ตอนที่ 13 ห้าปีบ่มจิตใจ

สวรรค์มวลดาว (Heavenly Star)
คุณกำลังอ่าน: สวรรค์มวลดาว (Heavenly Star)

-A A +A

ตอนที่ 13 ห้าปีบ่มจิตใจ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 13 ห้าปีบ่มจิตใจ

 

“ปะ...เป็นไปได้อย่างไร? มีบางอย่างเคลื่อนอยู่ภายในตัวของเขา ทำให้อวัยวะภายในสับสนปั่นป่วน นอกจากนั้นยังมีพลังอีกสายดิ้นรนปกป้องเขาอยู่ หรือว่า...หรือว่ามีใครบางคนใช้มนต์ดำกับเขา?”

 

“หยางเอ๋อร์ ตามความเห็นเจ้า คิดว่าเขาสามารถฟื้นกลับมาได้หรือไม่?” ปู่หลงถาม

 

หลงเจิ้งหยางส่ายศีรษะ “แค่นี้ก็ปาฏิหาริย์มากแล้วที่เขายังมีลมหายใจอยู่ ฟื้นหายกลับมาอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้! หากจะเป็นไปได้คือเขาจะหมดลมหายใจสุดท้ายลงมากกว่า”

 

เย่หนิงเสวี่ยพลันยืนไหวโอนเอน ตาของนางเบิกกว้างและมืดคล้ำลง นางทำได้แต่มองดูพวกเขาด้วยดวงตาว่างเปล่าและกระซิบกล่าวอย่างหมดหวัง “ช่วย...ช่วยพี่ชายข้าด้วย...”

 

“ข้าไม่เคยพบเจออาการแบบนี้มาก่อน แต่นั่นก็เฉพาะข้าเท่านั้น บางทีอาจยังพอมีหวังที่จะช่วยเขา หากอันดับหนึ่งใต้ฟ้าแพทย์เทวะเสวี่ยหนี่ยอมช่วยเขา” หลงเจิ้งหยางรำพึง

 

อันดับหนึ่งใต้ฟ้าแพทย์...เสวี่ยหนี่?

 

เย่หนิงเสวี่ยรีบถามออกไป ราวกับพบและคว้าฟางเส้นสุดท้าย “นางอยู่ที่ไหน? ข้าจะไปหานาง นางจะต้องช่วยพี่ชายของข้าได้ ต้องช่วยได้แน่ๆ!”

 

ปู่หลงยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าว “เสวี่ยหนี่มีฝีมือการแพทย์ไร้ที่เปรียบเป็นที่รู้กันดี กระทั่งหมอผู้เก่งกาจยังรู้สึกต่ำต้อยอยู่ต่อหน้านาง กล่าวกันว่าขอเพียงบุคคลผู้ใดก็ตาม หากยังมีลมหายใจเหลืออยู่ นางสามารถรักษามันผู้นั้นให้หายได้ภายในหนึ่งเดือน แต่ปัญหาก็คือนางอาศัยอยู่บนยอดเขาเสวี่ยหนี่ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอาณาจักรชางหลาน นางอาศัยอยู่บนนั้นตลอดทั้งปี และจะลงมาสู่พื้นทวีปเพียงแค่ปีละครั้ง ที่แย่ไปกว่านั้น ผู้ป่วยที่ไปหานางด้วยตนเองมักจะถูกนางปิดประตูใส่ กระทั่งเหล่าเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรชางหลานก็ยังไม่มีข้อยกเว้น สาวน้อย ถึงแม้เจ้าต้องการจะไปขอร้องนาง แต่ที่นี่ก็อยู่ห่างไกลจากอาณาจักรชางหลานมากนัก ด้วยสภาพของเจ้า ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถไปถึงที่แห่งนั้นได้ เฮ้อ! ถึงแม้ว่าเจ้าฟันฝ่าไปจนถึง แต่พี่ชายเจ้าไม่อาจทนได้ถึงตอนนั้น”

 

ความหวังเสี้ยวสุดท้ายย่อยยับมลายไปอย่างทารุณ เย่หนิงเสวี่ยเม้มริมฝีปากและกำมือน้อยๆแน่น ควบคุมน้ำตาไม่ให้ไหล

 

“จริงสิท่านปู่ ยังมีวิธีที่จะยืดชีวิตเขาได้ อสูรวิญญาณ , อสูรสวรรค์ , อสูรเทวะ ไข่ของพวกมันมีพลังแกร่งกล้า สามารถใช้ยืดชีวิตคนใกล้ตายได้เป็นอาทิตย์หรือแม้กระทั่งเป็นเดือน” เขาถามปู่หลงด้วยสายตา

 

ปู่หลงส่ายศีรษะ “ข้ารู้ว่ามีไข่จำนวนหนึ่งของพวกอสูรวิญญาณและอสูรสวรรค์ แต่คงใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะกลับมาได้ นอกจากนั้น...”

