บทที่ 13...3/4
“พริมเลือกใช้ผ้านิ่มแทนไหมพรมนะคะ เขมบอกว่าคุณปู่ใช้เสื้อผ้าที่ทำจากไหมพรมไม่ได้เพราะจะคันจนเป็นผื่น” พริมาพอจะรู้เรื่องนี้เพราะเขมินท์เคยบอกเธอเมื่อนานมาแล้ว
“ขอบใจมากนะ พอดีเลยปู่เพิ่งบอกเขมไปว่าอยากได้ผ้าพันคอ เขมบอกหนูพริมเหรอ”
พริมายิ้มเหมือนยอมรับแทนการตอบ “เขมคงไม่ค่อยว่างค่ะ ช่วงนี้เขมมีแฟนนี่คะคุณปู่ เห็นว่าพามาอยู่ด้วยกันที่คอนโด คนนี้เขมคงรักมากจริงๆ”
คิ้วเข้มของชายชราขมวดทันที พริมาสังเกตอย่างคาดหวัง หากเธอไม่ถูกเลือก มีนาหรือใครๆ ก็ตามที่ไม่ทัดเทียมกับเธอก็อย่าหวังว่าจะได้โอกาสที่ควรเป็นของเธอไปง่ายๆ
“แฟนงั้นหรือ ใครกัน ทำไมเขมไม่เคยบอก”
“อ้าว ถ้างั้นพริมก็พลาดแล้วน่ะสิคะ” พริมาแกล้งทำหน้าเจื่อน ก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า “พริมไม่รู้ว่าเขมยังไม่ได้บอกคุณปู่ว่ามีแฟนแล้ว แต่ทำไมเขมไม่บอกคุณปู่ก็ไม่รู้นะคะ เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะต้องเป็นความลับเลย”
การที่เขมินท์มีแฟนไม่ใช่เรื่องที่เจตน์จะเข้าไปก้าวก่าย แต่พอเขมินท์ทำเหมือนปิดบังอย่างที่พริมาเอ่ยอ้าง ทำให้เจตน์สงสัยว่าทำไมหลานชายต้องทำแบบนั้น
“หนูพริมพอจะรู้ไหมว่าแฟนของเขมเป็นใคร”
“พริมเคยเห็นค่ะคุณปู่ แต่ไม่ทราบนะคะว่าเป็นใคร” เรื่องอะไรที่พริมาจะบอกไปตรงๆ ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนเธอมาฟ้องน่ะสิ เรื่องแบบนี้ปล่อยให้สงสัยจะน่าค้นหากว่า
“บัวลอยน้ำขิงมาแล้วจ้า หนูพริมทานเลยนะคะกำลังอุ่นๆ” เสียงของรุจามาก่อนเจ้าตัวที่เดินเข้ามาในห้องได้ทันทีเพราะนางเป็นคนที่เปิดประตูค้างไว้
“บัวลอยน้ำขิงของเจตน์ พี่วางไว้ให้ตรงนี้นะ” รุจาชี้ไปที่โต๊ะตัวเล็กข้างหน้าต่าง ซึ่งเป็นที่นั่งประจำของเจตน์ “คุณพยาบาลช่วยดูแลด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปดูอาหารเย็นก่อน ใกล้เวลาที่เขมจะกลับมาแล้ว”
พริมาช่วยพยาบาลประคองเจตน์ไปที่เก้าอี้ที่วางอยู่ริมหน้าต่าง ก่อนจะมากินบัวลอยน้ำขิงเพื่อไม่ให้รุจาเสียน้ำใจ ตอนนี้เธอต้องรีบไม่อย่างนั้นจะเสียแผน พอกินบัวลอยน้ำขิงหมดพริมาก็ไม่รีรอลุกขึ้นมาไหว้ลาชายชราทันที
“พอดีว่าพริมมีนัดตอนเย็นต่อคงต้องไปแล้ว คราวหน้าพริมจะมาเยี่ยมใหม่นะคะคุณปู่”
เจตน์พยักหน้า “ขับรถระมัดระวังนะหนูพริม”
“ขอบคุณนะคะคุณปู่ที่เป็นห่วง”
พริมาค้อมไหล่พร้อมกับยิ้ม ก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยใจที่เต้นแรง เธอไม่ได้หวังร้ายต่อเจตน์สักหน่อย การที่เขาได้รู้ว่าเขมินท์มีคนรักที่หากตามสืบจนได้รู้ เจตน์จะเข้าใจถึงความหวังดีของเธอ มีนาเป็นแค่เด็กข้างบ้าน คนที่รักหลานมากจะยอมให้เขมินท์คบหากับคนที่ไม่คู่ควรได้อย่างไร
เจตน์คิดอะไรเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากกับพยาบาลส่วนตัวว่า “ช่วยโทรหาคินให้ผมที”
