บทที่ 24: เสนอหินเหล็กไฟให้แก่ท่านผู้เฒ่า
ในเวลานั้นหูชิงเกาที่คอยระแวดระวังตัวอยู่เสมอก็ดึงน้องสาวของตนให้หลบการโจมตีของสงฮวาไปได้
ซึ่งนั่นทำให้อีกฝ่ายล้มหน้าคะมำลงกับพื้น
ส่วนทางด้านหัวหน้าเผ่าที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เริ่มมีท่าทีไม่พอใจ เขาจึงเอ่ยปากพูดออกมาว่า “พอได้แล้วสงฮวา ห้ามทำร้ายผู้หญิงในเผ่า”
การมีเรื่องทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังถือว่าไม่ล้ำเส้น แต่ไม่มีใครในเผ่าได้รับอนุญาตให้ฆ่าคนอื่นเป็นอันขาด
“ท่านผู้เฒ่า หูเจียวเจียวเผาบ้านข้าและสั่งให้หลงเหยากลั่นแกล้งพวกเรา ท่านต้องเข้าข้างข้าสิ!” สงฮวาร้องบอกชายชราด้วยสภาพใบหน้าเปื้อนน้ำตา
ทว่าอุจจาระที่ละเลงอยู่ทั่วร่างกายก็ทำให้คนอื่นหมดความสงสารในตัวนางไป
หูเจียวเจียวเม้มริมฝีปากของเธอและโต้กลับทันทีว่า “ท่านผู้เฒ่า เป็นที่รู้กันดีว่าข้าปฏิบัติกับลูกตัวเองไม่ดี แล้วพวกเขาจะเชื่อฟังข้าได้ยังไง”
“นอกจากนี้ลูกของข้ายังเด็กนัก ถ้าเขาไม่ถูกครอบครัวของสงฮวารังแกอยู่ทุกวันจนอยากจะแก้แค้น พวกเขาคงไม่ทำอย่างนี้หรอก” หญิงสาวพูดด้วยความมั่นใจ
เป็นเรื่องปกติที่ภูตจะเจ้าคิดเจ้าแค้น แม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ ก็สามารถจดจำศัตรูของตัวเองได้เป็นอย่างดี
เมื่อชาวบ้านได้ยินดังนั้น พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยทีละคน
“ใช่แล้ว หูเจียวเจียวทุบตีและดุลูกพวกนี้ทุกวัน เด็กพวกนั้นจะเชื่อฟังหูเจียวเจียวได้ยังไง...”
“ข้าคิดว่าสงฮวากระทำชั่วเอง แต่พอโดนเอาคืน นางกลับมาสาดน้ำโคลนใส่หูเจียวเจียวแทน”
“พวกนางทั้งคู่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนักหรอก ทำตัวน่ารำคาญเป็นบ้า…”
หูเจียวเจียวหรี่ตาดุจเหยี่ยวและพูดต่อไปด้วยท่าทีที่จริงจัง “ในความคิดของข้า เจ้าคงทำสิ่งชั่วร้ายมามากเกินไป เทพอสูรเลยลงโทษเจ้าโดยการเผาบ้านของเจ้าจนวอดวาย แล้วเจ้ายังจะมาใส่ร้ายข้าอีกหรือ สันดานชั่วของเจ้านี่แก้ไม่หายจริง ๆ ไร้ยางอายสิ้นดี”
“นี่เจ้า! หูเจียวเจียว อย่ามาพูดไร้สาระนะ!” เมื่อสงฮวาได้ยินอีกฝ่ายอ้างถึงเทพอสูร นางก็หน้าซีดด้วยความตกใจ
จิ้งจอกสาวผายมือออกแล้วถามกลับว่า “ถ้าอย่างนั้นบอกข้าที ทำไมทุกคนดับไฟนี้ไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเทพอสูรไม่ต้องการให้ไฟดับหรอกหรือ?”
พวกภูตในนิยายทุกคนเชื่อในเทพอสูร เช่นเดียวกับคนที่นับถือศาสนาพุทธและเคารพบูชาพระโพธิสัตว์
ฉะนั้นบทลงโทษที่ถูกส่งมาจากเทพอสูรต้องไม่ใช่บทลงโทษธรรมดา!
จากข้อสันนิษฐานของหูเจียวเจียวทำให้สายตาของชาวบ้านทุกคนที่มองไปยังสงฮวาเปลี่ยนไปทันทีราวกับว่านางเป็นสิ่งสกปรก แม้แต่ผู้ชายที่เคยอยากได้นางมาเป็นคู่ครองก็ล้มเลิกความคิดนี้
“เป็นไปไม่ได้! หูเจียวเจียว อย่าพูดจาซี้ซั้ว!” แม่หมีตื่นตระหนกทันที และรีบมองไปที่หัวหน้าเผ่า “ท่านผู้เฒ่า นางกำลังเล่นลิ้น นางขโมยวิธีการจุดไฟของท่านไป นางจะต้องหาข้ออ้างให้กับตัวเองแน่ ๆ!”
