เสียงปริศนา

-A A +A

เสียงปริศนา

          “หัวข้อการประชุมในวันนี้คือการคืนสภาพกลุ่มจัสติคนะครับ”   เสียงจากชายชราผู้มีเส้นผมยาวประบ่า   ใบหน้าที่ปรากฏริ้วรอยแห่งกาลเวลาหันปะทะกลุ่มนักเรียนที่ยืนอยู่ตรงหน้าราวกับกำลังเก็บรายละเอียด   “โอ้~   กลุ่มจัสติคงั้นรึ?   ไม่ได้ยินชื่อนี้มาเป็นปีพอได้ยินอีกทีรู้สึกไม่คุ้นหูเสียเหลือเกิน”   คราวนี้เป็นเสียงยืดยาดของชายชราหลังค่อมผู้มีผิวพรรณขาวซีดติดหนังกระดูก   นัยน์ตาสีน้ำทะเลที่กำลังจ้องหน้าโทมัสส่งความรู้สึกขยะแขยงให้เขา   “อย่าได้กล่าววาจาสามหาวต่อหน้าฝ่าบาทเช่นนี้”   ชายชราเคราหนายาว   ใบหน้าขมึงตึงจ้องเขม็งไปที่กรีซอย่างกับมีความแค้นสั่งสมมานาน

          “ท่านเวลดี้   เหตุใดจึงกล่าวให้ร้ายท่านกรีซเช่นนั้นกัน   เห็นได้ชัดว่าท่านยังมีอคติเกินกว่าที่จะแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน”   ชายชราผิวคล้ำ   ไว้เครายาวกว่าของเวลดี้เอ่ยขึ้นลอยๆ   “หากเจ้าไม่หูหนวกก็น่าจะคิดได้ไม่ใช่รึ   แชรงก์?”   เวลดี้สวนกลับอย่างไม่เกรงใจ   แชรงก์ทุบโต๊ะประชุมเสียงดัง   “นี่ท่านว่ายังไงนะ?”   เขาลุกขึ้นชี้นิ้วไปที่เวลดี้ด้วยความโกรธจนลมออกหู   บรรยากาศที่ตึงเครียดมาตั้งแต่ที่กรีซเริ่มกล่าวแซะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น   “พวกเรามาประชุมกันอย่างสงบดีกว่านะครับ”   โยฮัน   ชายผู้เอ่ยก่อนใครเพื่อนกล่าวปรามถึงทำให้แชรงก์ยอมนั่งลงแต่โดยดีแต่ก็ไม่วายกระแทกกระทั้นสิ่งของรอบกายจนเกิดเสียงดัง

          “สำหรับขั้นตอนการคืนสภาพกลุ่มที่ถูกยุบไปแล้วจะต้องใช้คะแนนเสียงจากสมาชิกสภาโรงเรียนไม่ต่ำกว่า   4   เสียง”   โยฮันอธิบาย   “ก่อนจะเริ่มลงคะแนน   ผมขอให้หัวหน้ากลุ่มจัสติคแจ้งเหตุผลในการขอคืนสภาพกลุ่มพร้อมกับสถานที่ที่จะใช้เป็นที่ตั้งของกลุ่มเพิ่มเติมด้วยครับ”   ซาคาเรียสก้าวเท้าออกไปข้างหน้า   กลายเป็นเป้าสายตาของสมาชิกสภาโรงเรียนและนักเรียนเบื้องล่างในทันที  

