ตอนที่ 44 .. “ ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน ”
ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ
เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. วีณา
เพื่อนเราเผาเรือน - ปาน ธนพร แวกประยูร
https://www.youtube.com/watch?v=6FK8lztJGU4
ขอขอบคุณ คุณปาน ธนพร จาก ค่ายอาร์เอส โปรโมชั่น ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย
Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก
ตอนที่ 44 .. “ ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน ”
น้องยืนแอบดูอยู่ข้างบนชั้นสองข้างห้องตัวเอง โกร๋นหันขึ้นไปดู น้องโบกมือและยิ้มให้ โกร๋นก็โบกมือให้เช่นกันแล้วก็กระโดดดีใจ
“ฮู้ๆ” น้องยิ้มยืนหัวเราะอยู่คนเดียวจนโกร๋นเดินลับตาไป
“พี่โกร๋นรอหนูนะ อีกแค่ 3 ปีเท่านั้นเอง แล้วหนูจะไม่อิดออดอีกเลย”
\\\\\ +++++ \\\\\
วันเวลาผ่านไปค่อนข้างเร็ว ความสุขผ่านไปเร็วมาก กุ้งต้องกลับ กทม.แล้ว แต่ดาวขออยู่ที่นี่ เพราะบอกแล้วว่า จะขอตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ตั้งแต่นี้ไปดาวจะขอเรียนรู้งานทุกอย่างเพื่อจะพัฒนาไร่ของกุ้งให้ดีด้วยมือของเธอเองให้ได้ ดาวมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ ดาวจึงของบกุ้งมาพัฒนาระบบเอกสารที่นี่ กุ้งจึงให้งบประมาณไว้ก้อนหนึ่งประมาณ 1 แสน เพื่อที่จะทำห้องทำงานให้เมียและอุปกรณ์ทุกอย่างตามที่เมียต้องการ และบอกช้อยว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ดาวจะมาเป็นนายหญิงและคุมที่นี่ เรื่องการเงินจึงโอนมาให้ดาวดูแล
“ตามนี้นะมั่น ช้อย ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจเราทั้งสองคนนะ ที่ผ่านมาสองปีนี้ พวกเราทำได้ดีมากเลยทีเดียว ฉันเพียงแต่ต้องการให้ไร่ของเราพัฒนาและเจริญก้าวหน้าไปมากกว่านี้ ดาวเขาเก่งทางนี้ เรื่องคอมและอุปกรณ์ไฮเทค สบายมาก ห้องทำงานก็เอาตรงนั้นแล้วกัน ใกล้ทางเข้าออกดี ต่อไปเวลาที่ลูกค้ามาจะได้ไม่ต้องเดินไกลอีกเหมือนเมื่อก่อน งบประมาณฉันให้ดาวไว้หมดแล้ว ส่วนช่างก็หาคนที่ไว้ใจได้หน่อยนะ อย่าให้มันกดราคาเราได้ สำนักงานไม่ได้ใหญ่โตอะไร แค่ชั้นเดียว ส่วนพวกอินเตอร์เน็ต เดี๋ยวฉันจะติดต่อให้อีกครั้งแล้วกัน ตอนนี้จัดการหาคนมาทำห้องสำนักงานให้เร็วที่สุดก่อนก็แล้วกัน ดาวจะได้นั่งทำงานได้ ระหว่างรอ ตอนนี้ดาวก็มานั่งศึกษางานและทำที่บ้านช้อยไปก่อนนะ พี่ยก Note Book เครื่องนี้ของพี่ให้ไว้ใช้งานที่นี่เลยก็แล้วกัน ส่วน Printer เดี๋ยวพี่จะโทรให้เขาจัดส่งมาให้อีกทีภายหลัง พี่ต้องไปแล้วนะดูแลตัวเองด้วย” พอจะเอาเข้าจริงๆ ดาวชักไม่อยากจะอยู่แล้วซิ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
กุ้งเดินลงจากบ้านของมั่นทันที ดาววิ่งตามลงไปทันที่รถพอดี ดาวกอดและหอมแก้มกุ้งเหมือนปริ่มว่าจะขาดใจ
“พี่” กุ้งก้มลงมาหอมแก้มดาวและจูบปาก
“ร้องทำไม เดี๋ยวพี่ก็กลับมา พี่ไปทำงาน หนูอยู่ที่นี่เอาเวลาที่เหลือ ศึกษาและเรียนรู้จากมั่นและช้อยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เข้าใจไหมครับ คุณหนูดาว อย่าลืมซิว่า ตอนนี้ หนูเป็นนายหญิงของไร่นี้แล้วนะ พี่รักหนูนะ”
แล้วกุ้งก็รีบขึ้นรถทันที เพราะไม่อยากถึง กทม.ค่ำ กุ้งค่อยๆถอยรถออกไป ดาวตะโกนตามไป
“หนูจะจำเอาไว้ว่า วันที่ 5 ก.ค. คือวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ของหนู พี่ต้องกลับมาเร็วๆนะ” ดาวโบกมือและบ๊ายบายกุ้งจนรถลับสายตาไป ช้อยเดินลงมาหาดาวและปลอบใจ
“โถแม่คุณ คงไม่เคยจากกันแบบนี้หละซิ ทูนหัวของช้อย ไป เราขึ้นไปพักผ่อนข้างบนกันก่อน แล้วค่อยๆคิดคอยๆทำกันไปนะ”
ดาวพยักหน้า พอขึ้นไปถึงบนเรือน มั่นก็มาพูดปลอบใจอีก เพราะเห็นหน้าตาของดาวไม่ยิ้มแย้มเอาเสียเลย
“คงจะเหงาหละซิ ไม่เคยอยู่แบบนี้ ระหว่างที่นายไม่อยู่ คุณหนูก็ย้ายมานอนที่บ้านข้าก่อนแล้วกันนะ ไม่อยากให้อยู่ที่นั่นคนเดียว มันไกลและเปลี่ยวด้วย” ดาวพยักหน้า “ไปยัยช้อย ไปช่วยคุณหนู ย้ายเสื้อผ้าและเครื่องใช้มาที่นี่เรือนนี้เลยไป เดี๋ยวข้าจะจัดห้องไว้ให้”
แล้วช้อยกับดาวก็เดินกลับไปที่กระท่อมเพื่อย้ายเสื้อผ้าดาวมาไว้ที่บ้านใหญ่หลังนี้ และก็เริ่มเรียนรู้วิถีชีวิตของไร่ทันทีตั้งแต่นั้นมา
///// +++++ /////
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา โรสจึงตัดสินใจลองคบกับเมฆเอง โดยที่พ่อไม่ได้บังคับอะไรเลย เป็นความสมัครใจของเธอเองล้วนๆ
“เมฆ เรามาลองคบกันดูนะ ครั้งนี้ฉันสมัครใจเอง คุณพ่อไม่ได้บังคับ ขอให้คุณสบายใจได้” โรสเอื้อมมือมาจับมือเมฆบีบเล็กน้อย
“ตกลงครับ เราลองมาคบกัน ผมก็อยากได้ยินคำนี้จากปากคุณมานานแล้ว ผมไม่ชอบบังคับใจใคร ต้องมาด้วยความสมัครใจเท่านั้น”
เมฆมีความสุขมาก เอื้อมมืออีกข้างที่เหลือมากุมมือโรสไว้ และจากนั้นเป็นต้นมา เมฆก็มารับมาส่งโรสทุกวัน เพราะโรสตัดสินใจไปทำงานบริษัทน้ำดื่มที่พ่อยกกิจการให้แล้ว 100% เมฆจึงทำหน้าที่คนพิเศษที่แสนดีเหมือนเป็นบอดี้การ์ดประจำตัว มารับโรสแต่เช้าไปส่งที่โรงงานและไปทำงาน ยอมอ้อมไปอ้อมมาเพื่อพิสูจน์ตนเอง โรสมีรอยยิ้มออกมาได้อีกครั้ง แต่ยังไม่ได้มีการล่วงเกินอะไรมากไปกว่าการจูงมือและจับมือเพียงเล็กน้อย เพราะนั่นคือกฏเหล็กของโรสที่มีต่อเมฆ ถ้าเมฆรับได้ เธอก็ยินดีที่จะคบเป็นแฟนอย่างเปิดเผยในอนาคตไม่หลบๆซ่อนๆเหมือนตอนที่คบกับกุ้ง แต่ตอนนี้ยังไม่ให้เรียกว่าแฟน จนกว่าเมฆจะพิสูจน์ให้โรสมั่นใจ ไว้ใจได้ว่ารักเธอและทำให้เธอมีความสุขได้ เพราะเธอเข็ดกับชีวิตรักจากกุ้งมาแล้วในอดีต โรสจึงให้เมฆได้เพียงคำว่า คนพิเศษเท่านั้น
%%%%% ----- %%%%%
วันต่อมา <6 ก.ค.> หลังจากที่ กุ้งกลับมาจากลพบุรี ก็กลับมาเร่งงานของชุมพลและคุณหญิงแจ่มจรัส จนใกล้เสร็จ ส่วนด้านความรักก็ได้มีการพูดคุยกันกับดาวผ่านทางไลน์ทุกวัน ทุกคืน จนดาวไม่เหงา มีความสุข ดาวโชว์ผลงานที่ตัวเองทำเสร็จชิ้นแรกให้เห็น กุ้งดีใจมากที่ดาวทุ่มเทและมีความสุขกับสิ่งที่ดาวเลือก โดยไม่ลืมที่จะบอกรักกันทุกวัน และนับวันที่จะได้เจอกันอีกในเร็ววัน
<9 ก.ค.> “เอียด นั่นดูนั่น” นุ่นตาไวมาก
“อะไรไอ้นุ่น” เอียดถามเพื่อน
“พี่กุ้ง” เอียดหันไปมอง
“ไหน” นุ่นชี้ให้ดู “นั่นไง”
“เออใช่” เอียดเห็นแล้ว
“แล้วผู้หญิงที่มากับพี่กุ้งใครวะฉันมองไม่ชัดเลย” นุ่นถาม
“นั่นมันยัยนิดนี่” เอียดจำได้
“ว่าไงนะ ก็ไหนบอกว่า เลิกลากันไปแล้วไง หันไปคั่วยัยโรสอยู่ไม่ใช่เหรอ” นุ่นยังอยากรู้
