บทที่ 226: แลกเปลี่ยน
เนื่องจากมู่ไป๋ไป่ถูกลักพาตัวไปครั้งที่แล้ว จึงทำให้อารมณ์ของมู่จวินฝานแปรปรวนจนกระอักเลือด หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็อ่อนแอลงมาก ทุกครั้งที่เจียงเหยาตรวจชีพจรของเขา สีหน้าของนางก็เคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ
องค์รัชทายาทกังวลว่าสุขภาพของตนจะส่งผลกระทบต่อมู่จวินเซิ่งกับเซียวถังอี้ ดังนั้นเขาจึงขอให้หมอสาวช่วยปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ชั่วคราว
ในเวลานี้เขารู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นว่ามู่ไป๋ไป่กลับมาอย่างปลอดภัย แต่แล้วทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงเลือดที่แล่นขึ้นมาจากกลางอกสู่ลำคอ ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร ของเหลวกลิ่นสนิมรุนแรงก็พุ่งผ่านลำคอของเขาออกมาแล้ว
“ท่านพี่รัชทายาท!” เด็กหญิงตกใจมากที่เห็นพี่ชายกระอักเลือด ในตอนที่เธอกำลังจะพุ่งเข้าไปหาเขา จู่ ๆ คอเสื้อของเธอก็ถูกรั้งเอาไว้ และเธอก็ถูกเซียวถังอี้ดึงตัวออกไป
“ท่านทำอะไรเนี่ย!” คนตัวเล็กพยายามดิ้นให้หลุดจากเงื้อมมือของอีกฝ่ายขณะหันไปถามอย่างไม่พอใจ “ท่านพี่รัชทายาทกระอักเลือดเช่นนั้น ท่านรีบปล่อยข้าเถอะ ข้าจะไปดูเขาสักหน่อย”
“อย่าวุ่นวายน่า!” เซียวถังอี้มองกองเลือดสีดำที่มู่จวินฝานพ่นออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หลังจากที่เจ้าเกิดเรื่อง เขาก็กระอักเลือดไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเจียงเหยาบอกว่าแมลงกู่ที่ถูกผนึกเอาไว้ในเส้นลมปราณได้ตื่นขึ้นแล้ว”
มู่ไป๋ไป่ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง
“หลังจากที่มันเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง มันก็จะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2” เด็กหนุ่มมองไปยังมู่จวินฝานที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ก่อนจะผลักเด็กหญิงไปด้านหลัง “และเมื่อมันเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาก็จะค่อย ๆ ถูกแมลงกู่ควบคุมจนกลายเป็นทหารมรณะ”
แล้วมู่ไป๋ไป่ก็ได้แต่ยืนอึ้งอยู่กับที่มองพี่ชายคนโตซึ่งเคยยิ้มพูดคุยกับเธอเมื่อไม่กี่อึดใจก่อนด้วยดวงตาแดงก่ำ “โสมอยู่ที่ไหน! โสมที่ส่งมาจากวังหลวงยังไม่มาถึงอีกหรือ?!”
“ชางหลานกลับมาแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมของถึงยังไม่มาล่ะ?” เด็กหญิงเอ่ยปากถามอย่างร้อนรน
“หว่านผินส่งจดหมายมาว่าโสมนั้นล้ำค่ายิ่งนัก ดังนั้นนางจึงส่งคนให้เร่งเดินทางนำมันมา แทนที่จะให้ชางหลานนำมาให้” เซียวถังอี้เว้นจังหวะพูดไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะลดเสียงพูดลง “เจ้ารีบออกไปเรียกเจียงเหยามาก่อน มู่จวินฝานไม่เป็นไรหรอก”
คนตัวเล็กกัดปากแน่น เธอรู้ว่าการที่เธออยู่ที่นี่มันไม่มีประโยชน์อะไร เธอจึงรีบหันหลังวิ่งออกไป
การตามหาเจียงเหยานั้นไม่ยากนัก มู่ไป๋ไป่ที่วิ่งจนสุดชีวิตพบคนที่ต้องการตามหาได้ในเวลาไม่นาน ก่อนจะลากนางเข้าไปในกระโจมขององค์รัชทายาทโดยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
“เอ๊ะ ว่าที่ลูกศิษย์ของข้า เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ?” หญิงสาวดีใจมากที่ได้พบเด็กน้อย “หืม? ทำไมเจ้าถึงเอาแต่ร้องไห้ล่ะ ฮ่องเต้หนานซวนรังแกเจ้าหรือ?”
