ตอนที่ 23 .. “ เหรียญ 2 ด้าน ”
ไม่ย๊อม ไม่ยอม - พาเมล่า เบาว์เด้นท์
นิยาย แนว สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action
ตอนที่ 23 .. “ เหรียญ 2 ด้าน ”
“มันจะมีช่องเล็กๆอยู่ไม่ใหญ่มาก ให้แกค่อยๆเอามีดกะเทาะมันออกมาเพื่อให้มันกว้างขึ้น แล้วล้วงเอาแผนที่ด้านในออกมาก็เท่านั้น เป็นอันว่าจบงาน จากนั้นแกก็เอาของทั้งหมดมาให้ฉัน แล้วแกก็เอาพี่ชายของแกคืนไป พร้อมกับความโปร่งใสในตัวแก ตามนี้นะ ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปได้ ฉันจะรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่ แล้วพรุ่งนี้เราพบกัน”
หลังจากที่พูดจบ มาดามก็เดินจากไป แจงรีบพาหน่วยน้ำของเธอไปยังจุดหมายทันที
\\\\\ +++++ \\\\\
พระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ในสมัยก่อนทรงใช้ชื่อ “สยาม” มานานนับหลายปี แต่จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีคนที่ ๓ เป็นผู้มาเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น “ไทย” เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคำว่า “ประเทศสยาม” จึงหายไปและมีคำว่า “ประเทศไทย” มาแทน ในปัจจุบันนี้ ก็ยังมีอีกหลายฝ่ายที่กำลังคิดว่า จะนำคำว่า ประเทศสยาม กลับมาใช้อีกครั้ง
>>>>> ***** <<<<<
มาดามได้ยินคำเล่าลือกล่าวอ้างต่อๆกันมาว่าจากหลายกระแส จนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ที่นั่น ซึ่งนั่นมันก็คือแผนที่เก็บซ่อนทองคำของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่บอกต่อๆกันมา ว่าได้สูญหายไปนานแล้ว ในป่าลึกของเมืองกาญจน์ มาดามอยากได้ขุมทรัพย์นั้นมาครอบครอง จึงสั่งให้แจงไปเอามาให้ได้ เนเน่ล่วงรู้เข้าโดยบังเอิญเพราะได้ติดเครื่องติดตามและรับส่งสัญญานไว้ที่โทรศัพท์ของแจงเมื่อครั้งกระโน้น จนเธอก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำไป จึงเข้าขัดขวางทันทีเมื่อมีโอกาส
***** >>><<< *****
(ส.5 ต.ค.) เนื่องจากเนเน่กลัวพ่อจะว่าเอาอีก ว่าทำอะไรแล้วไม่บอก จึงทิ้งโน้ตไว้ให้พ่อสั้นๆ แล้วเธอก็แอบไปงานนิทรรศการนี้โดยพานิ่มพ่วงท้ายไปเป็นผู้ช่วยด้วย
วิทย์ถูกมอบหมายให้คุ้มกันและดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี ดล เบิ้มและทีมงานก็ไม่พลาดที่จะมาในงานนี้ด้วย ในฐานะผู้รายงานข่าว ส่วนเพ็ญก็พาลูกกลับไปเยี่ยมคุณตาที่บ้าน เพราะไม่คิดว่าเนเน่จะกล้าเสี่ยงแอบไปทำภารกิจนี้อย่างลับๆ เผด็จเมื่อกลับมาจากการไปสืบข่าวของมังกรดำ เมื่อถึงบ้านก็ต้องพบว่าลูกสาวได้ทำผิดคำสัญญาอีกแล้ว เมื่อได้เจอกับโน้ตใบนั้น
“เอาอีกแล้วไอ้ลูกคนนี้” เผด็จเหนื่อยใจจริงๆกับลูกสาวคนนี้
“ทำไมนะถึงไม่ยอมเชื่อฟังกันบ้างเลย แล้วนี่เพ็ญไปไหนอีกหละเนี่ย ทำไมถึงไม่ดูลูกเลย เห้อ ไปไหนก็ไม่รู้” ว่าแล้วเผด็จก็เดินลงไปดูนิ่มที่ห้อง
“ไม่อยู่อีก อย่าบอกนะว่า ไปด้วยกัน ยุ่งจริงแม่คุณ ให้มาคุม ไม่ใช่ให้ทำตาม คิดผิดหรือเปล่าวะเนี่ยฉัน มีอะไรแล้วทำไมมันไม่รายงานบอกหละเนี่ย เอาไงดีวะ”
คิดได้ดังนั้นจึงรีบบอกให้ภณล่วงหน้าไปช่วยก่อนทันที
“ไอ้ภณ ไอ้เน่ก่อเรื่องอีกแล้ว เปิดพิกัด รีบเลยเร็ว”
<<<<< ===== >>>>>
เผด็จสืบรู้มาว่า งานนี้นอกจากกงจักรทองต้องการที่จะได้แล้ว มังกรดำก็อยากได้เช่นกัน งานนี้เนเน่คนเดียวไม่ไหวแน่ จึงรีบโทรหาปูนเพื่อขอให้เธอไปช่วย แต่เนื่องจากแตงโมเป็นคนรับสาย ปูนกำลังอาบน้ำให้ลูกในห้องน้ำจึงไม่รู้เรื่อง จึงเกิดปากเสียงทะเลาะกันเล็กน้อย เพราะไม่อยากให้ปูนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
“ไม่ได้ครับท่านรอง ผมคงไม่สามารถให้ปูนไปทำงานที่เสี่ยงๆแบบนี้ได้”
“แต่มันสำคัญมากนะคุณโม ขอร้องเถอะ นี่มันหมายถึงชีวิตของคนสองคนเลยนะ”
เผด็จพยายามขอร้องแตงโม “เห็นใจผมเถอะ ผมจำเป็นที่..” แตงโมไม่ฟัง ยังไงก็ไม่สน
“ขอโทษด้วยที่ต้องเสียมารยาทนะครับ” แตงโมวางสายทันที
พอปูนออกมาจากห้องน้ำ ก็ถามทันที “ใครโทรมาคะพี่”
“ของพี่เอง ไม่มีอะไร เพื่อนโทรมาเรื่องคดี” แตงโมก็โกหกว่าเป็นสายของเขาเอง
