บทที่ 585: พวกเจ้าควรเรียนรู้จากพี่ใหญ่
จู่ ๆ หลงหลิงเอ๋อกับหยินชางก็เจอกับสถานการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน
พอคิดดูให้ถี่ถ้วนแล้ว เหล่าภูตผู้คุ้มกันก็ตระหนักได้ว่าเรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ
ไม่ใช่ว่าพวกเราติดกับดักแล้วหรือ?!
ต่อมา หลงเซียวเดินเข้าไปหาผู้ร้ายทั้ง 2 ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะถามอีกฝ่ายว่า “ใครส่งพวกเจ้ามา?”
วินาทีนั้นภูตทั้ง 2 รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งแผ่นหลัง
เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้เป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ แต่ความเย็นชาในดวงตาของเขาที่ฉายออกมากลับดูน่ากลัวมากจนทำให้พวกเขาสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว
“เรา-เราแค่เดินผ่านมาเท่านั้น”
“ชะ-ใช่ พวกข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน”
“พวกเราแค่หิวมากก็เลยเข้าไปปล้นอาหารของผู้หญิงคนนี้”
ความจริงพวกเขาทั้ง 2 ได้คิดคำพูดเพื่อมาเป็นข้ออ้างไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่เพราะพวกเขาดันตกใจกลัวจนลนลาน จึงทำให้ทั้งคู่พูดตะกุกตะกักอย่างที่เห็น
ในเวลานั้นเพื่อที่จะหันเหความสนใจของภูตผู้คุ้มกัน ภูตเผ่าไป๋ผีจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องใช้วิธีทำร้ายคนอื่น และคิดว่าหากพวกเขายืนยันว่าตนแค่อยากจะปล้นอาหารพร้อมกับยอมรับผิด อีกฝ่ายก็จะไม่มีวันฆ่าพวกเขา
ตราบใดที่ไม่ต้องถูกฆ่าตาย ทั้งคู่ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
ตอนนี้หัวหน้าจับตัวหมอผีตัวน้อยไว้ได้แล้ว แม้ว่าพวกเขา 2 คนจะบาดเจ็บจากภารกิจเสี่ยงอันตราย แต่เมื่อพวกเขาหลุดพ้นจากการจับกุมไปได้ หัวหน้าจะต้องให้เด็กหญิงมารักษาตนเองแน่นอน
“หึ แค่ผ่านมางั้นหรือ?” หลงอวี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พ่นลมอย่างเย็นชา 2 คนนี้ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นคนโง่ คิดว่าเขาดูไม่ออกหรือว่าพวกมันกำลังโกหก
คนร้ายทั้ง 2 คนคิดว่าตนรอดตัวแล้วจึงพยักหน้ารับรัว ๆ
“ใช่ พวกเราแค่ผ่านมาเฉย ๆ แล้วผู้ชายพวกนี้ก็เข้ามาทำร้ายเรา ปล่อยเราไปเถอะ ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าเราผิด..”
“พี่ใหญ่ ท่านจะไปเสียเวลาพูดคุยกับพวกมันทำไม? ถ้าพวกมันไม่บอกความจริง ก็แค่ฆ่าพวกมันซะ” หลงจงพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน ในขณะที่เขากำลังจินตนาการถึงกรงเล็บมังกรอันแหลมคม เขาก็เอื้อมมือของตนไปแตะที่คอของ 1 ในคนร้าย
ว่ากันว่ากรงเล็บของมังกรนั้นคมกว่าใบมีด เพียงแค่สัมผัสเดียวก็ทำให้คอของเป้าหมายหลุดออกจากบ่าในทันที
ทางด้านหญิงสาวกับคู่ของนาง รวมถึงผู้คุ้มกันทั้งหลายต่างก็หวาดกลัวกับรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากร่างเล็ก ๆ ของหลงจง
เด็กคนนี้อายุเท่าไหร่กันแน่?