“แล้วฉันจะรู้กับแกไหมเนี่ย มันเรื่องของเขา ฉันไม่อยากจะยุ่งด้วยแล้ว” เอียดไม่สนใจ
“มันจะไม่แค่นั้นนะซิ ก็ยัยนิดเนี่ยคุณอาชัชเขาไปมาหาสู่ตามจีบอยู่ไม่ใช่เหรอ” นุ่นรู้ไปหมด
“มันก็ใช่ใครๆเขาก็รู้ แต่ที่สองคนกลับมาคบกันแบบนี้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ” เอียดรำพึงออกมาเสียงดัง
“นั่นนะซิ ไม่รู้ว่ายัยโรสจะรู้ไหมเนี่ย” นุ่นเหมือนเป็นห่วงแทนโรส แล้วทั้งสองคนก็เดินไปเที่ยวกันต่อ
----- ^^^^^ -----
<10 ก.ค.> วันนี้ชัชชวนวัฒน์มาตีกอลฟ์อีกในรอบหลายเดือน เอียดกับนุ่นขอตามมาด้วย เพื่อจะมาถามอะไรสักหน่อย
“คุณอาค่ะ”นุ่นถามก่อน
“อะไรเหรอหนู” ชัชกำลังส่องกล้องดูว่าวัฒน์ตีไกลแค่ไหน
“วันก่อนหนูเห็นคุณนิดของคุณอา เดินออเซาะฉอเลาะกับพี่กุ้งที่ห้างแห่งหนึ่งแถวๆประตูน้ำ เขากลับมาคืนดีกันแล้วเหรอ แล้วยัยโรสลูกสาวคุณอาหละ เลิกกับพี่กุ้งแล้วเหรอ” นุ่นเล่นถามตรงๆ
“เออ..” จนชัชตอบไม่ถูกเลย
“ว่าไงค่ะ” เอียดก็อยากรู้
“เอาไงดีวะวัฒน์จะตอบยังไงให้สองคนนี้เข้าใจดีวะ” วัฒน์ตีเสร็จพอดี เลยหันไปตอบแทน
“ไม่รู้เหมือนกัน พ่อกับอาชัชไม่รู้เรื่องนี้เลย เดี๋ยวเอาไว้ให้พอเจอกุ้งและอาชัชเจอโรสจะถามให้นะ
วัฒน์ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องราวเป็นยังไง จึงตัดสินใจ โทรไปหากุ้งทันที หลังจากกลับถึงบ้าน
“อ้าว คุณอา มีอะไรเหรอครับ วันนี้ถึงโทรหาผมได้” กุ้งกำลังนั่งทำงานอยู่ จึงรับช้า
“อาได้ยินข่าวว่าแกกลับมาคบกับยัยนิดอีกแล้วเหรอ” กุ้งนั่งงง หยุดทำงานแล้ว คุยกับวัฒน์อย่างจริงจัง
“อาเอาข่าวที่ไหนมา ผมไม่ได้คิดกับนิดแบบนั้น เราเป็นแค่เพื่อนกัน วันนั้นนิดเค้าชวนผมไปซื้อของประดับบ้านเขาเท่านั้น เราไม่มีอะไรเกินเลยกันจริงๆ ผมรู้นะว่าใครคาบข่าวมาบอกอาหนะ พวกเจ้าเอียดใช่ไหม ผมเห็น แต่ขี้เกียจเข้าไปทัก”
“ใช่ ก็น้องมันคงจะสงสัยหนะ และไม่กล้าถาม เอาน่า ในเมื่อแกยืนยันแบบนี้ฉันก็จะได้สบายใจ แค่นี้แหละ
“ครับ” เอียดสะกิดถามพ่อทันทีเมื่อพ่อวางสาย
“เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไร เขาคบกันแบบเพื่อนไม่ใช่แฟนสบายใจได้”
“เชื่อได้เร้อพ่อ” วัฒน์มองหน้าลูก
“อ้าวไอ้เอียด นั่นพี่ชายแกนะ แกยังไม่เชื่ออีกเหรอ” นุ่นปลอบใจเพื่อน แล้วตบไหล่นิดหน่อย
“เอาน่าแก ถ้าพี่กุ้งพูดมาขนาดนี้ เราก็ต้องเชื่อแหละ อีกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่องของเรา” นุ่นมองโลกในแง่ดี
<<<<< ----- >>>>>
คืนนี้ 19.30 น. กุ้งยอมมาหานิดตามที่นิดขอ หลังจากที่กุ้งไม่ได้มาเหยียบที่นี่นานแล้ว หลังจากที่นิดรับปากว่าจะขอเป็นแต่เพื่อน
“แปลกนะนิด เมื่อบ่ายนี้อาวัฒน์โทรมาถามผมแปลกๆ” นิดจิบไวน์เบาๆ
“แปลกยังไงคะ”
“เขาถามว่า ผมกับคุณกลับมาใช้ชีวิตคู่กันอีกครั้งเหรอ” นิดยิ้ม
“แล้วคุณตอบว่าไง”
“ผมก็ตอบกลับไปว่าไม่ใช่ เราสองคนไม่มีอะไรกัน เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น”
“เมื่อก่อนก็ไม่เห็นจะสนใจถาม” นิดบ่นเบาๆ
“นั่นนะซิไม่รู้เป็นไงเดี๋ยวนี้ชอบมาจับผิดผมจัง”
“อาวัฒน์เขาคงเป็นห่วงคุณมาก เออ ว่าจะถามคุณมาตั้งนานแล้ว”
“เรื่องอะไรเหรอ” นิดมองหน้ากุ้ง
“พ่อแม่คุณไปไหนหละ ตั้งแต่เราคบกันจนเลิกกัน นิดยังไม่เห็นหน้าท่านหรือคุณพูดถึงเลย”
“อ๋อ ท่านทั้งสองเสียไปตั้งนานแล้วครับ ตั้งแต่ผมอายุ 15” กุ้งตอบแบบสีหน้าปกติ จิบไวน์เบาๆเช่นกัน
“ต้องขอโทษด้วย ที่ถามก็แค่อยากจะรู้ไว้บ้าง” กุ้งทำท่าชิวๆ
“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ห้ามอะไร ถามมาก็ตอบไป”
“งั้นนิดขอตัวทำงานก่อนนะกุ้ง” กุ้งลุกขึ้นทันทีเหมือนกัน
“อ้าวแล้วนี่ลุกทำไมหละ”
“ผมขอตัวกลับก่อนแล้วกัน พอดีพรุ่งนี้ประชุมที่ปากช่องแต่เช้า ต้องรีบไป เอาไว้ถ้ามีเวลา ผมจะแวะมาหาใหม่นะ บาย”
“บาย” จริงๆแล้วนิดยังคงอยากจะกลับมาใช้ชีวิตคู่อยู่ตลอดเวลานั่นแหละ
แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะกุ้งไม่ได้มีใจให้อีกแล้ว คงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นจริงๆ
“คงไม่มีวันนั้นอีกแล้วใช่ไหมกุ้ง ที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน” นิดต้องหักใจแล้วทำงานต่อไป ตามทางของตัวเอง นิดไม่อยากจำ ไม่อยากลืม กับเรื่องราวต่างๆที่ได้เกิดขึ้นผ่านมาตลอดหลายเดือนและชีวิตคู่ที่เคยมีกับกุ้ง
***** ฿฿฿฿฿ *****
<11 ก.ค.> สิงห์มาดักรอน้องถึงหอพักแต่เช้า จนทำให้น้องอึดอัด ขนาดไปทำงานที่ทำงานของนุ่น สิงห์ก็ยังตามไป สิงห์พึ่งรู้ว่า น้องมาทำงานให้กับนุ่น จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำการแก้เผ็ดกุ้งไปในตัวด้วย จึงใช้น้องและนุ่นเป็นตัวล่อที่จะให้กุ้งมาติดกับดักตัวเอง
“คุณสิงห์ คุณจะตามฉันมาทำไมเนี่ย ตั้งแต่ราม จนถึงนี่ นี่มันที่ทำงานฉัน คุณกลับไปซะ เดี๋ยวเจ้านายฉันจะว่าเอา ไปฉันไม่ชอบ”
สิงห์เดินตามน้องเข้าไปข้างใน เห็นนุ่นหันหลังกำลังจัดของอยู่ นุ่นเห็นน้องเดินผ่าน จึงทัก
“อ้าวยัยน้องมาแล้วเหรอ ต้องขอโทษด้วยนะที่โทรตามให้มาช่วยงานในวันหยุด” นุ่นยังไม่เห็นสิงห์
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ อยู่หอคนเดียวมันก็เบื่อๆเซ็งๆ มาทำงานดีกว่าได้ตังด้วย” แล้วน้องก็ทำหน้าเซ็งๆ
“แล้วเป็นอะไร ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น” น้องขยับหน้าให้นุ่นดูข้างหลัง นุ่นหันไปดู ต้องตกใจมากที่เห็นสิงห์ที่นี้หลังจากวันนั้น
“พี่สิงห์” สิงห์ยิ้มให้ น้องงงว่านุ่นรู้จักด้วยเหรอ
“สวัสดีครับน้องนุ่น เราไม่ได้เจอกันนานเลย นี่ร้านของน้องเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ แล้วนี่พี่มาได้ยังไง” นุ่นเดินกลับไปหาน้องทันที แล้วถาม
“เค้ามากับเธอเหรอ” น้องส่ายหน้า
“เค้าตามหนูมาได้ อาทิตย์นึงแล้ว ไม่รู้ว่าต้องการอะไร แล้วพี่รู้จักเค้าด้วยเหรอ”
“รู้ซิ รู้จักดีด้วย เค้าเป็นอดีตคู่หมั้นพี่” น้องตกใจมาก
“ห๊า” นุ่นเลยเอามือตบไหล่น้องเบาๆ
“เอาน่าแล้ววันหลังพี่จะเล่าให้ฟัง” แล้วนุ่นก็หันมาถามสิงห์
“แล้วพี่ตามยัยน้องมาทำไม”
“ก็เด็กคนนี้สวยถูกใจพี่ พี่ก็แค่อยากจะทำความรู้จักและคบหาเป็นแฟนต่อไปในอนาคต ถ้าเป็นไปได้ ไงหึงเหรอจ๊ะ ที่รัก”
“อย่าทำอะไรบ้าๆที่นี่นะ หนูแจ้งความจับพี่ได้ง่ายๆนะ นี่มันที่ทำงานและก็เขตบ้านหนูด้วย พี่กลับไปซะเถอะ”
“ก็ได้ วันนี้ถือว่า พี่มาทำความรู้จักกับสาวน้อยที่น่ารักคนนั้นอย่างเป็นทางการและบอกเหตุผลไปหมดแล้วนะ ว่าพี่จะจีบ”