แล้วแตงโมก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เป็นอะไรของเขานะ แปลก วันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ”
“เอาไงดีวะ” เผด็จคิดไม่ตก เมื่อโทรหาปูนแล้วไม่สามารถช่วยได้ จึงรีบโทรหาทับทิม
เจ้ากรรมอีก ทับทิมก็ไม่ว่าง ไม่ได้อยู่ใกล้โทรศัพท์ ที่ไม่โทรหาทับทิมในทีแรกเพราะไม่สนิทเท่าใด อีกอย่างเคยรับปากกับป๋องเอาไว้ว่า จะไม่ให้ทับทิมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด แต่เนื่องจากคราวนี้มันจำเป็น เขายกข้อมือมาดูเวลา
“11.15 น่าจะทัน” เผด็จจึงต้องรีบขับรถไปหาทับทิมที่บ้านเลยทันที เพราะใกล้บ้านเขามากที่สุด ไม่ถึง 10 นาทีเผด็จก็มาถึงบ้านของป๋อง ทับทิมกำลังขับรถออกไปซื้อของนอกบ้าน
เผด็จขับรถมาขวางไว้ได้ทันเวลาพอดี ก่อนที่ทับทิมจะออกจากบ้าน ทับทิมตกใจมาก
“ว๊าย” ดีนะที่ป๋องไม่ได้ออกมาด้วย เลี้ยงลูกอยู่ในบ้าน เผด็จรีบลงไปขอความช่วยเหลือจากทับทิม
“อาเด็จ ทำไมทำแบบนี้ หนูตกใจหมดเลย มีอะไรทำไมถึงไม่โทรมา”
“อาโทรแล้ว แต่หนูไม่รับสาย อาเลยต้องตัดสินใจทำแบบนี้”
ทับทิมดึงโทรศัพท์ขึ้นมาดู “จริงด้วย 3 สาย” แล้วก็หันไปถามต่อ
“แล้วมีอะไรเหรอคะ” ไม่รอช้า..เผด็จรีบเล่าเรื่องทุกอย่างให้ทับทิมฟังทันที
หลังจากที่ทับทิมได้ฟังเรื่องราวทุกอย่าง จึงรีบโทรหาปูนทันที
“ไม่เป็นไรค่ะอา หนูยินดีช่วย และหนูจะลากไอ้ปูนไปช่วยไอ้เน่ให้ได้ เชื่อหนู อาวางใจได้ อารีบไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทัน”
เผด็จรีบวิ่งขึ้นรถ ก่อนที่จะเปิดประตูรถ ทับทิมตะโกนตามหลังไป
“คุณอา” เผด็จหันกลับมา
“หยุดระเบิดให้ได้นะคะ หนูมั่นใจว่าอาทำได้” ทับทิมยิ้มให้
“ก่อนที่จะมีคนเป็นจำนวนมากต้องเกิดการสูญเสียจากระเบิดพวกนั้น”
เผด็จยิ้มให้ทับทิม “ขอบใจมากทิม อาฝากด้วยนะ” ทับทิมยกกำปั่นซ้ายให้สัญญา
“รีบไป” ทับทิมบอก เผด็จรีบไปทันที ก่อนที่แจงจะทำอะไรมากไปกว่านี้ แล้วไหนจะพวกมังกรดำอีกขโยงใหญ่ งานนี้ไม่หมูเลย ใครจะไปรู้ว่า เผด็จ แจง เนเน่และนิ่ม จะกล้าบ้าบิ่น แบบนี้กันได้
“เอาวะไอ้ทิม รับปากที่จะช่วยเค้าแล้วนี่ ก็ต้องช่วยให้ตลอด”
ทับทิมรีบโทรหาปูน พอปูนรับสายและทับทิมเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนฟังจนหมดอย่างละเอียด ปูนโกรธแตงโมมากที่ปิดบังเธอ
“พี่โม ทำไมถึงทำแบบนี้” ปูนหันไปต่อว่าแตงโม
“ทั้งๆที่ถามแล้วว่าใครโทรมาเมื่อกี้ ทำไมถึงไม่พูดความจริง” ปูนรีบแต่งชุดวิหคขาวทันที และรีบออกจากบ้านโดยไม่รอช้า เพราะนัดกับทับทิมแล้ว งานนี้ทับทิมของแจมด้วย
“ฉันกำลังไป แล้วเจอกันที่จุดนัด” ปูนโทรบอก พิราบเทาติดต่อกลับไป
“ฉันก็กำลังไปเช่นกันเพื่อน” แตงโมห้ามเท่าไหร่ปูนก็ไม่ฟัง แถมยังหันกลับมาชี้หน้าว่าแตงโมอีกด้วย ก่อนที่จะขับรถมอเตอร์ไซด์คู่ใจออกไป
“ถ้าอาเด็จเป็นอะไรไป หนูจะไม่ให้อภัยพี่โมเลยไปตลอดชีวิต ไม่เชื่อก็คอยดู”
พูดจบก็รีบบิดรถออกไปทันทีอย่างไวแตงโมเสียใจมากที่ปูนพูดแบบนั้น จริงๆแล้วมันมีอะไรลึกไปกว่านั้น เพราะคำสัญญาบางอย่าง มันสำคัญกับปูนมากโดยที่แตงโมไม่รู้เลยว่า ปูนกับเผด็จได้ตกลงทำสัญญาอะไรกันไว้ จึงทำให้แตงโมไม่ชอบเผด็จมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ได้ยินเรื่องราวของปูน ที่แอบคบหากับเผด็จ ลับหลังเขา และยังไม่ Clear กับเรื่องลูกคนที่สองเท่านั้น ยิ่งปูนมาพูดออกมาแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
***** ----- *****
เนเน่กับนิ่มมาดักรอแจงอยู่ยังห้องๆนึง ขณะที่แจงกับพวกกำลังเดินทางเข้ามายังห้องนี้ด้วยทางลับอีกทาง ที่ได้เตรียมการเอาไว้ เนเน่ตามดูสัญญานของแจงเป็นระยะๆ ภณประสานงานกับเผด็จ
“นายผมมาถึงงานแล้ว แต่ยังจับสัญญานของไอ้เน่ไม่ได้” ภณเป็นห่วงหลานสาวคนนี้มาก ขยันหาเรื่องเสียจริง
“ไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนคลื่นหรือเปล่า จะเอายังไงต่อ” เผด็จกำลังขับรถมาใกล้ถึง
“ไม่เป็นไร แกพยายามลองจูนไปเรื่อยๆ ฉันได้บอกเรื่องนี้กับวิทย์ไปแล้ว” เผด็จยังรอบคอบอยู่
“ให้รีบเร่งหาระเบิดเวลาและหยุดมันให้ได้” เผด็จยังมีสติดีอยู่ดังเดิม