“ได้ค่ะ คุณเจตน์”
จากการบอกเล่าของพริมาทำให้เขาคิดว่า บางครั้งหลานชายก็ไม่ได้บอกเขาในเรื่องสำคัญ แต่การเชื่อคำพูดของพริมาแล้วไปคาดคั้นกับเขมินท์ย่อมไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นเขาจะใช้วิธีอื่น
พี่ชายพาแฟนมาอยู่ด้วยกันที่คอนโด!? ภาคินไม่อยากจะเชื่อนักเพราะมันมาจากการบอกเล่าของพริมา แต่เพราะเขมินท์จะกลับไปค้างที่บ้านในวันนี้พอดี จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมภาคินถึงไปที่คอนโดกลางเมืองของเขมินท์เป็นที่แรกในตอนเย็น เขาไม่พบใครหรืออะไรที่ชี้ชัดว่าเขมินท์พาใครมาอยู่ด้วย แต่เพื่อให้ปู่คลายความสงสัยภาคินจึงขับรถข้ามฝั่งของเมืองมายังคอนโดอีกแห่งของพี่ชายในเวลาค่ำ
เมื่อมาถึงคอนโดที่เลขาของพี่ชายส่งโลเคชั่นมาให้ ภาคินก็เพิ่งฉุกสงสัยเขมินท์มีห้องพักในคอนโดเดียวกับมีนาตั้งแต่เมื่อไหร่ ภาคินมีคีย์การ์ดใบเก่าที่มีนาเคยให้ไว้จึงเข้าไปภายในคอนโดได้ทันที พอมาถึงหน้าห้องของเขมินท์ เขาก็ยิ่งประหลาดใจเพราะมันอยู่ติดกับห้องเดิมของมีนาที่ขายไปแล้ว มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า
ภาคินเคาะประตูห้องซึ่งเขาเห็นว่ามีแสงไฟจากด้านใน คราวนี้เขาคงได้คำตอบเสียทีกระมัง หากเขมินท์อยู่ที่บ้าน คนที่อยู่ภายในห้องนี้คงเป็นผู้หญิงลึกลับที่เขากำลังตามหา ทว่าในวินาทีที่ประตูเปิดออก คำตอบมันช่างลงล็อคเหลือเกิน ภาคินไม่แปลกใจ แต่สงสัยมากกว่า
“ทำไมถึงเป็นมีน ทำไมมีนถึงมาอยู่ในห้องของพี่เขมล่ะ”
มีนาก็อึ้งไปเหมือนกันที่เห็นภาคินเป็นคนที่มาเคาะประตูเพราะเธอเพิ่งสั่งข้าวจากร้านอาหารใต้คอนโดเลยเปิดประตูออกไปทันที แต่พอเป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้บอกเรื่องสำคัญกับเพื่อนสักที
“อีกเรื่องที่มีนยังไม่ได้บอกคิน ขอโทษนะ”
“หมายความยังไง มีนกับพี่เขมเป็นแฟนกันจริงๆ ใช่ไหม” ถ้าคำตอบคือใช่ ภาคินก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมพริมาถึงเอาเรื่องที่เขมินท์มีแฟนไปบอกกับปู่ของเขา
“เปล่า มีนกับพี่เขมไม่ได้เป็นแฟนกัน” มีนายืนยันคำตอบเดิม “ที่มีนมาอยู่ห้องของพี่เขมเพราะพี่เขมให้มีนเช่าห้องต่างหากล่ะ แต่ว่าพี่เขมมีเงื่อนไขว่าจะมาค้างสัปดาห์ละสองวัน เวลามาทำงานที่บริษัทในเครือทางนี้”
“พี่เขมเนี่ยนะให้มีนเช่าห้อง แต่มีเงื่อนไขมาพักบางวัน” ภาคินขมวดคิ้วคิดหนัก คนอย่างเขมินท์นะหรือจะมาขอแชร์ห้องกับใคร ถ้าไม่ใช่เพราะจงใจทำเสียเอง “พี่เขมซื้ออีกห้องยังไม่น่าสงสัยเท่านี้เลยนะ”
มีนาค่อยโล่งอกที่ภาคินไม่โกรธหรือมีท่าทีโมโหที่เธอยังไม่ได้บอกเรื่องห้อง เพราะเธอคิดว่าแค่เช่าห้องไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร
“พี่เขมไม่ได้มาอยู่ทุกวันจะซื้ออีกห้องให้เปลืองเงินทำไมล่ะคิน ว่าแต่คินมาหาพี่เขมทำไมเหรอ”
“คืออย่างนี้...”