“ขอร้องหละ กลับไป แล้วอย่ามาวุ่นวายอะไรกับเด็กของหนูอีก หนูไม่ชอบ” สิงห์หันหลังกลับและเปิดประตูออกไปเลย
“พี่นุ่น ดีแล้วหละที่พี่ไม่ได้แต่งงานอยู่กินกับมัน วันก่อนมันก็มาหาเรื่องหนูกับพี่โกร๋นถึงหน้าหอพักหนูเลย หนูหละเกลียดมันน่าดู”
“เอาเถอะ ต่อไปนี้น้องก็ต้องระวังตัวให้ดีๆหน่อยก็แล้วกัน ถ้ามันจำเป็นจริงๆ พี่คงต้องย้ายน้องมาอยู่กับพี่ที่บ้านนี้”
“ค่ะ ก็แล้วแต่พี่ ทำงานกันเถอะ เสียเวลากับคนอย่างนั้นนานแล้ว” นุ่นลูบหัวน้องไปมา น้องยังทำหน้าเบื่อๆอยู่เลย
----- ^^^^^ -----
วันนี้ กุ้งมาประชุมที่ปากช่อง พอประชุมเสร็จก็ไม่ได้เข้าแสงตะวัน ตรงกลับไปยังลพบุรีหาดาวทันที กุ้งมาถึงประมาณบ่าย 3 โมงกว่าๆ ดาวกำลังนั่งทำงานอยู่ใต้ร่มไม้ กุ้งแอบย่องมาปิดตาและหอมแก้ม พอหันมา ดาวดีใจมากที่สามีมา
“พี่กุ้ง” ดาวหอมแก้มกุ้งใหญ่เลย แล้วดาวก็เก็บของและถือเดินเข้าไปที่กระท่อม แล้วก็ไม่ลืมที่จะเติมรักให้กันทันที เพราะความคิดถึงสักยกสองยก
>>>>> ##### <<<<<
วันที่ 12 รุ่งขึ้นดาวขอเข้า กทม.ด้วย เพราะจะไปซื้อของเพื่อเอาไปไว้ที่ไร่ กุ้งก็ให้ติดรถกลับมา กว่าจะออกจากที่ลพบุรีก็ประมาณ เที่ยงมาถึงก็มืดแล้ว จึงมาหาความสุขกันต่ออีก 1 คืน พอรุ่งเช้าวันที่ 13 ดาวขอมีความสุขกับกุ้งอีกมากกว่าทุกครั้ง พูดง่ายๆขอเบิ้ล เพราะมันเหมือนกับมีลงสังหรณ์และความรู้สึกว่า เธอจะไม่ได้กลับมาพบเจอกับกุ้งอีกแล้วถ้าก้าวขาออกจากบ้านในวันนี้ เพราะมันมีความรู้สึกแปลกๆ กุ้งไม่ขัดใจและสังเกตุดาวว่าเป็นอะไร ดูเหมือนไม่มีความสุขเลยขณะทำรักกันอยู่ ไม่กล้าถาม กลัวดาวไม่สบายใจ
หลังจากที่ดาวสั่งอุปกรณ์สำนักงานเรียบร้อยจ่ายเงินแล้วให้ร้านส่งไปยังลพบุรี ดาวออกไปหาซื้อพันธ์ไม้คนเดียวที่จตุจักร ขณะที่ดาวกำลังเลือกซื้อพันธ์ไม้อย่างเพลินใจ ไม่นานเธอก็หมดสติไปเลย มาฟื้นอีกทีก็พบว่าเธอถูกขัง มือและขาถูกมัดอยู่กับเตียงในห้องที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่รู้ว่าที่ใดเสื้อผ้าถูกถอดออกหมดจนเปลือย ไม่มีอะไรปกปิดบังร่างกายเลย และหารู้ไม่ว่าถูกตั้งกล้องแอบถ่ายอยู่อีกด้วย ไม่นานประมาณ 3 ทุ่ม ชายลึกลับร่างเปลือยใส่หน้ากากก็เดินเข้ามา 2 คนและก็ตรงเข้ามา ย้ำยีข่มขืนเธออย่างไม่ปราณีปราศัยจนสำเร็จความใคร่ ไปหลายยกเลยทีเดียว ในคืนนั้น โดยไม่เปิดปากพูดอะไรเลยแม่แต่นิดเดียว ดาวร้องโหยหวนขอความเห็นใจ ก็ไม่เป็นผล จนหมดแรงสลบไป ประมาณเที่ยงคืน ดาวนอนสลบเปลือยอยู่อย่างนั้นพร้อมกับเชือกที่ยังมัดอยู่ที่มือและขา
ตี 4 ของวันใหม่ <14 ก.ค.> ก็มาอีก แต่คราวนี้มาคนเดียว มาทำแบบเดิมอีก แต่คราวนี้แก้มัดเชือกออก เพราะมันไม่ถนัด มือและเท้าจริงเป็นอิสระ เนื่องจากดาวยังไม่มีแรง เพราะเมื่อคืนโดนรุมโทรมอย่างหนักไม่รู้กี่รอบจากชายสองคน ตอนเช้ายังมาโดนต่ออีก รอบแรกโดนข่มขืนทั้งๆที่ยังหลับจนต้องตื่น ดาวลืมตาขึ้นมา ไม่มีแรงแม้แต่ที่จะพูด เพราะเจ็บระบมไปทั้งขาและตัว โดยเฉพาะที่อวัยวะเพศ เพราะโดนกระทำไม่หยุด ดีที่มันไม่ถึงกับฉีกขาด แต่ก็เจ็บหละเพราะโดนติดๆกัน และห่างกันไม่ถึง 4 ชั่วโมง
หลังจากเสร็จรอบแรก ชายใส่หน้ากาก ก็ยังไม่พอใจ จะเอาต่ออีก จับดาวพลิกตัวคว่ำหน้าลงกับที่นอน แล้วก็เอาข้างหลัง มันยัดท่อนซุงเข้าไปทั้งๆที่ดาวนอนเหมือนผัก กระทำอยู่พักใหญ่ สักพักก็จับดาวพลิกกับมา จังหวะนี้ดาวกลั้นใจเอามือจับหน้ากากแล้วดึงออกทันที หน้ากากหลุดออก เห็นหน้าอย่างชัดเจน ดาวตกใจมาก
“ไอ้สิงห์” เมื่อความลับแตกแล้วสิงห์จึงไม่ต้องเป็นใบ้อีกแล้ว
“เออกูเอง ว่าไงจ๊ะเมียสุดที่รักของไอ้สิงห์ ผัวเอามันส์ถึงใจไหม แหม พึ่งรู้เมื่อคืนนี้เองว่าของเมียมันคับดีจริงๆ แบบนี้พี่สิงห์ชอบ”
ว่าแล้วสิงห์ก็รีบข่มขืนดาวต่ออีกไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะดาวไม่มีแรงที่จะทำอะไรจริงๆ ได้แต่นอนร้องไห้น้ำตาไหลริน ในใจร้องเรียกหาแต่กุ้ง
“พี่กุ้ง พี่กุ้ง พี่กุ้งจ๋า อยู่ที่ไหน ช่วยเมียด้วย เมียจะตายอยู่แล้ว โอ๊ยๆๆ” ดาวได้แต่นอนน้ำตาไหลรินอยากตายมาก
ดาวไม่อยากจำ ไม่อยากลืม กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเองในครั้งนี้เลย มันเป็นตราบาปที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ชีวิตของเธอพบเจอมาเลยทีเดียว นี่คงเป็นผลกรรมที่เธอทำไว้กับกุ้งในอดีตหรือเปล่า เธอคิดเช่นนั้น คิดแล้วน้ำตาก็ยิ่งไหล กับสิ่งที่สิงห์กำลังกระทำอยู่
ไม่นานสิงห์ก็เสร็จสำเร็จความใคร่ในยกที่สอง หันมาจู่โจมที่เต้าของดาวอีกไม่ปล่อยจังหวะให้ดาวว่างเพื่อหายใจเลยทีเดียว ไม่ถึง 10 นาทีหลังจากเล่นเต้าทั้งสองจบ ก็เอาดาวอีกเป็นรอบที่ 3 สิงห์ยัดท่อนซุงเข้าไปเรียบร้อยกระทำได้สักพัก ดาวยกมือไหว้สิงห์ทันที
“กูขอร้องหละ อย่าทำกูเลย กูไม่ไหวแล้ว นึกว่าเห็นใจกูเถอะ มึงจะให้กูทำอะไรกูก็ยอม แต่ขออย่าได้ข่มขืนและย่ำยีแบบนี้อีกเลย กูไม่ไหวแล้วจริงๆ กูขอร้อง กูไม่ไหวแล้ว ของกูจะฉีกอยู่แล้ว” แต่ดูเหมือนว่าคำพูดที่ดาวขอไปนั้น มันไม่มีผลอะไรต่อสิงห์เลย
สิงห์ไม่สนใจในคำขอร้อง กระทำต่อไปทำไปได้สักพัก ดาวเริ่มชัก เพราะไม่ไหวจริงๆ สิงห์เสร็จพอดี
“อ๊าก” จึงรีบดึงตัวออกมา และเข้ามาดูดาว ดาวชักมือเกร็งตาค้างสลบไปเลย ตั้งแต่นั้นมาสิงห์จึงหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนนี้ทันที และหาเสื้อผ้ามาให้ดาวใส่และพาหมอมาดูอาการ 2 วันผ่านไปดาวพ้นขีดอันตราย สิงห์เดินเข้ามาดู ดาวโกรธและแค้นสิงห์มาก ไม่ยอมพูดจาอะไรด้วยเลย สิงห์จึงต้องปล่อยไปก่อน รออีกสักพักให้อาการดีกว่านี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่ เพราะต้องใช้งานดาว ไม่งั้นคงจะไม่ลักพาตัวมาแบบนี้
***** +++++ *****
กุ้งเริ่มไม่สบายใจ ดาวหายตัวไปแบบไร้ร่องรอยนี่ก็หลายวันแล้ว แต่ไม่รู้จะทำยังไง จะแจ้งความก็หาเบาะแสอะไรไม่ได้เลย ถ้าตำรวจถามคงจะบอกไม่ถูกแน่เลย ตัดใจไม่แจ้งรอดูอีกสักระยะ ถ้ายังไม่ปรากฏกายอีกหรือได้ข่าวอะไรก็คงต้องไปแจ้งความแน่นอน
<<<<< ----- >>>>>
เช้าวันที่ 15 ก.ค. มีจดหมายลึกลับมาเสียบไว้ที่หน้าประตูบ้านของกุ้ง พออ่านดู จึงรู้ว่าเป็นของดาว
“ลาก่อน สุดที่รักของเมีย ผัวไม่ต้องตามหา เพราะเมียละอายใจมาก รักเสมอ..รุ่งทิวา”
กุ้งขยำจดหมายทิ้ง ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆดาวถึงเขียนแบบนี้ กุ้งจึงรีบบึ่งรถออกไปจากบ้านทันที เพื่อที่จะไปทำงานของชุมพลที่โรงแรม ซึ่งแต่เช้านี้เหมือนโชคไม่เข้าข้างกุ้งเอาเสียเลย เจอแต่เรื่องไม่ดี ขณะที่ขับรถออกมาจากบ้านตัวเองได้ไม่เท่าไหร่ ก็เกิดอุบัติเหตุ
