ตอนที่ 4 : ก็แค่จะทำให้หมดจรด
ซีค ก้าวเดินไปหาคนรับใช้ที่ละก้าวอย่างดุดัน
ในแต่ละการเคลื่อนไหวของเขาไม่มีความลังเลใดใดให้เห็น ทุกย่างก้าวของเขามีความคิดฆ่าฟัน ตอนนั้นเองที่ทุกคนเหมือนจะรู้สึกว่าคำพูดของซีค ไม่ได้พูดล้อเล่นออกมา — เขาตั้งใจจะฟันไปที่คนรับใช้แน่แน่
" นายหญิง! ”
คนรับใช้ร้องตะโกนไปยังผู้เป็นนายคอยคุ้มกะลาหัวอย่างร้อนรน นายหญิงฟลอเรลหลุดตื่นจากอาการเหม่อชั่วขณะของเธอ
“ ห-หยุด! ข้าบอกให้หยุด! เจ้ากล้าดียังไงที่จะลงมือไม่เห็นหัวพ่อกับแม่ของเจ้าหรือยังไง! ใครสั่งใครสอนให้เจ้ากล้าทำ!”
“ ท่านแม่ ท่านพูดถูกข้าจะกล้าละเลงเลือดต่อหน้าพวกท่านได้ยังไง ท่านแม่ข้าจะลากมันไปยังที่ที่เหมาะสมแล้วค่อยจัดการ ถึงแม้ข้าจะเจ็บปวดใจที่ต้องทำ แต่ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันมาหมิ่นศักดิ์ศรีทายาทโดยชอบธรรมของตระกูลสตีลวอลล์อันเกียรติของเราได้”
ซีค ตอบอย่างมีชั้นเชิงต่อเสียงโวยวายกรีดร้องของผู้เป็นนายหญิง
“ฮาน จะไปหมิ่นศักดิ์ศรีของเจ้าได้อย่างไร เด็กคนนี้เป็นเด็กดี [TN:?เด็กดีก็มา] ”
' อาา ไม่น่าแปลกใจถึงท่าทางอวดดีของคนรับใช้นั้น มันเป็นหนึ่งในคนของนายหญิงฟรอเรลนี่เอง'
มีความเป็นไปได้สูงที่ฮานจะเป็นเด็ก หรือ ญาติของคนรับใช้คนใดคนหนึ่งที่นายหญิงพาติดตามมาด้วยในตอนแรก
“ช-ใช่! ข้าจะกล้าดูถูกท่านที่เป็นถึงขุนนางได้อย่างไร !” ฮานเริ่มร่ำร้องเหงื่อก็ออกเต็มหลัง ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผน
เขาแค่ต้องการย้อนแค้นกลับไปยังซีคที่ทำร้ายเขา โดยหวังทำลายชื่อเสียงของซีคไปพร้อมกัน เพื่อเป็นแรงให้การสืบทอดตำแหน่งของเกร็คในฐานะทายาทคนต่อไปง่ายขึ้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนตอนนี้คงก้มหน้าก้มตาหาข้อแก้ตัวและไม่ว่าเขาจะแก้ตัวกี่ข้อ เคานต์สตีลวอลล์ก็จะใช้คำพูดของอัศวินไบเนอร์กับฮานเป็นหลักฐานมาโต้แย้งเพื่อโทษซีค
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้กำลังพลิกกลับอย่างสิ้นเชิงจากความมุทะลุของซีค
ฮาน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าซีคกล้าที่จะกวัดแกว่งดาบต่อหน้าเคานต์สตีลวอลล์ กลายเป็นว่าเรื่องที่พวกเขาเตรียมไว้ซีคเป็นฝ่ายถูก
ซีคใช้ประโยชน์ความเหนือกว่าด้านศักดิ์ฐานะ ฮานต้องรับโทษประหารจากคำพูดซีค จากนิสัยขี้อายของซีคและจุดยืนที่อ่อนแอของเขาในตระกูล ฮานจึงไม่ถูกลงโทษอะไรขึ้นเลยจนถึงตอนนี้ แต่ถ้าซีคตั้งใจจะฆ่าเขาจริงจริงในตอนนี้ล่ะ แล้วถ้านายหญิงล้มเหลวที่จะปกป้องเขาล่ะ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ดูเอนเอียงไปซีคที่เป็นฝ่ายถูก
' ถ้าข้าพูดอะไรผิดขึ้นมา ข้าต้องตายจริงจริงแน่ '
ในที่สุดฮานก็เริ่มรู้สึกกดดันจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
“ ข้ากล้าให้คำสาบาน ว่าข้าไม่ได้ใช้คำหยาบหรือแสดงกิริยาหยาบคายกับคุณชายแน่นอน ”
“ งั้นแกก็หมายความว่าข้าโกหก?”
