ตอนที่ 266 กองยานของสหพันธ์โลก

ปัจจุบันบริษัทควอนตัมได้จัดแถลงข่าวนี้ขึ้นมาอย่างฉับพลันนำโดยอันเดร์และชาร์ลี ทำให้ปู่หลานคู่นี้ถูกล้อมรอบด้วยนักข่าวนับร้อยคน

“ดิฉันเป็นนักข่าวจากสำนัก BBC ค่ะ ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าบริษัทควอนตัมจะสนับสนุนคุณอู่หลงผู้ซึ่งเป็นอดีตกรรมการของบริษัทในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเต็มที่ ไม่ทราบว่าบริษัทจะให้การสนับสนุนคุณอู่หลงมากแค่ไหนคะ?” นักข่าวสาวกล่าวถามในงานแถลงข่าว

“อู่หลงเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทควอนตัมขึ้นมา ทำให้เขามีประสบการณ์ในด้านการบริหารอย่างมากมาย นอกจากนี้เขายังได้มีโอกาสพูดคุยธุรกิจกับอารยธรรมต่างดาวมาแล้วหลายครั้ง มันจึงทำให้ผู้นำแบบอู่หลงมีความสำคัญที่จะนำสหพันธ์ไปสู่อารยธรรมในระดับจักรวาล”

“ทางบริษัทของเราจึงตั้งใจสนับสนุนอู่หลงในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะผลักดันให้สหพันธ์โลกเข้าสู่อารยธรรมระดับจักรวาลอย่างเต็มตัว”

“หากถามว่าบริษัทควอนตัมจะสนับสนุนอู่หลงมากแค่ไหน พวกเราก็ตอบได้ว่าพวกเราจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ภายใต้ขอบเขตที่พวกเราสามารถทำได้” อันเดร์กล่าวอย่างหนักแน่น

“ปัจจุบันบริษัทควอนตัมเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหพันธ์ ไม่ทราบว่าคุณช่วยบอกรายละเอียดหน่อยได้ไหมว่าบริษัทของคุณจะสนับสนุนคุณอู่หลงในด้านใดบ้าง?” นักข่าวสาวถามเข้าประเด็นสำคัญ

“อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของสหพันธ์กับพันธมิตรมนุษย์มีความละเอียดอ่อนมาก และถึงแม้ว่าสหพันธ์จะเข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษย์แล้ว แต่พวกเราก็ยังตามหลังอารยธรรมอื่น ๆ ในพันธมิตรทั้งในแง่ของเทคโนโลยีและวัฒนธรรม บริษัทควอนตัมจึงตั้งใจที่จะสนับสนุนรัฐบาลเพื่อก่อตั้งกองยานของสหพันธ์ขึ้นมา” อันเดร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“กองยาน!?”

“กองยานของสหพันธ์โลก!!”

“โอ้พระเจ้า! นี่มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!!”

คำสัมภาษณ์ของอันเดร์ทำให้เหล่านักข่าวเกิดความโกลาหล เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทนความตื่นเต้นภายในใจของตัวเองได้

หลายปีมานี้ทุกคนบนโลกต่างก็ปรารถนาให้พันธมิตรมนุษย์ได้รู้จักดาวโลกดวงนี้ เพราะท้ายที่สุดดาวโลกก็คือดาวบ้านเกิดของพวกเขา และมันก็ไม่มีใครที่ไม่ต้องการจะให้บ้านเกิดของตัวเองพัฒนาในทางที่เจริญมากยิ่งขึ้น

การมีกองยานไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องความปลอดภัยของโลกได้เท่านั้น แต่มันยังมีความหมายทางเชิงสัญลักษณ์ว่าดาวโลกกำลังจะพัฒนากลายเป็นดาวเคราะห์ที่พัฒนาแล้วอีกด้วย เพราะท้ายที่สุดถึงแม้พวกเขาจะกล่าวอ้างว่าสหพันธ์โลกกำลังมุ่งหน้าสู่อารยธรรมระหว่างดวงดาว แต่ถ้าหากว่าพวกเขาไม่มีกองยานรบพวกเขาก็ไม่สามารถพูดแบบนั้นได้เต็มปากเต็มคำอยู่ดี

อันเดร์ยกมือส่งสัญญาณให้นักข่าวทุกคนเงียบเสียงลง ก่อนที่จะส่งสัญญาณมือให้นักข่าวสาวถามคำถามของเธอต่อไป

นักข่าวสาวไม่เคยคิดมาก่อนว่าบริษัทควอนตัมจะยอมใช้เงินลงทุนจำนวนมากขนาดนี้เพื่อสนับสนุนอู่หลง มันจึงทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง เพราะท้ายที่สุดแม้แต่กองยานขนาดเล็กก็ยังมีค่าใช้จ่ายอย่างมากมายมหาศาล

อย่างไรก็ตามเธอก็ถือว่าเป็นนักข่าวที่มีประสบการณ์ เธอจึงสามารถสงบสติอารมณ์ของเธอลงได้อย่างรวดเร็ว

“เรื่องที่บริษัทควอนตัมจะช่วยสหพันธ์โลกสร้างกองยานเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริง ๆ ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพอจะบอกพวกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดในเรื่องนี้ได้ไหมคะ?”

