บทที่ 4...1/3

เพราะคุณคือรักแรก
คุณกำลังอ่าน: เพราะคุณคือรักแรก

-A A +A

บทที่ 4...1/3

          เพลิงสงบลงแล้วเช่นเดียวกับควันที่จางลงๆ แต่ยังคงเหลือความร้อนที่ต้องรอเวลาให้ลดลงในยามเช้า ในความโชคร้าย แต่ยังมีความโชคดีอยู่นั่นคือเพลิงไม่ได้ลามไปยังตึกคูหาข้างเคียง จึงมีผู้เสียหายเพียงคนเดียวคือเมษา การสอบสวนถึงสาเหตุที่เพลิงไหม้จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้โดยตำรวจ เขมินท์บอกว่าเขาจะประสานงานและช่วยตรวจสอบโครงสร้างของตึกให้เอง หากไม่มีปัญหาอะไรย่อมใช้ตึกได้ต่อไป แต่ว่าต้องซ่อมแซมซึ่งคงใช้เวลาไม่น้อยเลย

          ตอนนี้สิ่งที่ทำได้มีเพียงปิดทางเข้าตึกไว้เพื่อที่จะได้มาตรวจสอบหลายๆ อย่างในตอนเช้า ชาวบ้านบริเวณนั่นเข้ามาให้กำลังใจเมษา ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนในเวลาตี 4 ภาคินพารุจากับภวิกากลับบ้านไปแล้ว ส่วนเขมินท์ช่วยขับรถพาเมษากับมีนากลับบ้าน ซึ่งปกติแล้วเมษามักขี่จักรยานแทนการเดิน แต่วันนี้เธอไม่มีแรงทำอะไรแล้ว

มีนาช่วยประคองเมษาเข้ามาในห้องนอน แล้วเตรียมเสื้อผ้าเพื่อให้พี่สาวได้อาบน้ำก่อน ตอนนี้ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ร่างกายควรได้ชำระคราบเขม่าควันและน้ำตาออกไป อย่างอื่นค่อยไว้จัดการเมื่อตื่นนอน เมษาเข้าห้องน้ำไปแม้ไม่อยากทำอะไรเลย แต่เธอจะงอมืองอเท้าไม่ได้ ฉะนั้นต้องเริ่มจากทำให้ตัวเองพร้อมสำหรับพรุ่งนี้

          มีนาใช้ผ้าขนหนูมาช่วยเช็ดผมเปียกๆ ของเมษาให้แห้งหมาด ก่อนจะพาพี่สาวมานอนบนเตียง เมษานอนลงทว่าสายตามองมาที่มีนาเหมือนแสงไฟดวงน้อยที่หล่อเลี้ยงกำลังใจของเธอมาตลอด

          “นอนก่อนนะพี่เม เดี๋ยวต่อจากนี้มีนช่วยดูแลต่อเอง”

          เมษาพยักหน้า “ถ้าตำรวจโทรมาบอกความคืบหน้า มีนปลุกพี่ด้วยนะ”

          มีนาลูบแก้มของเมษาก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ถึงไหล่ของพี่สาว เมษาหลับตาลง แม้สมองจะเครียดจนปวดหัว แต่ความเหนื่อยล้าทำให้เธอหลับไปเพียงไม่นานหลังจากนั้น มีนาโหย่งเท้าเดินให้เบาที่สุดเพื่อปิดไฟแล้วค่อยออกไปจากห้อง โดยปิดประตูไว้ แต่ไม่ได้ล็อก เผื่อว่ามีอะไรเธอจะได้วิ่งมาหาพี่สาวได้เร็วที่สุด

          ภายในบ้านไฟยังสว่างและเงียบ เขมินท์คงกลับไปแล้วกระมัง มีนาคิดอย่างนั้นเพราะตอนลงจากรถเธอบอกขอบคุณเขาไป หลังจากนั้นเธอได้ยินเสียงรถ ป่านนี้เขาคงกลับไปนานแล้ว ทว่าเมื่อเธอเดินมายังห้องครัวเพื่อที่จะดื่มน้ำกลับเห็นเขมินท์อยู่ในนั้น