          “ผมชื่อฟรานซิสโก้ โทมัส”   เมื่อนามนั้นถูกกล่าวออกไป   โทมัสสังเกตเห็นใบหน้าที่เบนกลับมาที่เขาของกรีซ   กลายเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าชายหลังค่อมผู้นี้รู้ดีว่าใครคือเจ้าชายฟรานซิสโก้ตัวปลอมและตัวจริง   “ผมต้องการคืนสภาพกลุ่มจัสติคโดยมีเหตุผลเพียงข้อเดียวครับ”   เสียงกล่าวนั้นทำให้โทมัสหยุดหมกมุ่นกับความคิดตัวเองและหันไปมองซาคาเรียสผู้ชำเลืองมองกลุ่มนักเรียนที่นั่งแถวหน้าสุดซึ่งก็คือสมาชิกสภานักเรียนรุ่นปัจจุบัน   “ผมต้องการใช้กลุ่มจัสติคเป็นทางผ่านในการชิงตำแหน่งสภานักเรียนครับ”   เสียงซุบซิบดังแทบจะในทันทีที่เขากล่าวจบ   แต่ถึงแม้เสียงโดยรอบจะดังมากเพียงใด   เป็นโทมัสที่รับรู้ถึงเสียงที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิงจากที่ที่ใกล้แสนใกล้   กรีซกำลังปรบมือให้กับคำกล่าวของซาคาเรียส  

          “โอ้   ชั่งน่ายินดียิ่งนักที่พระองค์ทรงมีพระประสงค์เช่นนั้นแต่ถึงอย่างไรกระผมก็ยังไม่มั่นใจนักว่าเหตุใดพระองค์จึงทรงพระประสงค์ที่จะครอบครองอำนาจของสภานักเรียนกันหรือขอรับฝ่าบาท?   โปรดทรงมีพระราชวินิจฉัยให้กระผมได้คลายข้อสงสัยจะได้หรือไม่ขอรับฝ่าบาท?”   กรีซกล่าวอย่างเอื่อยเฉื่อย   “เหตุผลก็เพื่อการปฏิวัติโรงเรียนแห่งนี้เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมอีกครั้งครับ”   แม้จะรู้สึกเกร็งที่ต้องพูดอะไรเท่ๆ ออกมาแต่ก็พูดออกไปจนได้    “ความเท่าเทียม....ความเท่าเทียมที่ว่าหรือว่าจะเกี่ยวกับนโยบายเก่าของกลุ่มจัสติคหรือขอรับฝ่าบาท?   ทรงไม่กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือขอรับฝ่าบาท?”   กรีซเผยรอยยิ้มกว้างจนน่าขนลุก

          “ฝ่าบาททรงทราบหรือไม่ขอรับว่าเหตุใดกลุ่มจัสติคจึงแพ้การเลือกตั้งให้กับกลุ่มฟอร์เทร็ซเซส?”   กรีซเบิกตากว้างขึ้นในขณะที่พูด   รอยยิ้มอันแสนน่ารังเกียจยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าเหี่ยวย่น   “กรีซ   หยุด”   เวลดี้ส่งเสียง   “บางทีพระองค์อาจได้ยินมาว่ามีการซื้อคะแนนเสียงหรือมีการแทรกแซงพิธีการเลือกตั้งสภานักเรียน...”   “กรีซ   ฉันบอกให้หยุดไง!”   โทนเสียงของเวลดี้ดังและหนักแน่นขึ้นแต่ไม่ได้หยุดปากที่กำลังขยับเขยื้อนของชายแก่   “ฝ่าบาททรงเคยลองปรบพระหัตถ์ข้างเดียวแล้วมีเสียงดังไหมขอรับฝ่าบาท   ก็เหมือนกับสาเหตุของการล่มสลายของกลุ่มจัสติค...”   “หยุดเดี๋ยวนี้!!”   เวลดี้ลุกขึ้นพร้อมเอามือทุบโต๊ะไม้เกิดเสียงดังลั่นเวที   เสียงหอบหายใจดังผ่านริมฝีปาก   ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยวและกำลังจ้องหน้ากรีซเป็นตาเดียว