สิ้นเสียงนั้น ชายผู้มีตำแหน่งสูงในเผ่าก็จับจ้องไปที่แม่จิ้งจอก
“หูเจียวเจียว สิ่งที่สงฮวาพูดเป็นความจริงหรือไม่?”
ปัจจุบันเขามีอายุมากแล้ว พละกำลังของเขาจึงไม่ดีเท่าภูตหนุ่ม ๆ เขาจำเป็นต้องใช้ไฟเพื่อรักษาฐานอำนาจของตนเองไว้ มิฉะนั้น ภูตคนอื่นจะไม่เชื่อฟังเขาเช่นนี้
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงควบคุมวิธีการจุดไฟไว้ในมือของเขาเองอย่างมั่นคง และแจกจ่ายไฟให้แก่ชาวบ้านในทุก ๆ 3 เดือน
หากมีภูตคนที่ 2 ที่เรียนรู้วิธีการจุดไฟได้ ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของเขาจะสั่นคลอนทันที
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ สีหน้าของชายชราก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง
เนื่องจากหูเจียวเจียวได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้มา ในขณะนี้เธอรู้ว่าหัวหน้าเผ่ากำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงก้าวไปข้างหน้าอย่างเปิดเผย “ข้ามีวิธีจุดไฟ”
“น้องพี่...” หูชิงเกามองน้องสาวของตนอย่างประหม่า
ถ้านางขโมยวิธีจุดไฟไปจริง ๆ ท่านผู้เฒ่าอาจจะไม่ปล่อยนางไว้!
หัวใจของผู้เป็นพี่ชายคนรองกระตุก และเขาคิดกับตัวเองว่า หากท่านผู้เฒ่าต้องการทำร้ายน้องเล็กจริง ๆ เขาจะเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องนาง!
“พี่รอง ข้าไม่เป็นไรหรอก ท่านเชื่อข้าสิ” หูเจียวเจียวเงยหน้าขึ้นพลางส่งยิ้มที่มีเสน่ห์กลับไปให้พี่ชาย แล้วหันไปมองหัวหน้าเผ่า
“ท่านผู้เฒ่า ข้ารู้วิธีจุดไฟ แต่ข้าไม่ได้ขโมยมันมาจากท่าน ข้าไปค้นพบวิธีนี้มาโดยบังเอิญเท่านั้น”
“ท่านผู้เฒ่า อย่าไปหลงเชื่อน้ำคำของนาง ถ้าการจุดไฟทำได้ง่ายขนาดนั้น ทำไมทุกคนถึงไม่รู้ล่ะ!” สงฮวาพ่นคำพูดเป่าหูของชายแก่
ส่วนทางด้านหูเจียวเจียวยังคงมีท่าทีสงบ “ท่านผู้เฒ่า ถ้าท่านไม่เชื่อข้า งั้นข้าจะแสดงให้ดูว่าวิธีการจุดไฟของข้านั้นเหมือนกับของท่านไหม แล้วท่านก็พิจารณาเอาเองว่าข้าขโมยมาหรือไม่”
ทันทีที่หญิงสาวพูดประโยคเหล่านี้ออกมา ชาวบ้านทุกคนก็มองไปที่เธอด้วยดวงตาที่สดใส
นางรู้วิธีจุดไฟจริง ๆ หรือ?
ถ้าพวกเขาได้รู้…
จากนี้ไป พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้เฒ่าแจกจ่ายไฟทุก ๆ 3 เดือนแล้ว!
จากนั้นหูเจียวเจียวก็กล่าวเสริมว่า “แต่ข้าจะบอกวิธีนี้ให้แก่ท่านผู้เฒ่าเพียงคนเดียวเท่านั้น”
เมื่อคนเป็นหัวหน้าเผ่าได้ยินคำพูดของจิ้งจอกสาว ใบหน้าของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังมองเธอด้วยท่าทางสงสัย
หลังจากที่เขาใช้เวลาไตร่ตรองไม่นาน ในที่สุดเขาก็พยักหน้า “ตกลง บอกข้ามา”
“สิ่งที่ข้าใช้จุดไฟคือหิน 2 ก้อน ข้าขอถามท่านผู้เฒ่าว่าท่านใช้หินจุดไฟหรือไม่?”
