บทที่ 14...2/4
รถกระบะกำลังถอยหลังมายังตึกที่เคยถูกไฟไหม้ จนของภายในร้านเสียหายทั้งหมด แต่เวลานี้โต๊ะ เก้าอี้ เคาน์เตอร์ ห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบได้กลับมาแล้ว เมษามองสภาพของร้านเมนาที่กำลังกลับมาเหมือนเดิมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วด้วยความดีใจและภูมิใจที่เธอผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้มาได้ โดยมีมีนาและอีกหลายคนช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นการล้มครั้งนี้ของเธอคงไม่อาจจะลุกขึ้นมาได้เร็วถึงขนาดนี้
ป้ายร้านขนมเมนากำลังถูกนำขึ้นไปติด ภาคินมาช่วยจัดแจงเพราะป้ายนี้มีนาเป็นคนออกแบบเสียใหม่ ส่วนเขาเป็นคนไปหาช่างมาทำให้ออกมาถูกใจเจ้าของร้านมากที่สุด ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงทั้งป้ายและการตกแต่งรอบๆ ร้านก็เสร็จเรียบร้อย การซ่อมร้านเสร็จร้อยเปอร์เซนต์ในเวลาเกือบ 5 โมงเย็นของวันอาทิตย์นี่เอง
“มีนดีใจนะพี่เม สัปดาห์หน้าร้านเมนาจะได้กลับมาเปิดเหมือนเดิมแล้ว”
มีนาเห็นเมษามองร้านขนมด้วยสายตาที่มอบใจให้ทั้งหมด เธอยิ่งมั่นใจว่าคิดไม่ผิดที่ขายห้องเพื่อนำความฝันของเมษาและเธอกลับมา
เมษากอดเอวน้องสาวด้วยความรู้สึกตื้นตันใจจนต้องกลั้นน้ำตาไว้
“ถ้าไม่ได้มีนกับทุกคนช่วย พี่คงท้อใจจนไม่ได้เปิดร้านอีกรอบแล้วล่ะ ขอบใจทุกคนมากเลยนะ”
“ถ้างั้นวันนี้ต้องฉลอง” ภาคินไม่อยากซึ้งมากเดี๋ยวน้ำตาซึมตามเมษาไปอีกคน “คินโทรบอกให้พี่เขมช่วยซื้อของกินมาเยอะๆ แล้ว ไหนๆ ก็ช่วยกันมาตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉลองก็ต้องฉลองด้วยกัน”
“คินเนี่ยนะโทรหาพี่เขมให้มาฉลองด้วยกัน ทำไมมีนรู้สึกคินกับพี่เขมดูสนิทกันมากขึ้นนะ” ที่ผ่านมาแค่กินข้าวร่วมโต๊ะก็ยังเหมือนถูกบังคับมากินยาขม
“พอถึงเวลาคินก็ต้องรู้จักโตบ้างสิ เรื่องตอนเด็กจะเอามาคิดให้รกหัวอีกทำไมเนอะ”
มีนาพยักพเยิดกับเมษาไม่อยากล้อเลยว่าใครก็ไม่รู้เคยมาขลุกอยู่ที่บ้านของเธอเป็นวันๆ เพราะโกรธและเสียใจที่พี่ชายสอบได้ที่ 1 แต่ตัวเองกลับสอบได้รองจากที่โหล่ ซึ่งยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ภาคินพูดบ่อยๆ ว่าต่อไปนี้จะไม่ขอข้องเกี่ยวกับเขมินท์อีก แล้วมาตอนนี้พี่น้องที่ห่างเหินกลับมามีสัมพันธ์อันดีต่อกัน คนที่อยู่ร่วมในทุกเหตุการณ์ของภาคินมาเกือบครึ่งชีวิตอย่างมีนาจะแปลกใจก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ภาคินจอดรถต่อท้ายรถของเขมินท์ที่คงมาถึงไล่เลี่ยกัน เขมินท์ลงมาจากรถแล้วเปิดกระโปรงท้าย ภาคินกับมีนารีบเข้ามาช่วยกันถือถุงของกินกันคนละถุงสองถุง เมษาเดินไปเปิดรั้วและประตูบ้าน ก่อนจะขนเตาปิ้งย่างไฟฟ้าออกมา มีนาวางของแล้วเข้าครัวไปขนชาม ช้อนมาสมทบ เขมินท์ช่วยเทน้ำซุปใส่หม้อที่เมษาหยิบมาวางให้ ภาคินจัดโต๊ะวางชาม ช้อน น้ำจิ้มอย่างชำนาญ มีนาลากสายไฟมาเสียบกับปลั๊กของเตาปิ้งย่าง เขมินท์มองทุกคนที่ทำโน่นทำนี่โดยไม่ต้องมีใครบอกกัน ราวกับว่ารู้หน้าที่กันเองอยู่แล้ว
“มันต้องอย่างนี้ถึงจะเรียกว่ากินหมูกระทะ ทุกทีคินย่างหมูกินกับมีนจนแทบจะกลิ้งออกมาจากร้าน วันนี้มากินด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพร้อมข่าวดีๆ สบายใจชะมัด” ภาคินอารมณ์ดีกว่าใคร แม้ปาร์ตี้เล็กๆ จะกินแต่น้ำอัดลม