กุ้งขับรถออกมาถึง 4 แยกไฟแดง แล้วเลี้ยวซ้ายจะไปขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า เพื่อข้ามแม่น้ำไปฝั่งกรุงเทพ ตอนขึ้นสะพานไม่เป็นไร แต่พอตอนลงสะพาน รถเบรกไม่อยู่ ทำให้กุ้งได้รับอุบัติเหตุทันที แต่ไม่ถึงกับคว่ำ เมื่อเบรกไม่อยู่กุ้งเลยตัดสินใจ บีบแตรเพื่อบอกให้รับรู้ว่ารถมีปัญหา ไม่อยากให้คนรอบข้างเดือดร้อนเพราะเขา จึงตัดสินใจดึงเบรกมืออย่างแรง และเอารถชนพุ่งชนเข้ากับแท่งบาลิเออร์ข้างทางอย่างแรง จนกุ้งหน้าอกกุ้งกระแทกเข้ากับพวกมาลัยอย่างจัง ถึงจะมีเข็มขัดนิรภัยคาดไว้ก็ตาม และหัวกระเด้งมาโดนกระจกข้างขวาหัวแตกได้รับบาดเจ็บ อย่างสาหัส หมดสติหัวห้อยออกมานอกรถทันที ไม่นานก็มีข่าวออกมา
“ข่าวด่วน เมื่อไม่ถึง 5 นาที ที่ผ่านมานี้ ได้เกิดอุบัติเหตุบริเวณตีนสะพานพระนั่งเกล้าขาเข้า ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ทราบชื่อแล้ว คือ นายนรากร ธิติพันธ์พงษ์ สถาปนิกชื่อดัง ขณะนี้ทางกู้ภัยได้รีบนำส่งโรงพยาบาล..แล้วเพื่อทำการรักษาโดยด่วน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ถ้ามีความคืบหน้าเช่นไร ทางทีมงานจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”
โรสซึ่งกำลังนั่งรถไปออกเดทกับเมฆ ฟังข่าวจาก จ.ส.100 พอดี ตกใจมาก
“พี่กุ้ง” ถึงแม้ว่าจะเลิกกันแล้ว <ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน>แต่ลึกๆแล้ว โรสก็ยังคงรักกุ้งอยู่ จึงบอกให้เมฆ
“เมฆ ฉันขอร้องนะ ช่วยไปที่โรงพยาบาลนั้นที รู้จักใช่ไหม” เมฆพยักหน้า
“รู้จักครับ ผมจะรีบไปเดี่ยวนี้แหละ ไม่รู้ว่าไอ้กุ้งเป็นยังไงบ้าง ยังไงมันก็เพื่อนผมเหมือนกัน”
เมฆรีบไปยังโรงพยาบาลดังกล่าวทันที เมื่อไปถึงโรสถามว่ากุ้งอยู่ที่ไหน
“ขอโทษนะคะคุณพยาบาล ไม่ทราบว่าคุณนรากร ธิติพันธ์พงษ์ สถาปนิกที่เกิอุบัติเหตุล่าสุดอยู่ห้องไหนคะ” โรสรออย่างกระวนกระวายเพราะพยาบาลต้องหาข้อมูล ระหว่างรอโรสเกิดหน้ามืด จะล้ม เมฆเข้ามาพยุง โรสพยักหน้าทำมือบอกว่าไหว
“ยังอยู่ในห้องฉุกเฉินนะคะ” โรสรีบวิ่งไปทันที โดยไม่ได้ขอบคุณ เมฆจึงต้องบอกแทน
“ขอบคุณนะครับ” แล้วก็วิ่งตามไป โรสวิ่งไปทั้งๆที่อยากจะอ๊วก หยุดเป็นพักๆ อาการอ๊วกเริ่มจะมา โรสจึงรีบเข้าห้องน้ำทันที
โรสอ๊วกจนแทบจะเป็นลม อาเจียนหนักมา สักพักก็ล้างหน้าล้างตา เมื่อพอไหวจึงค่อยๆเดินออกมานั่งรอ เมฆเป็นห่วง เพราะเห็นว่าหายไป
“คุณหายไปไหนมา” โรสตอบเบาๆ
“ห้องน้ำ” เมฆเดินเข้ามาพยุงโรสไปนั่งพัก โรสหยิบยาดมในกระเป๋าขึ้นมาดมช่วย
โรสนั่งรอฟังอาการของกุ้งอย่ากระวนกระวายที่หน้าห้องฉุกเฉิน พอหมอเปิดประตูและเข็นกุ้งออกมาจึงถามทันที
“คุณหมอค่ะคุณนรากร เป็นยังไงบ้างคะ” หมอหยุดและหันมาพูดกับโรส โรสลุกขึ้นถาม ทั้งที่ตัวเองก็แย่
“ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้วครับ แต่เรายังไม่สามารถให้บุคลภายนอกเยี่ยมได้ ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัว”
หมอยังไม่ยอมให้ใครพบถ้าไม่ใช่ญาติจริงๆหรือคนในครอบครัว โรสจึงรีบบอกหมอไปทันทีโดยไม่รอช้ากับสถานะในตอนนี้
“ดิฉันเป็นภรรยาค่ะ ชื่อ โชติรส ธิติพันธ์พงษ์” โกหกนามสกุลเสร็จสรรพ เพื่อที่หมอจะได้เชื่อ แล้วหมอก็เชื่อ เพราะบอกถึงขนาดนี้
หมอจึงให้ตามไปยังห้องพักได้ แต่เมฆเข้าไปไม่ได้ เมฆจึงเดินไปหาตำรวจซึ่งดูแลคดีนี้
“สวัสดีครับ ผมเมฆิน ศักดิ์มณีกุล เป็นเพื่อนของคุณนรากร ธิติพันธ์พงษ์ อยากทราบว่า มันเกิดอะไรขึ้น”
ตำรวจก็เล่าให้เมฆฟังอย่างคร่าวๆ ไม่นานผลพิสูจน์หลักฐานก็ออกมาสดๆร้อนๆ
“รถถูกตัดสายเบรกครับ มีคนจ้องทำร้ายคุณนรากร ให้ถึงแก่ความตาย แต่ยังจับมือใครดมไม่ได้”
เมฆจึงต้องหาความจริงให้ได้ แต่ที่บ้านกุ้งก็ไม่มีกล้องวงจรปิด จึงหมดหนทางจริงๆ หลังจากที่หมอช่วยชีวิตกุ้งไว้ได้ทัน หน้าอกช้ำนิดหน่อย แต่หัวแตกทางด้านหลังฝั่งขวาเย็บไปประมาณ 7 เข็ม โรสจึงเปิดห้องพิเศษให้กุ้งและอยู่ดูแลกุ้งตั้งแต่นั้นเป็นมาและบอกกับเมฆว่าขอโทษด้วยที่ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ โรสนั่งพูดกับเมฆในห้องพิเศษที่เปิดให้กุ้ง
“เมฆฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะที่ทำตามสัญญาไม่ได้อีกแล้ว พี่กุ้งสามีฉันบาดเจ็บสาหัสฉันต้องดูแล และตั้งแต่นี้ไป ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะขออยู่กับพี่กุ้งไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรอีกฉันจะไม่ปล่อยให้พี่กุ้งต้องเผชิญและต่อสู้กับชะตาชีวิตตามลำพังอีกต่อไปคนเดียวอีกแล้ว เพราะฉันรักพี่กุ้ง ไม่ได้รักคุณ เมฆ ฉันหวังว่าคุณคงจะเข้าใจฉันนะ” โรสเล่นพูดตรงๆแบบนี้ ปิดทางรักของเมฆหมดเลย
เมฆพูดอะไรไม่ออก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันเร็วมากเหลือเกิน จนเขาตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าความสุขมันจะจบลงเร็วขนาดนี้ เพียงไม่กี่วัน จึงทำให้เมฆเสียใจมาก ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เมฆคิดเช่นนั้น ความสัมพันธ์ตรงนั้นระหว่างเมฆกับโรสจึงจบลงในวินาทีนั้นทันที
///// +++++ /////
วันต่อมา เมื่อวันทนีย์รู้ข่าวว่ากุ้งได้รับอุบัติเหตุ จึงรีบมาแต่เช้าเลยทันที เจอโรสกำลังนั่งเฝ้าไข้กุ้งอยู่ วันทนีย์จึงขอมาเฝ้าไข้กุ้งเอง
“น้องโรส” โรสหันมา
“นาย” นีมองไปยังร่างของสามีที่นอนหมดสติอยู่ บนหัวมีผ้าพันแผลพันไว้ โรสนั่งจับมือขวากุ้งอยู่
นีวิ่งเข้ามาลูบแขนขวาทันที จนโรสต้องเอามือออกแทบไม่ทัน
“พี่ขอเฝ้าสามีพี่ จะได้ไหม” โรสเลยขยับลุกและพูดออกมา
“ทำไมพี่ถึงถามหนูแบบนั้นหละ พี่ก็เป็นเมียพี่กุ้งคนนึง ทำไมพี่จะเฝ้าไม่ได้” นีพยักหน้า
“ดีดี ขอบใจมากที่เข้าใจพี่” เพราะนีรักและเป็นห่วงกุ้งมาก โรสเข้าใจจึงยอมให้นีเฝ้า
“แต่ตอนนี้ พี่นีกลับไปก่อนนะ เลิกงานแล้วค่อยมาก็ได้ จะดีกว่า พี่จะได้ไม่ต้องเสียงาน”
“ไม่ ไม่ไป ไม่เป็นไร เรื่องงานช่างหัวมัน สามีสำคัญกว่า พี่ขออยู่ตั้งแต่ตอนนี้เลย น้องกลับไปเถอะ พี่ขออยู่กับนายสองคน ไป”
“แต่..” นีไม่ได้หันมา แต่ดันมือขวากลับมาชี้หน้าโรส “เรื่องอื่นพี่ยอมได้ แต่เรื่องนี้พี่ยอมไม่ได้ พี่ขอ หวังว่าน้องคงจะเข้าใจ”
“พี่นี” คราวนี้นีหันกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดี
“ไป กลับไป เธออยู่มาทั้งคืนแล้ว ทำไม เรื่องแค่นี้ทำไมพูดยากนัก ที่วันนั้นฉัน..”
