ไอฟีลกู๊ด
เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับเข่งปลาทูเป็นของที่ระลึกในงานแต่งงาน
ใช่ครับ มันคือเข่งปลาทูน้อยที่สานด้วยเส้นตอกไม้ไผ่เป็นแผ่นกลมมีขอบสูงขึ้นมา เพียงแต่ไม่มีตัวปลาทูนึ่งนอนอยู่ในนั้น และเหตุผลที่ไม่มีก็เพราะว่ารายการอาหารวันนั้นล้วนเต็มไปด้วยปลาทูน่ะสิครับ ไม่ว่าจะเป็นฉู่ฉี่ปลาทู ปลาทูทอด ยำปลาทู ขนมจีนน้ำยาปลาทู แล้วก็เมี่ยงปลาทู
ขอบอกว่า นี่คืองานแต่งงานที่ผมภูมิใจเอามาก ๆ เพราะว่า...เจ้าบ่าวงานนี้คือเพื่อนสนิทของผมเองครับ ไอ้กู๊ด-กุลวัฒน์ ยังเปรมปรีดิ์ เพื่อนร่วมสถาบันที่เราคลุกคลีตีโมงมาด้วยกันตลอดห้าปีจบจบ ปวส.ช่างกลโรงงานจากวิทยาลัยเทคนิคในตัวจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งของภาคอีสาน
ไม่ใช่แค่ความน่ารักของน้องหมูหยอง เจ้าสาวของไอ้กู๊ดหรอกนะครับ ข้อนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วที่ผมว่าเพื่อนเราตาถึง ตามจีบสาวผมม้า หน้าตาจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย ผิวก็ขาว ร่างเล็กอรชรเหมือนตุ๊กตา แถมยังช่วยพ่อกับแม่ค้าขายจนครองตลาดปลาทูได้ทั้งสองอำเภอ กระทั่งเอาชนะใจน้องและกลายเป็นเจ้าสาวของตัวเองได้ในที่สุด
สิ่งที่พวกเราภูมิใจเป็นพิเศษก็คือ ไอ้กู๊ดมันช่วยสร้างเครดิตให้เด็กช่างอย่างพวกเราได้ยืดอกยืนส่งยิ้มให้ทุกคนในงานแบบไม่ต้องเกรงว่าใครจะหมั่นไส้เลย ก็เทคนิคมัดใจแฟนสาวกับคุณพ่อตาแม่ยายของมันนั่นแหละครับที่ถือว่าโชว์กึ๋นเด็กช่างกลเต็ม ๆ
ขนาดว่าไอ้กู๊ดนี่มีดราม่าตอน ปวช.ด้วยนะครับ มีเรื่องกับวัยรุ่นในซอยติดกันจนเดือดร้อนครูต้องไปเกลี้ยกล่อมผู้ปกครองให้ยอมความ พ่อแม่ใจหายใจคว่ำมาสองสามรอบ แต่พอสอบผ่านขึ้นไปเรียน ปวส.ได้แล้ว ตั้งแต่นั้นมันทำตัวสมชื่อกู๊ดเลยครับ เข้าห้องเรียนจริงจัง พอว่างก็เป็นนักประดิษฐ์ ซ่อมและสร้างเครื่องอะไรต่อมิอะไรของมันจนกองพะเนินเทินทึกอยู่ที่ใต้ถุนหอ แต่ป้าเจ้าของหอก็ไม่เคยด่า ป้าชอบไอ้กู๊ดครับ เพราะมันทำไม้เท้าอัจฉริยะให้ป้าตั้งสองอันสำหรับใช้เวลากลางวันกับกลางคืน
ทีนี้เมื่อคิดจะเป็นลูกเขยแม่ค้าปลาทู ไอ้กู๊ดมันอ่านขาดและใช้วิชานักประดิษฐ์มาหากินครับ ผมไม่แน่ใจว่ามีใครทำเพราะยังไม่เคยเห็น นั่นคือ ปลาทูในตู้หยอดเหรียญ
ไอ้กู๊ดออกแบบตู้ควบคุมอุณหภูมิใส่ปลาทูนึ่งที่ห่อเรียบร้อย เจาะช่องพลาสติกใสสำหรับโชว์ตัวปลาด้วย เวลาคนซื้อก็หยอดเหรียญสิบบาทเข้าไปตามราคา แล้วใช้มืดบิดสลักเพื่อเปิดช่องรับปลาทู ล่าสุดมันบอกว่าผลิตได้สองเครื่องแล้ว และเอาไปให้แม่ยายตั้งไว้ในตัวตลาดสดกับที่อำเภอ
บรรดาแขกเหรื่อในงานแต่งงานของมันคืนนั้น เมื่อได้ฟังเรื่องราวปลาทูในตู้หยอดเหรียญจากพิธีกรแล้วต่างก็ฮือฮากันมาก และยังฮือฮาไม่หยุดเมื่อเห็นคุณพ่อเจ้าสาวซึ่งเป็นเสือยิ้มยากเดินขึ้นเวทีและขอไมโครโฟนจากพิธีกร
