แทนรักที่ปลายฟ้า ตอนที่ 1
ในสำนักงานตึกระฟ้าหรูใจกลางเมือง แทนตะวัน วงสกุลสถาพร ชายหนุ่มวัยสามสิบปี กำลังจ้องเอกสารตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ผนังกระจกบานใหญ่เผยให้เห็นทิวทัศน์ของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล แสงไฟสะท้อนความรุ่งเรืองและความวุ่นวายของชีวิต
ทุกอย่างถูกจัดวางเป็นระเบียบ เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งเคลือบเงาเข้ากันกับเก้าอี้หนังสีดำ
ชั้นวางหนังสือเรียงรายไปด้วยตำราธุรกิจและนิตยสารต่างประเทศ
นักธุรกิจหนุ่มในสูทสีเทาตัดเย็บพอดีตัว รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ผมดำขลับ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสะท้อนแววมุ่งมั่น
การทำงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวพันกับเงินทุนมหาศาลทำให้ประธานหนุ่มต้องเผชิญกับผู้คนที่หวังผลประโยชน์เสมอ รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้สวมหน้ากากทุกวันเพื่อปกป้องตัวเองจากคนรอบข้าง
แม้จะประสบความสำเร็จในการบริหารบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการหรูหราเป็นที่รู้จัก ทว่าในใจกลับว่างเปล่า
บิดามารดาจากไปในอุบัติเหตุเครื่องบินตั้งแต่ยังเด็ก เขาเติบโตขึ้นด้วยการดูแลของ คุณยายแทนมณี หญิงชราผู้เป็นทั้งพ่อและแม่ มอบความรักความอบอุ่นจนซึมซับความอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว แต่แล้ว... ท่านก็จากไป ทิ้งให้ชายหนุ่มต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวอีกครั้ง
โชคดีที่ชีวิตยังพาให้เขาพบ ‘คนที่จริงใจ’ ...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น “กิตติชัย” ปรากฏบนหน้าจอ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่รู้จักกันมาตั้งแต่วัยมัธยม
คนที่ไม่เคยสนใจสถานะหรือความร่ำรวยของแทนตะวัน
“เฮ้ย แทน! เย็นนี้ว่างไหม? เลิกงานเร็วหน่อย ฉันรออยู่ข้างล่างแล้ว ขอติดรถแกไปด้วย”
น้ำเสียงปลายสายสดใสเป็นเอกลักษณ์ ต่างจากน้ำเสียงเรียบเฉยของแทนตะวันที่อีกฝ่ายชินเสียแล้ว
“ไปไหน?” เขาถาม พลางเก็บเอกสารลงแฟ้ม
“ถึงแล้วแกก็รู้เอง เจอกันหน้าบริษัทนะ”
ปลายสายวางไปอย่างรวดเร็ว แทนตะวันส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมถอนหายใจ
“เฮ้อ… อะไรของมันวะ”
เขาไม่ชอบที่กิตติชัยมักทำอะไรตามใจตัวเอง แต่เหนื่อยเกินกว่าจะปฏิเสธ และที่สำคัญ... นี่คือเพื่อนคนเดียวที่ยังจริงใจกับเขาในโลกธุรกิจอันโดดเดี่ยวนี้
บนรถยนต์หรูที่แล่นไปตามถนนสายหลัก
แทนตะวันนั่งหลังพวงมาลัย ขณะที่กิตติชัยเอนตัวสบาย ๆ บนเบาะข้าง เปิดเพลงเบา ๆ คลอไปตามทาง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวเข้มกว่าแทนตะวันเล็กน้อย สวมเชิ้ตลำลองกับกางเกงยีนส์ สไตล์ดูสบาย ๆ และเป็นกันเอง ต่างจากเพื่อนสนิทที่เคร่งขรึมอยู่เสมอ เห็นว่าแทนตะวันเครียดจัดเพราะงาน กิตติชัยเลยอยากพาออกไปผ่อนคลายบ้าง—เพราะทำแต่งานไม่ใช่เรื่องดีนัก
“แทน ขับเร็วหน่อยได้ไหม เดี๋ยวไม่ทันนะโว้ย”
“สรุปจะพาฉันไปไหนกันแน่?”