“เจ้าอย่าได้เก็บมาใส่ใจเลย เอาไว้ข้าจะล้างแค้นให้เจ้าเอง”
“ไม่ใช่!” มู่ไป๋ไป่ปาดน้ำตาลวก ๆ แล้วอธิบายว่า “ว่าที่อาจารย์ ท่านพี่รัชทายาทถูกแมลงกู่โจมตีอีกแล้ว เสด็จอาบอกว่าคราวนี้ท่านพี่รัชทายาทอาจจะถูกแมลงกู่ควบคุมเอาไว้โดยสมบูรณ์ ท่านมีวิธีอื่นที่จะช่วยเขาได้หรือไม่?”
“ข้าไม่อยากให้ท่านพี่รัชทายาทของข้ากลายเป็นทหารมรณะ!”
“นี่…” เจียงเหยามีสีหน้าเคร่งขรึม “ไป๋ไป่ เจ้าน่าจะจำสิ่งที่ข้าเคยบอกเจ้าตั้งแต่ก่อนหน้านี้ได้ เดิมทีเราสามารถควบคุมแมลงกู่เอาไว้ในเส้นลมปราณได้สำเร็จ”
“แต่เนื่องจากองค์รัชทายาทได้รับความกระทบกระเทือนทางอารมณ์…”
“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเอง” พอมู่ไป๋ไป่ได้ยินคำพูดของหมอสาว เธอก็รู้ว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งทั้งหมดนั้นมันเกิดขึ้นเพราะความโง่เขลาของเธอ ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะสะอื้นไห้
“ถ้าตอนนั้นข้าไม่ได้ทำตัวโง่ ๆ จนถูกคนของหนานซวนหลอก ท่านพี่รัชทายาทคงไม่ต้องมากังวลเรื่องนี้จนไปกระตุ้นให้แมลงกู่ตื่นขึ้นอีกครั้ง”
“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้า…”
“ข้าเพิ่งเล่าเรื่องตลกให้ท่านพี่ฟัง พวกเรากำลังหัวเราะอย่างมีความสุข”
“ตอนนั้นสีหน้าของท่านพี่ดูแย่มาก แต่ข้ากลับทำเป็นมองไม่เห็น…”
“ไป๋ไป่ อย่าร้องไห้ไปเลย” เจียงเหยาอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาในอ้อมแขนพร้อมกับพูดปลอบอีกฝ่าย “ข้าจะพยายามให้เต็มที่ หากคำนวณเวลาที่โสมจะถูกส่งมาถึง ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชะลอพิษแมลงกู่เอาไว้”
“แต่ว่านะ ข้าได้ยินมาว่าฮ่องเต้หนานซวนถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ที่นี่ บางทีเขาอาจจะรู้วิธีกำจัดพิษก็ได้”
“ถ้าเรารู้วิธีกำจัดพิษแมลงกู่ องค์รัชทายาทย่อมปลอดภัย”
“ฮ่องเต้หนานซวน…” มู่ไป๋ไป่พยายามสูดน้ำมูกและพยักหน้าอย่างมึนงง “ใช่ กองทหารมรณะของหนานซวนเกิดขึ้นเพราะคำสั่งของฮ่องเต้หนานซวน เขาจะต้องรู้วิธีกำจัดพิษนี้แน่”
“ข้าจะไปถามเขาเดี๋ยวนี้!”
เด็กหญิงพูดจบแล้วก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่คุมขังฮ่องเต้หนานซวนโดยที่ไม่ได้สนใจหมอสาวอีก
ปัจจุบันฮ่องเต้หนานซวนถูกคุมขังอยู่ในกระโจมหลังหนึ่ง นอกจากผมเผ้าที่ดูยุ่งเหยิง สภาพของเขาก็ดูเหมือนตอนที่อยู่ในหนานซวน
ยามที่มู่ไป๋ไป่เปิดม่านเดินเข้าไป เธอก็รู้สึกเหมือนเข้าใจสัจธรรมชีวิต
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ของพวกเธอทั้ง 2 ก็กลับตาลปัตร
“มีธุระอะไรหรือ?” ฮ่องเต้หนานซวนปรายตามองผู้มาเยือน พอเห็นว่าเป็นองค์หญิงหก เขาจึงยิ้มออกมา “ในเวลานี้ เจ้าไม่ควรอยู่กับพี่น้องของเจ้าหรอกหรือ?”
“ทำไมจู่ ๆ ก็นึกถึงข้าขึ้นมาล่ะ?”
“แมลงกู่” มู่ไป๋ไป่ระงับอารมณ์ที่ซับซ้อนในใจ “ฮ่องเต้หนานซวน พระองค์รู้วิธีการกำจัดพิษแมลงกู่ไม่ใช่หรือไม่?”