“ไม่งั้นคนในงานนี้ ได้ตายกันเป็นเบือแน่” เผด็จคิดเช่นนั้น
“วิหคขาวกับพิราบเทากำลังมาช่วยนะ” เผด็จแจ้งข่าวกำลังเสริม
เผด็จวางสายแล้วรีบบึ่งรถทันที พวกลูกน้องของแจงกำลังวางระเบิดตามจุดต่างๆอยู่ ไม่นานปูนกับทับทิมก็มาถึง และติดต่อภณ
“หนูสองคนมาถึงแล้วนะพี่ จะเอายังไงต่อ” ทับทิมถาม
“ช่วยหาระเบิดก่อน ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน พี่ว่าน่าจะอยู่ในงานและรอบๆ”
“ได้พี่ หนูสองคนจะช่วยหารอบนอกก่อน มีอะไรก็ติดต่อมาแล้วกัน” ปูนตอบกลับไป
ระหว่างนั้นแก็งค์มังกรดำ ก็ได้เคลื่อนตัวมากันแล้วเช่นกันอีกด้านนึง โดยปลอมมาสองทาง ทางแรกแทรกตัวเข้าไปอยู่ปะปนกับคนในงาน และอีกส่วนหนึ่ง เตรียมการโจรกรรม วิทย์กับทีมงานวิ่งกันให้วุ่นในการหาระเบิดอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้คนในงานตกใจ
“หมวดกับจ่า แยกไปทางโน้นนะ เร็ว” ขณะที่คนของแจงติดระเบิดอยู่ จู่ๆก็หายไปทีละคนสอง
ทางแก็งค์มังกรดำก็วางระเบิดเช่นกัน ต่างคนต่างวาง ต่างฝ่ายคนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“อ๊าก” เนเน่กับนิ่มแยกกันทำงานแบบเงียบๆเก็บทีละคน จนแจงสงสัยว่าทำไมคนที่ส่งไปทำงาน ถึงไม่กลับมารายงานเลย
“มันหายหัวไปไหนกันหมดเนี่ย” ขณะที่แจงเดินตามหาลูกน้อง เนเน่ก็โผล่หน้ามาให้เห็นทันที
“ตามหาไอ้นี่อยู่ใช่ไหม อีหงส์” แจงหันไปดูตามเสียง ซึ่งมาจากด้านหลัง
เห็นเนเน่หมุนรีโมทระเบิดเล่น 3 อัน “อีเด็กเวร มึงอีกแล้วเหรอ” แจงหงุดหงิดทันที
“ทำไมถึงได้จองเวรกับกูจริง” สิ้นเสียงแจงก็วิ่งเข้าหาเนเน่เพื่อประจัญบานทันที
เนเน่รีบโยนรีโมทให้นิ่มเก็บไว้ แล้วเข้าไปลุยกับแจงอย่างบ้าคลั่งอีกแล้ว
<<<<< $$$$$ >>>>>
ปูนกับทับทิมมาเจอเข้ากับพวกมังกรดำโดยบังเอิญกำลังติดตั้งระเบิดอยู่ จึงเข้ามาขัดขวางอย่างเต็มที่ บริเวณด้านนอกและชั้นใต้ดิน ในจุดที่ตำรวจไม่รู้ กำลังเกิดการต่อสู้กันอยู่ โดยที่พวกด้านในไม่มีใครรู้เลย วิทย์อยู่ด้านในเพราะต้องดูแลรักษาความปลอดภัย แจงดูเวลาแล้วไม่มีเวลาที่จะเล่นกับเนเน่ จึงจำเป็นต้องผละจากเนเน่ก่อน ไม่งั้นเอาของออกมาไม่ได้ ส่วนนิ่มก็กำลังต่อสู้อยู่กับลูกน้องของแจง ไม่นานแจงก็ใช้ระเบิดควันเพื่ออำพรางตัวและหลบเข้าไปในงาน เนเน่ตามหาแจงไม่เจอแล้วในตอนนี้ เพราะว่าสัญญานของแจงมันไปหยุดอยู่ที่รถของแจงซึ่งจอดอยู่ข้างนอกงาน ซึ่งมันอยู่นอกรัศมี เนื่องจากเวลาทำงานแจงจะไม่พกโทรศัพท์ติดตัว
“จะเอาไงต่อคุณหนู” นิ่มถามเนเน่ขณะที่ถือรีโมทระเบิดอยู่
“อย่างน้อยมันก็กดระเบิดไม่ได้หละวะ เราแอบเข้าไปในงานก่อน” เนเน่คิดเช่นนั้น
“ไป ไปดูซิ โชคดี เราอาจจะเป็นของเรา อาจจะเจอมันข้างในอีกก็ได้”
ว่าแล้วทั้งสองคนก็วกกลับเข้าไปด้านในอีกครั้ง โดยไม่รอช้า
##### ^^^^^ #####
มังกรดำด้านในยังไม่รู้ว่าด้านนอก ได้ถูกขัดขวางไปแล้วเกือบหมด แต่ยังมีระเบิดเหลืออีก 3 ลูก ที่แยกติดตั้งไว้ด้านใน ก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับด้านนอกนั้นเอาไว้เผื่อสำหรับหนีเท่านั้น แจงและเสี่ยวปิง กำลังโรยตัวลงมาจากหลังคาด้านในห้องจัดแสดง ก่อนที่งานจะเริ่มเพื่อขโมยของสองสิ่งนั้น เสี่ยวปิงลงมาก่อนไม่ถึงนาที แจงก็ตามลงมา ทั้งสองหันมาเจอกัน เสี่ยวปิงหันไปมองหน้าแจงแล้วถาม
“แกมาทำอะไร” แจงถามกลับบ้าง
“แล้วแกหละนังหนูมาทำอะไร”
“แกมาเอาอะไร ฉันก็มาเอาอันนั้นแหละ” เสี่ยวปิงตอบแบบกวนๆ
“ไม่ได้ ของสองสิ่งนี้ฉันจองแล้ว” แจงแสดงความเป็นเจ้าของ
“แกเอาไปไม่ได้” เสี่ยวปิงมีการต่อรอง
“ใครดีใครได้นังหนู เวลามีน้อย ไปหละ” แจงไม่สนใจเด็กน้อย
เสี่ยวปิงไม่ฟังเสียง รีบเข้าไปขัดขวางแจงทันที ดึงแขนแจงไว้
“อะไรเล่า เอ..” แจงเลยต้องกันกลับมาจัดการกับเสี่ยวปิงก่อนทันที
“เอ นังเด็กคนนี้ รำคาญจริง” แจงจึงต้องเก็บตัวรำคาญตัวนี้ก่อน
จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ต่อสู้กันได้ไม่นาน แจงจึงมีการต่อรอง
“เอางี้ เวลาไม่มีแล้ว แบ่งคนละอัน” แจงมีทางออกที่ดีให้
“ออกไปได้แล้วค่อยว่ากันใหม่ ห้องแสดงจะเปิดแล้วอีกไม่ถึง 10 นาที”