“Ok Ok พี่ไม่ต้องพูดแล้ว หนูยอมแล้ว เข้าใจแล้ว พี่อยู่เลย หนูกลับ หนูไปหละ เดี๋ยวเย็นๆจะมาใหม่ก็แล้วกัน” นีจ้องตาไม่กระพริบ
โรสรีบหยิบกระเป๋าสะพายแล้วรีบถอยกรู๊ดออกไปจากห้องทันที เพราะเห็นสีหน้าของนีแล้วเอาแน่ ถ้ายังไม่ยอมออกไปในตอนนี้ โรสพูดยังไงนีก็ไม่ยอม นีจึงใช้ไม้แข็งไม่งั้นโรสไม่ยอมกลับ โรสจึงต้องยอมถอยกลับไปพักผ่อนที่บ้านในวันนี้ จากนั้นนีจึงโทรไปลางานกับเอียดขอหยุดงานกระทันหันด่วน โดยอ้างว่าพ่อไม่สบายมาก ขอกลับโคราชด่วน เนื่องจากเอียดกับวัฒน์ยังไม่รู้เรื่องนี้
ผ่านไปอีก 1 วัน <17 ก.ค.> กุ้งเริ่มรู้สึกตัวในช่วง ตี 5 รู้สึกตัวขึ้นมาเห็นนีนอนกุมือเขาอยู่ ก็รู้สึกแปลกใจ จึงขยับตัว นีรู้สึกตัว ดีใจมากที่กุ้งฟื้น จึงรีบบอกพยาบาลว่ากุ้งฟื้นแล้ว ไม่นาน หลังจากที่พยาบาลออกไป นีก็ดูแลกุ้งเป็นอย่างดี จนกุ้งต้องแปลกใจอีกครั้ง
“นี ฉันขอบใจมากนะ ที่เป็นธุระ ดูแลฉันมาตลอด” กุ้งพูดขณะที่นีกุมมือเขาอยู่
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะนาย ก็นายเป็นที่พึ่ง เป็นผู้มีพระคุณกับนี นีก็ต้องมาดูแลตามหน้าที่ซิคะ อย่าคิดมาก”
นีกุมมือกุ้งไม่ปล่อย โรสเดินเข้ามาพอดี กุ้งหันไปเห็น โรสจ้องไปที่มือของนี แต่ก็ต้องทำใจ เพราะเธอรู้ว่ายังไงนีก็เป็นเมียกุ้งคนนึง จึงฝืนใจเดินยิ้มเข้าไป แต่กุ้งซิกลับต้องเป็นฝ่ายที่ตกใจเสียเอง ไม่คิดว่าโรสจะกลับมาหาเขา เพราะ ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
“โรส หนูมาได้ยังไง” โรสยิ้มและเดินไปนั่งแทนที่นีซึ่งลุกออกมาแล้ว และเอามือเธอกุมมือกุ้งแทนนี
“สามีเจ็บ ไม่สบาย หนูเป็นเมีย ก็ต้องมาดูแลซิค่ะ ทำไมถึงถามหนูแบบนั้น ไม่เอาเดี๋ยวตีตาย รถชนหัวกระแทกกระจกอย่างแรงแค่นี้ สมองฟั่นเฟือนไปแล้วรึไง ถึงจำอะไรไม่ได้ จำเมียตัวเองได้ไหม” โรสเล่นละครไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้นีสงสัย แต่กุ้งงงและสับสน
“เออ..” กุ้งหันไปที่นี นียิ้มให้และก็ลุกเดินมาบอกกุ้ง
"หลังจากที่นายประสบอุบัติเหตุ น้องโรสเค้าก็มาดูแลนายตลอดเลย พอดีเมื่อคืน เธอบอกไม่ไหวไม่ได้นอนทั้งคืน น้ำก็ไม่ได้อาบ ก็เลยโทรให้นีมาช่วยดูแลนายแทนก่อนได้ไหม พอนีรู้ข่าว ก็เลยต้องรีบมาไงค่ะ”
กุ้งพยักหน้า ไม่นานกุ้งก็เริ่มทานอาหารได้ เพราะฟื้นแล้ว มื้อแรกของวันนี้จึงได้ทานข้าวต้มอ่อนๆไปก่อน โดยโรสเป็นคนป้อนให้ นีจึงต้องหลบไปพักใจข้างนอกชั่วคราว จากนั้นโรสก็นั่งเฝ้านอนเฝ้า ผ่านไปจนมื้อเที่ยง โรสเห็นใจนี จึงบอกให้นีมาป้อนอาหารให้หน่อย เธอจะออกไปธุระข้างนอกคุยกับหมอ นีดีใจมากที่โรสเห็นใจเธอ หลังจากทานข้าวทานยาเสร็จ กุ้งก็หลับเพราะพิษยา
***** ฿฿฿฿฿ *****
ทางด้านดาว สิงห์ก็มาป้อนและมาดูแลเป็นอย่างดี ป้อนข้าวป้อนน้ำอย่างดีจนดาวยอมอ้าปากพูดกับสิงห์ครั้งแรกเมื่อร่างกายเริ่มแข็งแรงดีขึ้น
“จับฉันมาทำไม” สิงห์ขยับมานั่งข้างๆทางซ้ายดาว แล้วเอามือซ้ายเชยคาง
“ดาวฉันขอโทษที่ทำเธอแบบนั้นนะ” สิงห์ขยับหน้าไปหอมแก้มซ้าย ดาวขยับหน้าหนี จนสิงห์ต้องวืด หอมลมไป
“ขอโทษเหรอสิงห์ จับฉันมาขึงพืดแล้วรุมข่มขืน รุมโทรมฉันอย่างนั้น ไม่ตายก็บุญแล้ว ยังจะมีน้ำหน้ามาพูดว่าขอโทษ ถุย มันง่ายไปไหม” สิงห์พยายามใจเย็น ไม่งั้นจะเสียงานใหญ่ จึงเข้ามาปลอบประโลมและเอาใจดาว
“น่าที่ฉันทำไปเพราะฉันรักเธอจริงๆนะ” ดาวใช้มือขวาตบหน้าสิงห์ทางซ้ายอย่างแรง
“รักเหรอ ถุย คนรักกันเขาทำทารุณกันแบบนี้เหรอ ฉันไม่ได้รักแก” ดาวพูดใส่หน้าสิงห์
“น่า แต่ฉันรักเธอจริงๆนะ รักมากก็เลยแสดงออกมากไปหน่อย ก็เธอฤทธิ์มากนักนี่ ก็ถ้าวันนั้น เธอไม่เอาฉันเข้าคุก เหตุการณ์แบบนี้มันคงไม่เกิดหรอก น่า ไหนๆเราสองคนก็เป็นผัวเมียกันแล้ว ช่วยงานผัวตัวเองหน่อยซิ นะ นะจ๊ะเมียจ๋า เมียน่ารักจะตาย นะนะ”
“ไม่ ฉันไม่ช่วยอะไรแกทั้งนั้น อีกอย่างฉันก็ไม่ถือว่าแกเป็นผัวฉัน เพราะฉันไม่ได้รักแก แกข่มขืนฉัน คอยดูนะถ้าฉันออกไปได้เมื่อไหร่ ฉันจะเอาตำรวจมาลากพวกแกเข้าตารางให้หมดเลย” สิงห์ทนไม่ไหวแล้วจึงตบหน้าดาวทันที Back Hand ไปที่แก้มขวา
“ไอ้สัส เอาซิ จะฆ่าจะแกงยังไง มึงก็ทำเลย จะมาทรมานกูอยู่อีกทำไมไอ้เหี๊ย” สิงห์เอามือบีบปากดาวเอาไว้ แล้วชี้หน้า
“ถ้ามึงยังทำตัวแบบนี้ เดี๋ยวมึงจะโดนอีกเป็นครั้งที่สอง จะเอาไหม”
“ไม่เอาไม่เอา” ดาวยกมือไหว้สิงห์
“ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัวและโดนแบบนั้นอีกมึงต้องทำงานให้กู” ดาวพยักหน้า
“ได้ๆฉันจะทำ แต่อย่ามัดฉันอีกนะฉันกลัว” สิง์เดินเข้ามา จับหน้าดาวหันมาแล้วก้มลงไปจูบปากอยู่นานแล้วปล่อย
“และเป็นเมียกู ทำให้กูมีความสุข บำเรอกูทุกวันๆละ 4 เวลา เช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน อยู่กับกูห้ามหนีไปไหน ทำได้ไหม ถ้าทำได้ มึงจะไปไหนมาไหนก็ได้อย่างอิสระที่นี่ ว่าไง จะทำไหม กูให้มึงเก็บเอาไปคิด พรุ่งนี้กูจะมาเอาคำตอบ”
***** >>><<< *****
<18 ก.ค.> วัฒน์กับเอียด เมื่อรู้ข่าว จึงรีบมาทันทีที่โรงพยาบาล นีเดินลงมาซื้ออาหารทานกำลังจะขึ้นลิฟท์ มองเห็นสองพ่อลูก จึงรีบหลบและโทรบอกโรสทันที
“น้องโรส คุณวัฒน์กับน้องเอียดมา อย่าบอกนะ ว่าพี่อยู่ที่นี่ นะขอร้องเพราะพี่โกหกเขาสองคนไว้”
“ได้ค่ะพี่” พอวางสายสองคนเดินเข้ามาพอดี
“สวัสดีค่ะคุณอา พี่เอียด” ทั้งสองรับไหว้ และหาที่นั่ง
“เป็นไงบ้างโรสพี่กุ้งหนะ” เอียดถามก่อนเลย
“หน้าอกช้ำไม่มีเลือดคั่ง หัวแตกหลังขวาเย็บไปประมาณ 7 เข็ม ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”
“ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก เอ้อ แล้วเป็นไงมาไงถึงมาเฝ้าเจ้ากุ้งได้หละ” วัฒน์ถามเพราะอยากรู้
“อ๋อ วันนั้นพอดี หนูฟัง จ.ส.100 อยู่พอดี ข่าวพี่กุ้งออกมา หนูก็เลยรีบมา มันไม่อะไรมากนักหรอกค่ะ แล้วคุณอาหละคะ รู้ได้ยังไง”
“เมฆมันโทรไปบอก เพราะมันบอกว่ากำลังตามคดีให้อยู่ แต่ฟังดูแล้ว ค่อนข้างจะยาก เพราะหาหลักฐานอะไรไม่ได้เลย”
เอียดลุกขึ้นไปเดินดูพี่ชายรอบๆเตียง “พี่กุ้ง ทำไมถึงโชคร้ายอย่างนี้เนี่ย” เอียดมองดูสายน้ำเกลือที่แขนซ้าย หัวก็มีผ้าพันแผล
“แล้วนี่พี่กุ้งตื่นมาบ้างรึยัง” โรสหันไปตอบ
“ฟื้นตั้งแต่เมื่อวานตอนตี 5 แล้วพี่ นี่ก็พึ่งทานยาไปหลังอาหารเช้า หมอบอกให้พักเยอะๆ จะได้หายไวๆ” วัฒน์ดีใจที่โรสมาดูแลกุ้ง
“อาขอบใจโรสมากนะที่มาดูแลมัน มันตัวคนเดียว ยังไงแล้ว โรสอย่าทิ้งมันนะ อาขอร้อง”
“คุณอาคะ อย่าได้ห่วงไปเลย อารู้ใช่ไหมว่าหนูกับพี่กุ้งเป็นอะไรกัน” เอียดเดินเข้ามา พูดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เมีย” วัฒน์มองหน้าเอียด
“รู้แล้วจะพูดทำไม ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้น ไม่พูดก็ไม่มีใครเค้าว่าเป็นใบ้หรอก”
เอียดหันหน้าหนีออกไปทางประตูพอดี เหมือนว่าจะเห็นนี จึงรีบวิ่งออกไปดูทันที แต่พอออกไปก็มองไม่เห็นเสียแล้ว จึงเดินกลับมา วัฒน์ถาม
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงรีบวิ่งออกไปแบบนั้น” เอียดยืนคิด เท่าไหร่ก็คิดไม่ตก
“เราว่ายังไง ก็ต้องใช่” โรสใจไม่ดี
“เมื่อกี้หนูว่า หนูเห็นพี่นีที่นี่นะพ่อ” วัฒน์หัวเราะ
“จะเป็นไปได้ยังไง เจ้านีมันกลับโคราช พ่อมันป่วย แกนี่คิดมากอีกแล้ว มามานั่ง”
“แต่..” โรสรีบบอกทันที
