หัวใจมายา ตอนที่ 21 ขอทำงานที่บริษัท
“เพล้ง!” แม่บ้านอ้าปากค้างเบิกตากว้าง แล้วเลื่อนสายตามองปลายฝนด้วยความตกใจ
“อุ๊ย เผลอไปโดนน่ะค่ะ” หญิงสาวพูด พร้อมปล่อยยิ้มหวานออกมา
“หล่อนตั้งใจ”
“ค่ะ แล้วจะทำไมเหรอคะ” ปลายฝนเดินตรงเข้าไปยังหญิงกลางคนที่เป็นคนเปิดเรื่อง สายตาสวยจับจ้องอย่างไม่ยอม ก่อนที่ป้านุชจะกัดฟันแน่น
“ในเมื่อป้าไม่คิดจะญาติดีกับฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำดีกับป้านี่คะ ในเมื่อป้าพูดดูถูกฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดดีกับป้าด้วย ในเมื่อป้าไม่ให้เกียรติฉัน ฉันก็จะไม่ให้เกียรติป้าเหมือนกันและหน้าที่ของป้าก็คือทำงานบ้าน ไม่ว่าฉันจะทำแก้วตกอีกกี่ใบป้าก็ต้องเก็บ” หญิงสาวพูดจบ จึงหันไปหยิบแก้วอีกใบปล่อยลงพื้นด้วยสีหน้าราบเรียบ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ป้านุชตวาดขึ้น ก่อนที่ปลายฝนจะยกมือขึ้นกอดอก
“ป้าไม่ได้รับเงินจากฉันก็จริง แต่การเก็บกวาดบ้านทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ป้า ป้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน รบกวนเก็บด้วยนะคะ” หญิงสาวพูดจบจึงเบี่ยงตัวออกจากครัวไป ปล่อยให้ป้านุชตะลึงกับเศษแก้วที่กองเต็มพื้นไปหมด
หลังจากกองทัพหลบสายตาทุกคนอยู่หลายวัน เพื่อไม่ให้ใครเห็นแผลบนใบหน้า เขาเดินไปส่องกระจกแล้วเลื่อนมือจับบาดแผลที่เริ่มจางลง ก่อนจะรองพื้นกลบไว้ แล้วเดินลงมารับอาหารพร้อมกับบิดาในช่วงเช้าก่อนไปมหาวิทยาลัย
“ติดต่อพี่สาวแกได้บ้างไหม” กองทัพส่ายศีรษะแล้วก้มหน้าตักอาหารขึ้นกินอย่างเงียบ ๆ เขาเฝ้าคิดหาวิธีเก็บเงินไปไถ่ตัวพี่สาวออกจากนายธไนย
“ฉันรู้ว่าที่แกเงียบไป ไม่ยอมเจอหน้าฉันเพราะโกรธที่ฉันไล่พี่สาวแกไป ตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็หมางเมินไม่คุยกับฉันไปหมดแล้วนี่นา ทั้งแม่บ้าน ทั้งเมีย ทั้งลูก” พูดจบภาคภูมิก็วางช้อนลง แล้วยกน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะหันตัวเดินออกจากบ้านไป
“พ่อครับ” เสียงเรียกของกองทัพทำให้ชายกลางคนหันกลับมา
“มีอะไร”
“ถ้าปิดเทอม ผมขอไปช่วยงานที่บริษัทได้ไหม”
“นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม” ชายกลางคนเดินกลับมาหาลูกชายพลางขมวดคิ้ว
“แต่ผมไม่ได้ทำฟรีหรอก นอกจากค่าขนมที่พ่อจะให้ผมแล้ว ถ้าผมไปช่วยงานที่บริษัท พ่อให้เงินเดือนผมเทียบเท่าพนักงานคนอื่นได้ไหม”
“ก็ถ้าแกคิดได้ขนาดนั้น ฉันให้แกมากกว่าพนักงาน 1.5 เท่าละกัน” กองทัพคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“พ่อสัญญานะ”
“เออ...แต่ขอดูความรับผิดชอบของแกก่อนละกัน ฉันยังไม่รู้เลยว่าแกจะยอมตื่นไปทำงานได้ทุกวันหรือเปล่า แต่อย่างน้อย ฉันก็ดีใจที่ได้ยินคำนี้จากปากแก ไม่ใช่เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ” ภาคภูมิตบบ่าลูกชายก่อนจะหันตัวเดินออกไปทำงาน