เสี่ยวปิงเห็นว่าข้อเสนอดี จึงเลิกต่อสู้และตรงไปยัง แผ่นศิลาที่อยู่ใกล้ที่สุด
“ฉันเอาอันนี้แหละใกล้ดี” เสี่ยวปิงพูดออกไป
“ตามใจแก งั้นฉันก็จะเอาไอ้นั่นนะ ไปหละ” ส่วนแจงก็เอาแท่งหลักศิลาจารึก
ทั้งสองกระโดดขึ้นเชือกของตัวเอง แล้วห้อยตัวลงมา ค่อยๆเอามือล้วงไปตัดสัญญานที่อยู่รอบๆ เพื่อให้แสงเลเซอร์หายไป พอแสงหายไปทั้งสองจึงค่อยๆหย่อนตัวลงมายืน เพื่อที่จะยกเอาของทั้งสองไป แต่ทั้งสองไม่รู้ว่า ทางวิทย์ได้วางระบบไว้สองชั้น แสงเลเซอร์ด่านแรก แค่กันคนเข้าไปใกล้สิ่งของเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าที่พื้นนั้น ก็มีกับดักอีกเช่นกัน พอทั้งสองยกแท่งหลักศิลาจารึกกับแผ่นศิลาออก เสียงสัญญานจึงดังขึ้น แจงรีบตะโกนเรียกลูกน้องที่รออยู่ทันที
“มาเอาของไปซิไอ้พวกโง่ จะรออะไร นังหนูโยนของ เอาตัวรอดก่อน”
ทั้งสองคนรีบโยนของทั้งสองสิ่งออกไป ลูกน้องของแจงทั้ง 6 คน รีบโรยตัวออกมารับของ
“ได้ของแล้วรีบออกไปเลย เร็ว” แจงตะโกนสั่งลูกน้อง ลูกน้องรีบดึงสลิงขึ้นไปทันที แบบฉิวเฉียด
กรงแสงเลเซอร์ผุดขึ้นมาล้อมตัวทั้งสองคนในไม่กี่นาที เสี่ยวปิงไม่ทันได้ตะโกนเรียกใคร เพราะตกใจอยู่ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ลูกน้องที่ตามมารู้ภายหลัง จึงซ่อนตัวทันที เพราะกลัวตาย ไม่กล้าโผล่หน้าออกมาช่วย กรงเลเซอร์โผล่ออกมาอย่างรวดเร็วมาก ทั้งสองคนกระโดดออกไปไม่ทันจริงๆ วิทย์และทีมจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องแสดงนิทรรศการด้านในอีกส่วนนั้น แล้วปิดล้อมห้องไม่ให้ใครเข้าหรือออกทันที ผู้คนแตกตื่นไปตามๆกันในส่วนด้านนอก
“โธ่โว๊ย..ทำไมถึงเป็นแบบนี้วะ” เสี่ยวปิงกำลังจิตแตก
“ปู่ช่วยหนูด้วย หนูถูกจับอยู่ข้างใน” เสี่ยวปิงรีบติดต่อผู้เป็นปู่ซึ่งแฝงตัวอยู่ด้านนอก
“ไม่เป็นไรนะอาปิง เดี๋ยวปู่จะเข้าไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ”
แล้วเฒ่าหยิน ก็เรียกระดมพลลูกน้องทั้งหมดทันที
“อาหยี ไปช่วยอาปิงข้างใน” อาหยีรับคำสั่ง
“พ่อจะคุ้มกัน ด้านนอกไว้ให้ ไป” อาหยีรีบพาลูกน้องกลุ่มใหญ่วิ่งบุกทะลวงเข้าไปยังห้องด้านในทันที
ซึ่งขณะนั้นวิทย์กำลังพูดจาหว่านล้อมให้ทั้งสองคนยอมจำนวนอย่าคิดต่อสู้ใดๆทั้งสิ้น เพราะมันคงจะไม่คุ้ม
“หงส์ฟ้า ยอมให้จับซะดีๆ อย่าได้คิดต่อสู้และหนีเลย เธอกับเพื่อนไปไหนไม่รอดหรอก” วิทย์เริ่มเจรจาต่อรอง
“กรงเลเซอร์นี้มันถูกออกแบบและประดิษฐ์พร้อมกับดัดแปลงมาเป็นพิเศษ สำหรับจับพวกเธอโดยเฉพาะ”
วิทย์พูดแบบยิ้มๆ “ถ้ามันถูกส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเมื่อใด” และสะใจ
“มันก็จะขาดและหลุดหายไปทันทีในพริบตา” วิทย์โยนเศษผ้าผืนหนึ่งเข้าไปให้ดูเป็นตัวอย่าง
เมื่อผ้าผ่านรูของแสงเข้าไป ก็อันตธานหายวับ ขาดเป็นเศษตกลงต่อหน้าทันที แจงกับเสี่ยวปิงตกใจมาก
“เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ายื่นแขนขาหรือส่วนใดๆออกจากตัวรถนะครับ คุณหงส์และเพื่อน”
“บัดซบจริงๆ สกปรกที่สุด พวกแกเล่นแบบนี้กับฉันได้ยังไง”
แจงมองไปรอบๆ แสงเลเซอร์ทั้งนั้น และยังไม่เชื่อสนิทกับสิ่งที่วิทย์บอก เพราะนั่นเป็นแค่ผ้า จึงลงใช้อาวุธลับปาออกไปบ้าง โลหะคงไม่เป็นไร ผลปรากฏว่า ละลายหายไปต่อหน้าเช่นกัน ส่วนหนึ่งหล่นลงมา แจงและเสี่ยวปิงตกใจมาก คราวนี้เชื่อสนิทแล้ว ถ้าเป็นเนื้อคน แล้วมันจะเหลือไหมเนี่ย ส่วนเนเน่กับนิ่มก็ตามลูกน้องของแจงไปติดๆ เพราะยังไม่รู้ว่าตอนนี้แจงอยู่ที่ไหน เลยต้องใช้วิธีนี้ไปก่อน ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย
“เหรียญมันมีสองด้านนะหงส์ มันก็เปรียบเสมือนแกนั่นแหละ” วิทย์ยังคงกล่อมแจงอยู่
“ที่ว่าจะเลือกด้านไหนหัวหรือก้อย ดีหรือร้าย” แจงกำลังคิดหาทางออกอยู่ แต่มันยากมาก
“ยอมให้จับซะดีๆ เราจะกันตัวแกเอาไว้เพื่อเป็นพยาน” วิทย์ยังคงเกลี้ยกล่อมอยู่
“และบอกเรามา ว่าใครคือหัวหน้าองค์กรของแก” แจงนั่งคิดแบบใจว้าวุ่นมาก
“โฉมหน้าที่แท้จริงของมันคือใครโทษหนักจะได้เป็นเบา” เสี่ยวปิงก็กำลังมองว่า เมื่อไหร่ปู่จะมาช่วย
