บทที่ 13...4/4
เจตน์เพิ่งวางสายจากภาคินที่โทรมาเล่าทุกอย่างให้เขาได้รู้ว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่หลานชายคนเล็กเลิกกับเบญญาที่คบกันมาเกือบปี มีนาถูกเบญญาเมาแล้วไปอาละวาดใส่ ทำให้เขมินท์ออกตัวปกป้องว่าเป็นแฟนของมีนาเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่โต แต่เรื่องราวกลับแย่ลงเมื่อเบญญายังตามราวีมีนาไม่เลิก โดยที่ภาคินสงสัยว่าพริมาอาจอยู่เบื้องหลัง ทางตำรวจกำลังหาหลักฐานเอาผิดคนส่งข้อความไปหาเบญญาอยู่ในตอนนี้
ทว่าความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่เขมินท์ให้มีนาเช่าห้อง โดยมีเงื่อนไขว่าตัวเองจะไปพักหากไปดูแลบริษัทในเครือ จากที่เจตน์ขอให้ภาคินสืบว่าแฟนของเขมินท์เป็นใคร เขากลับได้รู้ความเปลี่ยนแปลงของเขมินท์แทน ชายชรายิ้มขันเมื่อถึงเวลาที่เขาควรคุยกับหลายชายคนโตในเรื่องพวกนี้เสียที
“ยังไม่นอนอีกหรือครับปู่ ป้ารุจาบอกว่าปู่มีไข้น่าจะรีบพักผ่อนนะครับ”
เขมินท์เพิ่งกลับมาถึงบ้าน แล้วก็เป็นเรื่องที่เขาทำเป็นประจำนั่นคือมาหาเจตน์ก่อน เพราะเจตน์มักจะเข้านอนเร็วไม่เกิน 2 ทุ่มก็หลับแล้ว
เจตน์ขยับโดยมีหลานชายช่วยเอาหมอนมารองหลังให้กึ่งนั่งกึ่งนอน
“ปู่รอเขมน่ะ มีเรื่องจะถามนิดหน่อย”
“ปู่อยากถามอะไรผมหรือครับ” เขมินท์นั่งลงที่พื้นพรมข้างเตียงพลางเหยียดขาอันเป็นท่าที่สบายที่สุด
“เขมมีคนรักแล้วหรือยัง คนที่เขมมองเห็นว่าอยากอยู่ด้วยกันในอนาคต ที่ปู่ถามก็เพราะเขมทำงานหนักมาหลายปี แทนพ่อของเขม ตอนนี้เขมควรมีเวลาที่เป็นของตัวเองได้แล้ว อีกอย่างปู่ก็อ่อนแอลงทุกวันๆ ถ้าปู่ได้เห็นเขมมีความสุข ปู่จะได้เบาใจ”
มือเหี่ยวย่นถูกจับไว้หลวมๆ เขมินท์รู้เสมอว่าเจตน์กังวลในเรื่องอะไร ตอนนี้บริษัทของครอบครัวไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว เขาวางระบบและคนที่ไว้ใจได้ช่วยดูแลในบางส่วน จึงเหลือเพียงการมีครอบครัวที่ปู่อยากให้เขามีในเวลาที่สมควร
“ปู่ยังแข็งแรงอยู่เลย ผมไม่ยอมให้ปู่เป็นอะไรไปหรอกนะครับ”
“ชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก เขมอย่ามาเบี่ยงความสนใจของปู่สิ ตอบปู่มาก่อน” เจตน์รู้ทัน หากพูดเรื่องนี้เมื่อไหร่เขมินท์มักแบ่งรับแบ่งสู้มาตลอด
เขมินท์ยิ้มพลางถอนใจที่มาจากความสุข แม้จะมีหลายอย่างที่ยังไม่แน่ใจ แต่เขาคิดว่าตัวเองมีจุดหมายที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“ผมกำลังศึกษาใครบางคนอยู่ครับ ถ้าถึงเวลาที่เหมะสม ผมจะพามาให้ปู่ได้รู้จัก”
“แสดงว่าปู่ไม่เคยรู้จักมาก่อน” เจตน์ขมวดคิ้วเพราะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือมีนา ถ้าเขมินท์ต้องพามารู้จักย่อมแสดงว่าเขาคาดการณ์ผิดงั้นหรือ
“ถามเรื่องแบบนี้ ผมก็น่าจะเขินบ้างใช่ไหมครับ เอาเป็นว่าผมติดคำตอบของปู่ไว้ก่อน พอถึงเวลานั้น ผมจะพาใครบางคนมาให้ปู่ได้พบแน่นอน”
เจตน์พยักหน้าพลางลูบหัวของหลานชาย หากตอนนั้นเขมินท์ไม่เข้มแข็งพอและพาบริษัทให้รอดพ้นจากวิกฤต ตอนนี้เขาอาจเสียบริษัทที่สร้างมากับมือไปแล้ว เขารักหลานชายไม่ต่างจากที่รักลูกชาย เพราะฉะนั้นเขาถึงได้อยากให้เขมินท์มีความสุข
