บทที่ 23: สงชิว เจ้าตายอนาถเหลือเกิน
“น้องพี่ เจ้าเป็นอะไรไหม นางทำร้ายเจ้าตรงไหนหรือเปล่า? เดี๋ยวพี่รองคนนี้จะจัดการนางให้เจ้าเอง!”
ชายหนุ่มหันหน้ามาสบสายตากับหูเจียวเจียวด้วยความเป็นห่วง
เมื่อหญิงสาวได้ยินคำพูดของเขา เธอก็แน่ใจว่านี่คือพี่ชายคนที่ 2 ของร่างเดิมที่มีนามว่า ‘หูชิงเกา’
เธอยิ้มพลางส่ายหัวตอบกลับไปว่า “พี่รอง ข้าสบายดี นางยังไม่ทันได้แตะต้องตัวข้าเลย”
พอผู้เป็นพี่ชายได้ยินเช่นนี้ คิ้วที่ขมวดแน่นของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันกลับไปสะบัดมือสงฮวาออกด้วยสีหน้าเย็นชา
“ออกไป! มือไหนของเจ้าที่กล้าแตะต้องน้องสาวของข้า ๆ จะตัดมือข้างนั้นทิ้งซะ!” หูชิงเกาพูดข่มขู่แม่หมีตัวใหญ่
แม้ว่าใบหน้าที่หล่อเหลาจะงดงามเกลี้ยงเกลาไม่ต่างจากหยกเนื้อดี หรือในยามที่เขาตะคอกด้วยความโกรธมันไม่ดูน่ากลัวเลยสักนิด
ทว่าแววตาดุร้ายของชายหนุ่มยังคงทำให้สงฮวาสะดุ้งโหยง
ในตอนนั้นเอง
“ท่านผู้เฒ่ามา!” จู่ ๆ ก็มีใครบางคนตะโกนขึ้นมา แล้วชาวบ้านที่ยืนรวมตัวกันก็เดินแยกไปยืนอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง
หูเจียวเจียวยังไม่เคยเห็นท่านผู้เฒ่าที่คนอื่นพูดถึง ดังนั้นเธอจึงหันไปมองตามเสียงอย่างอยากรู้อยากเห็น
ไม่นานเธอก็พบชายชราที่มีหน้าตาเคร่งขรึมเดินเข้ามาในฝูงชน แม้ว่าเขาจะแก่มากแล้ว แต่แผ่นหลังของเขาก็ยังตั้งตรงบวกกับการเดินเอามือไพล่หลังทำให้ออร่าที่เปล่งออกมาจากตัวเขาน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น?”
หัวหน้าเผ่าชำเลืองมองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจดูสภาพที่ยุ่งเหยิงจึงถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“หูเจียวเจียวจุดไฟเผาบ้านของข้า ทำให้ลูกของข้าที่อยู่ในบ้านตาย ข้าก็เลยจะล้างแค้นให้ลูกของข้า แต่หูชิงเกายังคงเข้ามาปกป้องนาง ท่านผู้เฒ่า ท่านต้องช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับข้า!”
ทันทีที่ชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่ามาถึง สงฮวาก็รีบฟ้องเขาทันทีเพื่อหาคนสนับสนุน
“ทำไมเจ้าถึงบอกว่าน้องสาวของข้าจุดไฟเผาบ้านเจ้า เจ้าเห็นด้วยตาตัวเองงั้นรึ!” ใบหน้าของหูชิงเกาเต็มไปด้วยความโกรธ
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ความจริง แต่เขาก็เข้าข้างหูเจียวเจียวโดยไม่ลังเล
“หูเจียวเจียวเป็นคนจุดไฟ ใครจะทำแบบนั้นได้อีกนอกจากนาง! สงชิวที่น่าสงสารของข้ายังเด็กนัก กลับมาถูกผู้หญิงใจร้ายคนนี้เผาจนตาย ฮือ ๆ...”