“น้องสาม เจ้าอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น พวกมันต้องรู้ว่าหลิงเอ๋อกับพี่หยินชางอยู่ที่ไหน ฉะนั้นการละเว้นชีวิตของพวกมันก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง” หลงอวี้จับมือของน้องชายคนที่ 3 เพื่อหยุดเขาไว้
“พี่ใหญ่พูดถูก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการค้นหาหลิงเอ๋อกับพี่หยินชางให้เจอโดยเร็ว” หลงเซียวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อเหล่าภูตผู้คุ้มกันได้ยินในสิ่งที่เด็กชายพูด ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่หลงอวี้กับหลงเซียวด้วยความชื่นชม
2 คนนี้น่าจะเป็นลูกชายคนโตกับลูกชายคนรองของหูเจียวเจียว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะใจเย็นกว่าเด็กคนอื่นมาก ในอนาคตพวกเขาต้องเติบโตเป็นต้นกล้าที่ดีอย่างแน่นอน
ขณะที่พวกผู้ใหญ่กำลังคิดชื่นชมเด็กทั้ง 2 อยู่ในใจ หางตาของพวกเขาก็เหลือบไปเห็นแสงสีเงินวาววับที่อยู่ในมือของหลงเซียว ซึ่งนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของเด็กน้อยกำลังจับอะไรบางอย่างที่มีรูปร่างเรียวยาวอยู่ และสิ่งนั้นกำลังสอดทิ่มเข้าไปในเนื้อระหว่างเล็บบนนิ้วก้อยของ 1 ในคนร้าย
“อ๊ากกกก!!!”
ใบหน้าของภูตคนที่ถูกกระทำซีดเซียวลงไปทันตา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันดังก้องไปทั่วบริเวณ
ในระหว่างที่หลงเซียวกำลังทรมาน 1 ในคนร้าย สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด แล้วเขาก็สอบปากคำภูต 2 คนนั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลิงเอ๋อกับพี่หยินชางอยู่ที่ไหน? ใครเป็นคนสั่งให้เจ้าทำแบบนี้?”
“…” กลุ่มภูตผู้คุ้มกันที่ได้เห็นภาพตรงหน้าถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะคิดมากกันไปเอง ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ก็ไม่ได้ใจเย็นสักเท่าไหร่นัก
สิ่งที่หลงเซียวใช้เจาะนิ้วของอีกฝ่ายอยู่ในขณะนี้คือเข็มเล่มยาวที่เขาได้รับจากหูเจียวเจียว ซึ่งการสอดเข็มเข้าไปในช่องระหว่างเล็บเพื่อทิ่มแทงเนื้อตรงนั้นเป็น 1 ในวิธีการทรมานที่เขาบังเอิญได้ฟังตอนที่แม่จิ้งจอกเล่าเรื่องระหว่างวันนั่นเอง
ทางด้านภูตเผ่าไป๋ผีทั้ง 2 ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน เดิมทีพวกเขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดที่ถูกหักแขนและขาได้ แต่บาดแผลที่มองแทบไม่เห็นนี้มันกลับทำให้ตนปวดร้าวจนถึงกระดูก นอกจากความเจ็บอันแสนสาหัสที่ต้องพบเจอแล้ว พวกเขายังรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นอีกด้วย
จากความรู้สึกทั้ง 2 ที่ผสมปนเปกันเป็นผลให้ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทันที
“ข้า… ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร เราเป็นแค่ภูตที่เพิ่งมาเข้าร่วมเผ่าและเพียงแค่ต้องการหาอาหารเท่านั้น…” 1 ในคนร้ายยังคงปากแข็ง ดูเหมือนว่าเขายังพยายามที่จะโกหกต่อไปอีก
ในเวลาเดียวกัน ภูตผู้คุ้มกันหลายคนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายด้วยความตื่นกลัวเมื่อเห็นในสิ่งที่หลงเซียวถืออยู่
เด็กคนนี้ต้องเป็นเด็กที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาถึงได้คิดวิธีการทรมานที่ดูน่ากลัวขนาดนี้ได้
มันน่ากลัวยิ่งกว่าเด็กที่ชอบตะโกนขู่ฆ่าอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ
“น้องรอง พอเถอะ ข้าจะลงมือถามพวกเขาด้วยตัวเอง” หลงอวี้รู้ว่าเขาจะไม่ได้รับคำตอบจากภูตทั้ง 2 แน่ เพราะพวกมันปากแข็งและอดทนต่อความเจ็บปวดได้สูงมาก มิฉะนั้นพวกมันคงจะไม่ถูกส่งมาให้ทำงานนี้
