ตอนที่ 639 ร่องรอยของลินนิจ

-A A +A

ตอนที่ 639 ร่องรอยของลินนิจ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 639 ร่องรอยของลินนิจ

เข็มทิศมิติจากบริษัทฟิกส์มีตำแหน่งจุดหมายปลายทางกรอกให้โดยอัตโนมัติ แต่เนื่องจากชายหนุ่มต้องการที่จะมุ่งหน้าไปยังดินแดนลับของหุ่นยนต์ เขาจึงกรอกตำแหน่งของดินแดนลับแทนเข้าไปในตำแหน่งของพันธมิตร

ในที่สุดหน้าจอก็แสดงผลว่าตำแหน่งปลายทางเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัย ชายหนุ่มจึงกดปุ่มยืนยันเพื่อเริ่มการเดินทาง ซึ่งเขาก็สามารถเดินทางจากดินแดนเผ่ามารมายังดินแดนลับของหุ่นยนต์ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที

“อื้อหือ! เข็มทิศมิติมันสะดวกขนาดนี้เลยเหรอ!!” อันธอุทานออกมาอย่างตกใจ

“นั่นสิ เข็มทิศนี่เหมือนกับเวทมนตร์เลย ไม่ว่าระยะทางจะไกลสักแค่ไหนแต่มันกลับช่วยให้เราเดินทางได้เพียงแค่แป๊ปเดียว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

เมื่อบรรดาหุ่นยนต์ได้เห็นเซี่ยเฟยพวกมันก็ลื่นเปิดทางให้กับชายหนุ่มในทันที เนื่องมาจากว่าโซฟีได้ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบของหุ่นยนต์ทุกตัวแล้ว พวกมันจึงรู้ว่ามนุษย์คนนี้คือเจ้านายของกระป๋องผู้ซึ่งเป็นราชาของพวกมัน

ในที่สุดเมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปในตึกสีขาว เขาก็ได้พบกับแอวริลและชนเผ่าจักรกลทั้งสามคน

แอวริลกระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของเซี่ยเฟยอย่างโหยหา ขณะที่มอร์โรว์, วอร์สตาร์และโซฟีได้จ้องมองมนุษย์ทั้งสองด้วยรอยยิ้ม

“นายไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?” แอวริลผละออกมาอย่างเขินอายเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดมันก็ยังมีพวกหุ่นยนต์กำลังเฝ้ามองพวกเธออยู่ในตอนนี้

“ฉันไม่เป็นอะไร แล้วเธอล่ะ?” เซี่ยเฟยถามโดยไม่พูดถึงอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับมาจากความวุ่นวายในตระกูลหยู

“เพื่อน ๆ พวกนี้ใจดีกับฉันมาก นายรู้ไหมว่ากองยานที่พวกเขาเอาไปรับฉันมันใหญ่โตมากแค่ไหน…”

แอวริลเล่าประสบการณ์ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้อย่างมีความสุข ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่มีหญิงสาวคนไหนที่ไม่อยากให้ผู้ชายของเธอเป็นคนที่แข็งแกร่ง เพียงแต่ความแข็งแกร่งที่เซี่ยเฟยได้ซุกซ่อนเอาไว้ ค่อนข้างที่จะเหนือจินตนาการของเธอมากเกินไป จนทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ขนอุย! นี่นายตัวเล็กลงอีกแล้วเหรอ?” แอวริลกล่าวพร้อมกับใช้มือดึงหน้าของเจ้าตัวเล็ก พร้อมกับนึกถึงนิสัยของขนอุยที่ไม่ชอบกินอาหารที่เธอป้อนมากเท่าไหร่

ขนอุยทำได้เพียงแต่ปล่อยให้แอวริลดึงแก้มของมันต่อไป แต่เมื่อหญิงสาวเริ่มวางแผนถึงมื้ออาหารของมัน เจ้าตัวน้อยก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาในทันตา

ฉันไม่อยากกินของพวกนั้น!! 