แม่หมีตัวใหญ่ยังคงใส่ร้ายป้ายสีจิ้งจอกสาวไม่หยุด แล้วคร่ำครวญเช็ดน้ำตาด้วยสภาพที่น่าสงสาร
ต่อมา หัวหน้าเผ่าหันไปมองหูเจียวเจียวด้วยท่าทางสงบนิ่ง “หูเจียวเจียว เป็นอย่างที่นางพูดหรือไม่?”
“ท่านผู้เฒ่า ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด...” หูเจียวเจียวแสร้งทำเป็นบีบน้ำตา “ถ้าข้าเป็นคนจุดไฟแล้วทำไมถึงใช้น้ำดับไฟไม่ได้ ท่านผู้เฒ่า ข้าจะมีความสามารถทำเช่นนั้นได้ยังไง!”
พอเธอพูดอย่างนี้แล้วทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ก็รู้สึกว่าคำพูดนั้นมีเหตุผล
พวกเขาไม่เคยเห็นไฟที่ดับไม่ได้ด้วยน้ำมาก่อน และมันก็แปลกเกินไปที่จู่ ๆ ไฟก็ไหม้บ้าน อีกทั้งจิ้งจอกสาวก็ไม่น่าจะมีความสามารถเช่นนี้
เมื่อสงฮวาเห็นว่าทุกคนเอนเอียงไปทางหูเจียวเจียว นางก็ไม่ยอมแพ้
ต่อมา นางยกมือชี้ไปที่หน้าคู่กรณีแล้วตะโกนว่า
“โกหก! มันต้องเป็นเพราะความผิดของเจ้าแน่ ๆ เจ้าแค่อิจฉาที่ลูกของข้าแข็งแกร่งกว่าไอ้ตัวเล็กพวกนั้น เจ้าเลยอยากจะเผาลูกข้าให้ตาย โธ่ เด็กน้อยที่น่าสงสารของแม่…”
หูเจียวเจียวเม้มริมฝีปาก “สงชิวอ้วนเหมือนหมู ถ้าข้าไม่รู้มาก่อน ข้าก็คงคิดว่าพ่อของเขาเป็นหมูเสียอีก...”
“นี่เจ้า! เจ้า!”
ทางด้านชายชราขมวดคิ้วแล้วตำหนิทั้งคู่ด้วยเสียงต่ำ “เอาล่ะ ๆ”
“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว พวกเรามาช่วยกันดับไฟเสียก่อน แล้วมาดูกันว่าลูกของนางอยู่ในบ้านหรือเปล่า”
เมื่อหัวหน้าเผ่าพูดดังนี้ สงฮวาก็ไม่กล้าโวยวายอีกต่อไป
จากนั้นภูตหลาย 10 คนก็ช่วยกันตักน้ำมาดับไฟ หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็สามารถทำให้ไฟมอดดับได้สำเร็จ
ทว่าสิ่งที่เหลืออยู่ในบ้านหลังจากไฟไหม้ก็คือเถ้าถ่าน…
ถัดมา สงฮวารีบลุกขึ้นไปหยิบขี้เถ้าขึ้นมากำมือหนึ่งพร้อมกับที่น้ำตาไหลพรากออกมา “ลูกชายของข้า สงชิว เจ้าตายลงอย่างน่าอนาถเหลือเกิน...”
ในขณะที่เหล่าภูตที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็มองดูนางด้วยสายตาที่เย็นชา
เมื่อเห็นการกระทำที่น่ารังเกียจของสงฮวาอย่างชัดเจน ก็ไม่มีใครเห็นใจนางอีกแล้ว
ส่วนหูเจียวเจียวที่เห็นฉากนี้ก็รู้สึกสะเทือนใจที่ได้เห็นความดำมืดในจิตใจคน
“เหม็นจัง! กลิ่นอะไรมาจากไหนเนี่ย...”
“ทำไมมันเหม็นขนาดนี้ ใครมาขี้ไว้แถวนี้กัน!”
