคูชานกล่าวอย่างใจเย็น

“แล้วคุณยังลังเลเรื่องอะไรอยู่?” บรูซถามอย่างสงสัย

“ฉันแค่รู้สึกว่าเฝิงซินเหนียนในตอนนี้ยังมีบารมีไม่มากพอที่จะดึงคนอื่น ๆ ให้มาอยู่กับเขาได้ ไม่ว่ายังไงฉันก็คงจะไม่สามารถดูแลกลุ่มมังกรฟ้าได้ตลอดไป เฝิงซินเหนียนจึงควรเริ่มจะหาพันธมิตรให้กับตัวเองได้แล้ว”

“เซี่ยเฟยที่มีศักยภาพชั้นยอดและมีอายุพอ ๆ กันกับเฝิงซินเหนียนถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหนุ่มคนนี้ยังไม่มีภูมิหลังในดินแดนกฎ ดังนั้นในอนาคตเขาก็ควรจะพร้อมรับใช้เฝิงซินเหนียนได้อย่างเต็มที่” เฝิงคูชานกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“คุณกำลังจะบอกว่าการช่วยเหลือเซี่ยเฟยในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือเฝิงซินเหนียนอ้อม ๆ ด้วยสินะครับ แล้วทำไมคุณถึงบอกว่าเฝิงซินเหนียนยังมีบารมีไม่มากพอ?” บรูซกล่าวถามอย่างสงสัย

“ถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนอื่น เฝิงซินเหนียนย่อมได้รับมือขวามาคอยช่วยเหลือในอนาคตอย่างแน่นอน แต่ในกรณีของเซี่ยเฟยแตกต่างไปมาก เพราะเขาไม่ใช่คนที่เฝิงซินเหนียนจะสามารถเข้าไปควบคุมอิสระของเขาเอาไว้ได้ ฉันคิดว่าในท้ายที่สุดเซี่ยเฟยจะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเฝิงซินเหนียนเท่านั้น แต่จะไม่มีวันกลายมาเป็นมือขวาของเฝิงซินเหนียนอย่างเด็ดขาด” เฝิงคูชานกล่าว

คำอธิบายนี้ถึงกับทำให้บรูซพูดไม่ออก และเมื่อเขาได้คิดถึงความดื้อรั้นที่เซี่ยเฟยได้แสดงออกมาในระหว่างการประเมิน เขาก็เริ่มเห็นภาพเดียวกันกับที่เฝิงคูชานได้วิเคราะห์เอาไว้

“แล้วพวกเราควรจะทำยังไงดีครับ?” บรูซกล่าวถามอย่างลังเล เพราะเขาก็ไม่อยากจะสูญเสียเซี่ยเฟยไปด้วยเหมือนกัน

“ถึงยังไงเรื่องนี้ฉันก็คงจะต้องออกหน้าไปจัดการก่อน เฝิงซินเหนียนอุตส่าห์เลือกมือขวาของตัวเองแล้วฉันคงทำได้แค่คอยสนับสนุนเขาอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น ส่วนเขาจะสามารถโน้มน้าวให้เซี่ยเฟยมาอยู่กับตัวเองได้หรือไม่ นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาเอง”

ในเวลาเดียวกันมู่ฟู่ผิงก็กำลังเดินเข้าไปภายในบ้านของมู่ฉีหยุนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

เฝิงซินเหนียนรู้อยู่แล้วว่ามู่ฟู่ผิงไม่ต้องการให้เซี่ยเฟยตกอยู่ในอันตราย เขาจึงขอให้เธอมาเกลี้ยกล่อมมู่ฉีหยุนซึ่งเป็นผู้นำตระกูลวิทเทอร์ให้ออกหน้ามาจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

ปัจจุบันมู่ฉีหยุนกำลังเดินชมสวนอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่มันจะมีชายชุดดำเข้ามากระซิบข้อความอะไรบางอย่างข้าง ๆ หูของเขา

“มู่ฟู่ผิงกำลังมาขอความช่วยเหลือจากฉันงั้นเหรอ?” มู่ฉีหยุนอุทานขึ้นมาอย่างประหลาดใจ

“ตอนนี้คุณหนูน่าจะมาถึงลานหน้าบ้านแล้วครับ” ชายชุดดำกระซิบ

ตระกูลขนาดใหญ่มีสายลับกระจายไปยังสถานที่ต่าง ๆ อย่างมากมาย ซึ่งสายลับเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะมีหน้าที่สืบหาข่าวเกี่ยวกับศัตรูเท่านั้น แต่พวกเขายังมีหน้าที่ตรวจสอบทุกการเคลื่อนไหวของคนภายในตระกูลอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่มู่ฟู่ผิงจะเดินทางมาถึงสายลับก็ได้เดินทางมารายงานเรื่องนี้ต่อมู่ฉีหยุนก่อนแล้ว

“อืม” มู่ฉีหยุนกล่าวพร้อมกับโบกมือทำให้ภายในสวนกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

นาทีต่อมามู่ฟู่ผิงก็ปรากฏตัวขึ้นในสวน ก่อนที่เธอจะรีบส่งเสียงออดอ้อนและวิ่งเข้ามาหาปู่ของเธอในทันที

“คุณปู่ช่วยหนูด้วย!”

