ตอนที่ 945 ปีศาจทะลวงดาว

“1,700! อัตราแลกเปลี่ยนนี้มันทำลายสติในประวัติศาสตร์ไปแล้วนะเนี่ย” โอโร่อุทานขึ้นมาอย่างตกใจ หลังจากที่เขามองตัวเลขอัตราแลกเปลี่ยนคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 7 ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาพูดจบตัวเลขบนหน้าจอก็กระโดดขึ้นอีกครั้งและราคาก็ได้วิ่งไปกลายเป็น 1,750

“อัตราแลกเปลี่ยนมันจะบ้าเกินไปแล้ว!” ชายชราคนหนึ่งเริ่มตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“ตอนนี้ทั่วทั้งดินแดนกฎกำลังพยายามรวบรวมคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 7 ให้ได้มากที่สุด ฉันได้ยินมาว่าแม้แต่อัตราแลกเปลี่ยนที่แดนมารก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,400 แล้ว เชื่อว่าอัตราแลกเปลี่ยนในทุกที่ก็คงไม่ต่างไปจากนี้มากนัก”

“ฉันคงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องขายสมบัติบางส่วนออกไปสินะ ไม่รู้เหมือนกันว่าสมบัติพวกนั้นมันจะพอแลกเป็นเงินได้แค่ไหน”

“อย่าคิดมากเลย ตอนนี้ได้ราคาสักครึ่งหนึ่งของปกติมันก็ถือว่าดีมากแล้ว”

ฝูงชนต่างก็พูดคุยกันอย่างหดหู่เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 7 เพิ่มขึ้นไปอย่างบ้าคลั่ง

“คนพวกนี้บ้ากันไปหมดแล้ว! พวกเขาถึงขนาดตั้งใจจะขายสมบัติของตระกูลเพื่อเข้าร่วมการประมูลเลยหรือยังไง ดูเหมือนการที่นายตัดสินใจหยุดตระกูลเอาไว้จะเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก ไม่อย่างนั้นสกายวิงก็คงจะเจ็บปวดไม่ต่างจากคนพวกนี้” โอโร่กล่าวหลังจากที่พวกเขารับฟังความคิดเห็นจากฝูงชนอยู่สักพัก

“ตอนนี้ผมก็แค่หวังว่าราคามันเพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันจะทำให้เราได้รับผลกำไรกลับมามากที่สุด” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

แต่ในทันใดนั่นเองมันก็มีการระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นนอกหน้าต่าง ทำให้เปลวไฟสว่างวาบขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนที่จะมีลมพายุพัดตามมาอย่างรุนแรง

ทุกคนมองไปยังสถานการณ์นอกหน้าต่างอย่างสับสน และเนื่องมาจากว่าพวกเขาอยู่ในระยะไกล พวกเขาจึงมองเห็นได้ไม่ชัดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อพิจารณาจากระเบิดที่เกิดขึ้นมามันจะต้องมีความขัดแย้งขนาดใหญ่เกิดขึ้นด้านนอกอย่างแน่นอน

“มันจะต้องเป็นฝีมือของเซี่ยกวงไห่แน่ ๆ เจ้าเด็กนั่นความสามารถสูงมากจริง ๆ แค่ไม่นานเขาก็ปั่นความขัดแย้งขึ้นมาได้แล้ว” โอโร่กล่าวอย่างตื่นเต้น

“เซี่ยกวงไห่มีอายุมากกว่าเซี่ยจงไห่แค่ 2 ปี แต่เขากลับมีพลังในระดับราชันย์ขั้น 8 ตัวตนของเขาถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะ ก่อนที่งานประมูลจะเริ่มต้นขึ้นสถานการณ์ทั่วทั้งบริเวณนี้คงจะวุ่นวายไปหมดแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ถ้าเซี่ยกวงไห่เป็นอัจฉริยะแล้วอย่างนายมันเรียกว่าอะไร?” โอโร่ถามพร้อมกับแบะริมฝีปาก

“พวกเรารีบทำงานของตัวเองกันเถอะ ทุกคนกำลังทำงานอย่างหนัก พวกเราจะมาขี้เกียจตอนนี้ไม่ได้” เซี่ยเฟยเปลี่ยนเรื่องโดยไม่คิดจะตอบคำถามของโอโร่