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฟึดฟัดดังออกมาจากฝูงชน
ภูตกลุ่มหนึ่งเชิดจมูกดมกลิ่นและมองภูตข้าง ๆ ตนด้วยความขยะแขยง ขณะที่ทุกคนทำท่าไม่อยากอยู่ใกล้คนอื่น
ในเวลาเดียวกันนั้น เด็กตัวอ้วนกลมที่เป็นต้นตอของกลิ่นก็เดินเข้ามา
“ท่านแม่ ข้ายังไม่ตาย ทำไมท่านถึงกำขี้เถ้าแล้วบอกว่าข้าตายแล้วล่ะ?”
ก่อนหน้านี้สงชิวพยายามปีนออกมาจากหลุม แต่เขาไล่ตามไอ้เด็กเหลือขอพวกนั้นไม่ทัน ดังนั้นเขาจึงกลับบ้านมาฟ้องแม่
ใครจะไปรู้ว่าเมื่อเด็กหนุ่มกลับมาถึงบ้านก็ได้ยินเสียงแม่ของตนร้องไห้คร่ำครวญอยู่
พอสงฮวาได้ยินเสียงของลูกชายตนเอง นางก็เงยหน้าขึ้นและเห็นสงชิว ยืนอยู่ตรงหน้าตนโดยที่ไม่มีส่วนไหนบุบสลาย ทำให้เสียงร้องไห้ของนางเมื่อครู่นี้เงียบลงทันที
“เจ้าลูกหมี ยังไม่ตายงั้นหรือ? แล้วเจ้ามาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง!”
ตอนแรกเจ้าลูกหมีตัวกลมลืมไปแล้วว่าตัวเองกลับบ้านมาทำไม แต่พอถูกแม่ถามอย่างนั้น เขาก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกแล้ว
“ฮือออ…ท่านแม่ โฮฮฮฮ… ไอ้เด็กเหลือขอพวกนั้นรังแกข้า มันเอาขี้ให้ข้ากิน ท่านจะต้องล้างแค้นให้ข้า ฆ่าไอ้พวกนั้นซะ…” เขาดีดดิ้นพลางร้องไห้จ้าด้วยความคับแค้นใจ
เขาพูดจบแล้วก็พุ่งเข้าไปหวังจะกอดผู้เป็นแม่แล้วปล่อยโฮโดยไม่สนสายตาของคนอื่น
อะไรนะ!!
กินขี้!?
ทำไมลูกของสงฮวาถึงมีนิสัยเสียเช่นนี้!
เมื่อชาวบ้านได้ยินเรื่องราวจากปากของเด็กชาย พวกเขาก็มีสายตาแปลก ๆ และรู้สึกไม่สบายใจไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะพากันขยับถอยห่างจาก 2 แม่ลูกออกไปกว่า 10 เมตร
“หยุดนะ! อย่าเข้ามา...” สงฮวายื่นมือออกไปข้างหน้าด้วยท่าทางรังเกียจเพราะกลัวว่าสงชิวจะเอาอุจจาระไปถูบนตัวนาง
“โฮๆๆๆ ท่านแม่ แม้แต่ท่านก็ยังรังเกียจข้า ... ”
เด็กหนุ่มที่เห็นว่าแม่หมีไม่ต้องการให้ตนเข้าใกล้ก็ร้องไห้เสียงดังมากยิ่งขึ้น แต่เขาก็ยังคงวิ่งไปหานาง
ไม่นานภาพของ 2 แม่ลูกวิ่งไล่จับกันก็ปรากฏตรงหน้าทุกคน
หูเจียวเจียวมองภาพนั้นด้วยความงุนงง
เกิดอะไรขึ้น? เธอบอกให้ลูก ๆ สั่งสอนบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แก่สงชิว แต่ตอนนี้ทำไมเนื้อตัวเขากลับเต็มไปด้วยอึเสียล่ะ?