“ไม่ต้องโดนโทษประหาร อย่างดีก็แค่จำคุกตลอดชีวิต” วิทย์มีทางเลือกให้
“ว่าไง จะยอมให้จับดีๆหรือต้องให้ออกแรงจนเจ็บตัวเสียก่อน คุณหงส์ปีกหัก”
“ฝันไปเถอะ อย่าเสียเวลาพูดเลย ฉันไม่ยอมเข้าคุกตลอดชีวิตหรอก” แจงตะโกนออกไป
“สู้ตายซะยังจะดีกว่า ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะไอ้พวกชั่ว ไอ้สารเลว” นั่นแจงด่าแบบไม่คิด
“ปล่อยฉันออกไป เดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากออกไปจากตรงนี้” เสี่ยวปิงวีนแตกแล้วจึงตะโกนออกไปบ้าง
“ไอ้ตำรวจบ้า ฉันเกลียดแก ฉันเกลียด ทุกคนที่เอาเปรียบฉัน ปล่อยฉันนะ” อาการเดิมของแจงเริ่มกลับมาแล้ว
ขณะที่กำลังหว่านล้อมอยู่นั้น อาหยีพาคนกลุ่มใหญ่บุกยิงฝ่าเข้ามาทันที
“อาปิง พ่อมาช่วยแล้วลูก” อาหยี ตะโกนดังลั่น พร้อมกับสาดกระสุนเข้ามา ไม่นับ
วิทย์และพวกหลบแทบไม่ทัน “ถอยไปก่อนลูก พ่อจะปิดสวิทย์เลเซอร์ให้เอง”
“พ่อ ช่วยหนูด้วย” แจงและเสี่ยวปิง รีบถอยออกไปห่างจากแถวนั้น
จากนั้นอาหยีก็ปาระเบิดไปที่แท่งแก้วที่ตั้งอยู่กับพื้นทั้งสองด้าน กรงเลเซอร์หายวับไปกับตา
“รีบไปเร็วลูกพ่อ” แจงและเสี่ยวปิง ต่างรีบหลบหนีทันทีคนละทางสองทาง
แจงรีบกระโดดขึ้นเชือกที่ยังห้อยอยู่แล้วดึงสลิงขึ้นไปทันที ส่วนเสี่ยวปิงก็ต่อสู้กับตำรวจที่อยู่ด้านล่าง ปูนกับทับทิมเมื่อได้ยินเสียงปืนดังสนั่นจากด้านใน ก็หลบดูทีท่าอยู่ภายนอก เพราะเห็นพวกนั้นขนคนมาเพียบ อาหยีพาเสี่ยวปิงและพวกพ้องวิ่งย้อนออกมาที่โถงด้านนอก เฒ่าหยินเมื่อเห็นลูกและหลานออกมาแล้วอย่างปลอดภัย จึงจุดระเบิดที่วางเอาไว้แล้วทันทีทั้งสามลูก <บึ้ม> ระเบิดทำงานได้เพียงลูกเดียว
“ทำไมอีกสองลูกไม่ทำงานวะ” ทันใดนั้นเองท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจาย <เพล้ง> เสียงหลังคาแก้วก็พังลงมา
ปรากฏร่างของบุคคลผู้หนึ่งลงมาจากหลังคา หงส์หยกได้ปรากฏกายขึ้นมาต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง ในงานนิทรรศการวันนี้ โดยไม่มีใครคาดคิด หลังจากที่ได้หายหน้าไปจากวงการนี้แล้วนานถึง 3 ปีเต็มๆเลยทีเดียว หงส์หยกย่อตัวก้มลงเอาผ้าคลุมบังหน้าและตัวไว้ พอควันจางหายไปเธอจึงสะบัดผ้าคลุมออกให้เห็นหน้าอย่างชัดเจน แม้แต่เผด็จเองก็ต้องประหลาดใจที่เมียกลับมาโดยไม่บอก จึงหลุดปากออกมาเบาๆ
“เทียนหอม” หงส์หยกชี้ไปที่หน้าของเฒ่าหยิน
“อยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมระเบิดถึงไม่ทำงาน” หงส์หยกเอ่ยวาจาออกมาถามอย่างเสียงดัง
“แกเป็นใคร แล้วยุ่งอะไรด้วย แต่งตัวก็ช่างประหลาดนัก ไม่เหมือนมนุษย์มนาเค้า”
“นามข้าคือหงส์หยก คนที่จะมาปราบมนุษย์พวกที่คดโกงบ้านเมืองอย่างพวกเจ้า”
หลังจากประกาศศักดาไปเรียบร้อย จึงเฉลย ข้อข้องใจ
“ระเบิดของพวกแก ถูกข้าปลดออกหมดแล้ว”
“อีบ้า พวกเราจัดการมัน” สิ้นเสียงเฒ่าหยิน ลูกปืนนับไม่ถ้วนดังขึ้น
เทียนหอมดึงผ้าคลุมมาบังตัวเองไว้ ผู้คนในงานนั้นวิ่งหลบกันแทบไม่ทัน
“ภณ วิทย์ พาคนพวกนี้ออกไปก่อนเร็ว” เผด็จวิ่งเข้ามาบอกให้ภณและวิทย์รีบพาคนออกไป
ทั้งสองรีบทำตาม .. เทียนหอมรีบตะโกนบอกสามีทันที เพราะระบิดยังกู้ไม่หมด
“พี่เด็จระเบิดอีก 3 ลูก ยังกู้ไม่หมด หนูทำคนเดียวไม่ทัน พี่ช่วยไปกู้ด้วย” เทียนหอมตะโกนสั่งผัว
“ทางนี้หนูจัดการเอง อยู่ทางโน้น หนูทำเครื่องหมายไว้ให้หมดแล้ว รีบไป เร็ว”
เผด็จพยักหน้า เฒ่าหยินเมื่อได้ยินดังนั้น จึงวิ่งตามเผด็จออกไป
“จะไปไหนไอ้เฒ่า” เทียนหอมยิงสกัดเอาไว้ เฒ่าหยินจึงทำอะไรไม่ได้
“อาหยี ตามมันไป อย่าให้มันปลดชนวนระเบิดได้ ไป” อาหยีรีบวิ่งไปทันที เพราะอยู่ใกล้สุด
((((( ----- )))))
เทียนหอมได้สืบทราบมาว่า เผด็จเสี่ยงตายมาสืบเรื่องของหงส์ฟ้าปลอม จึงต้องยื่นมือเข้ามาช่วย ถ้าไม่ได้หงส์หยกเรื่องคงไม่จบง่ายๆแบบนี้ เพราะเทียนหอมเป็นคนเดียวที่รู้ว่า ใช่เนตรหรือไม่ ความลับบางอย่างที่เผด็จเองก็ไม่รู้ เมื่อเทียนหอมพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่เนตร ทุกอย่างจึงง่ายขึ้น แต่ก่อนที่จะจบเรื่องนั้นต้องจบเรื่องนี้ให้ได้ก่อน เทียนหอมจึงต้องยอมปรากฏตัวเพื่อมาช่วยภารกิจในครั้งนี้นั่นเอง