“ น-นั่น…!”
ฮาน อยากจะตะโกนว่า 'แน่นอน!' แต่สายตาที่เย็นชาของซีคทำให้เขาไม่กล้าพูดมันออกมา ในตอนนั้นเองก็มีอีกเสียงหนึ่งดังมาจากอีกคนพูดแทนคำตอบของฮาน
“ ใช่ ข้ายืนยัน! คุณชายกำลังโกหก!” ขณะกำลังดูสิ้นหวัง เสียงเรียกดึงดูดความสนใจของทุกคน และฮาน มองไปยังพระผู้ช่วยให้เขารอดพ้นจากนรก
' อ่อไอ้อัศวินเด็กน้อยนั้นเอง เขาชื่ออะไรนะ อัศวินไบเนอร์ ' ผู้พูดคืออัศวินรุ่นเยาว์ที่ถูกเขากระทืบอีกคน
ในตอนที่ซีคเดินเข้ามายังห้องห้องนี้ ไบเนอร์ ก็คอยจ้องมาที่เขาด้วยความอาฆาตอยู่แล้ว แล้วด้วยตอนนี้สถานการณ์กำลังเอนเอียงไปทางฝั่งของซีค ตัวไบเนอร์ได้แต่เก็บสายตาอาฆาตเอาไว้ก่อน
ซีคมองอัศวินไบเนอร์อย่างนึกสนุก
' แกสองคนยังไม่ยอมแพ้สินะ จะเอาผิดข้าด้วยวิธีการกระจอก แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนใช่ไหมละ '
ในตอนนี้ความผิดของฮาน เป็นจุดสนใจหลักของคนในห้อง แต่คำกล่่าวโทษของซีคนั้นตัวไบเนอร์ก็ต้องมีความผิดฐานดูถูกขุนนางเหมือนกัน
ด้วยที่นี้อัศวินถือเป็นชนชั้นกลาง คอของเขาจะไม่ถูกตัดเหมือนคนรับใช้นั้น แต่ไบเนอร์ที่พยายามจะทำร้ายซีค ด้วยกำลัง แต่การลงมือของเขาที่ไม่รุนแรงทำให้อยู่ในขอบเขตที่ท่านเคานต์และนายหญิงสามารถหลับหูหลับตาได้อย่างไม่เป็นเรื่องยาก
ไม่ ถ้าเป็นตัวซีคเหมือนก่อนหน้านี้ ซีคคงไม่มีความกล้าเรียกร้องอะไรต่อหน้าท่านเคาท์ได้ ไม่เหมือนกับที่ไบเนอร์คาดคิดไว้เลย สถานการณ์ดูผิดทิศผิดทางไปหมด ตอนนี้คนรับใช้นั้นก็หน้าซีดตัวสั่นนอนอยู่บนพื้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนรับใช้นั้นถูกลงโทษฐานความผิดของเขา แล้วต่อจากนั้นจะมีโทษมาถึงตัวเขาไหมละ
' ต่อให้เป็นตัวเราก็ต้องรับโทษอะไรสักอย่างแน่ '
ความไม่มั่นใจเริ่มเติบโตเบ่งบานในหัวของไบเนอร์ คงเพราะเขายังเป็นอัศวินหน้าใหม่ขาดประสบการณ์
“ ที่พูดมานั้นจริงหรือไม่ อัศวินไบเนอร์ ”
นายหญิงกระตุ้นไบเนอร์ด้วยความคาดหวัง คำพูดของอัศวินมีน้ำหนักมากกว่าคำพูดของคนรับใช้
“ ขอรับท่านเคานท์สเตส! [TN: ยศภรรยาของเคานท์] ตามที่ฮานและข้า ได้ให้การไป ท่านซีคนั้นได้ลงมือทำร้ายพวกเราฝ่ายเดียวขอรับ! ”
“ ตลกดีที่ได้ยินว่าเป็นถึงอัศวินแต่ถูกทำร้ายเพียงฝ่ายเดียว "
" มาตรฐานของอัศวินของสตีลวอลล์ตกต่ำลงถึงขนาดนี้แล้วหรอ เห้อ”
ด้วยการเยาะเย้ยของซีค ใบหน้าของไบเนอร์พองตัวเหมือนมันพร้อมจะระเบิด ต่อให้เป็นเคาท์สตีลวอลล์ยังไม่พอใจในคำพูดของซีคเลย จึงมีอาการหงุดหงิด