ขณะที่เธอกำลังสงสัย จู่ ๆ เธอก็มองเห็นเงาสีดำลอยอยู่เหนือหัวของ 2 คนนั้น
“เหยาเอ๋อ!” จิ้งจอกสาวตกใจมาก เธอกำลังจะรีบไปนำลูกชายกลับมาเพราะกลัวว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ
แต่หญิงสาวเห็นมังกรดำตัวเล็กยกหางขึ้นและหลับตาลงพร้อมกลั้นหายใจเบ่งอะไรบางอย่างโดยเล็งไปที่ใบหน้าอ้วนท้วนของสงฮวา
พรูดดดดด… เผละ...
จากนั้นกลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วบริเวณทันที ในขณะเดียวกัน หูเจียวเจียวทำได้แค่หลับตาปี๋
ฉันไม่เห็นมัน ๆๆ…
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นลูกของเจ้าของร่างเดิม เธออยากจะแสร้งทำเป็นว่าเธอไม่รู้จักหลงเหยา...
หลังจากที่เจ้ามังกรน้อยปล่อยของเสียในท้องออกไปจนหมดแล้ว เขาก็ส่ายหางเบา ๆ และบินกลับไปที่ด้านข้างของหลงอวี้ด้วยท่าทางหมดแรง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นมองอ้อนวอนขอคำชมจากอีกฝ่าย
รูม่านตาสีแดงกะพริบราวกับจะบอกว่า
พี่ใหญ่ เป็นไง! ข้าเก่งมากใช่ไหม?
“เสี่ยวเหยา เจ้าทำได้ดีมาก”
คนเป็นพี่ชายปิดจมูกตัวเองพลางลูบหัวของเขาอย่างไม่เต็มใจเพื่อเป็นการแสดงถึงความชื่นชม
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็รู้สึกถึงสายตาของหูเจียวเจียว แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นและหันหน้าไปมองทางอื่น
“...”
เจ้าเด็กแสบ 2 คนนี้ ปล่อยให้คนอื่นกลับบ้านไปก่อน แล้วตัวเองมาแอบซุ่มโจมตีอยู่ข้างหลัง
จริง ๆ เล้ย...ทำได้ดีมาก!
“กรี๊ดดดดดดด!” เสียงกรีดร้องเหมือนเป็ดของสงฮวาดังก้องไปทั่วท้องฟ้า “ใครทำ ใคร! ออกมานะ!”
แม่หมีที่ถูกบางอย่างปะทะเข้าใส่เต็มหน้ารีบยกมือขึ้นเช็ดมันอย่างร้อนรน แต่พอนางได้รู้ว่าในมือของตนคืออะไร นางก็ยิ่งรู้สึกอับอายมากจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด
ตามปกติแล้วในเผ่าภูตผู้หญิงจะมีค่ามาก นั่นทำให้ไม่ว่าสงฮวาจะน่ารำคาญมากแค่ไหน แต่คนในเผ่าก็ทำอะไรนางไม่ได้
ส่วนชาวบ้านที่เพิ่งถูกสงฮวาต่อว่าไปก่อนหน้านี้กลับรู้สึกโล่งใจที่เห็นอีกฝ่ายตกอยู่ในสภาพปัจจุบัน
“ท่านแม่ นั่นมันหลงเหยา ไอ้สารเลวนั่น!” สงชิวรีบตะโกนบอก
หลังจากที่ผู้เป็นแม่ลืมตาขึ้นพร้อมกับได้ยินว่าหลงเหยาเป็นคนทำ ความโกรธที่สั่งสมอยู่ในใจก็ระเบิดออก นางจึงตั้งท่าจะเข้าไปตะปบหูเจียวเจียว
“หูเจียวเจียว ข้าจะฆ่าเจ้า!”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เอาขี้ไปกินซะ! เจ้าพวกชั่ว! (หลงเหยาไม่ได้กล่าว)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 436
แสดงความคิดเห็น