หัวใจมายา ตอนที่ 22 แขกคุณไนย
“สองแสนสาม” เขาขมวดคิ้วแล้วเลื่อนสายตามองกองทัพด้วยความสงสัย ก่อนจะวางสมุดบัญชีนั้นไว้ที่เดิมพลางยืนมองชายหนุ่มด้วยสายตาราบเรียบ
“ลูกชายฉันคงคิดได้แล้วสินะ หันมาเก็บเงินแทนที่จะใช้สุรุ่ยสุร่ายเหมือนก่อน ท่ามกลางความเลวร้ายก็ยังมีเรื่องดีอยู่กับเขาเหมือนกัน” ภาคภูมิย่อตัวลงนั่ง แล้วเลื่อนมือไปลูบศีรษะกองทัพด้วยความรัก นานแล้วที่เขาไม่ได้ทำแบบนี้ นับจากกองทัพเป็นเด็กน้อย เขามักจะร้องขอให้ภาคภูมิกล่อมนอนเสมอและต้องลูบศีรษะอยู่ตลอดเวลาจึงจะหลับโดยไม่งอแง
“เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน เมื่อก่อนแกตัวเล็ก ๆ วิ่งตามปลายฝนต้อย ๆ อยู่เลย เผลอเดี๋ยวเดียวก็โตเป็นหนุ่มแล้ว” ชายกลางคนใช้มือลูบศีรษะชายหนุ่ม พลางแย้มยิ้มออกมาอย่างสุขใจเมื่อนึกถึงช่วงวัยเด็กของลูกชาย
ก่อนจะหวนนึกถึงปลายฝนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ปลายฝนหายออกจากบ้านไปเกือบสองเดือนแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะกลับมา ภาคภูมิตามไปยังมหาวิทยาลัยพบว่าปลายฝนไม่มาเรียนนับจากวันที่เขาไล่เธอออกจากบ้าน เขาหลับตาลง พลางยกมือขึ้นกุมศีรษะด้วยความสับสน อันที่จริงเขาควรดีใจที่ไล่ตัวซวยออกไปให้พ้นจากชายคา แต่นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ภาคภูมิหาได้มีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น รอยยิ้มและเสียงหวานของลูกสาว ลอยเข้ามาให้ภาคภูมิหวนนึกถึงตลอดเวลา
“ข้อมูลที่คุณภาคภูมิให้ดิฉันไปสืบ พบว่าเงินในบัญชีที่คุณภาคภูมิที่เปิดให้คุณปลายฝน เพื่อจ่ายค่าขนมให้เธอนั้น ในระยะเวลาสองเดือนนี้คุณปลายฝนไม่มีการดึงเงินออกไปใช้เลยค่ะ และดิฉันให้เพื่อนตรวจสอบแล้ว พบว่าคุณปลายฝนเปิดบัญชีใหม่ไว้อีกธนาคารหนึ่ง ซึ่งตรงนี้เราไม่สามารถตรวจสอบได้ค่ะ” พนักงานของเขารายงานด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
“ปลายฝนเปิดบัญชีใหม่เหรอ นานหรือยัง”
“ก็เมื่อเดือนที่แล้วค่ะ มีอีกอย่างหนึ่งนะคะ หลังจากเราตรวจสอบแล้ว พบการเดินบัญชีของคุณฝนแปลกนะคะ เธอไม่เคยใช้เงินที่คุณภาคภูมิให้จนหมด แต่เธอเก็บสะสมไว้ จนยอดเงินสะสมได้แสนกว่าบาท และถูกใช้จนหมดเมื่อสองเดือนที่แล้วค่ะ” ภาคภูมินึกย้อนถึงคำพูดของปลายฝนที่ว่าเธอเก็บเงินเพื่อซื้อนาฬิกาเรือนนั้นให้เขา ชายกลางคนทิ้งปากกาในมือลง รับรู้ว่าได้ทำผิดกับปลายฝนอย่างยิ่งใหญ่ เขาไล่พนักงานออกไป แล้วเดินไปยังขวดเหล้าที่ตั้งรออยู่ใกล้ ๆ กันกับโต๊ะทำงาน ยกดื่มรวดเดียวจนหมด
หลังจากหวนนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ แล้ว ภาคภูมิหันกลับมายังกองทัพที่นอนหลับสนิทอยู่ เขาถอนหายใจแล้วลูบศีรษะลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เสียงรถยนต์คันหรูของธไนยแล่นเข้ามาจอด ป้านุชรีบปรี่เข้าไปช่วยถือของในทันที ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าสวยคนเดินลงมาจากรถพร้อมกับชายหนุ่ม แล้วยกยิ้มให้กับเธออย่างคนเหนือกว่า
