บทที่ 52 ออลเดอร์ส

-A A +A

บทที่ 52 ออลเดอร์ส

บทที่ 52 ออลเดอร์ส

ในเวลาเพียงแค่ไม่นานนักรบเกราะหนักทั้งแปดตัวก็ถูกสังหาร ก่อนที่พวกมันจะดรอปแหวนระดับทองแดงลงมา 1 ชิ้น

“มันเป็นของนักรบสายโจมตี” ลู่หยางกล่าวหลังจากหยิบแหวนขึ้นมาตรวจสอบ

ในทีมมีเพียงเซี่ยหยู่เว่ยเพียงคนเดียวที่เป็นนักรบสายโจมตี เธอจึงเดินเข้ามาหาลู่หยางแล้วพูดว่า

“ขอบคุณ”

ลู่หยางคิดว่าเซี่ยหยู่เว่ยคงจะรู้สึกอึดอัดกับคำพูดของเจิ้งหยวนเมื่อสักครู่และเขาก็ไม่คิดว่าเธอจะสามารถปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้

“ไม่ต้องเกรงใจ เอาล่ะทุกคนไปต่อกันเถอะ” ลู่หยางกล่าว

หลังจากทำการส่งอุปกรณ์ให้กับเซี่ยหยู่เว่ยแล้วลู่หยางก็นำทีมใช้วิธีการเดิมในการสังหารนักรบเกราะหนักอีกห้ากลุ่มและเดินทางมาจนถึงปลายอุโมงค์

แม่น้ำใต้ดินที่มีความกว้างมากกว่า 50 เมตรปรากฏขึ้นตรงหน้า และบริเวณด้านข้างก็มีท่าเรือริมแม่น้ำใต้ดินที่มีเรือโจรสลัดสีดำจอดอยู่

บนสะพานท่าเรือเป็นที่อยู่ของบอสตัวที่ 2 ของดันเจียน ผู้ซึ่งมีชื่อว่าอาร์คเมจออลเดอร์ส

ออลเดอร์สเป็นมนุษย์ที่สวมหมวกทรงกระบอกสีเหลือง ใส่เสื้อคลุมนักเวทสีฟ้าเข้ม ถือไม้คทาประดับทับทิมสีแดงภายในมือ ขณะที่ใบหน้าบ่งบอกว่ามันมีอายุประมาณ 40 ปี

“อาร์คเมจเลเวล 8 แถมยังเป็นบอสด้วย!” ชิงเฟิงอุทานอย่างตกใจ

“มันทำไมเหรอ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม

“ตอนที่กิลด์ของเราเข้ามาบอสตัวที่ 2 ในดันเจียนเป็นเพียงบอสมอนสเตอร์ธรรมดาเลเวล 3 แต่มันก็สร้างความเสียหายกับฉันมากกว่า 200 หน่วยแล้ว ตอนนี้มันเป็นถึงอาร์คเมจเลเวล 8 ฉันคิดว่าฉันคงจะแทงค์มันเอาไว้ไม่ไหว” ชิงเฟิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

เซี่ยหยู่เว่ยครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาว่า

“บอสที่มีเลเวลเพิ่มขึ้น 5 เลเวลน่าจะมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้นมาอย่างน้อย 100 หน่วย ชิงเฟิงมีพลังชีวิตแค่ 300 กว่า ๆ ถ้าเขาถูกบอสโจมตีติดคริติคอลครั้งเดียว มันก็อาจจะทำให้เขาตายได้เลย”

“แบบนี้ต่อให้เป็นเฮ่ยเจียก็แทงค์เอาไว้ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะเขามีพลังชีวิตอยู่แค่ 500 กว่า ๆ เอง” จางจื่อโป๋กล่าวเสริม

“แล้วพวกเราควรจะทำยังไงกันดีล่ะ?” 

เมื่อสถานการณ์ดูเหมือนจะถึงทางตัน ทุกคนต่างก็มองไปยังลู่หยางอย่างพร้อมเพรียง

“พวกเขาสองคนแทงค์ไม่ไหวหรอก แต่ไม่ต้องห่วงคราวนี้ฉันจะเป็นคนแทงค์บอสเอง” ลู่หยางกล่าวอย่างสบาย ๆ

“คุณเป็นคนแทงค์งั้นเหรอ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามอย่างประหลาดใจ

“อือ” ลู่หยางตอบ

“อาจารย์ เลือดของคุณมีอยู่น้อยมาก คุณไม่น่าจะแทงค์บอสเอาไว้ได้หรอก” ชิงเฟิงพูดเตือนขึ้นมาเบา ๆ