“บอกตรง ๆ อย่างลูกผู้ชายนะครับ”
เสียงของเขาดังก้องในห้องโถงใหญ่ที่มีแขกเหรื่อนับร้อย ทว่าพากันนั่งเงียบกริบ
”ตอนแรกผมไม่ชอบใจเขาเลย ยอมรับว่าเคยเรียกเขาว่า ไอ้กุ๊ยช่างกล ด้วย แต่ว่า...ในวันนี้ผมขอถอนคำพูด และอยากบอกว่าเขาคือ เด็กช่างสร้างชาติ ครับ”
เสียงเฮดังสนั่นจากกลุ่มของผมพร้อมกับที่ใครบางคนลุกขึ้นโค้งคำนับ ขณะที่คนปรบมือกันกราวใหญ่และต่อเนื่อง เจ้าสาวเอื้อมมือไปกุมมือไอ้กู๊ดแล้วมองหน้ามันด้วยสายตาหวานซึ้ง
“ผมชื่นชมงานประดิษฐ์จากสมองของเขา ปลาทูในตู้หยอดเหรียญนั่นแหละครับ ถือว่าเขาช่วยสนับสนุนครอบครัวของผมอย่างดี ผมให้เขาไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์แล้วตั้งชื่อให้โดยที่มีชื่อของเขาด้วยว่า ไอฟีลกู๊ด ครับ หมายถึงความรู้สึกดี ๆ อย่างที่ตัวผมเองก็มีความสุขและพอใจเขาด้วย”
มีเสียงปรบมือดังยาว ๆ อีกครั้ง คุณพ่อตาคืนไมโครโฟนให้พิธีกรแล้วโอบไหล่ไอ้กู๊ดและเขย่าแรง ๆ มันกระพุ่มมือไหว้บนอกของเขา เป็นวินาทีที่ผมรู้สึกยินดีและซาบซึ้งกับมันเหลือเกิน ตอนนั้นผมนั่งใกล้มุมเวทีจึงมองเห็นน้ำตาของน้องหมูหยองด้วย แต่เธอรีบเช็ดแล้วก็ยิ้มให้กับภาพตรงหน้า เธอต้องรักไอ้กู๊ดมากขึ้นทุกวันแน่นอน ผมเชื่อ
หลังจากคุณพ่อตาหน้าดุได้ปลดล็อกบรรยากาศให้ชื่นมื่นรื่นเริงใจแล้ว ก็มีคนส่งคำถามไปให้พิธีกรว่า
“กว่าเจ้าบ่าวจะจีบติด ซื้อปลาทูไปประมาณกี่ตัว?”
เสียงคนเฮดัง ๆ ส่วนไอ้กู๊ดในชุดสูทสุดเท่ตอบคำถามทันที
“ซื้อทุกวันที่มีตลาดนัดครับ สัปดาห์ละครั้ง ครั้งละสองถึงสี่ตัว ก็ประมาณซักเจ็ดเดือน” มันทำท่าคิดในใจและนับนิ้ว “รวมแล้วร้อยกว่าตัวครับ” เล่นเอาฮากันทั้งงาน ในขณะที่เจ้าสาวยิ้มขวยเขิน
คืนนั้น เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่ผมได้นั่งดูหนังที่เพื่อนของผมคือไอ้กู๊ดแสดงเป็นพระเอก โดยมีนางเอกในเรื่องเป็นคนเดียวกับนางเอกในชีวิตจริงของมัน หนังสั้นมาก มีฉากเดียวคือที่ตลาด ตรงตู้ซื้อปลาทูแบบหยอดเหรียญ มีคนยืนรอคิวซื้อปลาทูสามคนรวมทั้งหมูหยองด้วยเป็นสี่ แต่ละคนหยอดเหรียญเข้าไปแล้วก็ได้รับปลาทูไปคนละแพ็ก และเดินออกจากเฟรมไป จนเหลือหมูหยองยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย เธอหยอดเหรียญสิบบาทเข้าไปสองเหรียญ แล้วบิดสลักไปทางขวาตามลูกศร
ภาพใกล้ขยายให้เห็นสิ่งที่หล่นลงมาในมือของหญิงสาว ปลาทูหนึ่งตัวห่อด้วยพลาสติกใสมีแถบกระดาษสีแดงคาดไว้พร้อมตัวอักษรคำว่า I love you จากนั้นตัดไปที่ภาพพระเอกกำลังหัวเราะให้กล้องขณะกอดนางเอกที่กำลังหลับพิงหมอนข้างรูปปลาทู แล้วภาพก็ค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อมกับมีเสียงดนตรีบรรเลงอ่อนหวานเข้ามาแทนที่
ผมบอกตัวเองว่า...ไอฟีลกู๊ด
- 👁️ ยอดวิว 1227
แสดงความคิดเห็น