{{{{{ ===== }}}}}
“มานี่ก่อน จะไปไหน” เนเน่กับนิ่มเข้าแย่งหลักศิลาจารึก และแผ่นศิลาจากลูกน้องของแจงทันทีเมื่อมีโอกาส
อาหยีกับเสี่ยวปิงรีบวิ่งตามเผด็จไปทันที โดยไม่รอช้าหลังจากที่เฒ่าหยินสั่ง
“อีเน่ มึงนี่วุ่นวายกับงานกูซะจริง” แจงตามมาทัน จึงเขาต่อสู้กับเนเน่ทันที
“เออ มันเรื่องของกู มึงทำชั่ว กูก็ต้องเข้าขัดขวางเป็นเรื่องธรรมดา ไม่รู้ว่าพ่อหลงมึงเข้าไปได้ยังไงวะ ทั้งเลวทั้งชั่วขนาดนี้ กูหละสงสารพ่อกูจริงๆเล้ย อีชั่ว อีสารเลว กูถามมึงจริงๆเถอะ มึงทำเสน่ห์ยาแฝดอะไรใส่พ่อกูวะ”
“อีเวร อีเด็กนรก อีปากกระโถน มึงๆ อีปากปีจอ กูไม่เคยทำ วันนี้มึงตาย อย่าอยู่เลย ปากดีนักนะมึง”
“เออ เก่งจริงมึงก็ฆ่ากูให้ได้ซิ แล้วมึงจะรู้ว่านรกมีจริง ถึงพ่อจะรักมากแค่ไหน แต่ก็คงจะน้อยกว่าที่รักกูแหละจะบอกให้ อีนรกเมิน ไม่เชื่อมึงก็ทำให้ได้อย่างที่ปากมึงพูดแล้วกัน ถ้ากูตายไป แล้วมึงไม่ตายตามไป อย่ามาเรียกกูว่าเนเน่ กูให้มึงเรียกกูว่า อีชาติหมาเลย ไม่เชื่อ มึงก็ลองดู ถ้ามึงสามารถนะ” เนเน่มีขู่แจงซะด้วย
เสี่ยวปิงแยกจากพ่อ เพราะต้องไปเอาแผ่นศิลานั้นกลับคืนมาให้ได้
“พ่อหนูขอไปเอาแผ่นศิลาก่อนนะ” อาหยีพยักหน้า
เสี่ยวปิงรีบวิ่งออกไปจากอาคาร ตรงไปยังกลุ่มของแจงทันที
“เอามาให้ได้นะลูก พ่อจะรอข่าวดี” อาหยีตะโกนตามหลังไป เสี่ยวปิงยกมือ Ok ให้ทันที
คราวนี้ชุลมุนกันยกใหญ่ ไม่รู้ว่าใครเป็นใครแล้วตอนนี้
“เอามานี่” เสี่ยวปิงมาแย่งแผ่นศิลาจากมือนิ่ม
“ไม่ให้ ถอยไปนะ” นิ่มไม่ให้ นิ่มเหมือนเสียเปรียบเล็กน้อย
เพราะต้องสู้มือเดียว มือซ้ายประคองแผ่นศิลาไว้ ไหนจะเสี่ยวปิง ไหนจะลูกน้องของแจงอีก
“จะหนีไปไหนอีเน่” ทางแจงกับเนเน่สู้กันอย่างไม่ลดละ
เนเน่ตามไปจะเอาหลักศิลาให้ได้ แจงก็เข้ามาขวางตลอด
“รีบไปซิไอ้พวกโง่ รถอยู่ทางโน้น ไป” แจงกันเนเน่ไว้ พวกลูกน้อง 3 คนรีบอุ้มหลักศิลาไปขึ้นรถ
>>>>> ===== <<<<<
ดลและเบิ้ม ไม่รู้จะเก็บภาพตรงไหนแล้ว แต่ภาพที่หงส์หยกปรากฏกายนั้นดลสามารถเก็บภาพไว้ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว ดลตัดสินใจวิ่งออกมาด้านนอก ก็เจอเข้ากับอีกพวกหนึ่งลูกน้องของแจงกำลังยกหลักศิลาขึ้นหลังรถ ดลจึงบอกเบิ้มทันที
“พี่เก็บภาพแทนผมที ผมต้องไปช่วยเอาของล้ำค่ากลับมาก่อน” ดลขอช่วยบ้าง
“มันกำลังจะหนีไปโน้นแล้ว ฝากด้วยพี่ และกลับสำนักพิมพ์ได้เลยนะ ไม่ต้องรอผม”
พูดจบ ดลก็ตรงเข้าไปขัดขวางคนกุล่มนั้นทันที ดึงขาทั้งสองคนลงมาจากรถ และจัดการกระทืบซ้ำ ดับไป 1
##### ^^^^^ #####
เผด็จไปตามลูกศรที่เมียทิ้งไว้ให้ ลูกแรกปลดได้เรียบร้อย
“ฮู้ ฉิวเฉียดจริงๆ ลูกต่อไป” <เปรี้ยง> กระสุนเฉียดหน้าเผด็จไปนิดเดียว
“เหวย อะไรวะ” แต่พอจะไปปลดลูกที่สอง อาหยีก็เข้ามาขัดขวาง
เผด็จจึงต้องจัดการกับอาหยีเสียก่อน ไม่งั้นคงปลดระเบิดลูกต่อไปไม่ได้แน่
“มันคงไม่ง่ายหรอกหละมั้ง เก่งจริงก็เข้ามา” อาหยีท้าเผด็จซะด้วย
นิ่มถูกลูกน้องของแจงรุมทึ้ง ถูกเตะจนต้องปล่อยแผ่นนั้น และแย่งเอาแผ่นศิลาไปได้
“โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว” นิ่มบอบช้ำมากเลยกับงานแรกในวันนี้
เสี่ยวปิงไม่สนนิ่มแล้วในตอนนี้ หันไปจัดการกับลูกน้องของแจงแทน
“ไหวไหม นังหนู เอ้าลุกขึ้นมา” ทับทิมมาทันเวลาพอดี เข้าไปดึงนิ่มขึ้นมา
“เป็นอะไรมากไหม” นิ่มไม่นึกไม่ฝันว่าจะพบพิราบเทาตัวจริงเป็นๆจึงอึ้งไปพักนึง
เพราะอยากเจอมานานแล้ว “นังหนูเป็นอะไร ไปหลบไป” ทับทิมบอกนิ่ม นิ่มจึงได้สติ
“ค่ะๆ” แล้วทับทิมก็ตามไปเอาแผ่นศิลาจากพวกนั้นอีกคน
นิ่มวิ่งตามไปด้วย แจงยังสู้อยู่กับเนเน่ ทับทิมเข้ามาช่วย แจงจึงสู้ทั้งสองคน
“ไอ้เน่แกไปเอาแผ่นศิลากลับมาให้ได้ ทางนี้พี่เองไป”
เนเน่พยักหน้า แจงจะตามเนเน่ไป พิราบเทาก็เข้ามาขัดขวาง
“จะไปไหน” ทับทิมดึงแขนไว้
แจงเสียหลักทันที จึงต้องหันมาสู้กับพิราบเทาแบบช่วยไม่ได้
“อย่าหนีนะ” เมื่อเนเน่เรียกแล้วไม่หยุด
เธอจึงปาอาวุธลับไปที่คนแบกศิลาแผ่นนั้นไป พวกนั้นล้มลงตายทันที
“เสร็จฉันหละ ขอบใจนะที่ช่วยผ่อนแรง”
