ตอนที่ 638 ผู้เชี่ยวชาญด้านการกลั่นพลังงานขั้นกลาง

การเพิ่มฐานให้กับลิงหยกขาวมันก็เหมือนกับการเปลี่ยนเครื่องยนต์ชั้นยอดให้กับยานรบ ซึ่งไม่เพียงแต่มันจะช่วยสกัดให้พลังงานมีความบริสุทธิ์เท่านั้น แต่มันยังมีความละเอียดจนสามารถดูดซับพลังงานได้อย่างง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

เมื่อเส้นใยพลังงานไหลผ่านร่างกายชายหนุ่มก็รู้สึกคล้ายกับมันมีเข็มเย็น ๆ แทงทะลุผ่านผิวหนัง แต่ความรู้สึกที่ได้รับกลับมาไม่ใช่ความเจ็บปวดแต่เป็นความเย็นสบายที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย

แต่เดิมเซี่ยเฟยก็มีความสามารถในการควบคุมพลังงานต้นกำเนิดได้ดีกว่าคนโดยทั่วไปอยู่แล้ว และเมื่อมันได้รวมกับพลังงานที่ไหลผ่านลิงหยกขาว มันก็ยิ่งทำให้เขาสามารถควบคุมพลังงานได้อย่างละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น

เมื่อชีวิตยังไม่สิ้นสุดเซี่ยเฟยก็ยังคงทำการฝึกฝนต่อไป

เซี่ยเฟยรู้ดีว่าความแข็งแกร่งมีพื้นฐานมาจากพลังงาน และไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝน, การเติมเต็มพลังงานให้กับร่างกาย หรือแม้แต่การเติบโตของขนอุยต่างก็ล้วนแล้วแต่จำเป็นจะต้องใช้คริสตัลต้นกำเนิดเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ทางเลือกที่ดีที่สุดของเขานั่นก็คือการรีบพัฒนากฎแห่งการกลั่นพลังงานให้เลื่อนระดับโดยเร็วที่สุด

เมื่อมีลิงหยกขาวที่สมบูรณ์อยู่ในมือ มันก็พร้อมที่จะผลักดันให้ชายหนุ่มพัฒนากฎแห่งการกลั่นพลังงานได้ตลอดเวลา และถึงแม้ว่าในก่อนหน้านี้เขาจะโชคดีขายดาบวงพระจันทร์ที่ทำมาจากแร่ดาร์คเมทัลได้ในราคาที่สูงมาก แต่ในวันหนึ่งเงินจำนวนนั้นมันก็คงจะหมดไปถ้าหากว่าเขายังไม่สามารถหาวิธีหาเงินเพิ่มได้ เขาจึงจำเป็นจะต้องหาวิธีเก็บเกี่ยวคริสตัลต้นกำเนิดเป็นจำนวนมากให้ได้โดยเร็วที่สุด

หากเขาได้กลายเป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานแล้วเขาก็จะสามารถผลิตคริสตัลต้นกำเนิดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งนอกเหนือจากที่เขาจะนำคริสตัลต้นกำเนิดพวกนั้นมาใช้เองแล้ว เขาก็ยังสามารถทำกำไรจากการผลิตคริสตัลต้นกำเนิดได้อีกด้วย

ปัง!

พลังงานบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลรวมตัวกันก่อร่างเป็นคลื่นที่มองไม่เห็น จากนั้นก็มันก็เริ่มก่อเป็นอักขระอักษรกฎตัวที่ 3 หรือมันก็หมายความว่าตอนนี้ชายหนุ่มได้กลายเป็นปรมาจารย์ผู้ใช้กฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 3 แล้ว

“นี่นายใช้เวลาเพียงแค่ 7 วันในการเลื่อนระดับเป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานขั้นที่ 3 เนี่ยนะ!” โอโร่อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง แต่เมื่อเขาตระหนักว่าตัวเองเสียอาการมากจนเกินไป เขาจึงพยายามกลับมาสงบสติอารมณ์อีกครั้ง

