ทำไมนักเขียนถึงต้องมีนิยายให้อ่านฟรี แล้วนักเขียนได้อะไรจากการเปิดให้อ่านฟรีแบบนี้
ทุกวันนี้ เชื่อว่านักเขียนนิยายเกือบทุกคนคงจะลงนิยายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทั้งลงให้อ่านฟรีทั้งเรื่อง ลงให้อ่านเป็นบางตอน หรือเปิดขายบนระบบต่างๆ
เคยสงสัยกันหรือไม่ครับ ว่าเพราะอะไร นักเขียนหลายคนถึงต้องลงนิยายให้อ่านแบบฟรีๆ จนจบทั้งเรื่อง ถึงแม้ว่าแต่งจบแล้วก็ยังไม่เปิดขายอีก นักเขียนจะได้อะไรจากการเปิดให้อ่านฟรี บทความนี้จะมาเฉลยข้อสงสัยดังกล่าวกันครับ
โปรโมทนามปากกาเพื่อให้กลายเป็นที่รู้จัก
ข้อนี้ สำหรับนักเขียนที่เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากงานเขียนดี แต่ไม่มีคนรู้จัก อันนี้ก็คงแย่มิใช่น้อยจริงมั้ยละครับ
ต้องยอมรับว่า การที่นักอ่านจะเลือกซื้อหานิยาย หรือหนังสือสักเล่ม อันดับแรกๆ เลย ก็คือดูว่าเราคุ้นชื่อคนเขียนหรือเปล่า หากชื่อไม่คุ้น คนอ่านก็กลัวไปอีก ว่าพอซื้อไปแล้ว เราจะชอบอ่านสำนวนของนักเขียนหรือไม่ นักเขียนจะแต่งสนุกหรือไม่ แถมพอไปค้นหาบนเน็ต ยังไม่พบนิยายที่คนเขียนคนนั้นเคยแต่งเอาไว้อีก ตัวอย่างที่มีให้อ่านก็น้อยแสนน้อย จากสาเหตุเหล่านี้ จึงอาจจะส่งผลให้นักอ่าน ตัดสินใจไปซื้อนามปากกาที่ตัวเองคุ้นเคยแทนนั่นเองครับ
เผยแพร่ผลงานบนเว็บอ่านฟรีได้อย่างอิสระ
เว็บลงนิยายมีมากมายหลายเว็บ ทว่าไม่ใช่ทุกเว็บที่มีระบบเปิดขาย ดังนั้น หากนักเขียนมีงานที่สามารถให้อ่านฟรีได้ เวลานำงานมาลง ก็จะได้ไม่ต้องคิดมาก ว่าเมื่อเอามาลงให้คนอ่านฟรีแล้ว รายได้ของตนเองจะมีผลกระทบหรือไม่ หรือจะมีปัญหากับต้นสังกัดหรือไม่ นอกจากไม่ต้องกังวลในปัญหาข้างต้น การลงตามเว็บอ่านฟรีเหล่านี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์นามปากกาที่นักเขียนใช้หากินไปในตัวด้วยอีกทางครับ
สร้างแรงจูงใจให้คนอยากซื้อ
แน่นอนว่าหากเราต้องการซื้ออะไรสักอย่าง เราก็อยากจะเห็นสภาพของของชิ้นนั้นก่อน นิยายก็เช่นกัน
ต่อให้นิยายสนุกแค่ไหน แต่ถ้ามีตัวอย่างให้อ่านแค่บทนำ หรือเพียง 2 – 3 ตอน คนอ่านบางส่วนก็คงยังลังเลอยู่ว่าจะซื้ออ่านดีหรือเปล่า ดังนั้นในการโปรโมทนิยาย จึงต้องมีตัวอย่างให้อ่านฟรีพอสมควร ซึ่งจำนวนที่เปิดให้อ่านฟรี ก็จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักเขียน รวมไปถึงขนาดความสั้นความยาวของเรื่อง ลองคิดดูว่า หากเรื่องมีตั้ง 60 บท แต่นักเขียนเปิดให้อ่านแค่ 3 บท คนอ่านก็คงยังมองความสนุก หรือยังมองไม่เห็นภาพรวมเท่าไหร่ แต่ถ้าเปิดให้อ่านสัก 8 – 10 บท คนอ่านก็จะเริ่มรู้แล้วว่า นิยายเรื่องนี้สื่อถึงอะไร สนุกแบบไหน
ในทางกลับกัน หากจำนวนของนิยายมีเพียง 20 บท หากจะเปิดอ่านฟรี 10 บท ก็คงจะไม่ได้ เพราะเนื้อหามันตั้งครึ่งต่อครึ่ง ดังนั้น ถ้าเปิดให้อ่านสัก 3 – 4 บท ก็จะทำให้ไม่กระทบต่อเนื้อหา แล้วยังเป็นการโน้มน้าวจิตใจคนอ่านไปในตัวด้วย
โปรโมทนิยายเรื่องที่กำลังเขียน และเรื่องที่เขียนจบไปแล้ว
การเปิดให้อ่านฟรีทั้งเรื่องหรือเพียงบางตอน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยโปรโมทงานเขียนทั้งเก่าและใหม่ของนักเขียนได้ หากใครที่เป็นสายนิยายออนไลน์คงจะพอคุ้นเคยกันดี เพราะหลายๆ เรื่องที่เราเปิดเข้าไปอ่านก็จะมีการโปรโมทช่องทางการซื้อนิยายเรื่องนั้น หรือนิยายเรื่องอื่นๆ ของนักเขียนคนนั้นเอาไว้ด้วย ซึ่งนิยายที่แปะแบนเนอร์หรือลิงก์ช่องทางการซื้อ ก็อาจจะเป็นนิยายที่มีเนื้อหาสัมพันธ์กันหรือไม่ก็ได้
อยากให้มีคนอ่านนิยายที่ตัวเองแต่งเยอะๆ
หากพูดถึง “ของฟรี” มีใครบ้างเล่าที่จะไม่ชอบ ดังนั้น นักเขียนที่ไม่ได้จริงจังกับงานสายทางนี้มากนัก เพียงแค่แต่งเพราะความชอบ หรือว่าแต่งเล่นๆ เป็นงานอดิเรก จึงมักจะเปิดให้อ่านฟรีเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่ได้ซีเรียสกับรายได้ที่จะได้รับ เลยไม่ได้เปิดขาย ขอเพียงแค่แต่งแล้วมีคนอ่าน เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว
ไม่ว่านักเขียนจะเปิดให้อ่านฟรีด้วยจุดประสงค์อะไร ขอเพียงคนเขียนมีความสุข คนอ่านมีความสุข เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้สังคมการอ่านของเราเต็มไปด้วยความอบอุ่น สำหรับใครที่อ่านงานฟรีแล้วชอบผลงานของนักเขียน ก็อย่าลืมซื้อเพื่อเป็นการอุดหนุนให้นักเขียนในดวงใจของแต่ละคน ได้ผลิตงานคุณภาพออกมาให้พวกเราได้อ่านกันต่อไปด้วยนะครับ
- 👁️ ยอดวิว 2674
แสดงความคิดเห็น