“คงไม่ใช่หรอกค่ะพี่เอียด หนูเฝ้าพี่กุ้งมานี่ก็จะ 3 วันแล้ว ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย นอกจากพี่กับคุณอานี่แหละ”
ยังไงเอียดก็เชื่อสายตาตัวเอง นีโชคดีที่หลบทันไม่งั้นยุ่งแน่
“อีกอย่างพี่นีเค้าจะมาทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่กุ้งสักหน่อย” เอียดไม่อยากคิดจึงต้องทำใจ ก็มันจับไม่ได้คาหนังคาเขานี่ วัฒน์กับเอียดอยู่ไม่นาน ก่อนเที่ยงก็กลับ นีจึงกลับเข้ามาที่ห้องได้ รอดไปวันนี้
<<<<< ===== >>>>>
ดาวนอนคิดมา 1 คืน คิดในใจในเมื่อไม่มีทางออกแล้ว ทางเดียวที่จะมีชีวิตรอดไปเจอกุ้งได้ก็คือ ต้องยอมมัน
“พี่กุ้งดาวต้องขอโทษด้วยนะที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อรักษาชีวิตกลับไปเจอพี่ให้ได้ อภัยในความเลวร้ายครั้งนี้ของเมียด้วยนะผัวขา”
ดาวไม่มีทางเลือก ต้องยอมเป็นทาสบำเรอกามให้กับสิงห์ตั้งแต่วินาทีนั้น สิงห์ดันตัวดาวลงไปกับที่นอนและเริ่มขยี้โลกีย์ดาวทันที
----- ^^^^^ -----
แต่ความลับไม่มีในโลก วันนี้กุ้งได้รู้ความจริงว่า คืนนั้นคนที่นอนอยู่กับเขาจริงๆคือนี ไม่ใช่โรส ที่กุ้งรู้โดยบังเอิญเพราะทั้งสองคนกำลังนั่งคุยกันถึงเรื่องในคืนนั้นอยู่ กุ้งตื่นขึ้นมาแต่สองคนนั้นไม่รู้กำลังคุยกันติดพัน กุ้งจึงแกล้งหลับต่อและฟังต่อไปอย่างเงียบๆ
“น้องโรส พี่ต้องขอขอบใจน้อง จากใจจริงๆอีกครั้งนะ สำหรับเรื่องในวันนั้น ขอบใจมากที่น้องไม่บอกใคร ว่าพี่เป็นอะไรกับนาย”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่หนูเข้าใจ พี่ไม่ได้เป็นคนเริ่ม พี่กุ้งต่างหากที่เมามากจนทำอะไรบ้าๆลงไป พี่เองก็เก่งและใจเด็ดนะคะ ที่ยอมได้ถึงขนาดนี้ หลบหน้าคนที่เรารักได้ ไม่แสดงความเป็นเจ้าของ ทำตัวอยู่เงียบๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนูนับถือพี่จริงๆ เป็นหนู หนูไม่ยอมหรอก ปล้ำเราขนาดนี้จนต้องเสียตัวเสียความบริสุทธิ์ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ยังไงหนูก็ถือว่าพี่เป็นเมียพี่กุ้งอีกคนนะ หนูยอมรับพี่”
“ขอบใจนะที่เข้าใจและยอมรับพี่ หายากนะที่เมียคนนึงจะยอมรับเมียอีกคนนึงได้ แต่ถึงยังไงพี่ก็ขอขอบใจน้องจากใจจริงๆเลย”
โรสจับมือนี และตีเบาๆ “ถ้าพี่ไม่ให้หนูสลับตัววันนั้น หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกันที่จะให้พี่กุ้งคืนดีกับหนูได้เร็วขนาดนี้”
“พี่เข้าใจ คืนนั้นถ้านายไม่เมามากจนขาดสติ ก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอก แต่พี่ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่า เมาขนาดนั้น ไม่รู้ว่านายขับรถไปหาพี่ได้ยังไง ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยไป สงสัยคงไม่มีที่ไปจริงๆ”
นีหัวเราะออกมาเบาๆ โรสก็เช่นกัน ทำเป็นเรื่องตลกซะจะได้ไม่เครียดกัน แล้วนีก็ จ้องหน้าโรส และเอามือลูบหน้าลูบแก้ม
“แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆเรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว พี่เต็มใจเองไม่ได้ถูกใครบังคับ น้องโรสอย่าได้คิดมากเลย ที่จริงบุญคุณอะไรนั่น มันก็ไม่สามารถที่จะเอาอะไรมาทดแทนได้หรอก เพราะความดีมากกว่า นายเป็นคนดี ที่พี่รักนาย พี่รักตรงนี้มากกว่า นายน่ารัก เสมอต้น เสมอปลาย ดีกับพี่มาตลอด” นีตาเป็นประกายมีความสุขเวลาที่พูดถึงกุ้งทุกครั้ง จนโรสเนี่ยอิฉาเลย
“แหม พี่พอพูดถึงคนที่รักเนี่ย ตาเป็นประกายเลยนะ” นีกำลังแกะส้มเขียวหวานก็พูดไปด้วย
“ก็มันจริงนี่ แค่พี่ได้เห็นหน้าเค้า ได้ยินเสียงเค้า พี่ก็มีความสุขแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ครอบครอง พี่ก็ไม่ว่าอะไร ขอแค่ได้รู้ว่าคนที่เรารักอยู่สุขสบายดี แค่นี้พี่ก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว จริงไหมน้องโรส” โรสงงว่านีปลอกส้มเยอะแยะไปทำไม ทำไมถึงไม่ทานเอง
“จริงพี่ หนูก็คิดแบบนั้นแหละ จำไว้นะพี่ ระหว่างเราสองคน ไม่มีคำว่าเมียน้อยเมียหลวงนะ หนูขอเรียกว่าเมียคนแรกและเมียคนที่สอง” โรสชี้ไปที่ตัวเองและนี ทั้งสองหัวเราะกันอย่างมีความสุข เมียทั้งสองเข้ากันได้ดี เพราะนีไม่ได้มาวุ่นวายอะไร โรสเลยชอบ
กุ้งนอนคิดไปด้วยระหว่างนั้น กุ้งจำได้ลางๆว่าคืนนั้นเขาไปหานีที่คอนโด แล้วจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย พอตื่นมาก็นอนกอดโรสอยู่ในสภาพเปลือย แต่พอได้ฟังสิ่งที่ทั้งสองคุยกันในวันนี้ กุ้งจึงเริ่มประติดประต่อเรื่องได้เองโดยอัตโนมัติทันที พอรู้ตัวว่าทำผิดมหันมากกับนี กุ้งเลยเสียใจ
“นี่แสดงว่าคนที่เรามีอะไรด้วยในคืนนั้นก็ไม่ใช่โรส แต่กลับเป็นนีอย่างนั้นเหรอ ไอ้กุ้ง แกทำอะไรลงไป ทำได้ยังไง ช่างเลวสิ้นดีเลยนะมึงไอ้กุ้ง” พอแกะได้เยอะพอประมาณนีก็ยกไปวางไว้ที่โต๊ะทานอาหาร โรสจึงเข้าใจ
“แหม แกะให้คุณสามีนี่เอง น่ารักนะคะพี่เนี่ย นี่ถ้าพี่กุ้งรู้นะว่าพี่รักและเป็นห่วงพี่เค้าแบบนี้ มิรักตายเลยเหรอ”
“น้องโรสก็พูดเกินไป เรื่องเล็กๆน้อยๆค่ะ น้องก็ทำได้ ทำแค่นี้ไม่ถึงกะต้องให้มารักมากมายหรอก มันต้องทำแบบอื่นต่างหาก”
นีพูดโดยไม่หันมา เพราะกำลังมองดูกุ้งที่หลับพักผ่อนอยู่ ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ถึงอก เอามือปัดหน้าปัดผม และดูสายน้ำเกลือ
“แบบไหนหละคะพี่ บอกหนูหน่อยซิที่สามารถจะมัดใจสามีได้ เพื่อให้อยู่กับเรานานๆ” นีหันหน้ามา
“นายชอบทานอาหาร น้องโรสก็ต้องทำอาหารให้นายทานบ่อยๆ ใจเย็นมีเหตุผล อย่าทำตัวเก่งกว่าสามี ถึงเราจะเก่งกว่าก็จริง”
“พูดง่ายๆ ยอม ใช่ไหมคะ” โรสตอบแทน
“ถูกต้อง เพราะนายชอบคนที่เอาใจ และตามใจ น้องโรสไม่เคยสังเกตุเหรอ ว่าเวลาใครยอมหรือตามใจ ก็จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย มีแต่ได้กับได้” นีพูดไปและก็ยิ้มไปในตัวทุกครั้งเพราะมีความสุขที่ได้ดูแลคนรัก
“เหมือนพี่ใช่ไหมคะที่ยอมพี่กุ้งทุกอย่างทุกเรื่อง ถึงได้มาอยู่ที่คอนโดหรูฟรีๆ ยอมย้ายมาเป็นเลขาที่นี่ ได้รถประจำตำแหน่ง และได้เงินเดือนเพิ่ม แบบนี้ใช่ไหมคะ” นีไม่ขอตอบอะไร
“นั่นมันก็แล้วแต่น้องจะคิดนะ ใครจะมองว่าพี่อ่อย พี่จับเจ้านาย มันก็แล้วแต่ พี่ห้ามคนเหล่านั้นไม่ได้ ที่พี่ทำก็เพราะพี่อยากทำ เต็มใจ คนอย่างพี่ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ถ้าไม่เต็มใจซะอย่าง ก็หมดสิทธิ์เข้าถึงตัว” พยาบาลเข้ามาตรวจและวัดความดันพอดี
“ขอขัดจังหวะสักครู่นะคะ ขอตรวจวัดชีพจรและความดันคนไข้หน่อย”
“ตามสบายค่ะ” นีขยับตัวมานั่งที่โซฟา
“คนไข้ ขอวัดความดันหน่อยนะคะ” กุ้งลืมตาขึ้นมา เพราะพยาบาลสะกิด เพื่อจะถามอาการ
\\\\\ +++++ \\\\\
หลังจากที่ดาวยอมบำเรอกามให้กับสิงห์โดยดีทุกวัน ก็ได้อิสระจริงๆและไม่เจ็บตัวอีกเลย หลายวันต่อมา <24 ก.ค.> สิงห์จึงบอกดาวว่าจับตัวมาทำไม
“ฉันอยากรู้ว่าคนที่แกอยู่ด้วยที่บ้านนั้นเป็นใคร” แล้วสิงห์ก็โยนรูปกุ้งให้ดาวดูหลังจากที่เสร็จกิจในตอนเช้า
“นี่มันรูปพี่กุ้งผัวฉันนี่ แกได้มายังไง และแกต้องการอะไร” สิงห์เอามือลูบริมฝีปาก
“ทำไมกูถึงดวงดีแบบนี้วะ ไม่นึกว่า กูจะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้เร็วขนาดนี้ งั้นดีเลย มึงรู้ใช่ไหมว่าไอ้นี่เป็นเจ้าของแสงตะวัน”
“ใช่ แล้วแกถามทำไม ผัวฉันเป็นเจ้าของโคนมที่ปากช่อง” สิงห์จ้องหน้าดาวและก็เอารูปกุ้งตีไปที่แก้มของดาว
“มึงต้องไปเอาโฉนดที่ดินแปลงที่อยู่หลังเนินเขามาให้กู” ดาวจ้องหน้าสิงห์