“มีนกำลังหิวมาชวนทำซึ้งทำไมน่ะคิน เป็นเพื่อนที่ช่วยเพื่อนแบบนี้ มีนจะไม่แย่งหมูสามชั้นกับคินแล้วกัน” มีนาทำหน้าเหมือนตัดใจ ทั้งที่หมูกระทะที่เขมินท์ซื้อมาจากร้านมีเยอะมาก จนเธอแน่ใจว่ากินอีกสองรอบก็ไม่รู้จะหมดหรือเปล่า
เมษาใช้ตะเกียบเคาะกับแก้วให้มีเสียง ทุกคนหันมามองเธอแล้วยิ้มกว้างช่างเป็นกำลังใจที่ดีของเธอตลอดเวลาที่ทำให้ร้านขนมเมนากลับมา
“พี่เขม คิน มีน ขอบคุณทุกคนมากเลยนะ สำหรับทุกอย่างที่ช่วยเหลือเมมาตลอด อย่าเพิ่งเบื่อคำว่าขอบคุณกันนะ คำนี้มันสำคัญสำหรับเมในช่วงเวลาที่ผ่านมาจริงๆ”
“พวกเราอยากช่วยเมอยู่แล้ว เมก็เหมือนน้องสาวอีกคนของพี่ พี่จะดูดายเวลาที่เมกำลังเดือดร้อนได้ยังไง” การช่วยเมษาเป็นสิ่งที่เขมินท์มองข้ามไม่ได้อยู่แล้ว ใครก็ตามที่ทำความฝันของตัวเองได้สำเร็จเป็นคนที่น่าชื่นชมเสมอ
ภาคินฟังแล้วอดไม่ได้ต้องเปิดประเด็นสักหน่อย “มีทั้งน้องสาว น้องชายเลยทีเดียว ว่าแต่ผมเป็นน้องชาย พี่เมเป็นน้องสาว แล้วมีนล่ะเป็นอะไรดี”
มีนาฟังแล้วชักหมั่นไส้ภาคินที่วกมาหาเธอทำไมเลยแอบจิ๊กหมูสามชั้นทางฝั่งที่ภาคินย่างมากินเสียเอง จู่ๆ เพื่อนพูดแบบนี้ทำไม เธอบอกเขาไปแล้วนี่ว่าเป็นแฟนหลอกๆ กับเขมินท์ ไม่มีอะไรให้เอามาแซวได้สักหน่อย
“มีนก็เป็นน้องสาวอีกคนน่ะสิ อย่าลืม มีนเป็นน้องสาวของพี่เมนะ” มีนาตอบเอง เจ็บเองก็ได้ “กินกันเถอะค่ะพี่เขม พี่เม หมูสุกแล้ว
“ไหนว่าจะไม่แย่งสามชั้นไง” ภาคินไม่ลืมง่ายๆ
“อ้าวเหรอ ว้า มีนลืมตัวสินะ”
เขมินท์เห็นภาคินกับมีนาทะเลาะกันเป็นเด็กๆ แล้วก็หัวเราะชอบใจ ธรรมชาติของสองคนนี้มักทำให้บรรยากาศรอบตัวสนุกสนาน โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม
“ไม่ต้องทะเลาะกัน พี่ไม่กินสามชั้น เท่านี้ก็มีพุงน้อยๆ แล้ว” เมษายอมถอย การลองทำขนมและชิมไปด้วยในช่วงที่ซ่อมร้าน ทำให้เธอน้ำหนักขึ้นจนไม่แน่ใจว่าจะลดยังไง
“ถ้างั้นคินให้ตับหมูย่างพี่เมแล้วกัน” ได้สามชั้นมา ภาคินคิดว่าคุ้มยิ่งว่าคุ้ม แต่ยังไม่วายแซวเพื่อนต่อ “มีนชอบหมึกกรอบ คินไม่แย่งหรอก”
“แน่ละสิ ก็คินไม่ชอบหมึกกรอบอยู่แล้วนี่” มีนาร้องชิเบาๆ วันนี้ภาคินดีดดิ้นมีความสุขล้นอกไปไหมนะ “พี่เขมมีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษไหมคะ มีนกับคินจะได้ไม่แย่ง เวลาหิวมักลืมตัว”
“หมึกกรอบ” เขมินท์ตอบ
ภาคินเม้มปากไม่อยากหลุดพูดอะไรออกมา
“ถ้างั้นเรามาแบ่งกันค่ะ พี่เมไม่ชอบหมึกกรอบเหมือนคิน”
เป็นอันว่าแบ่งของกินกันลงตัว ความหิวทำให้มีนากับภาคินย่างหมูกันอย่างเมามันและกินเหมือนกำลังลงแข่งว่าใครจะเพิ่มน้ำหนักตัวเองได้มากกว่า เมษากินได้เรื่อยๆ พอกันกับเขมินท์ที่ไม่ได้หิวมากนัก มีนาคีบหมึกกรอบมาให้เขาเป็นระยะ เช่นเดียวกับช่วยย่างตับหมูให้กับเมษา แต่ยังคงฟาดฟันแย่งหมูสามชั้นกับภาคินจนเกิดเสียงหัวเราะเป็นระยะ บรรยากาศแบบนี้ไม่ค่อยเกิดกับเขมินท์บ่อยนัก แต่หลังจากนี้เขาอยากให้เป็นแบบนี้บ่อยๆ มันจะเป็นไปได้ไหม
โบว์จะลงบทที่ 14 เป็นบทสุดท้าย แล้วจบการลงนิยายเพียงเท่านี้ค่ะ
หากต้องการอ่านต่อได้ที่ MEB ตอนนี้ เพราะคุณคือรักแรก วางจำหน่ายใน MEB แล้วนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 254
แสดงความคิดเห็น