ตอนที่ 276 โดรนหมาบ้า
ตอนที่ 276 โดรนหมาบ้า
ขณะที่การแข่งขันได้ดำเนินต่อไปผู้ชมที่มีความรู้เรื่องเครื่องกลก็เริ่มสังเกตเห็นแล้วว่า เซี่ยเฟยกับคอนสแตนตินไม่ได้ซ่อมโดรนเหมือนกับผู้เข้าแข่งขันรายอื่น ๆ แต่พวกเขาได้ใช้โดรนเครื่องเก่ากับอะไหล่ที่มีในการประกอบโดรนขึ้นมาใหม่
เมื่อมองไปยังโดรนของทั้งสองพวกเขาก็ไม่สามารถจะคาดเดาได้ว่าโดรนพวกนี้ถูกออกแบบมาอย่างไร แต่มันเป็นโดรนรุ่นที่แตกต่างออกไปจากโดรนที่ใช้ในพันธมิตรอย่างแน่นอน
เนื่องจากโดรนของพวกเขาถูกประกอบขึ้นจากอะไหล่ที่มีอยู่อย่างจำกัด มันจึงทำให้ประสิทธิภาพในการโจมตีและประสิทธิภาพในการป้องกันด้อยกว่าโดรนรุ่นดั้งเดิม แต่เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะประเด็นสำคัญคือทั้งเซี่ยเฟยและคอนสแตนตินสามารถใช้อะไหล่พวกนี้ในการสร้างโดรนขึ้นมาใหม่ได้
การทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะพวกเขาต้องรู้จักชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นอย่างดี และต้องคำนวณชิ้นส่วนเหล่านี้เพื่อออกแบบโดรนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
หากพวกเขามีระบบ AI คอยช่วยเหลือ การออกแบบโดรนก็คงจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่านี้มาก แต่น่าเสียดายที่การแข่งขันอนุญาตให้พวกเขาใช้เพียงแต่ความสามารถของตัวเอง พวกเขาจึงต้องคำนวณสมการอันซับซ้อนที่น้อยคนนักจะเข้าใจ
เมื่อหลี่โม่ได้เห็นการกระทำของเซี่ยเฟยและคอนสแตนติน เขาก็ตระหนักได้ในทันทีว่าจุดประสงค์ของการแข่งขันในครั้งนี้ไม่ใช่การแข่งขันการซ่อมแซมและความเร็วเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเป็นการทดสอบความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัวของผู้เข้าแข่งขันภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก
หลังจากตระหนักถึงวัตถุประสงค์ของการแข่งขันในรอบนี้ได้แล้ว หลี่โม่ก็รีบถอดชิ้นส่วนโดรนที่เขาประกอบเสร็จแล้ว เพราะถ้าหากว่าเขายังคงดึงดันจะซ่อมโดรนในลักษณะนี้ต่อไป แม้ว่าเขาจะสามารถซ่อมโดรนจนเสร็จแต่มันก็ยังไม่สามารถออกขึ้นบินได้อยู่ดี ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะประกอบโดรนขึ้นมาใหม่เหมือนกับเซี่ยเฟยและคอนสแตนติน
แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้คือเขามีเวลาไม่เพียงพอ เพราะเมื่อมองไปยังนาฬิกาจับเวลา มันก็ได้บอกว่าเขาเหลือเวลาในการแข่งขันอีกเพียงแค่ 79 นาทีเท่านั้น
—
ณ ห้องรับรองของผู้อาวุโสสมาคมช่างกล
ผู้อาวุโสหลาย ๆ คนเริ่มสนใจการแข่งขันครั้งนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และเนื่องจากว่าพวกเขาคือหัวหน้าคณะกรรมการ พวกเขาจึงสามารถเปิดหน้าจอรับชมการแข่งขันได้อย่างชัดเจน
“พวกคุณคิดว่าเซี่ยเฟยหรือคอนสแตนตินที่จะวางแผนได้ดีกว่ากัน?” เหนียนฟู่กวงผู้ซึ่งเป็นผู้จัดการของการแข่งขันในครั้งนี้เอ่ยถามขึ้นมา
ผู้อาวุโสทุกคนต่างก็เงียบเสียงของตัวเองลง เพราะท้ายที่สุดการแข่งขันยังไม่จบมันจึงยากที่จะสรุปว่าใครสามารถวางแผนได้ดีกว่าใคร