“ความจริงแล้วเรื่องนี้มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพราะถึงยังไงนายก็มีความสามารถในการควบคุมพลังงานในระดับที่สูงมาก และเมื่อมันรวมกับความช่วยเหลือของลิงหยกตัวนี้ คนอื่นก็คงจะประสบความสำเร็จเหมือนกับนายได้เหมือนกัน” โอโร่พยายามพลิกคำพูดไปจากเดิม

“เมื่อกี้ไอ้ปีศาจเฒ่านี่ยังตื่นเต้นอยู่เลย แต่จู่ ๆ เขาก็มาเปลี่ยนคำพูดเหมือนกับนายเป็นคนธรรมดา ฉันว่าเขาจะต้องเป็นพวกปากแข็งที่กลัวจะชมแล้วทำให้นายรู้สึกเหลิงแน่ ๆ” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างไม่ค่อยพอใจ

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร ท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนที่รู้ดีว่าในช่วง 7 วันที่ผ่านมานี้เขาฝึกฝนตลอดเวลาโดยไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นถึงแม้ผลลัพธ์มันจะทำให้คนอื่นรู้สึกทึ่ง แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นก็แลกมาด้วยหยาดเหงื่อกับความพยายามอย่างที่คนทั่วไปไม่สามารถจะสัมผัสได้

กฎแห่งการกลั่นพลังงานไม่ได้มีการแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ หลาย ๆ ขั้นเหมือนกับกฎหลัก เพราะมันเป็นเพียงแค่กฎย่อยที่มีอยู่เพียงแค่ 9 ขั้นเท่านั้น ในระหว่างที่ฝึกฝนกฎนี้เซี่ยเฟยจึงได้พบกับอะไรบางอย่างที่เขาไม่เคยได้พบเจอมาก่อน โดยเฉพาะความยากลำบากในการคุมพลังงานที่อยู่ในระดับ เหนือกว่าจินตนาการของเขามาก

แต่ด้วยความช่วยเหลือของลิงหยกขาว เขาจึงสามารถเลื่อนระดับไปยังขั้นที่ 2 ได้อย่างราบรื่น แต่ในระหว่างการเลื่อนระดับไปยังขั้นที่ 3 เขาก็ได้พบกับความล้มเหลวอยู่หลายครั้ง ก่อนที่เขาจะเริ่มจับเทคนิคได้ด้วยตัวเอง

โดยสรุปเขาใช้เวลา 2 วันในการเลื่อนระดับกฎแห่งการกลั่นพลังงานไปยังขั้นที่ 2 และใช้เวลาอีก 5 วันในการเลื่อนระดับกฎแห่งการกลั่นพลังงานขึ้นเป็นขั้นที่ 3 ซึ่งมันถือว่าเป็นความเร็วในการเลื่อนระดับที่ไม่มีใครเคยคิดจินตนาการถึงอย่างแน่นอน

“เมื่อนายกลายเป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานขั้นที่ 3 นายก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการกลั่นพลังงานระดับกลาง หากนายอาศัยอยู่ในดินแดนเผ่ามารและมีใบอนุญาต นายก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายโดยไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย” 

“แม้แต่ตระกูลใหญ่ก็ยังต้องให้ความเคารพต่อนายเป็นอย่างดี และฉันก็คิดว่าในดินแดนเผ่าเทพสถานะของนายก็คงจะไม่ค่อยแตกต่างกัน” โอโร่กล่าว

ดูบาร์ที่อยู่ในตระกูลหยูก็เป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานขั้นที่ 3 แล้ว เขาคนนั้นก็ได้รับความเคารพจากหยูเจียงเป็นอย่างสูง แน่นอนว่าแม้แต่ภายในตระกูลใหญ่กว่าตระกูลหยู สถานะของดูบาร์ก็ยังคงสูงมากอยู่ดี และนี่ก็คือของรางวัลตอบแทนของผู้ที่สามารถฝึกฝนกฎที่ยุ่งยากที่สุดในจักรวาลได้

“คุณผู้ชายครับ ท่านฮีธฟิลด์ต้องการพบกับคุณครับ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นมาหลังจากเสียงเคาะประตู