 

พวกเขาเป็นแค่เพียงคนแปลกหน้า แล้วจำเป็นจริงๆหรือที่จะต้องสละไข่หายากเหล่านี้เพียงเพื่อช่วยหนุ่มประหลาดผู้นี้?

 

เย่หนิงเสวี่ยยังคงจ้องมองพวกเขา สองมือน้อยกำชายเสื้อไว้แน่น หลงเจิ้งหยางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจยามถูกมอง เขาจึงหันหน้าไปอีกทางด้วยสีหน้าเวทนา “ข้าเพิ่งไปภูเขาเทียนเล่ยมาวันนี้และเห็นมันกำลังวางไข่... เฮ้อ ถ้าข้าสามารถสังหารอสูรสวรรค์ได้ ข้าจะต้องช่วยเขาอย่างแน่นอน”

 

ปู่หลงส่ายศีรษะและตบบ่าบางของเย่หนิงเสวี่ยเบาๆ “นกเทียนเล่ยนั้นมีนิสัยอ่อนโยน ดังนั้นมันจะไม่เริ่มจู่โจมผู้คนก่อน แต่หากใครแตะต้องไข่ของมัน ก็จะถูกมันทำร้ายอย่างเกรี้ยวกราด สัตว์อสูรสวรรค์นั้นแข็งแกร่งมากเสียจนพวกเราไม่อาจต่อกรกับพวกมัน”

 

เย่หนิงเสวี่ยที่เงียบงันอยู่เงยศีรษะขึ้น หลังจากเงียบไปพักหนึ่งนางก็ยิ้มอย่างอ่อนน้อม “ท่านปู่หลง พี่หลง ขอบคุณท่านทั้งสองมากจริงๆ พวกท่านเป็นคนจิตใจดีงาม ไม่เพียงพวกท่านไม่รังเกียจข้า แต่ยังช่วยเหลือพี่ชายกับข้าไว้มากมาย ข้าซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง”

 

ปู่หลงส่ายศีรษะและยิ้ม “ไม่ใช่พวกเราที่ช่วยเจ้า แต่เป็นตัวเจ้าเอง”

 

“ข้าซาบซึ้งที่พวกท่านช่วยเหลือจริงๆ หากวันหน้าข้ามีโอกาส ข้าจะตอบแทนพวกท่านอย่างแน่นอน”

 

“สาวน้อย หากเจ้าอยากตอบแทนข้าจริงๆละก็ เช่นนี้เป็นไง ให้ข้าเป็นปู่แท้ๆของเจ้า?” ปู่หลงยิ้ม

 

เย่หนิงเสวี่ยนิ่งค้างไปชั่วขณะหลังจากที่ได้ยิน ยังมีหลงเจิ้งหยางที่แปลกใจยิ่งกว่า หลงเจิ้งหยางกำลังจะกล่าวบางอย่างขณะที่จ้องเขม็งไปที่ปู่ของเขา เขาพลันหันหลังกลับแล้วนิ่งเงียบอยู่ด้วยความรู้สึกซับซ้อนในแววตา

 

เย่หนิงเสวี่ยคุกเข่าให้ปู่หลงอีกครั้งแล้วเรียก “ท่านปู่”

 

“ไอ้หยา เอาละ เอาละ ลุกขึ้น ลุกขึ้นก่อน ตอนนี้เจ้ายังอ่อนแอมาก เพราะฉะนั้นเจ้าห้ามคุกเข่าอีก ถึงแม้ว่าข้าจะมีหลานสาวแท้ๆที่แก่กว่าเจ้าหลายปี แต่นางเป็นเด็กเกเรและดื้อรั้นมาก นี่ก็ผ่านมาแล้วหลายปีตั้งแต่นางมาเยี่ยมข้าครั้งล่าสุด ส่วนเจ้านั้นรู้จักคิดมากกว่านางเยอะ!” ปู่หลงพยุงนางขึ้นพร้อมกับมองนางด้วยสีหน้าอ่อนโยน เย่หนิงเสวี่ยตื้นตันจนน้ำตาใกล้จะไหลอีกครั้ง “ในที่สุด...ข้าก็มีญาติอีกคน...นอกจากพี่ชาย...”