หากพูดได้ขนอุยก็คงจะตะโกนคำพวกนี้ออกมา แต่น่าเสียดายที่แอวริลคงจะไม่มีวันได้ยินความคิดของมัน

“แอวริล ฉันขอเวลาคุยธุระแป๊บหนึ่งได้ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย

“ได้สิ เดี๋ยวฉันออกไปรอข้างนอกนะ” แอวริลกล่าวก่อนที่เธอจะออกไปจากห้องพร้อมกับขนอุยที่อยู่ในอ้อมแขนและกระป๋องที่ติดตามเธอไปอย่างระมัดระวัง

แม้ว่าตอนนี้กระป๋องจะถูกเลื่อนระดับกลายเป็นราชาของเหล่าหุ่นยนต์แล้ว แต่สิ่งที่มีในหัวของมันอยู่ทุกวันก็ยังคงเป็นเรื่องการให้บริการเจ้านายของมัน ทั้งเรื่องการทำอาหารและเรื่องการทำความสะอาด โดยพยายามให้เซี่ยเฟยใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากที่สุด

“คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” โซฟีกล่าวถาม

“ฉันถูกหลอกและเกือบเอาชีวิตไม่รอด ช่วงนี้ฉันคงจะต้องอยู่ห่างจากดินแดนกฎไปก่อน ฝ่ายตรงข้ามมีพลังมากกว่าฉันมาก ฉันเชื่อว่าตอนนี้ทั่วทั้งพันธมิตรคงจะเต็มไปด้วยคนของพวกมันแล้ว และเป้าหมายของมันก็คงจะไม่พ้นฉันกับแอวริล” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับกัดฟัน

“ศัตรูของคุณทรงพลังถึงขนาดไล่ตามมาจนถึงเขตแดนพันธมิตรเลยงั้นเหรอ?” วอร์สตาร์กล่าวถาม

“ฉันยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าศัตรูของฉันมีใครบ้าง บางทีพวกเขาก็อาจจะเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในเผ่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในดินแดนกฎ” เซี่ยเฟยกล่าว

“ฉันดีใจนะที่คุณกลับมาได้ แต่ฉันก็อยากจะรู้จริง ๆ ว่าคนแบบไหนถึงหลอกคุณได้สำเร็จ เรารู้ดีว่าคุณเป็นคนขี้ระแวงมากแค่ไหน และการที่คุณตกหลุมพรางได้มันก็แสดงว่ากับดักของคนคนนั้นจะต้องแยบยลมาก” มอร์โรว์กล่าว

เซี่ยเฟยทำได้เพียงแต่แบะริมฝีปากออกมาอย่างไม่พอใจ ท้ายที่สุดหยูฮัวก็เข้ามาช่วยดูแลเขาตั้งแต่ที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในดินแดนกฎ มันจึงทำให้เขาตกหลุมพรางคิดว่าพ่อค้าคนนั้นคือสหายที่ดีของเขา

“ช่างเรื่องนั้นไปก่อนเถอะ ว่าแต่ตอนนี้พวกชาร์ลีเป็นยังไงบ้าง?” เซี่ยเฟยถาม

“พวกเราได้ส่งหุ่นยนต์นาโนออกไปติดตามการเคลื่อนไหวพวกชาร์ลีตลอดเวลา นอกจากนี้เรายังได้ส่งหน่วยปฏิบัติการลับออกไปเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว หากมันมีอะไรเกิดขึ้นเพื่อน ๆ ของคุณจะถูกนำตัวมาที่นี่ในทันที” วอร์สตาร์กล่าว

หุ่นยนต์ชีวภาพที่ถูกส่งไปประจำการยังสถานที่ต่าง ๆ ของพันธมิตรถูกพัฒนาขึ้นมาจากเซียน่าเพื่อแก้แค้นมนุษย์ แต่ในปัจจุบันพวกมันถูกใช้ในการสอดแนมและทำภารกิจลับ ซึ่งตัวตนของพวกมันกลมกลืนกับมนุษย์มาก ๆ จนยากที่จะแยกออกว่าหุ่นยนต์ชีวภาพเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์จริง ๆ