“ไม่ กูไม่ทำ” สิงห์จากอารมณ์ดีๆก็ตบเข้าให้อีก จนดาวเลือดกลบปากทันที แล้วก็จะปล้ำอีก ดาวรีบรับปาก
“ได้ๆ ฉันจะไปเอามาให้ แต่อย่าข่มขืนฉันนะ” สิงห์รีบลุกขึ้นมาทันที
“มันก็เท่านี้ ชอบให้อารมณ์เสียและเจ็บตัว มึงจะทำวิธีไหนก็ได้ จะขโมย ขอให้มันขายดีๆราคาถูกๆหรือมอบให้มึงเพราะความเสน่ห์หาฟรีๆนั่นมันก็แล้วแต่มึง แต่มึงต้องไปเอาโฉนดตรงนั้นมาให้กูให้ได้ โดยเร็วที่สุด ทำได้ไหม”
“ได้ๆ แล้วตอนนี้จะบอกกูได้หรือยัง ว่าตอนนี้มึงจับกูมาขังไว้ที่ไหน ในเมื่อมึงไม่ยอมให้กูออกไปไหนเลย ให้อยู่บำเรอกามมึงแต่ในห้องนี้มาตลอดเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว โทรศัพท์ก็ยึดของกูไป ทีวีก็ไม่มีให้กูดู นี่กูไม่ใช่นักโทษนะไอ้เหี๊ย เสื้อผ้ากูก็ไม่มีใส่ ไอ้สัส”
สิงห์จึงลากตัวดาวออกมาให้เห็นดาวเห็นเดือนสักทีทั้งเปลือยๆนั่นแหละ
“น้ำๆทั้งนั้นเลย นี่แกจับฉันมาไว้ที่ไหนเนี่ย ทะเลเหรอ” ดาวหันกลับมาถามสิงห์
“ใช่ทะเล แต่อย่ารู้เลยว่าที่ไหน ไม่ไกลจากที่ผัวมึงอยู่หรอก ถ้ามึงทำตัวดีๆ ไม่แผลงฤทธิ์กับกู เชื่อฟังและตามใจกู ไม่เรื่องมาก แล้วกูจะปล่อยมึงไปหาไอ้กุ้งผัวมึงเพื่อเอาโฉนดมาให้กู แต่ตอนนี้กูขอเก็บดอกเบี้ยต่อก่อนก็แล้วกัน เพราะมึงทำให้กูอารมณ์เสียเมื่อกี้”
สิงห์กลับคำเสียแล้วที่บอกว่าจะไม่ข่มขืน โดยแกล้งเอาความผิดเล็กๆน้อยๆมาอ้าง
“อย่า อย่านะ ไหนบอกว่าจะไม่ทำกูไง ไอ้เหี๊ย ไอ้สัส ปล่อยกู ปล่อย” สิงห์ไม่สนใจ ต่อยท้องดาวแล้วอุ้มไปทันทีทั้งๆที่เปลือยนี่แหละ
>>>>> ***** <<<<<
<25 ก.ค.> หลังจากอาการกุ้งเริ่มหายดี จึงพาโรสมาสวีทหวาน เก็บบรรยากาศ ที่เคยหายไปนานกลับคืนมาอีกครั้ง ตอนนี้โรสให้รถของเธอกับกุ้งไว้ใช้ จนกว่ารถของกุ้งจะซ่อมเสร็จ ที่เขาดินกุ้งกับโรสกำลังโรแมนติคกันอยู่ ขณะที่ปั่นจักรยานน้ำ กุ้งก็แซวโรสขึ้นมา
“ดูอ้วนขึ้นนะเราหนะ ยังกะแม่หมูเข้าไปทุกวันแล้ว” โรสเอามือทุบไปที่ไหล่กุ้งเบาๆ แค่หยอก แก้เขิน
“บ้าพี่เนี่ย มาว่าหนู เขาเรียกอวบหยะ ก็ผัวเลี้ยงดี หุ่นมันก็เลยเป็นแบบนี้ พอมีความสุขมันก็กินได้ ร่างกายก็เลยเจริญสมบูรณ์ไง”
“หรา แต่พี่ไม่ชอบหมูตอนนะ” โรสหยิกที่อกกุ้ง
“บ้า” กุ้งบีบมือโรสไว้แล้วหอม
“บ้าอีกแล้ว ไม่มีคำอื่นแล้วรึไง พี่ขอซื้อได้ไหมคำนี้หนะ” โรสยิ้มให้
“ไม่ขาย” กุ้งต่อรอง “งั้นขอ” โรสแกล้ง “ไม่ให้”
“แล้วจะให้ทำไงหละถึงจะไม่ได้ยินอีกเนี่ย” โรสเอาหน้ามาซบที่อก
“ต่อไปหนูจะไม่พูดอีกแล้ว ดีไหม”
“จริงนะ” โรสพยักหน้า
“ค่ะ” กุ้งเลยแกล้งลองใจ เอียงจักรยานให้โคลงไปมา
“ระวัง” กุ้งหัวเราะ “บ้าจริง พี่กุ้ง ทำอะไร”
“นั่นไง บ้าอีกแล้ว พูดไม่ทันขาดคำ” โรสทุบไหล่กุ้งใหญ่เลย
“บ้าๆๆๆๆๆ” กุ้งเอามือมากอดโรสไว้และหัวเราะ
“ก็หนูตกใจนี่” โรสยิ้มแล้วก็นั่งซบอกกุ้ง ลงจากจักรยานน้ำแล้วก็พากันเดินชมสัตว์ต่างๆแบบมีความสุข
ไม่นานก็หาที่นั่งพัก กุ้งก็พูดขึ้นมาลอยๆ แบบไม่มีปี่มีขุล่ย และเอนหัวนอนหนุนตักโรส
“พ่อหนูอุตส่าห์ยกบริษัทน้ำดื่มให้บริหารก็ไม่เอา ดันไปยกให้สร้อยซะเนี่ย แปลกดีไหมเมียพี่”
“ก็หนูสงสารเขา อย่างน้อยอาแพรก็เป็นน้องสาวคุณพ่อ เขาก็ควรจะได้อะไรบ้าง ยัยสร้อยก็ยังเด็ก ไหนจะลูกเล็กๆอีก ตอนนี้หนูก็เป็นป้าคนแล้ว หนูก็แค่อยากจะให้สองแม่ลูกนี้เค้ามีสมบัติติดตัวไว้เลี้ยงตัวเองบ้าง ได้สักอย่างนึงก็ยังดี ก็เท่านั้น มรดกชิ้นนี้ก็ต้องบริหารและรักษากันเอาเอง ถ้าเจ๊งมาก็ช่วยไม่ได้” โรสคุยไป นั่งหาอะไรแหย่กุ้งไปด้วยเพลินๆ
“พี่ว่าไม่มีทางเจ๊งหรอก พ่อหนูสร้างมาขนาดนี้ คงไม่ปล่อยให้น้องสาวทำมันเจ๊งหรอก เชื่อพี่เถอะ อย่างน้อย ก็คงต้องเป็นที่ปรึกษาให้อีกนาน ว่าแต่หนูเถอะ ว่างงานแบบนี้ ต่อจะไม่รอดนะ ถ้าพี่ไม่อยู่สักคน”
โรสอารมณ์เสียทันที ที่ได้ยินประโยคนี้ ดันกุ้งออกจากตักตัวเองทันที กุ้งหันไปมองหน้าโรสแบบงง ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ทำไม เมียคนเดียวเลี้ยงไม่ได้รึไง และคราวหลังห้ามพูดแบบนี้อีกนะ หนูไม่ชอบ ถ้าพี่ไม่อยู่ แล้วพี่จะไปไหน”
“พี่พูดเล่น พี่แค่จะเปรียบเทียบเฉยๆว่า ถ้าไม่มีพี่หนูจะทำยังไง”
“หนูตอบไม่ได้หรอกพี่ หนูไม่ได้เป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน รู้อนาคต หนูอยู่กับปัจจุบัน”
“ครับพี่ขอโทษ ไป ไปทางโน้นกันดีกว่า ปัจจุบันมีพี่กับหนู ก็พอแล้วเนาะ” โรสพยักหน้า
“ถูกต้องครับผม มีสามีสุดที่รัก และมีเมียที่รักพี่ แค่นี้ หนูก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ไปคะ เดี๋ยวจะมืด เราจะดูกันไม่ทั่ว”
>>>>> ***** <<<<<
หลังจากกุ้งไปส่งโรสที่บ้านตอนค่ำประมาณ 2 ทุ่ม ก็ขับรถออกมาและตรงดิ่งไปยังคอนโดของเขา ที่นีอาศัยอยู่ทันที <ติ๊งหน่อง>
“มาแล้วๆใจเย็นๆ” นีส่องดูที่รูกระจก
“นาย มาทำไม” แล้วนีก็เปิด กุ้งดันประตูและเดินเข้าไป ทั้งๆที่นียังไม่ได้เชิญ นีรีบดึงแขนขวา
“นายมาทำไม รีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวถ้าคนอื่นเห็นเข้า มันจะไม่ดี คนในบริษัทตั้งหลายคนก็อยู่ที่นี่และชั้นนี้ด้วย นายกลับไปเถอะนะ นะนีขอร้องคนดี นี่มันก็ 3 ทุ่มกว่าแล้ว” กุ้งไม่สนใจ ปิดประตูทันทีและล๊อคห้องด้วยเลยทีนี้
“นายจะทำอะไรหนะ ล๊อกห้องทำไม”
นีเริ่มกลัวว่ากุ้งจะทำอะไรเนี่ย เริ่มขยับชุดตัวเองแล้ว วันนั้นก็เมา วันนี้ไม่เมาจะเอายังไงหละทีนี้ ชุดนอนไม่ได้นอนก็แสนจะบาง
“นี่มันห้องฉัน ฉันจะมาเมื่อไร่ก็ได้ ใครๆก็รู้ แล้วจะไปกลัวทำไม” กุ้งมานั่งลงที่โซฟา นีเริ่มใจไม่ดียังคงยืนอยู่ กุ้งมองหน้าและพูด
“เป็นอะไร เมื่อวันก่อนก็ยังดีๆอยู่เลย อะไร พอฉันหายแล้วเปลี่ยนไปคนละคนเลยเหรอนี มามานี่ มานั่งตรงนี้ ข้างๆฉันนี่ มา”
กุ้งตบเบาะ3-4 ครั้ง นีไม่กล้าขัดใจจึงค่อยๆเดินมานั่งลงข้างๆ พอนั่งปุ๊บ กุ้งก็กอดปั๊บ และหอมนีที่แก้มขวาทันที นีตกใจรีบลุกหนี
“นาย ทำอะไร นายอย่าเล่นอะไรบ้าๆนะ นีไม่ชอบ มีธุระอะไรก็รีบบอกนีมาเลย นีจะทำให้ เดี๋ยวนีขอเข้าไปเอาสมุดกับปากกาก่อน”
กุ้งลุกขึ้นไปเอามือบังประตูห้องนอนไว้และมองหน้านี จนนีต้องหลบสายตา กุ้งจึงกระซิบเบาๆที่หูขวา
“รักฉันไหม” นีหันไปมองหน้ากุ้ง
“นาย” กุ้งถามอีกครั้งเบาๆ
“ว่าไง ตอบฉันมา รักฉันไหม” นีเดินหนีไปนั่งที่โซฟาแล้วเงียบ กุ้งเดินตามมานั่งข้างๆแล้ว ถามดีๆอีกครั้ง
“ฉันถามเธอก็แค่ตอบ ว่าไง รักฉันไหม” นีพยักหน้าเล็กน้อย กุ้งเอื้อมมือขวาไปจับคางของนีให้หันกลับมา
“ไม่เอา พูด ฉันต้องการได้ยินเสียงจากปากเธอเท่านั้น นี” แล้วกุ้งก็ร้องเพลงให้นีฟัง พร้อมกับกอดนีเอาไว้
< ดอกไม้ยังงดงาม - รามจิตติ หงส์สกุล > https://youtu.be/C7084PDuBGo
นีหันกลับมาทั้งตัวและทรุดตัวลงจากโซฟา จับมือกุ้งและก้มหน้าพูดเบาๆไม่ดังมาก
“รัก รักคะ” กุ้งดึงตัวนีขึ้นมาแล้วมองหน้า
“รักแล้วทำไม ถึงไม่บอก รักแล้วทำไมถึงไม่แสดงตัว รักแล้วทำไมถึงต้องเสียสละขนาดนี้” กุ้งดึงนีเข้ามากอดและกระซิบที่หูนีเบาๆ
“ฉันรู้ความจริงหมดแล้วนะเรื่องนั้นหนะ” นีตกใจมาก
“นาย” นีดันตัวออกมา กุ้งเอานิ้วมือเช็ดน้ำตาให้นีขณะที่มันไหลซึมออกมา
“เรื่องที่เธอเป็นเมียฉันและสับตัวกับโรสในวันนั้น ฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะที่อะไรลงไปด้วยความเมาและได้เธอโดยไม่เจตนา”
นีเอานิ้วมือปิดปากกุ้ง “ไม่คะ นีไม่ขอยอมรับตำแหน่งนี้” กุ้งดันมือออกและถามต่อ “ทำไมหละในเมื่อ..”