นักข่าวทุกคนต่างก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะในความคิดเห็นของพวกเขาการสร้างกองยานจำเป็นจะต้องใช้เงินจำนวนมากมายมหาศาล และพวกเขาก็ต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด

อันเดร์ส่งสัญญาณให้ชาร์ลีหยิบกองเอกสารที่เตรียมเอาไว้ออกมาแจกจ่ายให้กับนักข่าว แต่เนื่องจากเอกสารมีอยู่อย่างจำกัด นักข่าวจึงจำเป็นจะต้องรวมกลุ่มกันเพื่อมองดูเอกสารอย่างตื่นเต้น

อันที่จริงสิ่งที่อันเดร์บอกว่าบริษัทควอนตัมจะช่วยสหพันธ์โลกในการสร้างกองยาน ก็เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนชื่อกองยานในปัจจุบันของบริษัทไปเป็นกองยานของสหพันธ์ ซึ่งไม่ต่างไปจากการให้สหพันธ์ยืมกองยานของบริษัทไปใช้เป็นการชั่วคราว

ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็ไม่คิดที่จะสร้างกองยานอันแข็งแกร่งให้กับสหพันธ์โลกอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีอะไรรับประกันว่ากองยานนั้นจะไม่หันดาบเข้าหาบริษัทควอนตัม

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่เซี่ยเฟยสร้างกองยานขึ้นมาก็ไม่ใช่เพียงเพื่อเหตุผลทางธุรกิจเท่านั้น แต่เขายังต้องการปกป้องดาวบ้านเกิดจากการรุกรานของต่างดาวอีกด้วย

ไม่ว่ายังไงดาวโลกก็ยังคงเป็นดาวบ้านเกิดของเขา และถึงแม้ว่ากองยานของบริษัทจะถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็นกองยานของสหพันธ์โลก แต่ท้ายที่สุดกองยานนี้ก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเซี่ยเฟยอยู่ดี ดังนั้นการให้ยืมกองยานแบบนี้จึงไม่ต่างไปจากการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่อู่หลงจะต้องได้เป็นประธานาธิบดีของสหพันธ์ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่อู่หลงแพ้การเลือกตั้งเซี่ยเฟยก็ไม่คิดที่จะร่วมมือกับพวกนักการเมืองสกปรกพวกนั้นอย่างแน่นอน

ในสถานการณ์ที่วิกฤตเซี่ยเฟยเตรียมย้ายที่อยู่ของบริษัทไปยังดาวดวงอื่นเอาไว้แล้ว แต่เขาก็ไม่ต้องการจะใช้แผนการนี้นอกเสียจากจะไม่มีทางเลือกจริง ๆ ด้วยเหตุนี้หากประธานาธิบดีคนใหม่ยังคงสร้างปัญหาให้กับบริษัท ชายหนุ่มก็ไม่ลังเลที่จะใช้แผนการเพื่อดึงประธานาธิบดีคนนั้นลงจากตำแหน่ง

“ดิฉันเป็นนักข่าวจาก CNN ดิฉันสังเกตเห็นว่าในแผนนี้ทางบริษัทควอนตัมจะส่งมอบกองยานของบริษัทให้กับรัฐบาลเป็นขั้น ๆ คุณช่วยให้คำยืนยันข้อมูลในเอกสารนี้ได้ไหมคะ?” นักข่าวสาวผู้สวมแว่นเอ่ยถาม

“บริษัทควอนตัมไม่ใช่บริษัทที่มุ่งหวังแต่จะแสวงหาผลกำไร ตราบใดก็ตามที่พวกเราสามารถช่วยดาวบ้านเกิดของพวกเราได้ บริษัทของพวกเราก็พร้อมที่จะสละกองยานของตัวเองเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของสหพันธ์!”

คำตอบของอันเดร์เต็มไปด้วยข้อความที่ปลุกใจทำให้นักข่าวที่อยู่ในห้องสัมภาษณ์เริ่มรู้สึกคล้อยตามไปกับชายชราคนนี้

อันที่จริงพวกเขาหลงลืมไปว่าเซี่ยเฟยคือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ไม่ยอมเสียผลประโยชน์ของตัวเอง โดยที่ไม่ได้รับผลประโยชน์อื่น ๆ ตอบแทนกลับมา นอกจากนี้ชายหนุ่มยังใส่เงื่อนไขพิเศษเข้าไปว่ากองยานของบริษัทจะอยู่ภายใต้รัฐบาลก็ต่อเมื่ออู่หลงคือประธานาธิบดี

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยไม่ได้คิดจะหยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะกองยานในปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานที่เขาได้คิดเอาไว้มาก ในอนาคตเขามีแผนที่จะสร้างกองยานลาดตะเวนก่อนที่จะค่อย ๆ พัฒนากองยานไปเป็นกองยานขนาดใหญ่ที่นำโดยยานบัญชาการ

แม้ว่าวันนี้เซี่ยเฟยจะยอมอ่อนข้อให้กับสหพันธ์บ้าง แต่จริง ๆ เขายอมย่อตัวเพื่อที่จะกระโดดให้สูงมากยิ่งขึ้น

การแถลงข่าวจบลงไปอย่างราบรื่น ทำให้ในวันต่อมากระแสข่าวในเรื่องประธานาธิบดีก็ได้เทไปยังอู่หลงอย่างท่วมท้น นอกจากนี้ประชากรภายในโลกยังรู้สึกยกย่องบริษัทควอนตัมมากยิ่งขึ้น ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาพัฒนาขึ้นไปไกลกว่าเดิม

ท่ามกลางข่าวการเลือกตั้งที่กำลังจะจะเกิดขึ้น มันก็มีสำนักข่าวเล็ก ๆ ได้รายงานเรื่องการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดีมูรติ อย่างไรก็ตามทั่วทั้งโลกก็มีคนเกลียดชังนักการเมืองที่ไร้ความสามารถคนนี้อยู่แล้ว ดังนั้นข่าวการตายของมูรติจึงเหมือนก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในทะเลที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา

***************