“เซี่ยเฟยเลือกที่จะลดอำนาจการยิงกับลดพลังป้องกันเพื่อแลกมากับการทำให้โดรนเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ขณะที่คอนสแตนตินให้ความสำคัญกับความสมดุลย์ในด้านต่าง ๆ หากพิจารณาปัจจัยเพียงแค่นี้การออกแบบของคอนสแตนตินน่าจะดูดีกว่า” ชายชราอ้วนผู้มีชื่อว่า ‘ลู่ซวนซิน’ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“ผู้อาวุโสลู่คุณจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ถึงแม้ว่าการออกแบบของเซี่ยเฟยจะยอมสูญเสียการป้องกันไปบ้าง แต่เขาก็ปรับระดับการโจมตีได้ใกล้เคียงกับโดรนรุ่นปกติ นอกจากนี้เขายังกำลังดัดแปลงปืนใหญ่ของโดรนอยู่ ซึ่งถ้าหากว่าเขาทำสำเร็จอำนาจการยิงของโดรนลำนั้นน่าจะสูงกว่าโดรนรุ่นต้นแบบที่พวกเราได้ให้เขาไปซะอีก”
“อาจจะเป็นเพราะคุณเชี่ยวชาญเรื่องระบบป้องกัน คุณจึงชอบโดรนของคอนสแตนตินมากกว่า แต่สำหรับผมที่เชี่ยวชาญเรื่องระบบการจู่โจมแล้วพวกเราย่อมคาดหวังโดรนที่มีพลังโจมตีสูงที่สุด ผมจึงคิดว่าการออกแบบของเซี่ยเฟยดูดีกว่า เพราะเขาสามารถผลักดันอำนาจการยิงได้จนถึงขีดสุดภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด” ชายชราผู้มีเคราแพะที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวแทรกขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วย
“หากไม่มีระบบป้องกัน ไม่ว่าพลังโจมตีจะมากแค่ไหนแต่มันก็ไร้ประโยชน์” ลู่ซวนซินพูดตอบกลับไปอย่างเย็นชา
“คุณพูดว่าอะไรนะ? คุณไม่เคยได้ยินเหรอว่าการโจมตีหรือการป้องกันที่ดีที่สุด” ชายชราเคราแพะลุกยืนขึ้นเถียงกลับไป
“ฉันเคยได้ยินเรื่องนั้นแต่มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องฉาบฉวยเท่านั้น เพราะถ้าหากการต่อสู้กินเวลานาน ท้ายที่สุดมันก็วัดกันว่าระบบป้องกันของใครดีกว่าอยู่ดี” ลู่ซวนซินกล่าวตอบกลับไปอย่างใจเย็น
ผู้อาวุโสในสมาคมแต่ละคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตัวเอง แน่นอนว่าเมื่อพวกเขามีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน มันย่อมทำให้พวกเขามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งข้อโต้เถียงระหว่างการโจมตีและการป้องกันก็เป็นข้อโต้เถียงที่มีมานานนับหมื่น ๆ ปี และมันก็ไม่เคยมีคำตอบใดที่ตายตัว
“พอได้แล้ว!” เหนียนฟู่กวงตะโกนห้ามทัพ และในฐานะที่เขาคือผู้อาวุโสที่มีอำนาจมากที่สุด มันจึงทำให้ชายชราทั้งสองคนเงียบเสียงลงและยอมนั่งอยู่เฉย ๆ บนที่นั่งของตัวเอง
“พวกคุณก็น่าจะรู้ว่ามันไม่มีคำตอบที่ตายตัวระหว่างระบบโจมตีและระบบป้องกัน หลังหมดเวลาการแข่งขันพวกเราเรียกสองคนนั้นมาถามแนวคิดของตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ? หากใครสามารถพูดความเห็นได้อย่างสมเหตุสมผล พวกเราก็จะให้คะแนนคนนั้นมากกว่าอีกคน” เหนียนฟู่กวงกล่าว
การรับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าแข่งขันย่อมดีกว่าการโต้เถียงกันอย่างไร้เหตุผล ผู้อาวุโสเกือบทุกคนจึงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ยกเว้นคู่กรณีสองคนในก่อนหน้านี้ที่ไม่ยอมพูดคุยกันอีกต่อไป
—
ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน 7 นาที 40 วินาทีเซี่ยเฟยก็สามารถจัดการโดรนของเขาได้จนเสร็จ และเนื่องมาจากว่าเขามีพลังพิเศษสายความเร็ว มันจึงทำให้เขามีข้อได้เปรียบเหนือกว่าคอนสแตนติน
แอวริลลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความประหม่า เพราะเธอรู้แก่ใจดีว่าสิ่งที่เซี่ยเฟยทำเสร็จไม่ใช่โดรนแบบปกติ
แอวริลพยายามสอบถามความเห็นจากผางชิงว่าเซี่ยเฟยกำลังพยายามจะทำอะไร แต่น่าเสียดายที่พ่อบ้านคนนี้ก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านเครื่องกลเช่นเดียวกัน เขาจึงไม่สามารถที่จะตอบคำถามให้กับหญิงสาวได้
หากพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกมันก็คงจะต้องบอกว่ารสนิยมของเซี่ยเฟยอาจจะมีปัญหา เพราะโดรนที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมามีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดมาก
เมื่อได้เห็นว่าผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ซ่อมแซมโดรนออกมาเหมือน ๆ กันหมด ขณะที่โดรนของเซี่ยเฟยมีหน้าตาเหมือนหอยเม่น มันก็ยิ่งทำให้แอวริลรู้สึกกังวลมากขึ้นกว่าเดิม เพราะท้ายที่สุดเธอก็ไม่ต้องการที่จะเห็นคนรักได้รับความพ่ายแพ้ โดยเฉพาะในการแข่งขันที่มีหลี่โม่ได้เข้าร่วมด้วย
ในความเป็นจริงมันก็มีผู้ชมอีกหลาย ๆ คนที่คิดว่าโดรนของเซี่ยเฟยถูกออกแบบมาอย่างน่าเกลียด ทำให้คอมเมนต์ในรายการถ่ายทอดสดเต็มไปด้วยคำวิจารณ์งานของเซี่ยเฟยว่า โดรนของชายหนุ่มเป็นโดรนที่อัปลักษณ์ที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา
ในระหว่างนี้มันก็มีผู้เปิดโหวตผลงานที่อัปลักษณ์ที่สุดนับตั้งแต่ที่มันได้มีการแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์ขึ้นมา ซึ่งโดรนหอยเม่นของเซี่ยเฟยก็ชนะขาดด้วยคะแนนโหวตมากกว่า 99%
แต่ถึงยังไงเซี่ยเฟยก็ยังคงเป็นเซี่ยเฟยอยู่วันยังค่ำ เขาจึงไม่สนใจว่าใครจะวิจารณ์โดรนของเขาในลักษณะไหนบ้าง เพราะท้ายที่สุดสำหรับเขาแล้วโดรนต่อสู้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม แต่มันคือสิ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำลายศัตรูของพวกมันให้ได้ต่างหาก
เซี่ยเฟยจุดบุหรี่พร้อมกับตรวจสอบโดรนของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย และเนื่องจากว่าในครั้งนี้เขาไม่มีคอมพิวเตอร์ AI คอยให้การช่วยเหลือ เขาจึงไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมันมากนัก
อีกด้านหนึ่งหลี่โม่ก็พยายามเร่งการทำงานจนเหงื่อออกไปทั่วทั้งตัว และถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มทำการประกอบโดรนขึ้นมาใหม่เหมือนกับเซี่ยเฟยแล้ว แต่เขาก็เริ่มงานช้าไปและเขาไม่สามารถทำงานได้อย่างว่องไวเหมือนกับเซี่ยเฟย มันจึงทำให้โดรนของเขาประกอบขึ้นมาสำเร็จเพียงแค่ประมาณ 50% โดยที่เขาเหลือเวลาสำหรับการแข่งขันอยู่เพียงแค่อีกไม่กี่นาที
เมื่อเวลาได้ล่วงเลยมาจนถึง 2 นาทีก่อนจบการแข่งขัน คอนสแตนตินก็สามารถจัดการกับงานของตัวเองได้จนจบ และเมื่อเทียบกับโดรนหอยเม่นที่ดุดันของเซี่ยเฟยแล้ว โดรนของคอนสแตนตินก็ดูเหมือนกับกล่องสี่เหลี่ยมที่มีขอบมุมอันแหลมคม
เหล่าบรรดาผู้ชมเริ่มคอมเมนต์ในทางไม่ดีอีกครั้ง และถึงแม้ว่าโดรนของคอนสแตนตินจะไม่ได้มีหน้าตาน่าเกลียดเหมือนกับโดรนหอยเม่นของเซี่ยเฟย แต่มันก็ยังคงเป็นโดรนที่น่าเกลียดสำหรับพวกเขาอยู่ดี โดรนกล่องอันนี้จึงถูกโหวตว่าเป็นโดรนรูปร่างอัปลักษณ์อันดับ 2 รองจากโดรนหอยเม่นของเซี่ยเฟย
การแข่งขันในรอบนี้ถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่แปลกประหลาดสำหรับเหล่าบรรดาผู้ชมจริง ๆ เพราะทั้งเซี่ยเฟยและคอนสแตนตินต่างก็ได้สร้างโดรนอัปลักษณ์มากที่สุดในความเห็นของพวกเขาออกมา
หลังเซี่ยเฟยได้ตรวจสอบว่างานของเขาไม่ได้มีอะไรผิดปกติ เขาจึงก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นโบกมือด้วยรอยยิ้มไปให้กับแอวริล
ระหว่างนั้นคอนสแตนตินก็เดินตามหลังเซี่ยเฟยออกไปด้วยเช่นเดียวกัน และเมื่อเขาได้เห็นรูปร่างหน้าตาโดรนอัปลักษณ์ของเซี่ยเฟย มันก็ทำให้เขาอดที่จะส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
ติ้ง! ติ้ง! ติ้ง!