หลังจากนั้นกองทัพจึงกลับไปตั้งใจเรียน เขาเข้าเรียนทุกวิชาและไม่ขาดเรียนอีก ทั้งยังตัดขาดจากความเป็นเพื่อนกับภาคีอย่างสิ้นเชิง จนเพื่อนในกลุ่มต่างเฝ้าพยายามหาเหตุผลของการหมางเมินระหว่างเพื่อนสองคนนี้
“ดูดิ หมู่นี้กองทัพมันไม่ยอมไปไหน เข้าเรียนแม่งทุกวิชา แถมชวนมันไปดื่ม แม่งก็ไม่ไปแล้วด้วย”
“มึงสงสัยหรือมึงผิดหวัง ที่ไม่มีใครเลี้ยงวะ”
“ก็ทั้งสองอย่างแหละ ดูมันแปลก ๆ ว่ะ ถามภาคีแม่งก็ไม่ตอบว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่ภาคีแม่งมีเงินออกรถใหม่เอี่ยมเลย เป็นชื่อมันด้วยนะ แม่งไปเอาเงินมาจากไหนวะ ปกติแดกข้าวยังต้องขอกูเลย”
“กูว่าสองคนนี้แปลกจริง” กองทัพนั่งนิ่งไม่สนใจ เขาตั้งหน้า ตั้งตาจดรายละเอียดที่อาจารย์สอน และมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินเพื่อไถ่ตัวพี่สาวออกมา ด้วยความผิดที่ติดอยู่ในใจตลอดเวลาทำให้กองทัพกลายเป็นคนเงียบขรึม และเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่สุงสิงกับใคร
“คุณกานดาคะ พักนี้ คุณกองทัพดูเปลี่ยนไปมากนะคะ กลับบ้านเย็นทุกวัน ไม่ดึกดื่นเหมือนก่อน แต่ก็ดูเงียบขรึมผิดปกติ” กานดาที่นั่งปักผ้าอยู่ วางมือจากงานที่ทำ แล้วถอนหายใจ
“ก็คงคิดถึงหนูปลายฝนนั่นแหละ สองคนนี้ตัวติดกันมาตั้งแต่เด็ก พอปลายฝนไม่อยู่แล้ว อะไร ๆ ก็ดูเงียบเหงาไปหมด ไม่ใช่แต่ลูกฉันเท่านั้นนะป้าอิ่ม ดูคุณภาคภูมิเอาเถอะ หมู่นี้ก็ดื่มแต่เหล้า ฉันห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ไม่รู้เป็นเพราะเรื่องของหนูปลายฝนด้วยหรือเปล่าเลยทำให้ดื่มหนักขนาดนั้น”
“คุณท่านก็วู่วาม แล้วก็มานั่งเสียใจทีหลัง ยังไงป้าอิ่มก็โกรธอยู่ดีล่ะค่ะ” หญิงชราหน้างอ เมื่อนึกถึงการกระทำของภาคภูมิในวันนั้น
“เอาน่าป้าอิ่ม เรื่องมันผ่านมาแล้วให้อภัยคุณภาคภูมิเถอะ พักนี้เขาเองก็แอบออกไปข้างนอกคนเดียวบ่อย ๆ ถ้าให้เดาก็คงไปตามหาหนูปลายฝนนั่นล่ะ”
“มาคิดได้เอาตอนที่สายไปแล้ว ไม่รู้ป่านนี้คุณหนูจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร” ป้าช่ออิ่มพูดพลางน้ำตาซึม
“ยังไงซะ สักวันหนูปลายฝนต้องกลับมา” กานดายกยิ้มพูดปลอบใจ
กองทัพสะสมเงินค่าขนมไว้ในธนาคารด้วยความตั้งใจ ก่อนจะเลื่อนสายตามองตัวเลขที่สะสมไว้ในสมุดบัญชี แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลย” ชายหนุ่มพึมพำ พลางเอนกายล้มตัวลงนอน นึกถึงพี่สาวที่แสนดีของเขา พร้อมเฝ้าโทษความโง่ของตัวเองซ้ำไปซ้ำมา จนเผลอหลับไป ก่อนเสียงฝีเท้าของภาคภูมิจะเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ แล้วหยิบเอาสมุดเงินฝากของลูกชายขึ้นดู
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 335
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น