มู่ฉีหยุนเดินเข้าไปปลอบหลานสาวสุดที่รักด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะนำหลานสาวไปนั่งบนม้านั่งและนำผลไม้มาเสิร์ฟเพื่อให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลาย

“หลานเป็นอะไร? มีใครทำให้หลานไม่พอใจหรือเปล่า?” มู่ฉีหยุนถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้ เพราะเขากลัวว่ามู่ฟู่ผิงจะโกรธเขาถ้าหากว่าหญิงสาวรู้ว่าเธอถูกสายลับของเขาแอบติดตามทุกการเคลื่อนไหว

หลังจากนั้นมู่ฟู่ผิงก็รีบเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเซี่ยเฟย และพยายามขอร้องให้ชายชราเดินทางไปยังสมาคมผู้คุมกฎเพื่อเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้กับชายหนุ่ม

“คนพวกนั้นมันกล้ามาใส่ร้ายเพื่อนของหลานสาวสุดที่รักของฉันได้ยังไง?!” มู่ฉีหยุนกล่าวพร้อมกับใช้มือตบหน้าขาของตัวเองเสียงดัง

ท่าทางของมู่ฉีหยุนทำให้มู่ฟู่ผิงรู้สึกตกตะลึง เพราะตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะต้องออดอ้อนขอให้ปู่ของเธอช่วยนานกว่านี้เสียอีก แต่เธอกลับไม่คิดเลยว่าปู่ของเธอจะมีปฏิกิริยาตอบรับออกมาแบบนี้

“ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาเร็ว ๆ เข้า!” มู่ฉีหยุนตะโกนเสียงดัง

ฟุบ!

องครักษ์ของตระกูล 3 คนรีบเคลื่อนที่เข้ามารับคำสั่งจากผู้นำตระกูลอย่างรวดเร็ว

“ฉันจะไปสมาคมผู้คุมกฎ รีบ ๆ ไปเรียกผู้จัดการตระกูลมาเดี๋ยวนี้” มู่ฉีหยุนออกคำสั่ง

มู่ฟู่ผิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะปู่ของเธอไม่เพียงแต่จะเดินทางไปสมาคมด้วยตัวเองเท่านั้น แต่พวกเขายังจะนำลุงของเธอที่คอยดูแลตระกูลเดินทางไปพร้อมกันด้วย

มู่ฟู่ผิงรีบกระโดดคว้าแขนของมู่ฉีหยุนอย่างดีใจและกล่าวคำขอบคุณออกมาซ้ำ ๆ

“น่าเสียดายจริง ๆ ที่หลานไม่ใช่ผู้ชาย ไม่อย่างนั้นปู่คงจะส่งต่อตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับหลานไปแล้ว แต่ช่างมันเถอะในเมื่อปู่ไม่สามารถมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับหลานได้ ปู่ก็จะทำทุกอย่างตามที่หลานต้องการเอง” มู่ฉีหยุนกล่าวพร้อมกับลูบผมของหลานสาวเบา ๆ

เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้มู่ฟู่ผิงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก และมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกรักปู่ของเธอมากขึ้นกว่าเดิม

สาเหตุที่มู่ฉีหยุนสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะว่าเซี่ยเฟยไม่ใช่คนผิด อีกส่วนหนึ่งก็เพราะคำขอร้องจากหลานสาวสุดที่รักของเขา มันจึงทำให้เขาตัดสินใจในเรื่องนี้ได้อย่างไม่ลำบากใจมากนัก

มันเป็นที่รู้กันดีทั่วทั้งกลุ่มดาวม้าขาวอยู่แล้วว่ามู่ฟู่ผิงเป็นหลานสาวสุดที่รักของมู่ฉีหยุน เพราะหนึ่งเธอคือหลานสาวสายตรงของชายชรา และสองก็เพราะว่าเธอมีรูปร่าง, หน้าตา, การพูดจาและนิสัยเหมือนกับภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไป

ทุกครั้งที่เห็นหลานสาวคนนี้มันจึงทำให้ชายชราคิดถึงภรรยาของตัวเอง เขาจึงรู้สึกเอ็นดูมู่ฟู่ผิงมาก และถึงแม้ว่าหลานสาวของเขาจะต้องการดวงดาวบนท้องฟ้า เขาก็จะเอาดวงดาวเหล่านั้นมาให้กับหลานสาวด้วยตัวเอง

***************

ความจริงคือหลงหลานหัวปักหัวปำ นึกว่าคุณปู่มู่จะมีอะไรแอบแฝงซะอีก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.