“ได้ครับ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ

“หลานชายของฉันคงจะเตรียมสิ่งที่นายต้องการได้แล้วสินะ ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากจะพูดหรอกนะ แต่มันไม่มีอะไรที่เผ่าไลอ้อนฮาร์ทของเราสรรหามาไม่ได้” โอโร่กล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

—

หลังจากพักผ่อนไป 1 สัปดาห์ในที่สุดอาการบาดเจ็บภายนอกและภายในร่างกายของชายหนุ่มส่วนใหญ่ก็หายดี นอกจากนี้เขายังสามารถฝึกฝนกฎแห่งการกลั่นพลังงานได้จนถึงขั้นที่ 3 แม้แต่สิ่งที่เขาขอฮีธฟิลด์ไปก็ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จแล้วด้วยเช่นเดียวกัน มันจึงทำให้ในตอนนี้เซี่ยเฟยรู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก

แต่ถึงแม้ว่าในตอนนี้ชายหนุ่มจะใช้ชีวิตอย่างสบายใจ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมปล่อยศัตรูของตัวเองไปอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะศัตรูที่กล้าหลอกลวงเขาอย่างหยูฮัว ที่ชายหนุ่มต้องการที่จะล้างแค้นกลับไปด้วยความเจ็บปวดไม่น้อยกว่า 4 เท่าจากความเจ็บปวดที่เขาได้รับมา

เรื่องที่เขายังคงกังวลอยู่มีเพียงแค่เรื่องเดียวคือเรื่องของแอวริล แต่เขาก็เชื่อใจสหายหุ่นยนต์ของเขาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากที่เขาได้อยู่กับกระป๋องมาเป็นเวลานาน เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าพวกหุ่นยนต์เชื่อใจได้มากกว่ามนุษย์เสียอีก

ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังคิดถึงเรื่องต่าง ๆ อยู่นั้น เขาก็เดินมาจนถึงห้องทำงานของฮีธฟิลด์ที่อีกฝ่ายกำลังเล่นกับแหวนมิติภายในมืออยู่

“เชิญนั่ง” ฮีธฟิลด์ผายมือเป็นสัญญาณให้เซี่ยเฟยนั่งลง

“ฉันได้เตรียมของเกือบทุกอย่างที่คุณต้องการมาให้แล้ว แม้กระทั่งรูปแบบอักขระของกฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 4 และขั้นที่ 5 ก็อยู่ที่นี่แล้วด้วย”

หลังจากกล่าวจบฮีธฟิลด์ก็มอบแผ่นโลหะสีดำสนิท 2 แผ่นให้กับเซี่ยเฟย

ชายหนุ่มหยิบแผ่นบันทึกอักขระขึ้นมาพิจารณา ซึ่งนอกเหนือจากมันจะสลักอักขระเอาไว้แล้วมันยังมีรอยประทับพลังอยู่บนแผ่นอักขระอีกด้วย

อักขระของกฎระดับสูงต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นอักขระที่ซ้ำซ้อน และเพื่อที่จะทำให้ผู้เรียนรู้คุ้นเคยกับอักขระได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงมักจะทิ้งรอยประทับพลังเอาไว้บนแผ่นบันทึกอักขระ เพื่อให้ลูกศิษย์ของตัวเองสามารถเรียนรู้อักขระนั้นได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม แผ่นบันทึกอักขระที่มีรอยประทับพลังจึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าแผ่นบันทึกอักขระโดยทั่วไปมาก

“ทำไมมันถึงมีเพียงแค่ 2 ระดับล่ะ? แล้วแผ่นบันทึกอักขระขั้นที่ 6 ขึ้นไปอยู่ที่ไหน?” อันธกล่าวถามด้วยความสับสน

เซี่ยเฟยก็รู้ดีว่าสิ่งที่เขาขอไปบางอย่างได้ขาดหายไปเช่นเดียวกัน แต่เนื่องมาจากฮีธฟิลด์มอบแผ่นบันทึกอักขระล้ำค่าเหล่านี้ให้กับเขาฟรี ๆ เขาจึงรู้สึกละอายมากเกินไปถ้าหากว่าเขาจะเรียกร้องอะไรมากกว่านี้

“ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ไม่สามารถหาแผ่นบันทึกอักขระขั้นที่ 6 ขึ้นไปได้ เพราะการฝึกกฎแห่งการกลั่นพลังงานขั้นที่ 6 ขึ้นไปถูกคุมเอาไว้อย่างเข้มงวดมาก ดังนั้นถ้าหากว่าคุณต้องการแผ่นบันทึกอักขระพวกนั้นจริง ๆ คุณก็จำเป็นจะต้องเข้าไปหาพวกมันใน 2 เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล” 

“ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสในตระกูลของเราจะมีแผ่นบันทึกอักขระพวกนี้อยู่ก็ตาม แต่สถานะของฉันในปัจจุบันยังไม่มากพอที่จะขอแผ่นบันทึกพวกนั้นมาโดยไร้เหตุผลได้” ฮีธฟิลด์กล่าว

“คุณไม่จำเป็นจะต้องรู้สึกผิดแบบนั้นหรอกครับ แค่ผมได้แผ่นบันทึกอักขระทั้งสองชิ้นนี้มา ผมก็รู้สึกพอใจมากแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าว

“เพื่อเป็นสิ่งทดแทนคำขอโทษ ฉันจึงได้เตรียมบันทึกเกี่ยวกับวิธีการใช้กฎแห่งการกลั่นพลังงานมาให้กับคุณด้วย” หลังจากพูดจบฮีธฟิลด์ก็มอบแผ่นโลหะสีดำอีกสามแผ่นให้กับเซี่ยเฟย โดยแผ่นโลหะทั้งสามต่างก็มีรอยประทับพลังอยู่บนนั้นด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีเทคนิคและคำอธิบายเขียนเอาไว้บนแผ่นโลหะแต่ละแผ่นอย่างชัดเจนด้วย

“ถึงแม้คุณจะได้กลายเป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานแล้ว แต่คุณก็ยังไม่รู้วิธีการสร้างคริสตัลต้นกำเนิดใช่ไหมล่ะ? ฉันเลยรวบรวมเทคนิคการสร้างคริสตัลต้นกำเนิดมาให้ แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจวิธีการพวกนั้นหรอก ฉันแค่คิดว่าเทคนิคทั้งสามชุดนี้น่าจะมีประโยชน์ ส่วนคุณจะเลือกใช้เทคนิคไหนเรื่องนั้นคุณก็คงจะต้องเลือกด้วยตัวเอง” ฮีธฟิลด์กล่าว

เซี่ยเฟยรีบกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ เพราะจู่ ๆ เขาก็ได้รับเทคนิคในการสร้างคริสตัลต้นกำเนิดถึงสามเทคนิคในคราวเดียว และมันก็สมแล้วที่ฮีธฟิลด์คือทายาทในราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ท ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถหาสิ่งของสำคัญที่ล้ำค่าเหล่านี้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

“ฉันมีลุงคนหนึ่งที่เป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานระดับสูง และฉันก็ต้องใช้ความพยายามสูงมากกว่าที่ฉันจะขอเทคนิคพวกนี้จากเขามาได้ ท้ายที่สุดเทคนิคพวกนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติของตระกูล แล้วมันก็ไม่สมควรที่เราจะมอบมันให้กับคนนอกอย่างคุณเลย” 

“แต่เนื่องมาจากว่าคุณเป็นคนช่วยชีวิตลูกชายของฉันเอาไว้ และคุณก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสของตระกูล ดังนั้นฉันจึงขอมอบเทคนิคพวกนี้เอาไว้ให้เป็นของรางวัลสำหรับคุณก็แล้วกัน” 

“สิ่งที่ฉันจะขอก็มีเพียงแค่อย่างเดียว ฉันขอให้คุณเรียนรู้เทคนิคนี้เพียงลำพัง อย่าปล่อยให้มันไปตกอยู่ในมือของคนอื่นอย่างเด็ดขาด” ฮีธฟิลด์กล่าวอย่างเคร่งขรึม

เซี่ยเฟยให้คำสัญญาอย่างจริงจัง ซึ่งในความเป็นจริงถึงแม้ว่าฮีธฟิลด์จะไม่ได้กำชับ แต่โอโร่ที่อยู่ในแหวนมิติของเขาก็คงจะคัดค้านอย่างบ้าคลั่ง ถ้าหากว่าเขายอมปล่อยให้เทคนิคเหล่านี้หลุดรอดออกไปยังคนนอก

“ว่าแต่นอกเหนือจากคุณจะเป็นนักรบแล้ว คุณยังเป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานด้วยงั้นเหรอ?” ฮีธฟิลด์ถามอย่างสงสัย

“ใช่ครับ”

“แล้วตอนนี้คุณเป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานขั้นไหนแล้ว?”