“หมดเวลาการแข่งขัน ขอให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนออกจากสนามแข่งภายใน 10 วินาที ไม่อย่างนั้นพวกคุณจะถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรอบต่อไป” เสียงจากคอมพิวเตอร์ AI แจ้งเตือนให้ผู้เข้าแข่งขันหยุดงานของตัวเอง
หลังจากเซี่ยเฟยเดินผ่านประตูเขาก็หยุดยืนรอดูคะแนนของเขา แต่ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปแต่คะแนนของเขาก็ไม่ปรากฏขึ้นมาเลย ซึ่งคอนสแตนตินก็ไม่มีคะแนนปรากฏขึ้นมาให้เห็นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามผู้เข้าแข่งขันที่เดินตามหลังมาหลังจากนั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่มีคะแนนได้ปรากฏขึ้นมาทุกคน เพียงแต่คะแนนที่พวกเขาได้รับทุกคนกลับเป็น 0 คะแนน!
ภาพเหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความโกลาหล เพราะมันไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าจะมีผู้เข้าแข่งขันหลาย ๆ คนได้รับ 0 คะแนนพร้อม ๆ กัน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจมากยิ่งกว่าคือ โดรนหอยเม่นของเซี่ยเฟยกับโดรนกล่องของคอนสแตนตินกลับไม่ทำให้พวกเขาได้รับ 0 คะแนน
หลี่โม่เดินออกไปทางประตูด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความลังเล ก่อนที่เขาจะกั้นหายใจเดินผ่านประตูออกไปเพื่อลุ้นรับคะแนนของตัวเอง
23 คะแนน!
“ในที่สุดก็มีคนได้คะแนนแล้ว”
“หลี่โม่ได้คะแนนได้ยังไง? ก่อนหน้านี้เขายังซ่อมโดรนไม่เสร็จเลย”
“ตระกูลหลี่มีธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาจะติดสินบนให้กับผู้ตัดสิน”
เหล่าผู้ชมเริ่มแสดงความคิดเห็นกันไปต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะความคิดเห็นเกี่ยวกับคอนสแตนตินและเซี่ยเฟยที่ยังไม่ได้คะแนน
มนุษย์มีจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด ซึ่งทันทีที่คะแนนของหลี่โม่ได้ประกาศออกมาภายใต้คอมเมนต์ก็เต็มไปด้วยข่าวลือ โดยบางคนได้บอกว่าหลี่โม่ติดสินบนคณะกรรมการ ขณะที่บางคนบอกว่าระบบตรวจสอบทำงานผิดปกติ และมันก็มีใครบางคนถึงกับแอบเชื่อมโยงว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นแผนการของพวกเซิร์กที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในพันธมิตรมนุษย์
หลี่โม่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันพร้อมกับเดินไปรอบ ๆ ชายทั้งสองคนนี้อย่างจงใจ ราวกับว่าเขากำลังพยายามเยาะเย้ยคนทั้งสองที่ไม่ได้คะแนน
“คณะกรรมการเชิญพวกคุณไปพบเป็นการส่วนตัว” ทันใดนั้นมันก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาพูดกับเซี่ยเฟยและคอนสแตนติน
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่สามารถจะหาเหตุผลได้จริง ๆ ว่าทำไมกรรมการถึงต้องเรียกเขากับคอนสแตนตินไปพบเป็นการส่วนตัวด้วย
หลังจากนั้นเซี่ยเฟยกับคอนสแตนตินก็เดินตามเจ้าหน้าที่ไป ขณะที่หลี่โม่ได้มองตามคนทั้งสองไปด้วยความสนใจว่าทำไมคณะกรรมการถึงได้เรียกพบทั้งสองเป็นการส่วนตัว