          “ท่านเทรเวอร์   รบกวนนั่งประจำที่ด้วยครับ”   เดเมียนกล่าวอย่างเยือกเย็นแต่ทรงอำนาจเสียจนสมาชิกผู้มีอายุมากกว่าก็ต้องทำตาม   “รบกวนกล่าวต่อได้เลยครับ   คุณโทมัส”   เดเมียนหันไปกล่าวกับซาคาเรียสด้วยใบหน้าเยือกเย็น   “ขอบคุณท่านสมาชิกสภาโรงเรียน โรบัสต้า   ที่ตอกย้ำความล้มเหลวของกลุ่มจัสติคในอดีตให้ผมได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเดินหมากพลาดแต่สำหรับกลุ่มที่จะฟื้นสภาพจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับรากฐานเดิมของกลุ่ม   หมายความว่านโยบายและหลักการทั้งหมด   ผมและคณะจะเป็นผู้กำหนดใหม่   จะไม่มีกลุ่มจัสติคอีกต่อไปแต่เป็นกลุ่มรีโวลูชันนารี เคานซิลครับ”   ไม่เพียงแต่เรียกเสียงฮือฮาของนักเรียนที่นั่งฟัง   แม้แต่สมาชิกสภาโรงเรียนต่างก็มีสีหน้าที่ตอบสนองต่อคำประกาศที่แตกต่างกันไป  

          โทมัสที่ได้ฟังแอบอมยิ้มเล็กน้อย   ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่เขาต้องการ   ไม่ใช่ความต้องการหรือสิ่งที่ซาคาเรียสคิดขึ้นเอง   พวกเขาใช้เวลาว่างในการจำข้อความทั้งหมดที่โทมัสปลูกฝังไว้ในหัวของซาคาเรียส   “คณะปฏิวัติ...ชั่งโอหังเหมือนพ่อของมันไม่มีผิด”   เพียงเสียงปริศนาที่ดังขึ้นอย่างไร้จุดหมายทำลายรอยยิ้มของโทมัสและบังคับให้เขาเหลือบมองไปโดยรอบอย่างร้อนรน   มองหาต้นเสียงที่ดังแทรกเสียงทุกอย่างขึ้นมาอย่างชัดเจนและมันเป็นเสียงที่ดังใกล้มากแต่ไม่ใช่เสียงของคนแก่หรือวัยรุ่น   มันเป็นเสียงผู้ชายวัยกลางคนแต่บนนี้ไม่มีใครที่เข้าข่ายช่วงอายุนอกจากเดเมียนทว่า   เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของเดเมียนแน่นอน   ทั้งรูบี้และวิลเลี่ยมต่างสงสัยในพฤติกรรมของโทมัส   ผลสรุปหลังจากนั้นเป็นไปตามที่คาดหวังไว้แม้จะหวุดหวิดในเรื่องคะแนนโหวตจากสมาชิกสภาโรงเรียนแต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้คืนสภาพกลุ่มจัสติคและด้วยชื่อใหม่   รีโวลูชันนารี เคานซิลและใช้โคลอสเซียม ออฟ ฟรานซิสโก้เป็นที่อยู่ของกลุ่ม  

 

          หลังจากผ่านวันที่น่าหนักใจและหนักอึ้งสำหรับพวกเขา   เช้าวันนี้ซึ่งเป็นวันอังคารก็เป็นอีกหนึ่งวันที่น่าอึดอัดไม่แม้กัน   พวกโทมัสที่กำลังเรียนวิชาศาสตร์ธาตุพื้นฐานกับนิโคลัสอยู่ๆ ก็มีแขกผู้มาเยือนที่คุ้นตา   ซีสจ์และแฟรงก์ลิน   พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเกินเลยเพราะมีนิโคลัสที่เป็นก้างขวางคอแต่ที่แน่ๆ คือข้อความที่แฟรงก์ลินทิ้งไว้ให้เสมือนว่ายินดีกับการรื้อฟื้นกลุ่มจัสติคที่เป็นศัตรูตัวฉกาจกับกลุ่มตัวเอง   เขามอบช่อดอกกุหลาบสีแดงสดให้ซาคาเรียสพร้อมรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ   แม้ตอนแรกซาคาเรียสจะไม่อยากรับไว้แต่วิลเลี่ยมเป็นคนรับแทนเพื่อไม่ให้เสียมารยาท   ไม่รู้ทำไมแต่ภาพที่เห็นในวันนั้นยังติดตาโทมัสไม่เปลี่ยน   ไม่รู้ว่าชายผมแดงคนนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่