“นั่น-มันเพราะท่านซีคใช้วิธีการที่ไม่เป็นธรรม…”
“ฮ่าๆๆๆ! วิธีที่ไม่เป็นธรรม—บ้าไปแล้ว คำพูดนี้มาจากฐานะอัศวินของสตีลวอลล์! แกจะอ้างหาความยุติธรรมจากสนามรบงั้นหรอ นี้อัศวินสตีลวอลล์กำลังแก้ตัวลักษณะเดียวกับพวกที่อ่อนแอจากอัศวินในเมืองหลวง”
ซีคหัวเราะอย่างเกินจริงให้ทุกคนได้ยินเขา ใบหน้าของไบเนอร์พองขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อซีคเปรียบเทียบเขากับอัศวินจากเมืองหลวง ไบเนอร์อับอายจนร่างกายเขาเริ่มสั่นสะท้าน
อัศวินจากสตีลวอลล์ทุกคนนั้นภาคภูมิใจกับการผ่านสมรภูมิของพวกเขา ถ้าต้องถูกนำไปเทียบกับอัศวินจากเมืองหลวงที่ขาดประสบการณ์ไม่ต้องเจอการต่อสู้ในสนามรบจริง คำพูดนี้ของซีคได้ไปทำลายความภูมิใจในฐานะอัศวินสตีลวอลล์ของไบเนอร์เต็มเต็ม
“ ถึงท่านซีคจะพูดยังไง ความจริงที่ท่านทำร้ายพวกเราอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่เปลี่ยน”
ตอนนี้อารมณ์ไบเนอร์ขึ้นสูงอย่างฉุนเฉียว
“ หรือท่านซีคจะไม่ยอมรับสิ่งที่ท่านทำ!!”
“ ท่านพ่อ ท่านดูสิเขากำลังโกหกเพราะเขากลัวการลงโทษ เขากำลังโยนความผิดให้ข้าอย่างไร้ยางอายอยู่”
“ ไม่ ไม่ใช่แน่นอน เป็นท่านซีคที่โกหก!” ทั้งสองฝ่ายต่างโต้เถียงกันอย่างไม่ยอม แม้ว่าคำพูดของไบเนอร์จะปนไปด้วยความเขินและความละอายในฐานะอัศวิน แต่คำโกหกของเขาก็ยังมีน้ำหนักอยู่บ้างในฐานะอัศวิน
“ ท่านพ่อ สำหรับข้าคิดว่าคำพูดของเซอร์ไบเนอร์ดูน่าเชื่อถือกว่า เขาเป็นอัศวิน ด้วยเกียรติของเขาจะไม่กล้าโกหกต่อหน้าท่านแน่นอน”
เกร็ค หลังจากที่นิ่งเงียบมาจนถึงตอนนี้ก็เริ่มเข้าแทรกแซง
' และแล้วหนึ่งในตัวการก็ลงมือ ไม่มีอะไรให้แปลกใจ '
เหมือนเหตุการณ์ในอดีต เมื่อไหร่ก็ตามที่ซีคตกที่นั่งลำบากเมื่อไหร่ เกร็คจะเป็นการสำคัญในการซ้ำเติมเขาอย่างหนัก นี้คือสิ่งที่เขาจดจำเกร็คได้ในฐานะน้องชายต่างแม่
“ ใ-ใช่ ข้ากล่าวความจริง! ”
เมื่อมีเกร็คช่วยออกหน้าอีกแรงใบหน้าของไบเนอร์ก็ดีขึ้นทันตา จากระยะห่างทั้งสองดวงตาของซีคและเกร็คประชันกัน เกร็คยิ้มขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูโอ้อวดแฝงความเจ้าแผนการไว้ แต่ในสายตาของซีคที่ผ่านเหตุการณ์มามากมายการยั่วยุครั้งนี้ดูเด็กน้อยเหมือนเด็กไม่โตมาหาเรื่องเขา
ซีคตอบกลับด้วยรอยยิ้มมั่นใจเต็มที่ ท่าทางของเกร็คชะงักไปนิดหน่อย เขาไม่เข้าใจ ไม่ว่าตอนไหนก็ตามที่เกร็คลงมือสร้างความลำบากให้ซีค ตัวซีคมักจะทำมักจะทำหน้าอายอาย เหมือนคนไร้ทางสู้เสมอ