“จำไว้นะ ไม่ว่าเขมรักใคร ปู่ก็รักด้วยอยู่แล้ว”
เขมินท์ซบใบหน้าลงบนมืออุ่นของปู่ การที่เขาจะรักใครสักคน เขาต้องคิดและทบทวนความรู้สึกของตัวเองมาดีแล้ว ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเป็นที่รักของเขา เธอจะต้องรักครอบครัวของเขาด้วย รวมทั้งทุกคนในครอบครัวจะรักเธอด้วยเช่นกัน ขอแค่ให้เขาแน่ใจกว่านี้อีกสักหน่อยเท่านั้น
ทีมงานที่เขมินท์จ้างได้เข้ามาจัดสถานที่ไว้ตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อให้พร้อมกับงานทำบุญวันเกิดเล็กๆ เพียงแค่หมู่ญาติในวันเสาร์ เมษาส่งขนมมาฝากทำบุญโดยผ่านทางรุจาที่มาถึงบ้านหลังเก่าซึ่งเคยเป็นเรือนหอของน้องชายตั้งแต่เช้า
ภาคินไปรับพระที่นิมนต์ไว้มาจากวัด เขมินท์ขับรถพาเจตน์มาที่เรือนไทยและดูแลความเรียบร้อยทั้งหมด วันนี้จึงเสมือนวันรวมญาติ ภวิกาดูแลเรื่องดอกไม้สำหรับถวายพระ ส่วนอาหารสำหรับเลี้ยงเพล เขมินท์ได้จ้างบริษัทที่ดูแลงานเลี้ยงมาช่วยจัดการให้เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแรงคนในบ้าน เจตน์มีรอยยิ้มสุขใจในระหว่างที่นั่งรอรับทุกคนในเครือญาติที่อุตส่าห์เดินทางมาไกลบ้างใกล้บ้าง
เขมินท์คอยช่วยดูแลการจุดธูปเทียนให้เจตน์ พิธีต่างๆ ดำเนินไปก่อนที่พระจะฉันเพล ทีมงานที่ดูแลเรื่องอาหารจัดแจงให้ทุกอย่างออกมาเรียบร้อยดี เจตน์ได้ยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข ภาคินตั้งกล้องถ่ายวีดีโอเอาไว้ทุกช่วงเวลาเพราะมันคือความทรงจำที่เจตน์จะมาเปิดดูเมื่อไหร่ก็ได้
“ปู่ขอบใจทุกคนมากนะที่ช่วยทำบุญวันคล้ายวัดเกิดให้ย่า ปีนี้ปู่ดีใจที่ยังได้ทำบุญให้ย่าเค้าน่ะ ไม่แน่ใจว่าปีหน้าจะได้ทำอีกหรือเปล่า” เจตน์ยังคงยิ้มแย้ม การพูดเรื่องในอนาคตไม่ใช่เพราะกลัว แต่เขาไม่ประมาทในการใช้ชีวิตเท่านั้นเอง
รุจาเม้มปากไม่อยากร้องไห้ในวันดีๆ “อย่าพูดแบบนี้สิเจตน์ ปีหน้าเราก็ทำบุญให้น้องสะใภ้กันอีก”
เจตน์พยักหน้าพลางมองไปทางเขมินท์ “ต่อไปก็ขอให้เป็นงานแต่งงานของเขมแล้วกัน อย่าลืมนะว่าปู่รอเจอใครคนนั้นของเขมอยู่”
เขมินท์เห็นสายตาของทุกในบ้านรวมทั้งญาติคนอื่นๆ พากันมองมาที่เขาเป็นตาเดียว ชายหนุ่มไม่คิดว่าทุกคนจะให้ความสนใจถึงขนาดนี้
“เดี๋ยวผมเอาน้ำไปเทที่ใต้ต้นไม้ก่อนนะครับ”
ภาคินมองถาดสองใบที่เต็มไปด้วยถ้วยกรวดน้ำ ถ้าจะให้เขมินท์ถือไปคนเดียวคงไม่ถนัด ภาคินได้ทีอยากจะหาเวลาคุยกับพี่ชายอยู่พอดี
“ผมช่วยเองพี่เขม”
ภาคินถือถาดลงมาจากบนเรือนไทย แล้วเดินตามพี่ชายไปที่ต้นจามจุรีซึ่งมีเพียงต้นเดียว ปู่บอกว่าปลูกไว้ตั้งแต่สร้างเรือนไทยเสร็จ เขมินท์วางถาดแล้วเทน้ำจากถ้วยลงบนใบไม้ ภาคินทำตามพลางเอ่ยว่า
“ก่อนหน้านี้ปู่ให้ผมไปตามสืบว่าแฟนของพี่เขมเป็นใคร”
โบว์จะลงถึงบทที่ 14 อีกแค่ 1 ตอนนะคะ แล้วจบการลงนิยายเพียงเท่านี้ค่ะ
หากต้องการอ่านต่อตอนนี้ เพราะคุณคือรักแรก วางจำหน่ายใน MEB แล้วนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 253
แสดงความคิดเห็น