          เย็นวันเดียวกัน   โทมัสและเพื่อนนำโดยซาคาเรียสเดินทางไปยังโรงอาหารตะวันตก   ต่างคนต่างมีสีหน้าอึดอัดอยู่ในใจไม่แพ้กัน   ที่อีกด้านในเวลาเดียวกัน   ณ   โรงอาหารตะวันตก   ดินแดนต้องสาปและสวรรค์สุดท้ายของกลุ่มนักเรียนที่ถูกเรียกว่านักเรียนทุน   ทั้งที่แต่ก่อนเงียบเหงาเพราะมีเพียงแค่นักเรียนทุนซึ่งเป็นส่วนน้อยของนักเรียนทั้งโรงเรียนแต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไปเมื่อความแออัดเข้าครอบงำพื้นที่โรงอาหารเกือบทุกตารางเมตร   เป็นนักเรียนผู้สวมเครื่องแบบที่แตกต่างซึ่งก็คือนักเรียนหลวงและนักเรียนทุนที่ต่างพร้อมใจนั่งหันหน้าไปที่โต๊ะไม้ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางโดดๆ มีที่นั่งพอสำหรับ   10   คนพอดี

          “ชิ   ทำไมต้องมาจัดประชุมในที่ของพวกนักเรียนทุนด้วย”   บิลเลี่ยม   ชายผู้ครองผมสีชมพูยาว รวบเป็นทรงหางม้า   ใบหน้าสวยเกินกว่าคำจำกัดความของเพศที่ตัวเองเป็น   ประโยคเหน็บของเขาทำให้ชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลกระตุกคิ้วพร้อมเบนหน้าไปที่ร่างนั้นอย่างไม่ถูกชะตา   “สมกับที่เป็นหัวหน้ากลุ่มแอนตี้ สกอลาชิป สติวเดนท์   ไร้มารยาททั้งหัวหน้าและสมาชิก”   เดวิดคืนสิ่งที่สมควรได้รับกลับไปให้บิลเลี่ยมอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย   “แกว่ายังไงนะ?”   บิลเลี่ยมจ้องหน้าเดวิดด้วยความโมโหโกรธา 

          “แหม   ฉันชักจะรู้สึกสงสารผู้นำกลุ่มรีโวลูชันนารี เคานซิลจริงจริงครับที่ต้องมาขอความร่วมมือจากนาย   บิลเลี่ยม   ถึงตอนนี้ฉันชักจะไม่รู้สึกเสียดายที่นายและสาวกของนายแยกตัวออกจากกลุ่มของฉันไปแล้วล่ะ”   จอร์จ   ชายหนุ่มผมรองทรงสีม่วงเข้ม   ร่างกายกำยำแต่ไม่พองโตเหมือนของเดวิดเอ่ยขึ้นอย่างสบายอารมณ์   “เดี๋ยวๆ   นี่ไม่ทันไรก็จับมือกันแล้วหรือ?   ความเป็นกลางที่แกพร่ำหานักหนามันเป็นเพียงลมปากสินะ?   ฉันเข้าใจดีแล้วล่ะ   จอร์จจี้~”   บิลเลี่ยมเหน็บ   “ว่าแต่เจ้าผู้นำกลุ่มรีโวลูชันนารี เคานซิลอะไรนั่นเมื่อไหร่จะมากัน?   จะให้ฉันรออีกนานแค่ไหนถึงจะพอใจ?”   บิลเลี่ยมถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์   “ระวังคำพูดด้วย   บิลลี่~   ท่านผู้นั้นคือองค์รัชทายาทองค์ต่อไปของเขตโนซาล์บนะ”   จอร์จกล่าว