—

เมื่อเวลาผ่านไปเซี่ยเฟยก็ได้ใช้คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 7 ในการแลกเปลี่ยนสมบัติจากตระกูลต่าง ๆ ในราคาต่ำกว่าช่วงเวลาปกติชนิดที่เทียบกันไม่ได้

“นายซื้อโลหะผสมมิราธิสตันหนึ่งมาในราคา 150,000 คริสตัลส้มเนี่ยนะ?! ช่วงเวลาปกติมันมีราคามากกว่า 1 ล้านคริสตัลส้มด้วยซ้ำ” โอโร่อุทานด้วยแววตาอันเป็นประกาย

โลหะผสมมิราธิสเป็นโลหะผสมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจากเทพนักประดิษฐ์ที่มีชื่อว่ามิราธิส โดยมันเป็นโลหะผสมที่มีส่วนประกอบมากกว่า 1,700 ชนิด ว่ากันว่าอาวุธที่ทำขึ้นมาจากโลหะผสมชนิดนี้สามารถฟันแสงให้ขาดออกจากกันได้เป็นชิ้น ๆ และถึงแม้ว่าคำอธิบายของมันจะดูเกินจริงไปสักหน่อย แต่มันก็พอจะอธิบายได้ว่าอาวุธจากโลหะชิ้นนี้เป็นสิ่งที่อันตรายมากแค่ไหน

ในช่วงเวลาปกติโลหะชนิดนี้จะไม่ปรากฏขึ้นมาในตลาดเลย แต่เซี่ยเฟยกลับซื้อมันมาด้วยราคาลดจากราคาตลาดเกือบ 6 เท่า ซึ่งมันก็ถือว่าการแลกเปลี่ยนนี้เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าสำหรับเขามาก

ภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เซี่ยเฟยได้ซื้อสินค้าที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคริสตัลส้มด้วยราคาเพียงแค่ 300,000 คริสตัลส้มเท่านั้น เรียกได้ว่าเขาสามารถทำกำไรได้มากกว่าเงินต้นเกือบ 7 เท่าภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น

ระหว่างนั้นเซี่ยกวงไห่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความเร็วอันน่าเหลือเชื่อเพื่อดึงศัตรูให้มาพบเจอกัน ท้ายที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็เป็นแหล่งรวมตัวของทุกกองกำลัง มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีศัตรูมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนหลายคู่

—

“อะไรนะ? คุณแน่ใจเหรอ?” เซี่ยเฟยที่ซ่อนตัวอยู่บริเวณมุมมืดถามขึ้นมาอย่างสงสัย

“ฉันแน่ใจ สารานุกรมดาร์คไนท์จะต้องถูกเก็บเอาไว้ในแหวนมิติของใครคนใดคนหนึ่งแน่ ๆ เพราะแบบนั้นมันเลยทำให้ฉันตรวจจับเป้าหมายไม่ได้” เซี่ยเกิงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“คุณกลับไปที่ห้องแล้วพยายามค้นหามันต่อไป หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้รีบติดต่อผมมาทันที ตามเหตุผลแล้วถึงยังไงสินค้าก็จะต้องถูกนำออกมาก่อนการประมูลเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปลอมแปลงสินค้าก่อนการประมูลได้ ไม่ว่ายังไงสารานุกรมก็จะต้องถูกเอาออกมาจากแหวนมิติแน่ ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เซี่ยเกิงพยักหน้าก่อนที่จะกลับไปที่ห้องพัก

“เซี่ยเฟย” โอโร่ปรากฏตัวออกมาจากฝูงชน ก่อนที่เขาจะเรียกชายหนุ่มอย่างตื่นเต้น

“มีอะไร?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับเดินเข้าไปหาโอโร่

“ตามฉันมา เดี๋ยวนายก็รู้เอง” โอโร่จงใจลดเสียงต่ำลงอย่างลึกลับ

หลังจากเดินตามโอโร่ไปสักพัก พวกเขาก็ได้พบกับชายชราคนหนึ่งที่กำลังปลีกตัวออกมาจากฝูงชน

“100,000 คริสตัลส้มเนี่ยนะ?! เก็บเงินของตัวเองเอาไว้เถอะ ฉันไม่มีทางขายมันในราคานี้เด็ดขาด”

ชายชราคนนี้ดูเหมือนจะโกรธมาก ซึ่งสถานการณ์นี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดเลย ท้ายที่สุดด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง มันจึงทำให้ราคาสินค้าถูกกดลงต่ำจนหลาย ๆ คนรับไม่ได้