“ลู่หยางอย่าฝืนเลย ถ้าไปต่อไม่ไหวพวกเราก็ยอมแพ้กันแค่นี้เถอะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

“ไม่ต้องห่วง ถึงแม้พลังชีวิตของฉันจะน้อยแต่ถ้ามันโจมตีฉันไม่โดนแค่นั้นมันก็ไม่เป็นปัญหา” ลู่หยางกล่าว

ความจริงแล้วแม้แต่บอสโทรลล์ชาแมนเลเวล 15 ก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเขาได้ มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงออลเดอร์สที่เป็นบอสเลเวล 8 เลย

“โหมดอิสระมันช่วยให้หลบการโจมตีจากเวทมนตร์ได้ด้วยเหรอ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามอย่างประหลาดใจ

“ได้สิ ไม่งั้นมันจะเรียกว่าโหมดอิสระเหรอ ข้อดีของการเล่นโหมดนี้คือมันไม่จำเป็นจะต้องพิจารณาค่าหลบหลีก, ค่าบล็อกและโอกาสในการป้องกัน ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เล่นว่าสามารถควบคุมตัวละครได้ในระดับไหน” ลู่หยางตอบ

“ถึงนั่นจะเป็นเรื่องจริงแต่คุณหลบการโจมตีจากบอสทุกครั้งได้จริง ๆ เหรอ? หากพลาดเพียงแค่ครั้งเดียวมันก็มากพอที่จะทำให้คุณตายได้เลยนะ” ชิงเฟิงกล่าวอย่างเป็นห่วง

เวทมนตร์ในเกมเซคคัลเวิลด์ถูกออกแบบให้มีวิถีการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วมาก มันจึงทำให้แม้แต่ผู้เล่นอาชีพโจรที่เปิดโหมดอิสระก็ยังไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีได้ง่าย ๆ

ในระยะห่าง 30 เมตร เวทมนตร์จะใช้เวลาในการเคลื่อนที่เพียงแค่ประมาณ 0.5 วินาทีเท่านั้น ซึ่งชิงเฟิงก็ยังไม่เคยเห็นใครหลบหลีกการโจมตีอย่างสมบูรณ์ได้มาก่อน เขาจึงไม่เชื่อว่าลู่หยางจะทำแบบที่เขากล่าวอ้างได้สำเร็จ

“เรื่องแค่นี้เอง ฉันจัดการได้” ลู่หยางกล่าว

หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็เดินเข้าไปหาบอสและหลังจากที่เขาเข้าใกล้บอสในระยะ 30 เมตร ชายหนุ่มก็จุดไฟภายในมือและใช้สกิลคอมบัสชันเข้าใส่ออลเดอร์ส

-147

“พวกแกคือคนของไอ้สารเลวกอลล์ใช่ไหม!? ข้าจะฆ่าพวกแกให้หมด!” ออลเดอร์สส่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธ ก่อนที่ในอีก 2 วินาทีต่อมามันจะมีลูกไฟสีแดงพุ่งเข้าไปหาลู่หยางด้วยความรวดเร็ว

“เร็วมาก!” พวกเซี่ยหยู่เว่ยแทบจะมองตามวิถีการโจมตีไม่ทันด้วยซ้ำ แต่เมื่อพวกเธอมองไปทางลู่หยาง พวกเธอกลับพบว่าชายหนุ่มหลบหลีกการโจมตีในครั้งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นลู่หยางก็กำลังใช้สกิลคอมบัสชันโจมตีเข้าใส่ออลเดอร์สอีกครั้งด้วย

“เกือบไปแล้ว!” หลานอวี่อุทาน

“อันตรายมาก” จางจื่อโป๋พูด

“ไม่ใช่ มันต้องบอกว่าเขายอดเยี่ยมมากต่างหาก ลู่หยางคนนี้ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจริง ๆ” ชิงเฟิงกล่าว

ในที่สุดทุกคนก็เริ่มตระหนักถึงความแข็งแกร่งของลู่หยางได้เช่นกัน เพราะการหลบหลีกการโจมตีที่รวดเร็วขนาดนี้มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถเคลื่อนไหวกันได้ง่าย ๆ

“อาจารย์ คุณโคตรเก่งเลย!” หลานอวี่ตะโกนอย่างตื่นเต้น

ลู่หยางหันไปยิ้มให้กับหญิงสาว ซึ่งในความเป็นจริงมันก็อย่าว่าแต่การหลบหลีกการโจมตีในระยะ 30 เมตรเลย เพราะในชาติที่แล้วเขาก็เคยหลบหลีกการโจมตีแม้แต่ภายในระยะ 10 เมตร