แต่นั่นได้เป็นอดีตไป ในสายตาของซีคแล้วเกร็คไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาเลย
' ก็คงเป็นเพราะเรื่องพวกนี้… '
ตั้งแต่แรกไม่มีใครที่ยืนอยู่ข้างเขา ผู้คนในห้องต่างตื่นตัวขึ้นทันที ซีคกำลังเปลี่ยนท่าทีไปอีกครั้งไม่รู้จะลงมือทำอะไรอีก
เพราะตอนนี้ซีครู้สึกว่าเรื่องเริ่มจะยืดยาวทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ ซีคตัดสินใจยุติเรื่องนี้ลง
' เริ่มแรก ข้าก็ไม่ได้วางแผนที่จะตัดคอของคนรับใช้นั้น หรือ จะกระทืบอัศวินเด็กน้อยนั้นอีก '
แน่นอนว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว
ซีคเริ่มเคลื่อนตัวไปทาง ไบเนอร์ อารมณ์ตึงเครียดและกดดันประทุขึ้น
ไบเนอร์ ชักดาบออกมาในท่าพร้อมสู้ สถานการณ์ตอนนี้พร้อมแตกหักได้ทุกเมื่อ
ปังง! เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นขัดจังหวะ
" หยุดซะ เจ้ายังตั้งใจจะทำอะไรอีก!!” อย่างที่ซีคคิดไว้เคาท์สตีลวอลล์ตวาดเสียงเพื่อให้ซีคหยุด กลับกันซีคก้าวเดินไปหยุดที่ตรงหน้าไบเนอร์ ทำเหมือนเขาไมได้ยินเสียงตวาดของเคานท์สสตีลวอลล์ที่พึ่งดังขึ้น
สายตาของไบเนอร์ยังคงจับจ้องอยู่ที่ซีคตลอดเวลาด้วยความระแวดระวังแม้ว่าไบเนอร์จะไม่เข้าใจว่าซีคตั้งใจจะทำอะไรแต่เขายังคงอยู่ในท่าพร้อมสู้
“ เฮ้ ” ซีคเอ้ยกล่าวทำลายความเงียบ
“อะ-อะไร”
เมื่อเห็นว่าซีคยังไม่ลงมือทำอะไรเขา ไบเนอร์รู้สึกโล่งใจขึ้นจึงกล้าถามต่อ
“ ทำไมท่านซีคถึงยังดื้อดึง ไม่ยอมรับความผิดของท่าน”
“ ข้าสาบานว่า สิ่งที่ข้ากล่าวไปเป็นเรื่องจริง ท่านทำร้ายพวกข้าฝ่ายเดียว ”
" ฮ่าฮ่าแน่นอน อัศวินขี้ขลาดที่ความภูมิใจในฐานะอัศวินก็ไม่มี อย่างเจ้าจะพูดความจริงด้วยเกียรติอัศวินได้ยังไง”
เป็นอีกครั้งที่ใบหน้าของไบเนอร์เหมือนถูกตบ
‘ ดูจากท่าทางของเขา เขายังอ่อนประสบการณ์เกินไป ’
เมื่อเห็นท่าทางของไบเนอร์ ไบเนอร์ยังทำได้ไม่ดีพอ ถ้าเขาเป็นฝ่ายที่ต้องให้ร้ายล่อลวงหรือสร้างภาพ เขาจะไม่กระโตกกระตากทำตัวรนเหมือนที่ไบเนอร์เป็นอยู่
' ดูไร้เดียงสาอะไรขนาดนี้ '
แม้ท่าทางของไบเนอร์ที่เหมือนเด็กที่กำลังทำความผิด แต่ซีคก็ไม่ได้คิดจะยกโทษหรือปล่อยเขาไป
‘ เพราะในเมื่อแกตั้งใจเป็นฝ่ายเริ่มก่่อน ’
ซีค มีความยึดมั่นที่รุนแรงกับเรื่องนี้มาก ใครก็ตามที่ทำร้ายเขาก่อนเขาไม่ปล่อยมันไว้แน่