          “พี่เขม...ยังไม่กลับหรือคะ มีนได้ยินเสียงรถ” มีนาเม้มปากเพราะใจมันเกิดเต้นแรงเพราะจู่ๆ มาเห็นเขมินท์ในห้องครัว แถมยังเป็นบ้านของเธอในเวลาเช้ามืดอีกด้วย โคตรจะมหัศจรรย์

          “พี่ไปซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋ไว้ให้มีนกับเมน่ะ ตื่นมาจะได้มีอะไรกิน เวลาแบบนี้คงไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรกระมัง”

          มีนาพยักหน้ารู้สึกเหมือนมีก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ พอเงยหน้าแล้วรู้ตัวว่าน้ำตาจะไหล มีนาก็รีบหันหลังให้เขมินท์ ชายหนุ่มยื่นมือมาจับไหล่บางที่สั่นเบาๆ เขารู้แม้ไม่เห็นว่าเธอกำลังร้องไห้

          “ถ้ามีนอยากให้พี่อยู่ พี่ก็จะอยู่ตรงนี้นะ แต่ถ้ามีนไม่สะดวกในตอนนี้ พี่ก็จะกลับ”

          มีนาฟังแล้วยิ่งจุกในอก หญิงสาวยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะหันมามองเขา ทั้งๆ ที่เธอไม่ร้องไห้ตลอดหลายชั่วโมงที่ต้องเข้มแข็งนั้น

          “ขอโทษนะคะพี่เขม มีนแค่คิดว่าถ้าพ่อแม่ยังอยู่คงทำแบบที่พี่เขมทำ มีนแค่คิดถึงพ่อกับแม่เท่านั้นเอง”

          เขมินท์ยื่นมือไปวางบนผมลื่นๆ ของมีนา เขาเห็นดวงตาของเธอมองมาด้วยความประหลาดใจ มือบางทั้งสองข้างประสานกันคล้ายประหม่า เธอเป็นอย่างนี้เพราะอะไร

          “มีนไม่ได้ทำอะไรผิดจะมาขอโทษพี่ทำไม” เขมินท์เลื่อนมือออกมาวางบนไหล่บางแทน “มีนกับเมอยู่กันเองได้ใช่ไหม ”

          “ค่ะ” มีนากลั้นยิ้มเมื่อดันเกิดคำถามว่าถ้าเธออยู่ไม่ได้ เขาจะมานอนเฝ้าอยู่หน้าบ้านหรือไง แค่คิดก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว

          “รีบไปนอนพักผ่อนนะ”

          เขมินท์ดึงมือกลับแล้วเดินออกไปจากห้องครัว พอมีนาเดินตามเขาไปจนถึงประตูบ้าน เขาก็ยกมือห้ามแล้วไล่ให้ไปนอน แต่ถึงกระนั้นมีนาก็ยืนรอเพื่อมองจนเห็นว่าเขมินท์ขับรถไปแล้ว ซึ่งเพียงครู่เดียวเขาก็ถึงบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ติดกัน โดยถูกกั้นไว้แค่กำแพง หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะเข้านอนในเวลาตี 5 เธออ่อนล้า แต่ว่ามีกำลังใจ

 

          แม้จะเข้านอนที่หลัง แต่ว่ามีนาตั้งนาฬิกาปลุกไว้เพื่อที่จะตื่นก่อนเมษา เธอจัดการอุ่นโจ๊กไว้รอพี่สาวที่น่าจะตื่นแล้ว รอยยิ้มคือสิ่งแรกที่เมษาได้รับเมื่อเดินเข้ามาในครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้า แต่ว่ากลับมีโจ๊ก ปาท่องโก๋และนมอุ่นๆ ไว้รออยู่แล้ว หญิงสาวยิ้มกว้างราวกับไม่มีเรื่องให้ทุกข์ใจ การหลับไปเพื่อตื่นขึ้นมาราวกับการได้พลังกายและพลังใจมาเป็นของขวัญในทุกเช้า เพียงแค่เมื่อวานเธอใช้ของขวัญนั้นไปจนหมดเท่านั้นเอง