เสี่ยวปิงรีบไปคว้าออกมาจากมือและวิ่งหนีไป
“นี่แหนะ มันไม่ง่ายนักหรอกโว๊ย”
นิ่มกระโดดถีบจนเสี่ยวปิงเซและทำแผ่นศิลาหลุดหล่นจากมือลงไปอยู่กับพื้น
“ขอบใจนิ่ม” เนเน่ตะโกนบอก นิ่มได้ยินแล้วจึงสู้กับเสี่ยวปิงต่อ
“ฉันขอต่อหละ” เนเน่วิ่งจะก้มลงหยิบ
แจงยิงปืนไปกันไว้ หลังจากที่สลัดหลุดออกมาจาพิราบเทาได้พักนึง
“อะไรวะ ใครอีกเนี่ย อีหงส์” เนเน่ชักมือกลับแทบไม่ทัน
ด้านในก็กำลังชุลมุน เทียนหอมก็กำลังต่อสู้อยู่กับเฒ่าหยินอย่างเข้มข้น
“ไม่เบานี่นังหนู นับถือนับถือ” เฒ่าหยินเอ่ยปากชมหอม ฝืมือพอๆกัน กินกันไม่ลง
ส่วนวิทย์กับพวกก็ไล่ยิงพวกกงจักรทองและมังกรดำกันจ้าละหวั่น
“เฮ้ย พวกไหนกันบ้างวะเนี่ย” ลูกน้องของแจงคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“แกพวกไหนวะหนะ” ลูกน้องของมังกรดำคนหนึ่งก็พูดขึ้นเช่นกัน
ไม่รู้ว่าใครเป็นใครแล้วทีนี้ จึงเกิดการยิงกันมั่วไปหมด ไม่คุ้นหน้าคุ้นชุด เลยซัดกันนัวเลย
“ทางนี้ครับ เร็วครับ ก้มต่ำไว้” ภณพยายามกันคนออกไปจนปลอดภัยเกือบหมดแล้ว
เฒ่าหยินหลบหนีออกมาจากภายใน มาสู่ลานกว้างภายนอก
“จะไปไหนไอ้เฒ่า” เทียนหอมวิ่งตามออกมา ตามประกบไม่ยอมปล่อย
ระหว่างที่เผด็จสู้กับอาหยี วิทย์เข้ามาพอดี
“วิทย์มาเอาไอ้นี่ออกไปที ลุงปลดระเบิดไม่ได้ ฝากด้วย”
วิทย์ตรงเข้ามาขัดขวางอาหยีทันทีเพราะวิทย์ปลดระเบิดไม่เป็น
“ได้ครับลุง ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง” หน้าที่คุ้มกันจึงต้องเป็นของเขา
เผด็จจึงรีบกลับไปปลดชนวนทันที “อย่าให้มันตามลุงมานะ”
“ครับลุง ไปเลย ผมจัดการเอง มาแกมาเจอกับฉัน”
เสี่ยวปิงสู้กับนิ่มไปมาจนรีโมทที่อยู่ในตัวของนิ่มหลุดตกออกมา 1 อัน
“อะไรวะหนะ รีโมทระเบิดนี่ เสร็จฉันหละ”
เสี่ยวปิงไม่สนใจรีบกดรีโมททันที <ตูม> ระเบิดลูกนึงที่อยู่แถวนั้นดังตูมขึ้นมาทันที
“ว๊าย” นิ่มอยู่ใกล้ที่สุด จึงกระโดดหลบไม่ทัน แต่โชคดีที่ชุดใหม่มีตัวกันกระแทกให้ด้วย จึงเจ็บน้อยหน่อย
“โอย อะไรวะ แกทำอะไรของแก” นิ่มตะโกนด่าเสี่ยวปิง
หลายคนกระโดดหลบกันแทบไม่ทัน เพราะไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง
“ใครกดวะหนะ” ปูนบ่นออกมาขณะที่กำลังสู้กับเหล่าร้ายอยู่แถวนั้น
โชคดีต่อที่ตัวเองไม่เป็นอะไร เพราะชุดช่วยไว้จึงไม่ได้รับอันตราย แต่ไอ้พวกนั้นไม่เหลือ
“อะไรกันนักหนาวะอีนังนี่ ตื้อจริง” เฒ่าหยินที่กำลังต่อสู้กับเทียนหอมจึงถือโอกาสส่งสัญญาน
ยิงพลุขึ้นฟ้า เพื่อถอย ทุกคนเมื่อเห็นสัญญานจึงแยกย้าย และหลบหนีไปทันที
“เอ้ย พวกเราถอย นายให้สัญญานแล้ว” หัวหน้าหน่วยตะโกนบอกพวกที่เหลืออีกที
ใครรอดก็ไป ใครไม่ไหว ก็ช่วยไม่ได้ ปูนวิ่งไล่ตามพวกนั้นมาและจัดการต่อได้อีกไม่กี่คน
“อีนังหน้ากาก ฝากไว้ก่อนเถอะ เกลียดนักที่มาขัดขวางทางของข้า”
ก่อนไปเฒ่าหยินลั่นวาจาฝากเทียนหอมไว้ เพราะโกรธมากที่ชอบเข้ามาจุ้นและวุ่นวายกับมัน
“ความแค้นในครั้งนี้ ข้าจะกลับมาทวงคืน” พูดจบก็ปาระเบิดควันแล้วก็หายตัวไปทันที
ช่วงที่กำลังหลบระเบิดกันอยู่นั้น แจงได้โอกาสรีบดึงเอาแผนที่ลายแทงที่อยู่ด้านในออกมาแล้ว แล้วรีบหลบออกไปจากตรงนั้นทันที ไม่สนใจแผ่นศิลาอีกต่อไป ใครอยากได้ อยากจะชิงเอากลับ ก็เชิญเลย
“หวานฉันหละ ขอบใจมากนังหนูที่ช่วยกดระเบิดเปิดทางให้ ไปหละ”
วิหคขาวมาช่วยดลไว้ทันอีกครั้งขณะที่กำลังขัดขวางการขนย้ายแท่งศิลาจารึก ระเบิดอยู่คนละทางกันจึงไม่มีผลกับทางนี้ โชคดีที่ปูนวิ่งตามพวกที่กำลังหนีกลับนั้นมาทางนี้พอดี ปูนจึงมาพบกับดลเข้าโดยบังเอิญ ปูนดึงกุญแจรถของรถคันนี้ทิ้งไป และคว้าคอคนขับออกมาจัดการซะ เสียงปืนกลรัวมาจากทุกทิศทาง ปูนรีบวิ่งไปดึงตัวดลมาอยู่ในผ้าคลุม กอดเขาไว้แน่น จนดลมีความรู้สึกว่า วิหคขาวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิดจริงๆหรือ พอสิ้นเสียงปืน แจงก็กระโจนขึ้นมาบนรถทันที เพื่อที่จะเอาแผนที่ที่ซ่อนอยู่ในนั้น ปูนรีบกระโดดขึ้นไปขวางทันที เจอแจงถีบตกลงมาเพราะไม่ทันตั้งตัว
“โอ๊ย” หงส์หยกมาช่วยปูนไว้ได้ทัน จึงเพิ่มเป็นอีกแรง เลยได้ทำการต่อสู้กับแจงสักครั้ง