เซี่ยเฟยกับโอโร่เดินตามชายชราคนนี้ไปอย่างเงียบ ๆ ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเดินไปจนถึงบริเวณโถงทางเดิน ชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นมาหยุดชายชราไว้

“ผู้อาวุโส ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอดูสินค้าของคุณหน่อยได้ไหมครับ?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับโค้งคำนับอย่างสุภาพ

“นายต้องการซื้อปีศาจทะลวงดาวของฉันงั้นเหรอ?!” ชายชราอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ

“ใช่ครับ ผมกำลังสนใจปีศาจทะลวงดาวของคุณจริง ๆ แต่ผมไม่ใช่คนของไนท์ปาร์ตี้หรอกนะครับ ถ้าหากผู้อาวุโสอยากได้อะไรพวกเราก็พูดคุยกันได้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้เห็นท่าทางนั้นอ่อนน้อมของอีกฝ่าย ชายชราก็ถอนหายใจก่อนที่เขาจะหยิบสิ่งที่เหมือนกับปืนใหญ่สีขาวขนาดใหญ่ออกมา

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ตกตะลึงในทันที เพราะเขาเคยเห็นปืนใหญ่ในลักษณะนี้เมื่อก่อน ปีศาจทะลวงดาวมีความคล้ายคลึงกับปีศาจทะลายดาวของบรรพบุรุษเขาทุกประการ และมันก็คือปืนใหญ่ที่ใช้พลังงานของคริสตัลต้นกำเนิดเพื่อเอาไว้ทำลายศัตรูให้ย่อยยับ

หลังจากปล่อยให้เซี่ยเฟยชื่นชมปีศาจทะลวงดาวอยู่สักพัก ชายชราก็เก็บสินค้านี้เข้าไปในแหวนมิติและพูดขึ้นมาว่า

“ผู้นำตระกูลของฉันยืนยันที่จะเข้าร่วมการประมูลในคืนนี้ให้ได้ ฉันจึงเอาสมบัติจากคลังของตระกูลออกมาแลกเปลี่ยนเหมือนกับตระกูลอื่น ๆ ถึงแม้ฉันจะยอมถูกกดราคาสินค้าชนิดอื่นได้แต่ฉันยอมทนขายปีศาจทะลวงดาวออกไปในราคาต่ำขนาดนั้นไม่ได้จริง ๆ” 

“นี่คือปืนใหญ่พลังงานชั้นยอดที่มีระยะการยิงมากกว่า 100,000 ปีแสงเชียวนะ คนพวกนั้นคิดได้ยังไงที่เสนอราคาซื้อสมบัติชิ้นนี้แค่ 100,000 คริสตัลส้มเท่านั้นเอง” ชายชรากล่าวขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว

เซี่ยเฟยพยายามปลอบใจชายชราให้เขาค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลง แต่ภายในใจเขาก็กำลังแอบสงสัยว่าทำไมปีศาจทะลวงดาวจึงมีความเหมือนกับปีศาจทะลายดาวของบรรพบุรุษมากขนาดนี้

“ตามข้อมูลที่ฉันมีตระกูลของนายมีปืนใหญ่พลังงานชื่อว่าปีศาจทะลายดาวใช่ไหม? อาวุธชิ้นนั้นมันเป็นอาวุธที่ถูกออกแบบมาให้อยู่คู่กับปีศาจทะลวงดาวกระบอกนี้” ลินนิจกล่าวหลังจากที่เขาสังเกตเห็นความสงสัยภายในใจของเซี่ยเฟย

“ปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกถูกสร้างขึ้นมาให้คู่กันงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยถามอย่างตกใจ

“จากฐานข้อมูลของเผ่าเทพ ปืนใหญ่มังกรฟ้าคือปืนใหญ่ที่รุนแรงและสามารถสร้างพลังทำลายขึ้นมาในวงกว้าง ส่วนปืนใหญ่พยัคฆ์ขาวเป็นปืนใหญ่ระยะไกลที่มีระยะหวังผลสูงมากถึง 10,000 ปีแสง” ลินนิจกล่าว

“มันยิงได้ไกลขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?!” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“จริงสิ แต่ความจริงมันยังไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกนี้ถูกติดตั้งเข้าด้วยกัน พลังของพวกมันทั้งคู่ก็จะเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นทวีคูณ”