 

“แน่นอน ถึงแม้พี่ชายเจ้าจะจากไป ปู่ก็จะอยู่กับสาวน้อยน่ารักน่าชังอย่างเจ้าต่อไป” ปู่หลงยิ้ม หากแต่ถ้อยคำของเขาทำให้ใบหน้าของเย่หนิงเสวี่ยแข็งค้างในทันที นางหันกลับไปมองที่เย่หวูเฉินที่ยังคงนอนอยู่ตรงนั้น แล้วกล่าวอย่างนอบน้อม “ท่านปู่และพี่หลง ขอข้าอยู่กับพี่ชายข้าตามลำพังได้ไหม?”

 

ปู่หลงพยักหน้าและเหลือบมองเย่หนิงเสวี่ยกับเย่หวูเฉิน ก่อนจะออกไปพร้อมกับหลงเจิ้งหยาง

 

เมื่อพวกเขาออกไปไกล เย่หนิงเสวี่ยไม่อาจห้ามน้ำตาของนางได้อีก นางซบลงบนร่างของเย่หวูเฉิน สะอึกสะอื้นร้องไห้น้ำตาเปื้อนชุดของเย่หวูเฉินอย่างรวดเร็ว

 

พอออกจากบ้าน หลงเจิ้งหยางไม่อาจทนรอและกล่าว “ท่านปู่ ข้าคิดว่าท่านไม่ควรรีบร้อนรับนางเป็นหลานสาวโดยเร็วเกินไป ท่านเพียงได้พบกับนางครั้งแรก ยิ่งกว่านั้น ท่านปู่ยัง...”

 

ปู่หลงโบกมือหยุดเขาแล้วกล่าวช้าๆ “เจ้าเคยเห็นอะไรแบบนี้หรือปล่าว ด้วยลักษณะนิสัยของนาง เจ้าคิดว่าเย่หนิงเสวี่ยจะทำอะไร หากเจ้าหนุ่มคนนั้นตาย?”

 

หลงเจิ้งหยางชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเบาๆ “นางย่อม...ฆ่าตัวตาย”

 

“ถูกต้อง” ปู่หลงเผยสีหน้าสลด “ข้าพยายามหาเหตุผลเพื่อให้นางได้มีชีวิตอยู่ต่อไป หยางเอ๋อร์ หากเจ้าอายุเท่าข้าเจ้าจะรู้ว่าพลัง , ชื่อเสียง , สุขภาพร่างกาย และรูปโฉม ต่างล้วนเป็นสิ่งไร้ความหมาย สิ่งล้ำค่าที่สุดคือบุคคลผู้ที่คอยดูแลห่วงใยเจ้า หากในเวลานั้นมีเด็กหญิงประเสริฐเช่นเย่หนิงเสวี่ยอยู่ด้วย ข้าก็พร้อมละทิ้งทุกสิ่ง... ยามข้าตระหนักถึงเรื่องพวกนี้ได้ ข้าก็ชรามากแล้ว เมื่อพบกับสาวน้อยที่ประเสริฐขนาดนี้ ข้าจะยังยืนเฉยมองดูนางได้อย่างไร... ปัดโธ่!”

 

หลงเจิ้งหยางยืนมึนงงอยู่ เขากำลังครุ่นคิดบางสิ่งหลังจากได้ฟัง

 

ปู่หลงจ้องยังหลงเจิ้งหยางแล้วถามราบเรียบ “หยางเอ๋อร์ เจ้ามาอยู่กับข้าที่นี่กี่ปีแล้ว?”

 

“5 ปี” หลงเจิ้งหยางตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“เจ้ามาตกระกำลำบากอยู่กับข้า และเจ้าก็หาเลี้ยงตัวเองมาตลอด 5 ปี ข้ารู้ว่าเจ้าต้องทนทุกข์ยากมามาก”

 

หลงเจิ้งหยางส่ายศีรษะ “ไม่เลย! ข้ารู้ว่าท่านปู่ทำทุกอย่างก็เพื่อข้า ตลอด 5 ปีมานี้ ข้าได้เรียนรู้มากมายและค่อยๆเติบโตขึ้นทีละน้อยๆ”

 

ปู่หลงยิ้มและกล่าว “ตลอด 5 ปีที่ผ่านมานี้ เจ้าเคยจากไป 7 ครั้ง และยังมีอีกคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้ นอกเหนือจากคนในครอบครัวเจ้า เจ้าอยากบอกข้าหรือไม่ว่าคนผู้นั้นคือใคร?”

 

หลงเจิ้งหยางแตกตื่นและแอบชำเลืองมองใบหน้าปู่ เขาไม่กล้าตอบคำถาม

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.