“ ข้าว่าเถียงกันไปก็เสียเวลา มีวิธีที่ง่ายกว่าในการแก้ปัญหาเรื่องนี้นะ”
ซีค เริ่มยกดาบขึ้นเคาะไปที่ดาบของไบเนอร์เบาๆ
“…ท่านกำลังจะบอกว่าเราจะจบเรื่องนี้ด้วยการต่อสู้เนี่ยนะ ”
" ใช่ ถูกตัอง "
“ ท่-ท่านเสียสติไปแล้วใช่ไหม ”
ไบเนอร์ อัศวินที่เยาว์วัยที่สุดของกองอัศวินสตีลวอลล์ เขายังมีข้อจำกัดด้านประสบการณ์ อีกด้านหนึ่งหมายความว่าเขาเป็นอัจฉริยะจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นอัศวินตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงท่าทีของซีคในวันนี้ที่ดูเปลี่ยนไปจนน่าเกรงขามขึ้น แต่เรื่องทักษะต่อสู้ของไบเนอร์ไม่มีใครสงสัยแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นตลอดมาโดยความจงใจของนายหญิงผู้เป็นแม่เลี้ยง ได้กีดกันไม่ให้ซีคได้มีโอกาสเรียนทักษะดาบจริงๆจังๆเลย แต่ยังไงก็ตามตอนนี้ซีคกลับเป็นผู้เริ่มท่าดวลก่อน
“ อัศวินไบเนอร์กำลังบอกว่าข้าเป็นบ้าเสียสติไปแล้ว แต่หลังคอของท่านพึ่งถูกข้ากระแทกไปไม่นานนี้น่า คงไม่ใช่เจ้าหรอกนะที่กำลังพูดอะไรที่เสียสติอยู่ ”
การแสดงออกของไบเนอร์หม่นหมองขึ้นทันที ด้วยเหตุการณ์นี้เขาได้กลายเป็นตัวตลกไปในกองอัศวินมาสักพัก
" ได้! ตกลง! ข้ากับท่านมาประลองกัน!”
ซีคยักไหล่ เบนสายตามองกลับไปที่เคานต์สตีลวอลล์
“ ท่านพ่อ ตามที่ท่านเห็น พวกเราทำข้อตกลงกันได้แล้วนะ คงต้องให้ท่านเป็นผู้กำหนดเวลากับสถานที่ที่เหมาะสมให้กับพวกเราในการประลองครั้งนี้ "
“ เจ้าต้องการเช่นนี้จริงๆใช่ไหม”
“ ฮึทำไม ท่านกับไอ้บ้านี่ชอบดูถูกข้ากันนักนะ ข้าเสนอการต่อสู้นี้ก็เพราะข้ามั่นใจ ก็แค่เด็กก้าวร้าวคนนึงที่เคยถูกข้าทุบหัวจนหมดแรงเป็นลมมาแล้ว "
" ได้! ถ้าเจ้ามั่นใจเช่นนั้น ก็ให้เรื่องนี้จบลงด้วยการประลอง!! "
เคานต์สตีลวอลล์ ไม่ได้หยุดพวกเขาทั้งคู่ เพราะ
' ซีคประเมินไบเนอร์ต่ำเกินไป '
ตัวเคานต์สตีลวอลล์ได้ยินมาแล้วถึงเหตุการณ์ที่ซีคสามารถเอาชนะไบเนอร์มาได้ ตอนนั้นเกิดจากความประมาทของไบเนอร์เอง
ต่อให้วิธีการเอาชนะในตอนนั้นของซีคจะดูไม่น่ายกย่องเท่าไหร่ แต่จากที่ฟังรายละเอียดของการต่อสู้เคานท์สตีลวอลล์ก็ยอมรับอยู่บ้าง ผู้ที่เป็นถึงผู้นำป้อมปราการเหล็กแห่งอาณาจักร ตัวเขาเป็นทั้งผู้นำและเป็นทั้งนักสู้ที่ทุ่มเทชีวิตไปกับการป้องกันการถูกรุกรานจากภายนอกอาณาจักร ดังคำที่กล่าวว่า การสงครามไม่หน่ายอุบาย