หลังจากหลงเซียวได้ยินสิ่งที่พี่ใหญ่ของตนพูด เขาจึงหยุดมือโดยไม่ลืมที่จะดึงเข็มออกมาด้วย
นี่เป็นสิ่งที่แม่ของเขามอบให้ พอคิดว่าเมื่อสักครู่ตนใช้มันเพื่อทรมานภูต 2 คนตรงหน้า เขาก็รู้สึกรังเกียจอีกฝ่ายขึ้นมาในทันที
“ท่านลุง ข้าอยากคุยกับพวกเขา 2 คนตามลำพังได้หรือไม่?” หลงอวี้มองไปที่ภูตผู้คุ้มกันแล้วถามขึ้นอย่างสุภาพ
เมื่อพวกผู้ใหญ่เห็นว่าเด็กชายมีพฤติกรรมที่ดูใจเย็นมีความเป็นผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อยจึงพยักหน้าอนุญาตโดยไม่ได้คิดอะไรมาก
ถัดมา พวกเขามัดมือและเท้าของคนร้ายไว้ ก่อนจะช่วยหลงอวี้ลากพวกมันไปยังมุมที่เงียบสงบ
“เจ้าหนู ไม่ต้องกังวลนะ ถ้าเจ้าหาคำตอบจากพวกมันไม่ได้ เราจะส่งพวกมันไปให้กับหัวหน้าหลิน แล้วพวกเราจะตามหาหมอผีให้เจอโดยเร็วที่สุด”
ก่อนที่ทุกคนจะเดินเลี่ยงออกไป ภูตผู้คุ้มกันที่เป็นผู้นำกลุ่มไม่ลืมที่จะเอ่ยปลอบโยนลูกชายคนโตของตระกูลหลง
ในขณะที่ชายร่างกำยำเดินออกไปนั้น เขาก็คิดกับตัวเองว่าเด็กน้อยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ใหญ่คนนี้ดูสุขุมมาก ซึ่งเหมาะที่จะเข้าไปสอบปากคำผู้ร้ายทั้ง 2 มากกว่าใคร ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กชายคู่ควรที่จะเป็นพี่ใหญ่ของหมอผี เขาดูเป็นเด็กนิสัยดีมาก
ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็จงใจเดินเลี่ยงออกไปให้ห่างจากสถานที่สอบปากคำด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาไม่อยากให้หลงอวี้รู้สึกกดดันมากเกินไป แต่ละคนจึงไปยืนรออยู่ตรงหัวมุมถนน
เมื่อผู้นำกลุ่มหันไปมองหลงเซียวกับหลงจง เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วสอนเด็กน้อย 2 คนตรงหน้าด้วยความอ่อนโยนว่า
“เจ้า 2 คนควรเรียนรู้จากพี่ใหญ่ของเจ้า เพราะบางครั้งการใช้กำลังก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้—”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เสียงร้องอันน่าสังเวช 2 เสียงก็ดังมาจากด้านหลังเขา
เสียงนั้นฟังดูราวกับหมูที่ถูกเชือด พวกมันร้องเสียงแหลมจนแสบแก้วหู คนที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ ต่างก็สัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกในน้ำเสียงของผู้ที่ถูกทรมาน
ในค่ำคืนที่มืดมิดแบบนี้ เสียงร้องของผู้ชาย 2 คนยิ่งทำให้ขนทั่วทั้งร่างของทุกคนลุกชัน
ส่วนเสียงพูดคุยของภูตผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ ก็หยุดลงอย่างกะทันหันเช่นกันประหนึ่งว่าพวกเขาได้กลายเป็นหินไปแล้ว จากนั้นพวกเขาก็หันหลังกลับไปมองยังทิศทางของเสียงอันน่าขนลุกด้วยอาการตื่นตะลึง
นี่… นี่เด็กคนนั้นกำลังทำอะไรน่ะ?
เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งชื่นชมหลงอวี้ไปหยก ๆ ว่าดูสุขุมและใจเย็นที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งหมด แต่ไหงมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
ภายใต้เสียงร้องโหยหวนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ ภูตผู้คุ้มกันทั้ง 6 กับคู่รักหญิงชายกำลังยืนตัวสั่นอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่
หลังจากนั้นไม่นานเสียงกรีดร้องก็ค่อย ๆ เบาลง และเมื่อทุกคนหันหน้าไปมองยังทิศทางของต้นเสียง พวกเขาก็เห็นหลงอวี้เดินออกมาจากในความมืด
ท่ามกลางแสงจันทร์ ใบหน้าที่ขาวสะอาดของเด็กชายตัวน้อยมีรอยเลือดเปื้อนอยู่ 2-3 หยด
เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เขาดูเป็นเด็กที่เชื่อฟังมาก แต่ตอนนี้เขากลับทำให้เหล่าภูตหวาดกลัวมากที่สุด
“ข้าได้คำตอบแล้ว” หลงอวี้กล่าวเสียงเรียบ
เมื่อภูตหลายคนตรงนั้นได้ยินสิ่งที่เด็กชายบอกก็เบิกตากว้าง “หา? พวกนั้นยอมบอกความจริงแล้วงั้นหรือ?”