หลังจากขึ้นลิฟต์ไปจนถึงชั้นที่ 6 เซี่ยเฟยก็ได้พบกับชายชรา 9 คนที่นั่งรออยู่ภายในห้อง โดยชายชราเหล่านี้ต่างก็ได้ติดเหรียญเกียรติยศของสมาคมช่างกลเอาไว้บนหน้าอก และสวมเครื่องแบบสีน้ำเงินซึ่งเป็นเครื่องแบบเฉพาะสำหรับการเชิดชูเกียรติให้กับพวกเขา
“เชิญนั่งลงก่อน ฉันชื่อเหนียนฟู่กวงเป็นหัวหน้าคณะกรรมการในการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนผู้อาวุโสที่นี่ทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสมาคม พวกเราได้เรียกพวกคุณมาเนื่องมาจากว่าพวกเรามีข้อสงสัยอยากจะถามความเห็นจากพวกคุณหน่อย” เหนียนฟู่กวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เชิญพวกคุณถามมาได้เลยครับ” เซี่ยเฟยกล่าว
“ก่อนอื่นฉันอยากจะถามคอนสแตนตินว่าคุณได้ออกแบบโดรนขึ้นมาแบบนี้โดยมีจุดประสงค์อะไร?” เหนียนฟู่กวงกล่าวถาม
“จริง ๆ จุดประสงค์ของผมก็ง่ายมาก คือผมพยายามออกแบบโดรนต่อสู้ให้มีประสิทธิภาพสมดุลย์มากที่สุดโดยเฉพาะในแง่ของการป้องกัน เพราะถ้าหากว่าโดรนขาดการป้องกันที่มั่นคงไม่ว่ามันจะมีอำนาจในการโจมตีมากเพียงใด แต่มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์อยู่ดี อย่างน้อยมันจะต้องเอาชีวิตรอดจากศัตรูให้ได้เสียก่อน มันถึงจะมีโอกาสมากพอที่จะจู่โจมโต้กลับเข้าใส่ศัตรูได้ ผมเลยทำการเสริมเหล็กหนา 15 มิลลิเมตรให้กับโดรน เพื่อที่มันจะเพิ่มความสามารถในการอยู่รอดได้นานมากยิ่งขึ้น” คอนสแตนตินกล่าว
ลู่ซวนซินพยักหน้ารับอย่างพอใจ เพราะแนวคิดของคอนสแตนตินคล้ายคลึงกับแนวคิดของเขาเอง
“สิ่งที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล แต่โดรนที่คุณดัดแปลงมีความเร็วไม่มากพอทำให้มันไม่สามารถติดตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงได้ ทำไมคุณถึงไม่ดัดแปลงปืนใหญ่ให้มีระยะการโจมตีที่ไกลกว่านี้ล่ะ?” เหนียนฟู่กวงถาม
“เพราะว่าผมมีเวลากับอะไหล่ไม่พอ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นขีดจำกัดสำหรับผมแล้ว” คอนสแตนตินกล่าวพร้อมกับอ้าแขนออกอย่างช่วยไม่ได้
ชายชราทุกคนต่างก็พยักหน้ารับ เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มร่างผอมคนนี้พูดออกมาไม่ถือว่าเป็นการโอ้อวดเกินความจริง
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอถามคุณบ้าง ว่าทำไมคุณถึงลดประสิทธิภาพในการป้องกันเพื่อมุ่งเน้นไปที่ความเร็วและการโจมตี?” เหนียนฟู่กวงหันไปถามเซี่ยเฟยบ้าง
“เพราะว่าโดรนนี้มีหน้าที่แค่ทำลายคู่ต่อสู้ มันไม่ได้มีหน้าที่อื่นในสนามรบอีกแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“มันไม่ได้มีหน้าที่อื่นในสนามรบ? ปกติโดรนต้องคอยหลบหนีการโจมตีของศัตรูและต้องมีความสามารถในการต่อต้านระเบิดแม่เหล็กไฟฟ้าของศัตรูได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะถูกตัดขาดจากการควบคุมและทำให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่ลดลง”