          ยิ่งพูดไปมาก็ยิ่งทำให้เกิดอารมณ์ร้อนมากขึ้นและเมื่อคนระดับผู้นำเริ่มมีปากเสียงกันก็พานให้กลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขาเริ่มออกลายทะเลาะกันพานให้นักเรียนหลวงและนักเรียนทุนเริ่มมีปากเสียงตามมาจนกระทั่งเมื่อกลุ่มของโทมัสมาถึงยังเขตโรงอาหาร   เสียงโหวกเหวกโวยวายก็ค่อยๆ เงียบไปเอง  

          ซาคาเรียสคือเป้าสายตาของทุกคนในโรงอาหาร   ซึ่งก็เป็นที่ประจักษ์และตามที่คาดการณ์ไว้แต่กระนั้นก็มีสายตาอยู่หนึ่งที่แสดงออกเกินกว่าจะเรียกว่ามองดูเฉยๆ   ซาคาเรียสพยายามทำตัวขรึมให้สมนิสัยโทมัสในขณะที่เดินไปที่โต๊ะไม้ที่ตั้งอยู่กลางเขตโรงอาหาร   ตรงนั้นมีเพียงชาย   3   คนที่ยืนรอพวกเขาและเมื่อกล่าวทักทายพอเป็นพิธีก็จึงต่างนั่งลงโดยแบ่งฝั่งออกอย่างชัดเจน  

          ความเงียบที่ชัดเจนรอบโต๊ะยาวเกิดเสียงในลำคอเป็นระยะ   ทิ้งห่างนานพอสมควรก่อนที่เสียงเดิมจะดังแทนที่เสียงที่ดับไป   เห็นได้ชัดว่าวิลเลี่ยมพยายามจะกล่าวบางอย่างแต่ไม่กล้าหักหน้าหัวหน้ากลุ่มรีโวลูชันนารี เคานซิลอย่างซาคาเรียสที่ยังคงเงียบและมีสายตาเรียบเฉยที่กำลังล็อกเข้ากับสายตาของบิลเลี่ยม

          “ตอนนี้ต่างก็มากันครบแล้ว   เช่นนั้นขอเริ่มการประชุม.....”   เสียงฮือฮาที่ดังขึ้นทำให้เดวิดกล่าวไม่จบประโยค   เขาและหัวหน้ากลุ่มคนอื่นต่างหันกลับไปมองที่ทางเข้าโรงอาหารที่ที่ใบหน้าของทุกคนกำลังมองจรดไปในทิศทางเดียวกันในขณะที่ปากจะเริ่มอ้ากว้างออกมาโดยไม่รู้ตัวทีละน้อย   ชุดนักเรียนหลวงสีดำปี๋ไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับชายหนุ่มผู้กำลังเดินตรงเข้ามาแต่เป็นเส้นผมสีดำที่เข้ารูปกับใบหน้าเยือกเย็นและดุดัน   ไม่อาจอ่านความคิดจากดวงตาสีน้ำตาลนั้นได้ว่ากำลังคิดอะไร   การปรากฏตัวของนักเรียนคนนี้ทำให้นักเรียนทุนและนักเรียนหลวงที่นั่งอยู่บนเส้นทางที่เขากำลังใช้เดินทางเพียงลำพังต้องลุกหนีอย่างร้อนรนและเมื่อเดินมาถึงโต๊ะไม้   ท่ามกลางบรรยากาศที่อึดอัดขึ้นมาในทันทีทันใด   เขานั่งลงที่ข้างเดวิดโดยไม่แม้แต่จะเอ่ยขอคำอนุญาตจากเจ้าของโต๊ะ   ใบหน้าหันปะทะซาคาเรียส   “กำลังจะประชุมอะไรกันก็จงพูดต่อเสีย”   ร่างนั้นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ  

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.