จู่ ๆ พวกเขาก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ช่างเก่งกาจยิ่งนัก
“พี่ใหญ่ พวกมันว่าไงบ้าง?” หลงจงถามขึ้นด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ
“พวกเขาจับตัวพี่สี่กับพี่หยินชางไปหรือเปล่า?” หลงเหยาที่ยืนอยู่เงียบ ๆ และไม่สร้างปัญหามาโดยตลอดก็อดถามขึ้นมาไม่ได้
หลงอวี้พยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยันคำตอบ ในขณะที่ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย หากสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ถึงประกายแสงแห่งการเข่นฆ่าอยู่ในนั้น
“พวกมันคือภูตเผ่าไป๋ผี หัวหน้าเผ่าของพวกมันส่งคนพวกนี้มาจับตัวหลิงเอ๋อกับพี่หยินชางไป เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่แค่เพียงหลิงเอ๋อเท่านั้น แต่รวมถึงตัวของพี่หยินชางด้วย และตอนนี้ทั้ง 2 คนก็น่าจะอยู่ในมือของหัวหน้าเผ่าไป๋ผีแล้ว”
เขารีบบอกข้อมูลที่ตนได้รับจากคนร้าย 2 คนนั้นให้ทุกคนได้ฟังอย่างรวดเร็ว
“เป็นภูตเผ่าไป๋ผีอีกแล้ว! ทำไมคนพวกนี้ถึงตามจองล้างจองผลาญพวกเราไม่เลิก!” ใบหน้าของหลงจงมืดมนมาก และฟันกรามของเขาก็ขบกันแน่นด้วยความโกรธ
ส่วนภูตผู้คุ้มกันหลายคนที่ได้ยินก็โมโหเช่นกัน “เราต้องบอกเรื่องนี้ให้หัวหน้าหลินได้รับรู้โดยเร็ว พวกเจ้ารีบกลับบ้านกันไปก่อน อีกไม่นานเราจะสามารถช่วยแม่หมอกับหยินชางออกมาได้อย่างแน่นอน”
เหล่าชายร่างใหญ่ไม่ต้องการปล่อยให้เด็ก ๆ ไปทำอะไรเสี่ยงอันตรายจึงรีบบอกให้เด็กทั้ง 4 กลับบ้านโดยเร็ว
แต่คราวนี้หลงเหยามีประสบการณ์แล้ว เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ภูตผู้คุ้มกันบอก เขาก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“ท่านลุง พวกท่านต้องช่วยเหลือพี่สี่กับพี่หยินชางออกมาให้ได้นะ” ดวงตาสีทับทิมนั้นชื้นด้วยน้ำตา ซึ่งทำให้ดูน่าสงสารเสียจนคนที่ได้มองไม่อาจปฏิเสธได้
“แน่นอน!” เหล่าภูตผู้คุ้มกันผงกหัวตอบพร้อมกับทำหน้าจริงจัง
ครู่ถัดมา พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หูเจียวเจียวคนนี้ช่างน่าอิจฉาเสียจริง นางไม่เพียงแค่ให้กำเนิดหมอผีเท่านั้น แต่ยังมีลูก ๆ คนอื่นที่ฉลาดและมีความสามารถตั้งแต่ยังเล็กอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน เหล่าพี่ชายตระกูลหลงทั้ง 3 ก็แอบมองหน้ากันพลางชื่นชมหลงเหยาในใจเงียบ ๆ
เจ้าตัวเล็กนี่เรียนรู้ไวจริง ๆ
ในไม่ช้า เด็กทั้ง 4 ก็กล่าวคำอำลากับคนอื่น ๆ ก่อนจะเดินจากไป เมื่อพวกเขาเดินพ้นระยะสายตาของพวกผู้ใหญ่แล้ว พวกเขาก็เปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้าไปยังที่อยู่อาศัยของภูตเผ่าไป๋ผีทันที
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: น้องรองว่าโหดแล้ว เจอพี่ใหญ่เข้าไปก็คือพวกผู้ใหญ่ถึงกับพูดไม่ออก ช็อตฟีลมาก 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 137
แสดงความคิดเห็น