“แกเป็นใคร ดูก็รู้ว่าไม่ใช่น้องสาวฉัน” เทียนหอมปะมือกับแจงแป๊บเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่เนตร
“แล้วแกหละเป็นใคร” แจงไม่รู้จริงๆในครั้งแรก
สักพักก็นึกขึ้นมาได้ ว่ามนุษย์หน้ากากมีใครบ้าง จึงเดาเอา จาก 3 คนที่เหลืออยู่
“อ้อ ฉันรู้แล้วว่าใคร หงส์หยกนี่เอง เพราะนางแมวป่า มันตายไปแล้ว” แจงยังพอมีความรู้บ้าง
“ยินดีที่ได้ปะมือด้วยนะเจ๊” แจงมีการแหย่หอมซะด้วย
“แต่ขอโทษ ฉันไม่มีเวลาที่จะมาเล่นด้วยนะตอนนี้” พอดีแจงรีบไป
“ยังมีงานรออยู่อีกเยอะ” พูดจบแจงก็ถอยห่างออกมาทันที
แล้วก็ซัดอาวุธลับออกไปทันที เทียนหอมดึงผ้าคลุมมาบังไว้ทัน
“ไปนะ ลาหละ” แจงรีบเปิดประตูรถแล้วใช้กุญแจสำรองขับรถออกไปทันที
“เก่งจริงอย่าหนีซิวะ อีหงส์ปลอม กลับมา อีโธ่ ไม่แน่จริงนี่หว่า” เทียนหอมโมโหมาก
ดลกับปูนยิงปืนขัดขวางไว้ก็ไม่ทัน เทียนหอมเรียกเอาไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องตาม” ปูนเดินเข้ามาหาเทียนหอมทันที
“มาได้ยังไงพี่ ขอบใจนะที่มาช่วย” เทียนหอมเอามือจับไหล่ปูน
“เรื่องนั้นเอาไว้คุยกันทีหลัง ไปดูพวกเราทางโน้นก่อน”
ดลจ้องมองปูนจากด้านหลัง ไม่รู้ว่าจะขอบคุณหรือแก้แค้นดี มันสับสนไปหมดตอนนี้
“แก..” มือที่ถือมีดสั้นอยู่ ขยับจะแทงปูนจากข้างหลังก็ทำไม่ลง
เพราะเมื่อกี้ปูนพึ่งช่วยชีวิตเขาเอาไว้ จึงได้แต่มองดูปูนจากไป
“อึ๊ย..โว๊ย” ดลได้แต่นั่งคุกเข่าลงกับพื้นแล้วตะโกนขึ้นฟ้า
ถึงดลจะแทงปูนจริงๆ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะชุดของปูนฟันแทงไม่เข้าอยู่แล้ว เรื่องนี้ดลไม่รู้มาก่อนจริงๆ นอกจากจะรู้ตัวตนจริงๆของปูนเสียก่อน ตรงนั้น จึงจะสามารถทำได้ แต่ถ้าอยู่ในชุดนี่หละก็ หมดสิทธิ์จร้า ปูนกับเทียนหอมวิ่งไปอีกทาง เผื่อจะเจอเนเน่กับทับทิม
“พี่เจอไอ้เน่รึยังเนี่ย” ปูนถามพี่สาว
“ยังเลย มัวแต่สู้กับไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์อยู่”
“สบายดีนะพี่” หอมพยักหน้าให้
“คิดถึงพี่จัง” ปูนปากหวานใส่เทียนหอมทันที
“ไม่เจอกันนาน ปากหวานขึ้นนะแก” ปูนอายๆเขินๆ
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่”
ทั้งสององค์กรร้ายกระเจิงไม่มีชิ้นดี หลังจากระเบิดลูกนั้นดังขึ้น พร้อมกับพลุสัญญาน
<<<<< ***** >>>>>
หลังจากที่เผด็จปลดชนวนระเบิดที่เหลือทั้งหมดได้ ก็รีบบอกให้วิทย์เข้าไป Clear พื้นที่อีกที เผด็จออกมาดูเหตุการณ์ภายนอก
“เป็นไงบ้างภณ ไม่มีใครเป็นอะไรนะ”
เผด็จเป็นห่วงสถานการณ์ภายนอกมาก เพราะมันยากเกินคาดเดากับการควบคุม
“ครับ ปลอดภัยดีทุกคน ดีที่นายเตรียมการไว้ดี และเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้”
“เก่งมากๆ แล้วนพหละ เจอหน้ามันบ้างไหม วันนี้ ฉันยังไม่เห็นหน้ามันเลย”
“ผมเห็นวิ่งไปทางโน้นตอนระเบิดดังขึ้นไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง”
ภณชี้ไปตรงทางเข้ามุมโน้น “ส่วนคนที่มาร่วมงานปลอดภัยทุกคน” เผด็จพอใจมาก
“อาจจะมีบาดเจ็บบ้างเล็กน้อยจากลูกหลงของระเบิดข้างใน” ภณรายงานอย่างละเอียด
“แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต” เผด็จเอามือตบไหล่ภณเบาๆ
“เก่งมากไอ้น้อง ไป ไปพักผ่อนได้แล้ว เหนื่อยมามากแล้ว”
วิทย์เดินออกมาหลังจากที่เข้าไปตรวจดูความเสียหายภายในอีกครั้ง
“เละเลยลุงด้านใน ความเสียหายประเมินไม่ได้” วิทย์ทำสีหน้าไม่ดีเลย
“แต่โชคดีที่กำลังตำรวจของเราไม่มีใครเสียชีวิตสักคน” วิทย์ยิ้มออกก็ตรงนี้แหละ
“คงมีแต่บาดเจ็บบ้างหลายคนตอนที่ระเบิดลูกแรกดังขึ้นมาเท่านั้น” เผด็จเอามือแตะไหล่ขวาเบาๆ
“อย่าคิดมากไอ้ลูกชาย เรื่องแบบนี้ เราไม่สามารถที่จะคาดเดาอนาคตได้ แค่พวกเรา ไม่มีใครสูญก็ดีแล้วใช่ไหม”
“ครับลุง ผมก็คิดเช่นนั้น” เผด็จเอามือยีหัววิทย์
“ไปไอ้หนู กลับไปพักผ่อนได้แล้ว ลุงก็จะกลับเหมือนกัน ไป”
>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<
โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 24 .. “ เหรียญ 2 ด้าน 2 ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 248
แสดงความคิดเห็น