—

ห้องชั้นบนสุด

ฮันนิซีไม่ได้นอนอย่างขี้เกียจเหมือนไม่กี่วันก่อนอีกต่อไป แต่ในวันนี้เธอกำลังนั่งอยู่บนโซฟาแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบช้า ๆ และมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาอันดุเดือด

“เกิดอะไรขึ้น? พวกมันกล้าดียังไงมาสร้างความวุ่นวายในอาณาเขตของฉัน พวกมันไม่รู้หรือยังไงว่าไนท์ปาร์ตี้คือเขตสันติภาพ” ฮันนิซีคำรามพร้อมกับกระแทกแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง

“มีคนแอบยุยงกองกำลังต่าง ๆ ให้ปะทะกัน แต่คนคนนี้แข็งแกร่งมาก เราจึงยังไม่สามารถจับตัวเขาได้ครับ” เงามืดจากหลังม่านกล่าว

“ถ้าพวกนายจับมันไม่ได้ ฉันก็จะออกไปจัดการกับมันเอง” ฮันนิซีตะโกนพร้อมกับลุกยืนขึ้นจากโซฟา

“ชายคนนั้นเคลื่อนไหวได้เร็วมากและระดับพลังของเขาก็ใกล้เคียงกับจอมกฎมากแล้ว อีกอย่างคุณฝึกฝนพลังของกฎแห่งสสารไม่ใช่กฎแห่งการควบคุมหรือกฎแห่งความเร็ว ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะออกไปแต่คุณก็คงจะจับตัวเขาไว้ไม่ได้อยู่ดี” เงาดำหลังม่านกล่าวอย่างสงบ

เมื่อได้ยินคำพูดจากอีกฝ่ายฮันนิซีก็ทำได้เพียงแต่กัดฟันโดยไม่พูดอะไรออกมา เพราะถึงแม้ว่าเธอจะมีพลังในระดับจอมกฎขั้นพื้นฐาน แต่เธอก็ไม่มีความสามารถในการไล่จับนักรบความเร็วสูงได้จริง ๆ

“ความจริงแล้วปล่อยให้ความวุ่นวายดำเนินต่อไปมันก็ถือว่าเป็นผลดีกับพวกเราไม่ใช่เหรอ? คนพวกนั้นไม่ได้ขอหัวของจักรพรรดิ 100,000 คนหรือยังไง ก่อนการประมูลจะเริ่มต้นขึ้นผมก็คิดว่าจำนวนของผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนนี้ไม่น้อยกว่าสองเท่า” เงาดำกล่าวขึ้นใหม่อีกครั้ง

“จำนวนผู้เสียชีวิตแค่ 2,000-3,000 มันยังห่างจาก 100,000 คนอยู่อีกไกล ถ้าหากผู้เสียชีวิตพวกนั้นไม่กระทบกับผลประโยชน์ของไนท์ปาร์ตี้มันก็คงจะดี แต่การที่พวกมันทำแบบนี้คือการท้าทายชื่อเสียงของฉันชัด ๆ”

“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา คุณจะมัวสนใจชื่อเสียงแค่นี้ไปทำไม? ปล่อยให้พวกเขาฆ่ากันไปเถอะ อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ภารกิจของคุณดำเนินไปเร็วยิ่งขึ้น” ชายในความมืดกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“ไนท์ปาร์ตี้คือสิ่งที่ฉันสร้างมันขึ้นมาเองกับมือ ฉันจะปล่อยให้มันพังทลายไปง่าย ๆ ได้ยังไง อีกอย่างคนโง่พวกนั้นมันไม่รู้เลยว่าสารานุกรมดาร์คไนท์เป็นสมบัติของดาร์คไนท์ ตราบใดก็ตามที่พวกมันได้บันทึกเล่มนั้นไป พวกมันก็เหมือนถูกคำสาปที่ต้องโดนตามล่าไปตลอดชีวิต”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

ฮันนิซีหัวเราะภายในห้องอย่างบ้าคลั่งเมื่อเธอจินตนาการถึงภาพผู้คนที่เสียชีวิตหลังจากนี้

เหลือเวลาอีก 7 ชั่วโมงก่อนที่การประมูลจะเริ่มต้นขึ้น

***************

จุดประสงค์ของงานประมูลครั้งนี้มันคืออะไรกันแน่นะ?