“คุณลิตา” ป้านุชเอ่ยทักด้วยสีหน้าตกใจ
“ปลายฝนล่ะ” ธไนยเอ่ยถาม
“ทำอาหารค่ะ ใกล้เสร็จแล้ว” แม่บ้านตอบ พร้อมกับชำเลืองมองหญิงสาว ที่เดินเข้ามาควงแขนธไนยอย่างแนบชิด
“งั้นไปบอกให้ปลายฝนตั้งโต๊ะได้เลย อ่อ บอกปลายฝนด้วยนะ ว่าวันนี้คุณลิตาจะมาทานข้าวด้วย และก็จะค้างที่นี่กับผม” แม่บ้านได้ยินดังนั้นจึงเอียงคอเล็กน้อย ด้วยความไม่เข้าใจ
“ป้านุชคะ ไม่ได้ยินที่คุณไนยพูดเหรอคะ” ลิตากล่าวเสริม ก่อนที่หญิงกลางคนจะได้สติกลับมา
“ค่ะ ๆ คุณไนย ป้าจะรีบไปบอกปลายฝนเดี๋ยวนี้ล่ะ” ป้านุชหันตัวกลับมา พร้อมกับสายตาเจ็บใจ ด้วยรู้จักนิสัยลิตาดีกว่าใคร ต่อหน้าธไนยทำตัวเป็นไร้เดียงสา แต่ลับหลังแล้วมารยาทไร้การอบรมสิ้นดี ป้านุชเดินตรงเข้าไปในครัว พบหญิงสาวกำลังง่วนอยู่กับอาหารตรงหน้า
“คุณไนยมาแล้วเหรอคะ” ปลายฝนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ผิดกับอีกฝ่ายที่ทำท่ากระฟัดกระเฟียดเพราะไม่สบอารมณ์
“ก็ได้ยินเสียงรถแล้วไม่ใช่เหรอ ถามทำไม” ปลายฝนชะงัก พลางวางมือจากอาหาร แล้วเลื่อนสายตากลม มองหญิงกลางคนครู่หนึ่ง
“ตกลงจะเป็นศัตรูกับฝนให้ได้เลยใช่ไหมคะ คุยดี ๆ กันได้ไม่ถึงสามวัน ป้านุชก็งี่เง่าใส่ฝนอีก จะเอายังไงคะ” เมื่อป้านุชได้สติกลับมาจึงถอนหายใจแรง ๆ หนึ่งครั้ง แล้วพยายามปรับสีหน้า พร้อมเดินตรงมายังหญิงสาว
“ฉันไม่ได้หงุดหงิดเธอ แต่หงุดหงิดคนที่มากับคุณไนยต่างหาก” ป้านุชยังทำหน้างอ ทว่าพยายามอธิบายต่อ ก่อนที่ปลายฝนจะขมวดคิ้วแปลกใจ
“คุณไนยมีแขกเหรอคะ”
“หึ...แขกเขิกอะไรกัน ผู้หญิงน่ะสิ” ป้านุชยกมือขึ้นกอดอกแล้วตอบออกไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ป้านุชจะไม่ใคร่ชอบปลายฝนมากนัก แต่หลายครั้งปลายฝนก็คอยช่วยเหลืองานในบ้านหลายอย่าง ไม่นั่ง ๆ นอน ๆ เป็นคุณนายเหมือนคนอื่นที่เข้ามา และหากป้านุชไม่เริ่มเปิดศึกก่อน ปลายฝนก็ถือเป็นเด็กน่ารักคนหนึ่ง ที่ทำให้ป้านุชค่อย ๆ เปิดใจทีละน้อย
“แฟนคุณไนยเหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถาม ก่อนที่ป้านุชยังคงหน้างอ พร้อมส่ายศีรษะไปมา
“คู่นอนต่างหากล่ะ คุณไนยก็กระไรอยู่ มีเธออยู่ทั้งคนแล้วยังจะพาคนอื่นมาบ้านอีก” ปลายฝนได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้าลง พลางปล่อยยิ้มออกมาอย่างคนไม่ถือสา
“มันเป็นสิทธิ์ของเขานี่คะ ฝนกับคุณไนยเราไม่ได้เป็นคู่รักกันเสียหน่อย” ป้านุชฟังคำของปลายฝนได้เพียงอึดใจ จึงย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้ แล้วยกมือกอดอก
“ไม่คิดอยากครอบครองคุณไนยบ้างหรือไง” ปลายฝนส่ายศีรษะ สีหน้ายังเคลือบไปด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 324
แสดงความคิดเห็น