“ขั้นที่ 3” เซี่ยเฟยกล่าวตอบเบา ๆ

คำตอบนี้ถึงกับทำให้ฮีธฟิลด์รู้สึกตกตะลึง เพราะโดยส่วนใหญ่มันก็ไม่มีใครเป็นทั้งนักสู้และปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานในเวลาเดียวกัน นั่นก็เพราะว่าการทุ่มเทฝึกฝนเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากแล้ว 

ยิ่งไปกว่านั้นการเป็นปรมาจารย์ด้านการกลั่นพลังงานยังหาเงินได้มากกว่านักรบมาก มันจึงไม่มีใครเต็มใจจะเสียสละเส้นทางทำมาหากินเพื่อไปเป็นนักสู้ที่ต้องเสี่ยงชีวิตในสนามรบ

แต่เซี่ยเฟยกลับเลือกเดินทั้งสองเส้นทางในเวลาเดียวกัน!!

“เอาล่ะฉันขอเข้าประเด็นหลักเลยก็แล้วกัน การที่คุณเดินทางมายังเขตแดนของเผ่ามารก็แสดงว่ามันจะต้องมีปัญหาร้ายแรงอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณ ถ้าหากว่าคุณยังไม่มีที่ไปตระกูลไลอ้อนฮาร์ทของเรายินดีต้อนรับคุณทุกเวลา” 

“แต่เนื่องมาจากว่าคุณไม่ใช่ชาวไลอ้อนฮาร์ท เราจึงไม่สามารถให้สถานะใด ๆ แก่คุณได้ แต่อย่างน้อยทุกคนก็จะปฎิบัติตัวต่อคุณเป็นอย่างดีตามมาตรฐานของนักรบชั้นยอดในตระกูล”

“คุณจะเอาเรื่องนี้กลับไปคิดก่อนก็ได้ แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้คำตอบคุณก็สามารถมาหาฉันได้ทุกเมื่อ” ฮีธฟิลด์กล่าวอย่างจริงจัง

แม้ว่าข้อเสนอนี้จะค่อนข้างดีแต่ใจของเขาก็บินกลับไปยังพันธมิตรตั้งนานแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงเขาก็อยากจะกลับไปยังพันธมิตรให้เร็วที่สุด เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าตอนนี้แอวริลเป็นยังไงบ้าง

“ของเกือบทุกอย่างที่คุณต้องการอยู่ในแหวนมิติวงนี้หมดแล้ว มีเพียงแค่ดอกบัวเพลิงพิโรธกับงูหลามลายค้างคาวเท่านั้นที่เกินกว่าความสามารถของฉันจริง ๆ ฉันจึงไม่สามารถจะหาของทั้งสองสิ่งนั้นมาให้กับคุณได้” ฮีธฟิลด์กล่าวพร้อมกับมอบแหวนมิติให้กับชายหนุ่ม

เซี่ยเฟยไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของฮีธฟิลด์มากนัก เพราะท้ายที่สุดวัตถุดิบทั้งสองอย่างนั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาพบได้ง่าย ๆ และการที่อีกฝ่ายยอมช่วยเหลือเขามากขนาดนี้มันก็ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจมากพอแล้ว

เมื่อชายหนุ่มจัดการกับเรื่องราวต่าง ๆ ในดินแดนเผ่ามารจนหมด ในที่สุดเขาก็ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังดินแดนแห่งความลับของหุ่นยนต์เพื่อไปพบกับแอวริล

***************

พี่เฟยกลับบ้านแล้ว สาวรออยู่