ภาคินเล่าเรื่องที่พริมามาเล่าเรื่องเขมินท์มีแฟนแต่ไม่ยอมบอกว่าใครให้เจตน์ได้รู้ ทั้งที่พริมาน่าจะหมายถึงมีนานั่นเอง แต่ภาคินไม่ได้บอกปู่ในเรื่องนี้เพราะอยากหาคำตอบให้ชัดเจนก่อน
มีนากลอกตามองบนใส่อะไรก็ได้แทนพริมาที่ป่านนี้คงรอฟังข่าวกระมังว่าปู่จัดการ ‘แฟน’ ของเขมินท์ยังไง
“คินคิดว่าไงล่ะ แฟนเก่าของพี่ชายคินกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่”
“ใช้แผนยืมมือปู่กำจัดแฟนพี่เขมละมั้ง ถ้าคิดอย่างนี้จริงๆ คินบอกเลยว่าเสียเวลาเปล่า ปู่ไม่เคยกะเกณฑ์เลยสักครั้งว่าพี่เขมหรือคินจะไปรักผู้หญิงแบบไหน ขอแค่เป็นคนดี รู้จักทำงานก็พอ” ข้อนี้ภาคินรู้ดียิ่งกว่าใคร เบญญาไม่ได้มีอะไรเทียบพริมาได้เลย แต่ปู่ก็ไม่เคยห้ามเขาในการคบหา
มีนาพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนเพราะคิดอย่างนี้เหมือนกัน พริมาไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหน ปู่ไม่ใช่คนที่มองค่าของคนจากเปลือกนอกสักหน่อย ถ้าปู่คิดอย่างนั้นป่านนี้เธอกับภาคินคงไม่ได้เป็นเพื่อนกันหรอก
“แล้วคินจะบอกปู่ยังไงดีล่ะ”
“บอกตามตรงนั่นแหละ ปู่เข้าใจอยู่แล้ว”
ภาคินยิ้มเจ้าเล่ห์ ถ้าปู่รู้ว่าผู้หญิงที่มาอยู่ที่ห้องของเขมินท์เป็นมีนา ปู่จะมีท่าทีอย่างไรนะ แล้วจะมีคนร้อนรนแทนมีนาบ้างไหม แค่คิดก็ชักสนุกแล้วสิ
“ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว แถวนี้มีอะไรอร่อยๆ ไหม พาคินไปกินหน่อยสิมีน รีบมาสืบไปให้ปู่ หิวจะแย่แล้วเนี่ย”
ในเมื่อข้าวยังไม่มาส่งมีนาก็ไม่รอช้าหยิบกระเป๋าตัวเองได้ก็เดินไปกับภาคิน โดยหญิงสาวแวะที่ห้องอาหารที่สั่งข้าวไว้ พอรู้ว่าข้าวของเธอใส่กล่องแล้วกำลังจะขึ้นไปส่ง หญิงสาวเลยจ่ายเงินแล้วถือข้าวกล่องไปด้วย ภาคินกินเก่งต่อให้กินก๋วยเตี๋ยวหมดชามก็ต่อข้าวกล่องอีกอย่างได้ เรื่องกินเราสองคนไม่เคยปล่อยทิ้งให้เสียของอยู่แล้ว
มีเพื่อนสนิทแบบภาคินก็ดีเหมือนกันนะคะ ตอนนี้ เพราะคุณคือรักแรก วางจำหน่ายใน MEB แล้วนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ลงให้อ่าน 60% ของเนื้อหาทั้งหมดนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 302
แสดงความคิดเห็น