“นีขอแค่ได้อยู่รับใช้คุณ คนที่นีรัก ตอบแทนบุญคุณไปตลอดชีวิตแบบนี้ก็พอ ไม่ขอเรียกร้องอะไร จะให้นีเป็นอะไร ก็ได้ เมียเก็บ นางบำเรอ กิ๊กหรือนางทาส นีรับได้หมด ขอเพียงอย่างเดียว ขอให้คุณกุ้งอย่าเกลียดและไปจากนีก็พอ เพราะนีไม่อยากเก็บซ่อนความรู้สึกนี้อีกแล้ว ขอแค่คุณกุ้งเมตตานีบ้าง มาหาบ้างก็พอ เพราะคุณกุ้งมีคุณโรสอยู่แล้ว นีไม่บังอาจขึ้นไปเทียบเท่าเธอหรอกค่ะ”
“นี ทำไมถึงพูดแบบนั้นหละ ฉันไม่เคยเกลียดเธอเลยนะ ฉันยอมรับว่าเมื่อก่อนฉันไม่เคยรักและชอบเธอ แต่ทันทีที่ฉันรู้ว่าฉันได้ทำผิดกับเธอไปแล้ว ฉันก็มาคิดได้ ว่าตลอดเวลาฉันมองข้ามคนที่ดีกับฉันที่สุดมาตลอดได้ยังไง เที่ยววิ่งตามหาความรักความเข้าใจจากอีกหลายต่อหลายคนทำไม ในเมื่อคนๆนั้นนั่งอยู่ตรงหน้าฉันนี่แล้ว” วันทนีย์กอดกุ้งทันทีเมื่อกุ้งเปิดเผยความนัยให้ได้ยิน
“ฉันพึ่งรู้ตัว ว่าฉันรักเธอ ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ฉันอาจจะหลงลืมตรงนั้นไป แต่ตอนนี้ เมื่อฉันรู้ใจตัวเองแล้ว นี ให้โอกาสฉันได้แก้ตัวกับเธอสักครั้งจะได้ไหม อยู่กับฉัน อยู่ดูแลฉันไปตลอดชีวิตเหมือนที่ผ่านมาจะได้ไหมฉันขอร้อง ฉันรักเธอจริงๆนะ”
วันทนีย์พยักหน้า กุ้งดีใจมาก ดันตัวนีออกมาแล้วจูบที่ปากนีอยู่นาน แล้วถอนออกมา
“ฉันรักเธอ แล้วเธอหละ รักฉันไหม”
“รักคะ” กุ้งเช็ดน้ำตาแล้วถามต่อ
“มากไหม” นีเอามือเช็ดแก้มเช็ดหน้า แล้วจุ๊บไป 1 ที
“มาก มากที่สุด มากกว่าชีวิตของนีอีก” กุ้งโอบกอดหอมแก้มนี
“งานก็ส่วนงาน รักก็ส่วนรัก นีขอแค่นี้” ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจของนี ว่าทำไมถึงได้พูดออกมาอย่างนั้น อาจเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของนีก็ได้ ที่จำได้อย่างเดียวว่า กุ้งคือเจ้าชีวิตของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะกุ้งคือคนที่ช่วยและชุบชีวิต
ใหม่ให้เธอเมื่อ 4 ปีที่แล้วนั่นเอง กุ้งมองหน้านี แล้วก็เลื่อนมือมาจับไหล่นีทั้งสองข้างและพูดกับนีเบาๆ
“ต่อไปนี้ ไม่ต้องเรียกฉันว่านายอีกแล้วนะ เพราะเธอคือเมียของฉัน ให้เรียกว่า พี่กุ้ง เหมือนที่โรสเรียก เข้าใจไหม” นีพยักหน้า
“ค่ะพี่กุ้ง” กุ้งดึงตัวนีเข้ามากอดและลูบที่หลังเบาๆ
“ไม่เอาไม่ร้อง พี่รักหนูนะ เป็นเมียพี่ ต้องเข้มแข็งและอดทน”
“นี” กุ้งรีบยกมือทำปากจุ๊ๆทันที
“ไม่เอาๆ ไหนพูดใหม่ซิ” นีรีบเปลี่ยนสรรพนามตามที่สามีบอกทันที
“หนู” กุ้งหอมแก้มให้รางวัล
“เก่งมาก ดีมาก ถูกต้องเป็นเมียพี่ ต้องพูดแบบนี้” กุ้งจูบหัวและหอมแก้มทั้งสองข้างของนีตลอดเวลา
กุ้งดึงแหวนเพชรขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อวงนึง จับมือซ้ายของนีขึ้นมา
“พี่กุ้ง” กุ้งบรรจงสวมแหวนเพชรน้ำงามให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเมีย นีน้ำตาไหลพรากทันทีเมื่อกุ้งสวมแหวนเพชรราคาแพงให้ แล้วกุ้งก็ก้มลงไปจูบที่มือ นีโผเข้ากอดกุ้งและหอมแก้มทันที
และจากนั้นก็ไม่รอช้าที่จะทำหน้าที่ของสามีอย่างเต็มตัวเสียที กุ้งบรรจงอุ้มนีจากโซฟา แล้ววางลงที่เตียงนอน ถอดชุดนอนของนีออกอย่างช้าๆหมดจนเปลือย นีช่วยถอดชุดของกุ้งออกและบรรเลงเพลงรักกันทันที จนอิ่มเอมแบบไม่ต้องรู้สึกผิดและหลบๆซ่อนๆอีกแล้วจากนี้ต่อไป และตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นมา กุ้งจะมานอนกกนีที่นี่ทุกคืน ตอนเช้านีก็ตื่นขับรถไปทำงานตามปกติ บ่ายก็โทรคุยกัน ตอนเย็นพอเลิกงานปุ๊บ นีก็รีบกลับคอนโดปั๊บทันทีทุกวัน จนเพื่อนๆแซว ทำไมหมู่นี้นีไม่อยู่ทำโอทีล่วงเวลาเหมือนเมื่อก่อนเลย
กิ๊ฟประชาสัมพันธ์และโอปาเรเตอร์เพื่อนสนิทคนหนึ่งของนี แอบเห็นแหวนที่นิ้วตอนที่สแกนนิ้วมือออก เลยถามแบบแซวๆ
“พี่นี เดี๋ยว นี่มันแหวนแต่งงานนี่ พี่แต่งงานแล้วเหรอ ทำไมพวกหนูไม่รู้หละ เมื่อก่อนไม่เห็นมีนี่ ก่อนลาพักร้อนก็ไม่มี” กิ๊ฟสนใจ
“ไหน มีอะไรกันเหรอ” เอียดกับวัฒน์เดินลงมาพอดีเลยถาม กิ๊ฟหันไปบอกเอียด นี่ไงคะบอส ดูซิที่นิ้วนางข้างซ้ายพี่นีหนะ
เอียดเดินไปดู เพราะตอนที่ทำงานอยู่ข้างบนก็ไม่ได้สังเกตุจริงๆ เพราะไม่ได้สนใจอะไร เอียดกับวัฒน์มองดู
“แพงมากนะเนี่ย” เอียดอุทานออกมา
“น้ำงามทีเดียว ดูซิพ่อ ลายแบบนี้มันคุ้นๆนะพ่อ ดูซิ” วัฒน์ก้มดูชัดๆ
“มันคล้ายๆกับร้านที่เราเคยใช้บริการบ่อยๆเลยนะ พ่อนึกดีๆ” ยังไงเอียดก็จำได้ แต่วัฒน์ไม่อยากสนใจ จึงตบไหล่ลูกเบาๆ
“ว่าไงพี่ พอจะบอกน้องสาวคนนี้ได้รึยัง ว่าแต่งงานแล้วเหรอ รู้แล้ว ที่หมู่นี้กลับคอนโดเร็วๆและไม่ทำโอที ก็เพราะแบบนี้นี่เอง”
วันทนีย์ไม่พูดอะไร ยิ้มและเขินนิดๆ เพื่อนรู้จนได้ นี่ขนาดปิดเงียบแล้วนะ จึงได้แต่พยักหน้าแบบอายๆ หน้าแดงขึ้นมาเลยเชียว
“พี่นีไม่บอกหรือแง้มให้หนูกับเพื่อนๆรู้หน่อยเหรอ ว่าสามีผู้โชคดีของพี่หนะเป็นใคร” นีส่ายหน้า
“อย่ารู้เลย พวกแกก็ไม่รู้จักหรอก” กิ๊ฟกับเพื่อนหน้าจ๋อยไปเลย เพราะนีใจแข็งมาก ไม่ยอมบอก ขืนบอกไปก็ ฟ้าพิโรธกันหนะซิจ๊ะ
“ฉันดีใจด้วยนะนี แล้วทำไมไม่เชิญพวกเราบ้างหละ เสียดายจัง เลยไม่ได้เห็นหน้าสามีเธอเลย” วัฒน์อยากรู้จักและเห็นหน้าสามีนี
“ขอบคุณมากค่ะท่าน นีคิดว่ามันไม่จำเป็น นีชอบแบบนี้ สามีนีก็ชอบแบบนี้ เงียบๆไม่อยากจัดให้มันหรูหราและเอิกเริก เก็บเงินเอาไว้ใช้ทำอย่างอื่นดีกว่า ยิ่งเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ เราก็รู้ๆกันอยู่ ฟุ่มเฟือยไม่ได้”
เอียดสังหรณ์ใจแปลกๆ เลยถามคำถามสำคัญ 1 คำถาม เพราะอยากจะสังเกตุอะไรบางอย่าง พูดง่ายๆ จับผิดว่างั้น
“อ้าวในเมื่อแต่งงานแล้ว ทำไม ยังอยู่ที่คอนโดพี่กุ้งอีกหละ ทำไมไม่ออกไปอยู่ที่บ้านสามี ห้องนั้นจะได้เอาไว้ให้คนอื่นอยู่แทน”
“คงจะไม่ได้หรอกค่ะบอส เพราะสามีของพี่ เค้าเป็นนักธุรกิจ ไปๆมาๆอยู่ไม่เป็นที่ ขืนพี่ไปอยู่ก็เหงาตายกันพอดี เวลาเขาว่างเค้าก็มาค้างวันสองวันแล้วเค้าก็ไป พี่เลยไม่ไป อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ได้มีกฎอะไรไม่ใช่เหรอคะ ที่ว่าพนักงานแต่งงานแล้วต้องย้ายออกหนะ”
เอียดจนมุมทุกที ขอสู้อีกตั้ง “แล้วนี่พี่กุ้งรู้เรื่องนี้หรือยัง” เอียดกอดอกถามแบบเสียงแข็ง
“ทราบแล้วค่ะ และนายก็เป็นคนบอกให้พี่อยู่ที่นี่เองไม่ต้องไปไหน ต้องการรู้แค่นี้ใช่ไหมคะบอส” เอียดมองหน้านี นีก็ใช่ย่อย เป็นพี่สะใภ้แล้วนี่ จึงไม่เกรงใจแล้วในตอนนี้
“ถ้าไม่มีอะไร พี่ขอตัวนะคะ ปาดนี้สามีพี่คงนอนรออยู่ที่ห้องแล้วหละ เลยเวลามามากแล้ว นีขอลานะคะท่าน กิ๊ฟพี่ไปหละ ผัวรออยู่”
>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<
โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 45 .. “ ยืนผิดที่ ”
ตอนที่ 44 .. “ ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน ”
Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 319
แสดงความคิดเห็น