          ภาคินมารับเมษากับมีนาไปร้านเมนาที่ตอนนี้เหลือเพียงชื่อ เมษาเข้าไปสำรวจความเสียหาย โดยมีมีนากับภาคินคอยช่วยจดว่าอะไรต้องทิ้ง อะไรที่ยังใช้ได้บ้าง การทำลิสต์ทำให้รู้ว่าต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่เพื่อที่จะทำให้ร้านเมนากลับมาเหมือนเดิม

          “พี่เขมมาแล้ว” ภาคินบอกสองสาว

          เขมินท์ไม่ได้มาเพียงคนเดียว แต่ยังมีคนงานที่เขาพามาเพื่อขนย้ายของที่เสียหายออกมา อีกทั้งเขมินท์ยังส่งทีมวิศวโยธาจากบริษัทของเขามาที่นี่เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของอาคารหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ โดยต้องตรวจสอบคาน เสาของอาคารเสริมคอนกรีตว่ายังทนความร้อนจากไฟไหม้ครั้งนี้ได้ไหม ซึ่งต้องคงรูป ไม่เสี่ยงต่อการถล่ม ตึกนี้จึงจะสามารถใช้การต่อไปได้ อีกทั้งยังต้องตรวจสอบตึกข้างเคียงว่าได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้หรือเปล่า

          “ขอบคุณนะคะพี่เขม” เมษายกมือไหว้เขมินท์ ชายหนุ่มยกมือห้ามก็ไม่ทันแล้ว “คือว่าค่าดำเนินการ...”

          เขมินท์ส่ายหน้า “เรื่องแค่นี้เอง พี่อยากช่วย”

          “ตอบแทนด้วยขนมอร่อยๆ ก็พอแล้วพี่เม” ภาคินเสนอ ทำให้ทุกคนพากันมองเขาแล้วยิ้มแทน

          มีนามองเขมินท์ก่อนจะเสมองไปทางอื่นเมื่อเขาเป็นฝ่ายมองมา เขาไม่ได้มองเธอหรอก แต่เธอดันร้อนตัวไปเอง โทรศัพท์ของมีนาดังขึ้นพอดิบพอดี แต่พอเห็นว่าใครโทรมามีนาก็ต้องตั้งสติก่อนรับ

          “พี่การบอกว่าที่บ้านของมีนมีเรื่อง เรื่องอะไรหรือ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้เลยนะ พี่เป็นห่วง”

          “ขอบคุณค่ะพี่นัทที่เป็นห่วง มีนกับคนในครอบครัวจัดการได้ค่ะ” ไม่รู้ล่ะทุกคนที่อยู่ตรงนี้ถูกมีนานับเป็นครอบครัวหมดแล้ว

          “แต่ถ้ามีนมีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ได้เลยนะ พรุ่งนี้มีนจะลาต่อหรือว่ายังไง พี่จะบอกพี่การให้”

          “พรุ่งนี้มีนไปทำงานค่ะพี่นัท ขอบคุณนะคะ มีนขอวางสายก่อนนะคะ” มีนารอให้วนัทรับรู้แล้วถึงวางสาย

          ภาคินมองมาที่มีนาแล้วยิ้มคล้ายอยากแซว จนอดไม่ได้นั่นละ

“ใครโทรมา ใช่รุ่นพี่คนนั้นหรือเปล่า”

          “อืม โทรมาถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า” มีนาตอบไม่ปิดบังอะไรกับภาคินอยู่แล้ว ยกเว้นเรื่องที่เขมินท์มาซื้อห้องติดกับห้องที่เธอกำลังผ่อนอยู่

          “สงสัยเพื่อนจะขายออก ให้คินช่วยสแกนก่อนไหม” ภาคินยิ้มล้อๆ แต่เขาทำจริงแน่ถ้ามีนาโอเค