ฝ่ายที่ถูกถามหรี่ตาลงแล้วกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทจะถูกพิษสินะ”
คนตัวเล็กก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับพูดว่า “เรามาทำข้อแลกเปลี่ยนกันดีกว่า ขอเพียงพระองค์บอกวิธีการกำจัดพิษแมลงกู่ให้หม่อมฉัน หม่อมฉันก็จะปล่อยพระองค์กลับหนานซวน”
“ข้อตกลงนี้คงไม่ขาดทุนสำหรับพระองค์ใช่หรือไม่?”
“มันไม่ขาดทุนจริง ๆ นั่นแหละ” ฮ่องเต้หนานซวนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยปากว่า “แต่ข้าคิดว่าข้าสามารถต่อรองได้มากกว่านี้ เพราะหากองค์รัชทายาทไม่สามารถถอนพิษนี้ได้ เขาก็จะกลายเป็นคนตายก็ไม่ใช่คนเป็นก็ไม่เชิง”
“รู้หรือไม่? หากคนที่ถูกพิษแมลงกู่ตายไปแล้ว แม้ว่าเจ้าจะสามารถกำจัดแมลงกู่นั้นออกไปได้ แต่คนผู้นั้นก็ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป”
มู่ไป๋ไป่พยายามสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อตั้งสติก่อนจะถามออกไปว่า “พระองค์ต้องการอะไร เชิญพระองค์ตรัสมาได้เลย หากหม่อมฉันสามารถทำได้ หม่อมฉันจะตอบรับคำขอของพระองค์อย่างแน่นอน”
“เจ้าแน่ใจหรือ?” เด็กหนุ่มค่อย ๆ ย่อตัวลงมองเด็กหญิงให้อยู่ในระดับสายตาเดียวกัน “มู่ไป๋ไป่ ข้าสัมผัสได้ว่าจริง ๆ แล้วเจ้ากับข้าเป็นคนประเภทเดียวกัน”
“แต่เดิมเรา 2 คนสามารถเป็นสหายที่ดีต่อกันได้”
“ข้าได้เตรียมชื่อเอาไว้ให้เจ้าแล้ว ข้ากำลังรอให้คว้าชัยในการต่อสู้ครั้งนี้กลับไปยังหนานซวน และข้าก็จะตกรางวัลให้เจ้าอย่างงาม”
มู่ไป๋ไป่เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา แต่เธอก็ไม่อาจขัดจังหวะคำพูดอีกฝ่ายได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงอดทนฟังคำพูดไร้สาระของเขา
“เอาเช่นนี้ดีหรือไม่?” ฮ่องเต้หนานซวนดูเหมือนจะพูดพอแล้ว จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องพูด “ขอเพียงแค่เจ้ายินยอมที่จะกลับไปหนานซวนกับข้า ข้าก็จะบอกวิธีกำจัดพิษแมลงกู่ให้”
“เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร?
“เป็นไปไม่ได้!” คนตัวเล็กตอบกลับไปโดยไม่ต้องหยุดคิด กว่าเธอจะหนีออกจากแคว้นหนานซวนมาได้ ใครจะบ้าตามคนผู้นี้กลับไปอีก
“เจ้าพูดเองไม่ใช่หรือว่าหากมีสิ่งที่เจ้าทำได้ เจ้าก็ยินดีที่จะทำ” เด็กหนุ่มเชิดค้างขึ้นพลางเหยียดยิ้มมุมปากมองเด็กตรงหน้า “เจ้าไม่อยากช่วยเสด็จพี่ของเจ้าหรือ?”
ขณะนี้ใบหน้าของมู่ไป๋ไป่ซีดลงพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่นเทา
แน่นอนว่าเธออยากจะช่วยมู่จวินฝาน เธอไม่อยากให้เขาต้องกลายเป็นผีดิบตามคำพูดของฮ่องเต้หนานซวน
“กลับไปหนานซวนกับข้า” เด็กหนุ่มลดเสียงลงเพื่อเกลี้ยกล่อมคนตัวเล็ก “ดูสิ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในค่ายทหารหนานซวนข้าดูแลเจ้าอย่างดีไม่ใช่หรือ?”
“นั่นเป็นเพราะว่าข้าอยากเป็นสหายกับเจ้าจริง ๆ”
“ถ้าเจ้ายอมตามข้ากลับไปหนานซวน ข้าจะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจแน่นอน”
“ขอเพียงแค่เจ้าตกลง เสด็จพี่ของเจ้าจะกลับสู่สภาวะปกติได้ทันที…”
ขณะที่พูดปลายนิ้วของฮ่องเต้หนานซวนก็ขยับเบา ๆ และแมลงตัวหนึ่งก็บินเข้าไปหามู่ไป๋ไป่โดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 68
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น