ชายชราที่ได้ยินคำถามของอีกฝ่ายก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
หูเจียวเจียวเองก็สังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของท่านผู้เฒ่า
ในหนังสือที่เธอได้อ่านเขียนเอาไว้ว่า หัวหน้าเผ่านี้รู้วิธีการเจาะไม้เพื่อจุดไฟมาจากเผ่าอื่น แล้วเขาก็เก็บซ่อนความลับนี้ไว้กับตัวตลอดเวลา วันที่เขาออกกฎว่าจะแจกจ่ายไฟในทุก ๆ 3 เดือนนั้นเป็นเพราะเขาไม่มีความชำนาญมากพอ เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการจุดไฟอยู่หลายเดือน
เวลาต่อมา เผ่าแห่งนี้ก็ถูกเผ่าอื่นบุกโจมตี ส่งผลให้หัวหน้าเผ่าเสียชีวิต แล้วตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครสามารถจุดไฟได้อีก พอในเผ่าไม่มีไฟใช้ก็เริ่มมีคนย้ายออกไปจนเผ่าล่มสลาย ส่วนอิงหยวนกับลู่เมี่ยนเอ๋อที่เป็นพระเอกนางเอกของเรื่องก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเช่นกัน
ซึ่งภูตหลายคนในเผ่านี้บางคนก็ตายอยู่ที่นี่ บางคนก็พาครอบครัวหนีไป
หูหมินผู้เป็นแม่ของเจ้าของร่างเดิมเป็นห่วงลูกสาวของตนเองมากจึงรั้งอยู่ในเผ่าไม่ยอมไปไหน เมื่อมีภูตของเผ่าอื่นมาโจมตีเป็นครั้งที่ 2 นางก็ถูกคนพวกนั้นจับมัดติดไว้กับสัตว์ป่าแล้วปล่อยให้พวกมันวิ่งลากนางไปกับพื้นจนเสียชีวิต
แต่ในเมื่อตอนนี้เธอมาอยู่ที่นี่แล้ว เธอจะปล่อยให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
“เจ้าไม่ได้ขโมยวิธีการจุดไฟไปจากข้า” หัวหน้าเผ่าขมวดคิ้วพลางส่ายหัวอย่างเคร่งขรึม
แม้ว่าเขาจะไม่อยากเปิดเผยวิธีการจุดไฟของตนเอง แต่เขาก็ไม่ได้อยากป้ายความผิดให้กับหูเจียวเจียวเพราะเหตุนี้
“ไม่มีทาง! ท่านผู้เฒ่า ไม่ใช่ว่าท่านทำแบบนี้เพราะอยากช่วยปกป้องนางหรอกนะ!”
ดวงตาของสงฮวาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
“สงฮวา เจ้าคือหัวหน้าเผ่าหรือเขาเป็นหัวหน้าเผ่ากันแน่? เจ้าไม่เชื่อแม้แต่คำพูดของท่านผู้เฒ่าเลยงั้นรึ! หรือว่าที่ผ่านมาเจ้าไม่ได้นับถือเขาเลยสักนิด!”
จิ้งจอกสาวจงใจตะโกนต่อว่าอีกฝ่ายสุดเสียง
แน่นอนว่าใบหน้าของชายชราก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
ในฐานะหัวหน้าเผ่า สิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดคือตอนที่มีภูตมาท้าทายอำนาจของเขา ถ้าใครก็ตามไม่เชื่อฟังตน สิ่งที่เขาพูดในอนาคตก็จะไม่มีเกียรติอีกต่อไป
ต่อมา เขาออกคำสั่งด้วยใบหน้าที่มืดมน “พาสงฮวาไปขังไว้ในถ้ำ 2 วัน ห้ามมิให้ใครเข้าไปเยี่ยมได้”
ในไม่ช้า สงฮวาก็ถูกชาวบ้านลากตัวออกไป
สงชิวตกตกตะลึงกับคำตัดสินของท่านผู้เฒ่าอย่างกะทันหัน เขาไม่คิดว่าแม่ของตนจะถูกจับตัวไป จากนั้นเขาก็หันไปมองหูเจียวเจียวด้วยสายตาหวาดกลัวก่อนจะวิ่งออกจากฝูงชนไปด้วยความสิ้นหวัง
ยามนี้เรื่องตลกไร้สาระจบลงแล้ว แต่พวกชาวบ้านไม่มีใครเดินออกไปเลยสักคน เพราะพวกเขาอยากจะรู้ว่าหูเจียวเจียวใช้หินจุดไฟได้อย่างไร
โดยธรรมชาติแล้ว หญิงสาวรู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไร ดังนั้นเธอจึงพูดต่อไปว่า
“ข้าลองมาหมดแล้ว ไม่มีก้อนหินก้อนไหนสามารถจุดไฟได้ มีแค่หิน 2 ก้อนที่ข้าบังเอิญเก็บได้เท่านั้นที่สามารถทำอย่างนั้นได้จริง”
ทันทีที่เธอพูดจบ ชาวบ้านทุกคนก็แสดงสีหน้าเสียใจ
“ท่านผู้เฒ่า ข้ายินดีที่จะมอบหินเหล็กไฟให้แก่ท่าน แต่ข้าต้องการขอให้ท่านผู้เฒ่ารับปากข้าอย่างหนึ่ง”
นี่คือข้อตกลงที่เธอกำลังทำกับเขา
หัวหน้าเผ่ามองประเมินจิ้งจอกสาวตรงหน้าอยู่พักหนึ่ง แล้วเขาก็รู้สึกว่านางเปลี่ยนไปมาก สีหน้ายิ้มแย้มและว่านอนสอนง่ายนี้เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายไม่เคยมีมาก่อน
“ว่ามาสิ เจ้าต้องการอะไร?”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 244
แสดงความคิดเห็น