          มีนาเท้าเอวจากที่มีสมาธิทำเช็คลิสต์ ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว

“ไม่ต้องเลย”        

          ภาคินหัวเราะร่าชอบใจ เมษาพลอยยิ้มออกแม้ว่าจะยังมองไม่เห็นทางที่จะซ่อมแซมร้านและซื้อเครื่องมือทำขนมที่เสียหายทั้งหมด  ตึงนี้เธอยังผ่อนอยู่จะไปจำนองเพื่อกู้เงินก็คงยาก ส่วนบ้านที่เป็นชื่อของเธอกับมีนานั้น เธอไม่มีทางแตะต้องเด็ดขาด หญิงสาวเปิดแอพพลิเคชั่นธนาคารเพื่อดูว่ามีเงินเหลืออีกเท่าไหร่ แล้วได้แต่ถอนใจยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี

 

          เขมินท์กลับไปแล้ว แต่คนของเขายังคงตรวจสอบอาคารอยู่ ส่วนคนงานกำลังช่วยกันนำของที่ยังใช้ได้ต่อไปไว้ที่ชั้นสาม พอเที่ยงมีนาจึงนำข้าวกล่องที่สั่งไว้ล่วงหน้ามาเลี้ยงคนที่มาช่วยงานทั้งหมด พอบ่ายคนของเขมินท์ที่ทำงานเสร็จทั้งสองส่วนได้กลับไปที่บริษัทแล้ว ส่วนภาคินพาช่างมาซ่อมบานกระจกหน้าร้านเพื่อกันไม่ให้คนแปลกหน้าเข้ามาภายในตึก แม้จะชั่วคราว แต่ก็ต้องทำเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและทรัพย์สิน

          “หัวหน้าทีมวิศวกรบอกคินว่าตึกยังใช้ได้ต่อ โครงสร้าง คาน ทุกอย่างยังโอเค ส่วนพวกเอกสารการเดินเรื่องต่างๆ พี่เขมจะให้เลขาจัดการให้ทุกอย่าง”

          “พี่เกรงใจจัง คินกับพี่เขมเลยต้องมาเหนื่อยเพราะพี่แท้ๆ เลย” เมษารู้ว่าเรื่องพวกนี้อาจจะง่ายสำหรับภาคินกับเขมินท์ แต่ถ้าเขาจะไม่ทำ เธอก็ไม่คิดจะว่าอะไรเลย

          “พี่เมก็เหมือนพี่สาวของผม อย่าคิดมากสิครับ”

          “เอาอย่างนี้ พอหมดเรื่องยุ่งๆ แล้ว เราเลี้ยงข้าวคินกับพี่เขมมื้อใหญ่ๆ กันดีไหมพี่เม” มีนาเสนอ เธอรู้ดีว่าหากให้เงินเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยคงไม่ดีแน่ๆ นอกจากเขมินท์กับภาคินจะไม่รับแล้ว เธอคงถูกโกรธมากด้วย เรื่องง้อภาคินคงไม่ยากหรอก แต่ถ้าขเมินท์โกรธ มีนาไม่รู้จะง้อยังไง หรือไม่บางทีอาจจะไม่กล้าง้อด้วยซ้ำเพราะอาจถูกโกรธหนักกว่าเดิม

          เมษาพยักหน้าค่อยเบาใจเมื่อมีหนทางในเรื่องนี้แล้ว มีนาเห็นเมษายังดูเครียดก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องอะไร เธอกับพี่สาวคุยกันตลอดทำให้รู้สถานการณ์การเงินในตอนนี้ดี  มีนาเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าเพราะจะคุยธุระที่คิดว่าเมษาคงทำแบบนี้แน่ๆ เธอติดต่อเพื่อนที่ทำงานธนาคารเพื่อปรึกษา ทำให้ได้คำตอบที่พอจะรู้แล้วว่าควรทำอย่างไรต่อไป เมษาจะใช้วิธีนี้คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นเธอจะหาทางให้เอง

 

อยากมีคนซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋ให้กันไหมคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.