เมื่อมีสงครามย่อมไม่หวังความใสสะอาด หรือ แพ้แล้วอ้างว่าใช้วิธีสกปรก เหตุผลเหล่านี้ชัยชนะของซีคที่เหนือกว่าไบเนอร์นั้นก็ยอมรับได้
‘ แต่ก็เพียงเท่านั้นเพราะ ’
ถ้าเป็นการต่อสู้ตรงไปตรงมาเคานท์สตีลวอลล์คิดว่าซีคต้องแพ้ ซีคกำลังตกอยู่ในความเย่อยิ่งของตัวเอง
' มันจะเป็นบทเรียนดีดีสำหรับเขา '
ที่ผ่านมาเคานท์สตีลวอลล์ไม่ได้ชื่นชอบในตัวซีคเท่าไหร่ ในการประลองนี้ถึงซีคพ่ายแพ้เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร มากกว่านั้นด้วยการประลองที่พ่ายแพ้ของซีค การที่เกร็คจะเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปจะชอบธรรมมากขึ้น
' เจ้ากำลังทำลายชื่อเสียงตัวเอง ผู้คนจะคิดว่าเจ้าพยายามปกปิดความผิดตัวเองด้วยการท้าประลองกับอัศวินด้วยโอกาสริบหรี่ สุดท้ายก็พ่ายแพ้ลง '
ในตอนแรกเคานท์สตีลวอลล์ตั้งใจจะตำหนิลงโทษซีคหนักๆสักเรื่อง จากการทำรัายอัศวินและคนรับใช้ด้วยฐานะของตัวเอง แต่เหตุการณ์ไปทิศทางนี้ก็ไม่เลวร้ายเหมือนกัน เมื่อซีคพ่ายแพ้คำกล่าวของไบเนอร์กลายเป็นความจริง และ เคานท์สตีลวอลล์สามารถลงโทษซีคทีหลังได้
“ ข้าจะกำหนดเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมให้”
“ เช่นนั้นข้าก็ฝากไว้ให้ท่านเป็นคนจัดการ "
หลังจบคำ ซีคเอาดาบที่ยกมากลับไปว่างที่เดิม ทวงท่าพฤติกรรมดุร้าย ไม่มีร่องรอยความอ่อนน้อมในการเคลื่อนไหวเลย แม้จะมีสายตาทุกคนในห้องจ้องมองอยู่ แต่ท่าทางของซีคก็เป็นไปตามธรรมชาติ
“…เจ้าเปลี่ยนไป” เคานท์สตีลวอลล์เอ๋ยออกมาด้วยเสียงที่เบา ซีคที่ได้ยินก็ยังหันกลับมามอง
“ คงเพราะข้าได้รู้และเข้าใจ สิ่งที่ข้าเคยเป็น ไม่ทำให้ข้าได้รับอะไรเลย มันโง่เขลา เหตุผลออะไรละที่ข้าต้องเสียแรงเพื่อคอยทำให้ผู้อื่นพอใจ แล้วต้องหลอกตัวเอง”
พอนึกถึงเรื่องที่คุยกันตั้งแต่แรก เคานต์สตีลวอลล์ถามออกมาด้วยท่าอึดอัดใจ “ ไม่ทำให้เจ้าได้อะไรเลย นั่นเจ้าหมายถึงฐานะทายาทผู้สืบทอดเช่นนั่นรึ ”
ซิคยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“ แม้แต่ท่านที่ถูกยกย่องว่า ‘ขุนพลปราการเหล็ก’ ก็ยังถูกครอบงำจากอคติได้อยู่ดี การจัดการดูแลครอบครัวก็ห่วยแตก ”
" ว่ายังไงนะ!"
“ โอ้ท่านพ่อที่รัก ตอนนี้ยังไงท่านคงไม่เข้าใจอยู่ดี คิดตามท่านต้องการเลยดีกว่า”
หลังพูดทิ่มแทงออกไป ซีคก็ได้เดินหายไปแล้ว
.
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 624
ความคิดเห็น
ด่าพ่อตัวเองได้สะใจมาก 55+
แสดงความคิดเห็น