“ดีมาก ถึงแม้ฉันจะคิดว่าพวกมันคงจะไม่ลงมือจู่โจมใครคนอื่นนอกจากแอวริลก็เถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“พวกเขาคงจะคิดว่าชาร์ลีเป็นเพียงแค่ลูกน้องของคุณ ที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจับพวกชาร์ลีเป็นตัวประกันแต่คุณก็คงจะไม่สนใจ แต่กรณีของแอวริลเป็นกรณีที่แตกต่างกันออกไป เพราะคุณประกาศให้คนทั่วทั้งพันธมิตรได้เห็นว่าคุณรักเธอมากแค่ไหน เธอจึงกลายเป็นจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของคุณ” มอร์โรว์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ลองดูภาพพวกนี้สิ นี่คือภาพเหตุการณ์ที่หุ่นยนต์นาโนบันทึกเอาไว้ได้หลังจากที่พวกเราไปรับแอวริลมา 27 นาที”

หลังจากพูดจบมอร์โรว์ก็เปิดหน้าจอเผยให้เห็นร่างสีดำ 2 ร่างที่พุ่งตัวเข้าไปในห้องส่วนตัวของแอวริล และเมื่อพวกเขาพบว่าหญิงสาวไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว หนึ่งในชายชุดดำก็ระเบิดกำแพงห้องของหญิงสาวด้วยความโกรธ

ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยเหงื่อไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และถ้าหากว่ากองทัพหุ่นยนต์เคลื่อนไหวช้ากว่านี้อีกนิด ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คงจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายแน่นอน

ตูม!

เซี่ยเฟยชกเข้าใส่กำแพงโลหะหนาจนทำให้กำแพงยุบตัวลงไปเป็นหลุมลึก

“พวกมันตั้งเป้าหมายไปที่แอวริลจริง ๆ สินะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

“โชคดีที่คุณได้เตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้าพวกเราจึงรับตัวแอวริลมาได้ทัน แต่ตอนนี้ถึงแม้ว่าคุณจะอารมณ์เสียไปแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้คุณควรจะไปพักผ่อนกับแอวริลก่อนแล้วเราค่อยมาคิดมาตรการการรับมือหลังจากนี้จะดีกว่า” โซฟีกล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับและเนื่องจากเขายังไม่รู้ถึงตัวตนของศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังหยูฮัว ตอนนี้การพยายามใช้ชีวิตเงียบ ๆ ก็คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“ว่าแต่คุณเดินทางกลับมาที่ดินแดนลับเร็วขนาดนี้ได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้นทำไมคุณถึงผ่านเส้นทางอันซับซ้อนได้โดยไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเรา” มอร์โรว์พยายามถามเปลี่ยนเรื่อง

“ฉันเคลื่อนที่ผ่านของสิ่งนี้มา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหยิบเข็มทิศมิติของบริษัทฟิกส์มาวางไว้บนโต๊ะ

“นี่มันอะไร?” จักรกลทั้งสามกล่าวถามพร้อมกัน

“มันชื่อเข็มทิศมิติเป็นเครื่องมือเดินทางผ่านประตูมิติที่ใช้กันในดินแดนกฎ”

สิ้นคำอธิบายสีหน้าของพวกมอร์โรว์ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก

“เครื่องมือนี้มัน... มันจะน่าอัศจรรย์มากจนเกินไปแล้ว!” มอร์โรว์กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

หลังจากนั้นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของเหล่าบรรดาหุ่นยนต์ก็เริ่มทำการตรวจสอบเครื่องมืออัศจรรย์ที่อยู่ตรงหน้า

“นี่มันจะซับซ้อนจนเกินไปแล้ว! คล้ายกับคนสร้างใส่จักรวาลอันเล็ก ๆ เอาไว้ในเข็มทิศเลย แม้แต่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดของเผ่าจักรกลก็ยังไม่สามารถที่จะลอกเลียนเทคโนโลยีในเข็มทิศนี้ได้” มอร์โรว์กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

“อุปกรณ์ชิ้นนี้สร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่สูงมากจริง ๆ บางทีพวกเราอาจจะต้องสร้างอุปกรณ์ใหม่เพื่อเอาไว้ค้นคว้ามันโดยเฉพาะ” โซฟีกล่าว

“ถ้าคุณไม่ว่าอะไรฉันกับเทพธิดาขอลองศึกษามันดูหน่อยได้ไหม?” มอร์โรว์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ได้แต่ระวังด้วย ของชิ้นนี้มันแพงมาก” เซี่ยเฟยกล่าว

“ว่าแต่มันมีเหตุการณ์พิเศษอะไรเกิดขึ้นกับบริษัทของฉันในช่วงเวลาที่ฉันไม่อยู่หรือเปล่า?”