ในช่วงท้ายของเกมเซคคัลเวิลด์นี่คือทักษะขั้นพื้นฐานที่ผู้เล่นระดับสูงทุกคนจำเป็นจะต้องมี แม้ในตอนนี้ทุกคนจะมองว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่ยากมาก แต่พอพวกเขาเล่นเกมไปนานขึ้น ฝึกฝนมากยิ่งขึ้น ทุกคนก็จะสามารถหลบหลีกการโจมตีแบบนี้ได้เหมือนกัน

หลังจากใช้คอมบัสชันกับออลเดอร์ส 5 ครั้ง ลู่หยางก็ตะโกนสั่งการ

“ฉันดึงดูดความโกรธของบอสเอาไว้ได้หมดแล้ว ทุกคนโจมตีได้!”

ทุกคนเริ่มโจมตีอย่างสุดกำลัง ซึ่งในเวลานั้นชายหนุ่มก็ยังคอยหลบหลีกการโจมตีและใช้สกิลคอมบัสชันโจมตีอยู่เรื่อย ๆ

ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 3 นาที พลังชีวิตของบอสก็ลดลงมาเหลือต่ำกว่า 50%

“ตอนแรกก็นึกว่าจะผ่านไม่ได้แล้วซะอีก ไม่คิดเลยว่าความจริงมันจะง่ายขนาดนี้” ผู้เล่นระยะประชิดคนหนึ่งพูด

“ใช่ ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าลู่หยางจะมีเทคนิคดี ๆ แบบนี้ด้วย” จางจื่อโป๋กล่าว

“ถึงแม้เขาจะเป็นผู้เล่นในช่วงเบต้าเทส แต่การทำได้ขนาดนี้ก็จำเป็นจะต้องอาศัยความพยายามในการฝึกฝน ไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็คือผู้เชี่ยวชาญตัวจริง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

2 นาทีผ่านไปพลังชีวิตของบอสก็ถูกลดลงจนเหลือศูนย์จนทำให้ร่างของมันล้มลงไปนอนกองกับพื้น

ตั้งแต่ต้นจนจบออลเดอร์สไม่สามารถยิงไฟร์บอลโดนลู่หยางได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในทางกลับกันชายหนุ่มได้ใช้สกิลไฟร์บอลกับสกิลคอมบัสชันคอยจู่โจมเข้าใส่บอสอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าเขาจะต้องคอยหลบหลีกการโจมตีของบอสอยู่เสมอ แต่ความเสียหายที่ชายหนุ่มทำได้ก็ยังคงอยู่ในอันดับ 1 ของทีมอยู่เหมือนเดิม

“อาจารย์ คุณทำแบบนี้พวกเรายังจะเหลือที่ยืนอยู่อีกเหรอ? คุณทั้งแทงค์ก็ได้, สร้างความเสียหายก็ได้แถมไม่จำเป็นจะต้องให้นักบวชคอยสนับสนุน ถ้าคุณทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวแล้วพวกเราจะไปมีประโยชน์อะไร” จางจื่อโป๋กล่าว

“ใช่ แบบนี้พวกเราก็ไม่ได้แสดงฝีมือน่ะสิ” หลานอวี่พูดหยอกล้อจนทำให้ทุกคนส่งเสียงหัวเราะขึ้นมา

ลู่หยางเผยรอยยิ้มและพูดว่า

“ฉันไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นหรอกฉันแค่โชคดีเท่านั้น พวกเราไปดูกันเถอะ มาดูว่าคราวนี้มันจะเป็นอุปกรณ์ของอาชีพอะไร?”

ความน่าสนใจของอุปกรณ์ในช่วงเวลานี้มีมากกว่าความน่าสนใจต่อลู่หยาง ทุกคนจึงแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมาในทันที

“สาธุ! ขอให้เป็นของโจร!”

“มันจะเป็นของโจรได้ยังไง? มันจะต้องเป็นของนักเวทแน่ ๆ นายไม่เห็นเหรอว่าบอสเป็นนักเวท”

“มันก็ไม่แน่หรอก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับดวง”

ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งในระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ยื่นมือออกไปก่อให้เกิดแสงสว่างสีเงินสว่างวาบไปทั่วทั้งบริเวณ

“ของอาชีพอะไร?”

 

 


มา ๆ ๆ ก่อนไปตอนต่อไปมาเดากันดีกว่าว่าของดรอปจะเป็นของอาชีพอะไร? เราเดาว่านักเวทด้วย อิอิ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.