“เซอร์ไพรส์สิวะ!”
จากตึกระฟ้าสู่ถนนสายเล็กที่เต็มไปด้วยแสงไฟหลากสี ร้านอาหารและบาร์เรียงรายตลอดสองข้างทาง ดูคึกคักแม้ยามค่ำคืน
“ถึงแล้ว! ร้านนี้แหละ”
กิตติชัยชี้ไปยังอาคารที่มีป้ายไฟขนาดใหญ่สะดุดตา “อ้อยจันทร์พันใจ”
แทนตะวันจอดรถ สายตาไล่ไปตามตัวอักษรบนป้าย คิ้วเข้มขมวดมุ่น
“แกพาฉันมาที่แบบนี้เนี่ยนะ?”
“เออน่า ผ่อนคลายบ้าง แกทำงานจนจะเป็นหุ่นยนต์อยู่แล้ว”
ยังไม่ทันได้โต้แย้ง เพื่อนสนิทก็ลากแขนเข้าไปในร้าน บรรยากาศภายในหรูหรา เสียงหัวเราะและเสียงแก้วกระทบกันดังคลอกับเสียงดนตรี
กิตติชัยชูแก้วเครื่องดื่มในมือ “สักหน่อยไหม แทน?”
แทนตะวันส่ายหน้า
“แกนี่มันไม่มีอารมณ์สนุกเลยนะ”
กิตติชัยหัวเราะ ก่อนเรียกพนักงานมากระซิบ
“น้อง พี่ขอเด็กใหม่ ไม่เคยผ่านใครได้ยิ่งดี จัดให้เพื่อนพี่หน่อย กระเป๋าหนัก เปย์ไม่อั้น”
พนักงานยิ้มรับ ก่อนเชิญทั้งคู่ไปยังห้องรับรองวีไอพี
แทนตะวันถอนหายใจ เดินตามอย่างเสียไม่ได้ เหนื่อยใจกับเซอร์ไพรส์ของเพื่อน แต่ยิ่งเหนื่อยใจกว่าที่ตัวเองไม่ปฏิเสธตั้งแต่แรก...
อีกมุมหนึ่งของอาคาร หญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วม ผิวขาวเหลือง ใบหน้ากลม ดวงตาเจ้าเล่ห์ประสานักธุรกิจสายบันเทิง กำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ท่ามกลางกองเอกสารที่วางระเกะระกะ
พนักงานชายเดินเข้ามา ก้มลงกระซิบเบา ๆ “เจ๊… ลูกค้ากระเป๋าหนัก ขอเด็กใหม่ ไม่เคยผ่านใคร”
คิ้วหนาของหญิงวัยกลางคนขยับเล็กน้อย ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ
“อยู่ห้องไหน?”
“ห้องรับรองวีไอพีครับ”
ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง ๆ นัยน์ตาทอประกายบางอย่าง ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ดี… งั้นไปดูกันหน่อย”
พนักงานนำเธอไปยังห้องนั้น ก่อนจะแง้มประตู เผยให้เห็นชายสองคนกำลังสนทนา คนหนึ่งอยู่ในชุดแพงระยับ ดูภูมิฐาน มาดสุขุม อีกคนแต่งตัวสบาย ๆ เปี่ยมเสน่ห์และดูเป็นกันเอง
“หน้าตาดีทั้งคู่เลยนะ รู้ไหมว่าเป็นใคร?” เจ๊ใหญ่เอ่ยถามพนักงานสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พลางชี้ไปที่แทนตะวัน
“อ๋อ… คนที่หล่อ ๆ นั่นเป็นนักธุรกิจชื่อดังค่ะ เคยลงข่าวสังคมด้วย หนูยังอยากดูแลเองเลย”
อ้อยจันทร์หัวเราะเบา ๆ สายตาครุ่นคิด ก่อนส่ายหน้า
หมายเหตุผู้เขียน:
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ! หากชอบตอนนี้ ฝากรีวิวและคอมเมนต์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ ❤️
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 32
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น