“มันไม่มีเหตุการณ์พิเศษอะไรนะ บริษัทควอตัมได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีจากฉันจนสร้างเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ขณะที่บริษัทสตาร์ลิงก็พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด จนทำให้บริษัทควอนตัมกับบริษัทสตาร์ลิงกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในพันธมิตรไปแล้ว” มอร์โรว์กล่าว

“บริษัทสตาร์ลิงไม่ใช่ของฉัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“ตอนนี้ไม่ใช่ แต่อีกหน่อยก็ไม่แน่” มอร์โรว์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย

เซี่ยเฟยทำได้เพียงแค่ยักไหล่ตอบกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีก

“อ๋อฉันจำได้แล้ว เมื่อไม่นานมานี้ทีมสำรวจของบริษัทควอนตัมที่นำโดยบุชเชอร์ติดต่อมาหาชาร์ลี บอกว่ามีเรื่องน่าสนใจจะรายงานไปที่คุณโดยตรง บางทีเรื่องนี้มันอาจจะเกี่ยวกับสวนเอเดนในตำนานก็ได้” มอร์โรว์กล่าวหลังจากนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

ครั้งหนึ่งสวนเอเดนเคยได้รับความสนใจจากพันธมิตรเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่หลังจากสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ได้ปะทุขึ้นมา เรื่องนี้มันก็ค่อย ๆ ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา

เพียงแค่พริบตาเวลาก็ได้ผ่านพ้นไปนานกว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้พวกบุชเชอร์ก็อาจจะค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจมาแล้วก็ได้

“น่าสนใจดีนี่ แต่การติดต่อชาร์ลีตอนนี้อาจจะทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย พวกเรารอไปสักพักก่อนก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าว

พวกมอร์โรว์พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีหุ่นยนต์ชีวภาพคอยสอดแนมอยู่ทั่วทั้งพันธมิตร แต่มันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะไม่มีศัตรูที่เล็ดลอดสายตาของพวกเขาอยู่จริง ๆ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็ควรจะติดต่อกลับไปยังบริษัทควอนตัมให้ได้น้อยที่สุด

ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็ได้ทำการเชื่อมต่อแหวนมิติ 2 วงเพื่อนำของจากแหวนมิติขนาดเล็กที่ฮีธฟิลด์ให้เขามากลับไปเก็บไว้ในแหวนมิติของเขาเอง

“มอร์โรว์ ในระหว่างที่นายศึกษาเข็มทิศมิตินายช่วยดูชุดเกราะนี่ให้ฉันด้วยได้ไหม? ดูเหมือนว่ามันจะมีอุปกรณ์ติดตามติดตั้งอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยถอดอุปกรณ์ติดตามออกให้ฉันหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยื่นแหวนมิติให้มอร์โรว์

“มันคือชุดเกราะต่อสู้จากดินแดนกฎงั้นเหรอ? ไหนฉันขอดูหน่อยสิ”

“ระวังหน่อยนะ จะทำอะไรก็ให้ทำแต่ในแหวนมิติเท่านั้น ถ้าหากเอามันออกมาข้างนอกตำแหน่งของเราก็อาจจะถูกค้นพบ” เซี่ยเฟยสั่ง

“ได้ ไม่มีปัญหา” มอร์โรว์กล่าวก่อนที่จะปล่อยร่างโคลนที่เป็นหุ่นยนต์แมลงสาบคลานเข้าไปในแหวนมิติ

ทันใดนั้นมอร์โรว์ก็ชะงักค้างไป ก่อนที่เขาจะยืนนิ่ง ๆ อยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน

“เซี่ยเฟย! นี่คุณเจอนายท่านลินนิจแล้วงั้นเหรอ?!” มอร์โรว์ถามขึ้นมาด้วยความตกใจ

“อะไรนะ?! นี่คุณเจอท่านพ่อแล้วเหรอ?” โซฟีหันไปมองเซี่ยเฟยอย่างสงสัยด้วยเหมือนกัน

“นี่นายกำลังพูดถึงอะไร? ฉันยังไม่เคยเจอใครที่ชื่อลินนิจมาก่อนเลย” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างสับสน

***************

หรือว่าชุดเกราะนั้นจะเป็น….

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.