“โดรนที่คุณพูดถึงคือโดรนธรรมดา แต่โดรนที่ผมประกอบขึ้นมานั้นเป็นโดรนที่ใช้ในการโจมตีอย่างสิ้นหวัง” เซี่ยเฟยกล่าว
“ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?” เหนียนฟู่กวงถามด้วยความสงสัย
“คอนสแตนตินบอกว่าเพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความอยู่รอดให้กับโดรนเขาเลยตัดสินใจเสริมแผ่นเหล็กหนา 15 มิลลิเมตรให้กับโดรน แต่ผมถามจริง ๆ เถอะว่าในสนามรบแผ่นเหล็กหนาแค่ 15 มิลลิเมตรมันจะช่วยป้องกันอะไรได้”
“การป้องกันของแผ่นเหล็กเพียงแค่ 15 มิลลิเมตรมันน้อยมากจนเกินไป ผมจึงคิดว่าพวกมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกเสียจากทำให้ความเร็วของโดรนลดน้อยลง หลังจากที่ผมได้ทำการคิดคำนวณทุกอย่างด้วยความรอบคอบแล้ว ผมเลยมุ่งเน้นไปที่การโจมตีโดยละทิ้งการป้องกัน”
“พวกคุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นสิ่งที่ผิด เพราะถ้าหากว่าพวกคุณใช้วัตถุดิบทั้งหมดที่มีอยู่ในกล่อง อย่างน้อยมันก็จะช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้กับโดรนได้มากกว่า 10% แต่ถ้าหากคู่ต่อสู้ถูกทำลายภายใต้การโจมตีเพียงแค่หนึ่งนัด แล้วเราจะสนใจไปทำไมว่าเรามีพลังการป้องกันอยู่เท่าไหร่”
สิ่งที่เซี่ยเฟยพูดมาสมเหตุสมผลมากจนทำให้ชายชราภายในห้องพูดไม่ออก เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นกระดาษ 1 แผ่นหรือ 2 แผ่นต่างก็สามารถถูกเจาะทำลายได้อย่างง่ายดายไม่แตกต่างกัน หรือมันอาจจะสามารถกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าการเสริมแผ่นโลหะ 15 มิลลิเมตรแทบที่จะไม่มีประโยชน์ในสนามรบจริง ๆ
“จุดประสงค์ในการออกแบบของผมก็ง่ายมาก โดยผมได้ถือว่าโดรนลำนี้เป็นโดรนที่ใช้แล้วทิ้งในครั้งเดียว ดังนั้นผมจึงพยายามออกแบบมันให้สร้างความเจ็บปวดให้กับศัตรูให้ได้มากที่สุด และพร้อมที่จะสละตัวเองเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามให้ได้ แม้ว่ามันจะต้องถูกทำลายลงไปพร้อมกันก็ตาม”
“ถึงยังไงวัตถุดิบที่มีภายในกล่องก็ไม่สามารถที่จะสร้างโดรนประสิทธิภาพสูงที่มีความสามารถครอบคลุมทั่วทุกด้านได้อยู่แล้ว ผมเลยสร้างโดรนที่ไม่ต่างไปจากหมาบ้าที่พร้อมจะลากศัตรูให้ตกตายตามมันไป เหมือนกับหมาบ้าที่ถูกต้อนให้จนตรอก มันจึงพร้อมที่จะแว้งกัดใครทุกคนที่กล้าเข้ามาขวางทางพวกมันเอาไว้”
“ส่วนรูปลักษณ์อันแปลกประหลาดที่พวกคุณได้เห็นอยู่นี้ ก็เพราะผมออกแบบมันให้มีหนามแหลมเป็นจำนวนมากเอาไว้ทิ่มแทงศัตรู เพราะเมื่อไหร่ที่ปืนใหญ่บนโดรนไม่สามารถใช้การได้ โดรนลำนี้ก็พร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่ศัตรูเพื่อทำลายศัตรูไปพร้อมกับมัน!!”
***************
โคตรลึกซึ้ง!! ชอบในความฉลาดของพี่แกสุดๆ มีใครเห็นด้วยไหม?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 164
แสดงความคิดเห็น